บุปผาราตรี 3.2 , โถ บุปผา หนูปิดฉากลาไปพร้อม 'ความน่าผิดหวัง' ทั้งๆที่หนูมี 'ของดี'
... ปีนี้เป็นปีที่น่าผิดหวังสำหรับการดูหนังไทยของผม เพราะยังไม่มีเรื่องไหนที่รู้สึกว่า
เยี่ยม เจ๋งเป้ง สุดยอด แถมหลายเรื่องที่เลือกแล้วแต่สุดท้ายรู้สึกเสียดายตังค์ กลายเป็นว่า จนถึงตอนนี้หนังไทยที่ชอบที่สุดของปีกลายเป็นม้ามืดอย่าง
สามชุก ซึ่งจะว่าไปแล้ว ด้วยคุณภาพก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าดีมากๆหรือชอบมากๆเหมือน หนังไทยที่ชอบปีก่อนๆ
แถมส่วนใหญ่ยังออกแนวผิดหวัง ไล่ตั้งแต่
บุปผา3.1 , วงศ์คำเหลา และ
ดื้อสวยดุมาถึง
บุปผา 3.2 ก็ไม่ได้ต่างอะไรจาก 3.1 มากนัก ทิศทางการเล่าเรื่องอาจลงตัวกว่า ความยาวของเนื้อหาดูสมดุลกับเวลามากกว่า แต่ข้อด้อยกว่าก็คือ ความฮาลดลง ความแสบและเสียดสีเบาลง และความน่ากลัวตื่นเต้นน้อยลง
... แต่ถ้าหยิบ 3.1 มาผสมกับ 3.2 แล้วมองเฉพาะเนื้อหา
บุปผาฯ 3 เป็นหนังผี ที่ผมชื่นชมคนคิดพล็อตเรื่องมาก ดูกันที่ไอเดียแล้วอยู่ในขั้น ดีมาก ไม่ซ้ำซากจากพล็อตหนังผีส่วนใหญ่ในท้องตลาด
เพราะ การจบด้วยการถูกถ่วงหม้อและตัวละครที่มีความสัมพันธ์ถูกกำจัดไปหมดแล้วในภาค 2 ทำให้เป็นโจทย์ที่ยากในการสร้างภาค 3 แต่บทหนังภาค 3 สามารถหาทางออกได้ดี โดยที่ไม่ต้อง แถถูไถ เพื่อให้ออกมาเป็นหนังอีกตอน
หนังยังคงว่าด้วย
การถูกทารุณกรรมของเพศหญิง ทั้งทางกายและทางเพศ (Physical & Sexual abuse) โดยเน้นย้ำความเลวร้ายของ
เพศชาย ที่ฉวยโอกาสจากบทบาทที่เหนือกว่า(พ่อ-ลูก,ผู้ใหญ่-เด็ก)ข่มเหงเธอ
บุปผาสองภาคแรก ถูก พ่อเลี้ยงกับคนรัก คนหนึ่งข่มขืน อีกคนข่มเหงจิตใจ ทำให้เธอทั้งผิดหวังและเจ็บปวด แม้เมื่อตายไปก็กลายเป็นผีที่วนเวียนอยู่ในความเคียดแค้นต่อ เพศชาย
จนเมื่อถูกพิชิตอย่างราบคาบไปในภาค 2 เธอก็ได้เกิดใหม่ในภาค 3 ในร่างของ
ด.ญ.ปลา... บุปผาในชาติใหม่ น่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ ด.ญ.ปลา ก็ถูกพ่อเลี้ยงกระทำทารุณตบตีทั้งทางร่างกายและวาจา เสือกไสไล่ส่งเหมือนหมาข้างถนน ไปโรงเรียนถูกกลั่นแกล้งจากเพื่อนร่วมชั้น และ วาระสุดท้ายมาถึง เมื่อ จิตของบุปผา ตื่นขึ้นในร่างของด.ญ.ปลา พากลับไปออสการ์อพาร์ตเมนต์แล้วถูกฆ่าข่มขืนเสียชีวิตในห้องน้ำ
การตายครั้งที่ 3 ของบุปผาในร่างด.ญ.ปลา ทำให้ ผีที่ออกมา กลายเป็น ผี 2 บุคลิกซ้อนทับกันเหมือน จิตสองจิตที่มีชีวิตต่างช่วงวงโครจร
นั่นคือ
ผีด.ญ.ปลา กับความทรงจำในชาติล่าสุดที่มีชีวิตที่เลวร้ายตลอดวัยเด็กจนตาย กับ
