Group Blog All Blog
|
หนทางยาวไกล ไปเขาคิชฌกูฏ หายไปหลายวันจะบอกว่าขี้เกียจเขียนก็ดูจะน่ารักน้อยไปนิด เลยขอเปลี่ยนเป็นหายไปพักร่างหลังลงจากเขาคิชฌกูฏมาละกัน แล้วจากเขาคิชฌกูฏยังไปต่อที่หาดน้ำใสอีก อย่าคิดว่าได้พักนะ เหนื่อยฝุดๆ เลยงานนี้ เรื่องมันเริ่มจากอยู่ดีๆ คำว่า เขาคิชฌกูฏก็แว่บเข้ามาในหัว ซึ่งตอนนั้นคือวันที่ 10 กว่าๆ ของเดือนมกราคมโดยเรามีเพียงความจำได้นิดหน่อยว่าในแต่ละปีจะเปิดให้คนขึ้นไปไหว้พระพุทธบาทได้ในช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น เมื่อมีอาการ แว่บ แบบนี้เราก็เลยต้องอาศัยอิทธิฤทธิ์ Google ในการหาข้อมูลเขาคิชฌกูฏ จึงพบว่าปีนี้เขาเปิดช่วงวันที่ 17 มกราคม ถึง 17 มีนาคม เมื่อข้อมูลพร้อม ทีนี้ก็ต้องเตรียมตัวกันล่ะ (ขอข้ามเรื่องการเตรียมตัวไปนะเล่าถึงวันเดินทางเลยละกัน) วันเดินทางคือสายๆ ของวันที่ 17 โดยขับรถออกจากบ้านในสไตล์ส่วนตัวคือถ้าคนอื่นเขาใช้เวลา2 ชั่วโมง เราจะใช้เวลา 4 ชั่วโมง เพราะชอบแวะไปเรื่อยเปื่อย ดังนั้นกว่าเราจะไปถึงที่พักที่จองเอาไว้ก็โน่นแหละบ่าย 3 โมงนิดๆ ที่พักที่จองไว้ชื่อ Nata Resort ซึ่งดูแล้วไม่ไกลจาก เขาคิชฌกูฏ มากนัก ขับรถไป 20 นาทีก็ถึงวัดกระทิงพอเข้าที่พักก็นั่งๆ นอนๆ พักนึง จน 5 โมง ก็ออกไปเดินตลาดนัด(ชื่อตลาดนัดเขาไร่ยา) คือตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าจะมีตลาดนัด จนขับรถเพื่อจะเข้าที่พักก็เห็นว่ากำลังตั้งตลาดกันอยู่แม่กระต่ายก็เลยชวนไปเดินตลาดกัน จนเราอดแซวไม่ได้ว่า น่าจะเปิด Page เนอะ ตั้งชื่อเสร็จสรรพว่า เพจรีวิวตลาดนัดทั่วไทย โดยมีสโลแกนว่า ไม่ว่าตลาดนัดจะอยู่ที่ไหนเราจะไปรีวิว (น่าเปิดจริงๆ นะ แต่คงต้องใช้ทุนในการเดินทางน่าดู) ตลาดนัดเขาไร่ยา เป็นอะไรที่ใหญ่น่าดูเลยใหญ่เกือบเท่าตลาดนินจาสาขาเดิมเลยเชียวล่ะ อารมณ์ตลาดก็ประมาณเดียวกันคือสินค้าวางกันแบบแบกะดินมีเครื่องเสียง เครื่องมือช่าง อาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสุก(อันนี้ไม่ได้วางกับพื้นนะ) ขาดแอร์กับตู้เย็นที่ไม่มีขาย(แต่ตลาดนินจามีขายนะเอ่อ!!!) ลืมบอกไปว่า เราไปจอดรถที่ปั๊มแก๊สที่อยู่ข้างตลาดโดนเก็บค่าจอดรถไป 10 บาท แต่ก็ยังดีกว่าไปจอดข้างถนน (เราคิดเองนะ) เดินกันจนเริ่มมืด ก็กลับที่พัก อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมลุย เส้นทางขับรถจากที่พักไปเขากระทิงนี่ก็มืดสนิทนานๆ จะเจอรถสวนมาซักคน อาจเพราะเป็นวันแรกของการเปิดเขาก็เป็นได้เลยทำให้การเดินทางดูเหงาๆ เพราะขาดเพื่อนบนถนน ถึงวัดกระทิงก็จอดรถในที่จอดรถที่ว่างๆแล้วก็เดินมาซื้อตั๋วรถเพื่อขึ้นไปข้างบน เสียค่ารถไปคนละ 200 (ไป-กลับ) จากนั้นก็เดินไปไหว้สังขารหลวงพ่อเขียน ไหว้หลวงพ่อเสร็จก็เดินไปหารถที่จะพาเราไปส่งเราขึ้นเขาโชคดีที่พี่คนขับเรียกเราไปนั่งในห้องโดยสาร คือถ้านั่งรับลมขึ้นเขา คงหนาวน่าดู อ้อ!ก่อนล้อหมุน พี่คนขับขอเก็บค่าเข้าอุทยานอีกคนละ 20 บาท
พอขึ้นไปถึงทางเริ่มเดินก็ก้มหน้าก้มตาเดินขึ้นไปโดยไม่ลืมตั้งจิตอธิษฐานสิ่งที่ตั้งใจไว้เพียง 1 ข้อ (คงเดาได้นะว่าเรื่องอะไร) กว่าจะขึ้นถึงก็เล่นเอาเหงื่อซึมอยู่เหมือนกันทั้งที่อากาศข้างบนก็ออกจะหนาวๆซะด้วยซ้ำ การมาวันแรกๆ ก็ดีอย่างนี้นี่เอง ตรงที่มีคนน้อยไม่ต้องเบียดเสียดแย่งที่กราบไหว้ เมื่อขึ้นไปถึงบริเวณรอยพระพุทธบาทก็ต้องถอดรองเท้าแล้วเข้าไปสวดมนต์ โดยหลวงพี่แถวนั้นบอกให้ทำตามลำดับดังนี้ เสร็จแล้วก็ไปปิดทองตรงรอยพระพุทธบาท 2 รอยตามด้วยการโรยพลอยหลังปิดทองในแต่ละรอย สุดท้ายไปตั้งจิตอธิษฐานพร้อมปิดทองที่หินรูปบาตร เมื่อทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็ลงไปถ้ำฤๅษีที่อยู่ด้านล่างกราบรูปฤๅษีขอพร แล้วเดินทางลงจากเขาคิชฌกูฏ กลับถึงที่พักราวเที่ยงคืน อาบน้ำนอน |
ปีกไม้หอม
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] เป็นนักเขียน เป็นอาจารย์ เป็นพ่อบ้าน เป็นพ่อครัว เกิดในตระกูลหมอดู รับสอน VBA บน Access และ VBA บน Excel ทั่วราชอาณาจักร รับแนะแนวทางชีวิตด้วยไพ่ทาโร่ต์และเบอร์มือถือ
| |||