ผีบุปผา ที่มีความทรงจำในชาติที่แล้วที่เลวร้ายในช่วงวัยสาว แต่ อย่างน้อยก็มีช่วงเวลาดีๆที่น่าจดจำในวัยรุ่นสมัยสอนหนังสือให้เด็กชาย หรั่ง
ชะตาชีวิตของบุปผา ถูกกระทำ จาก
เพศชาย มาตลอด ไม่แปลกใจที่เธอจะเคียดแค้นพยาบาท และ หนังก็สื่อให้เห็น ผลของความแค้นที่บดบังการรับรู้ ทำให้เธอเกือบจะฆ่า ความทรงจำดีๆเพียงความทรงจำเดียวที่มีในชีวิต และ คนดูก็ต้องลุ้นว่า ความแค้น กับ ความรัก สิ่งใดจะยิ่งใหญ่กว่ากัน
ว่าด้วยพล็อตข้างต้นเพียวๆ ผมชอบมากกว่าบุปผาภาคแรก และ หนังผีอีกหลายเรื่อง แต่ ว่ากันที่ตัวหนังโดยรวมแล้ว
บุปผาราตรี 3 กลับสนุกน้อยที่สุด
... โดยธรรมชาติ
ความสนุกของ ซีรี่ย์ บุปผาราตรี = ความน่ากลัว + ความตลก ในภาคสามนี้ ค่าความสนุกตกลงแปรผันตามความน่ากลัวและความตลกที่ตกลง
ความน่ากลัว ไม่น่ากลัวได้แค่เกือบๆ สองภาคย่อยที่ผ่านมาชวนตกใจได้ฉากเดียว คือ ฉากเปิดตัวของ 3.1 ที่น่าจะเป็นฉากที่ดีที่สุดของหนัง สูสีฉากจบของ 3.2 ที่ว่าด้วยจดหมายของบุปผา(แต่อันนี้ว่าด้วยแนวเศร้า)
ความตลก ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความหยาบหรือเป็นมุกตลกคาเฟ่ เพราะสองภาคที่ผ่านมาก็เป็นมุกสไตล์นี้ซึ่งดูแล้วฮา แต่ ปัญหาใหญ่ๆของ
บุปผา 3 คือ มุกตลกที่เคยเวิร์คในภาคแรก และ พอไหวในภาคสอง มันค่อนมาทาง
แป้ก ในภาคสาม
ทั้งจังหวะการเล่นมุกที่ดูมันไม่ลงตัวบ้างก็ยืดไปบ้างก็ปล่อยเร็วไป ทั้งตัวมุกเองก็ฝืนๆ ทั้งตัวนักแสดงเองก็ฝืดๆ ตลกหลายคนยังฮาในหนังเรื่องอื่นมากกว่าเรื่องนี้ ส่งผลให้ เข้าข่าย
มุกไม่ฮา พาให้เครียด ( 3.1ว่าแป้กแล้ว ภาค 3.2 ได้แค่หึๆไม่กี่หึ)
... ปัจจัยที่ทำให้ความสนุกด้อยลง ยังมีมาจากอีกสองประเด็น
1.การหั่นเป็น 2 ภาค มองย้อนกลับไปหนังที่ตั้งใจแบ่งเป็น 2 ภาคตั้งแต่ตอนถ่ายทำ ส่วนใหญ่เราจะเห็นความเหมาะสม เช่น
Kill Bill ทั้งสองภาคค่อนข้างสมดุล เหมาะในการแบ่งภาคเล่น ,
สามก๊ก มีความยาวของหนังที่เหมาะแล้วจะแบ่งเป็นสองตอนเพียงแต่ ตอนแรกรู้สึกได้ถึงความพยายามยืดให้ยาว ไม่ได้ลงตัวนัก หรือ
The Matrix 2,3 ที่ความซับซ้อนของเนื้อหาเหมาะแล้วที่ต้องใช้เวลาในการไขทีละเปลาะ
แต่
บุปผาฯ3 ไม่ได้มีความจำเป็นขนาดนั้น 3.1 รู้สึกได้ถึง ความยาวที่ไม่จำเป็นในหลายๆฉาก สามารถตัดให้สั้นลงกว่านี้ได้ พอแบ่งเป็นสองภาคมันก็ทำให้อารมณ์ไม่ต่อเนื่อง ไม่กระชับ อีกทั้งเนื้อหาที่ไม่ได้เหมาะจะแบ่งทำให้เหมือนพายเรือวนในอ่างไปมา และ ไอ้ที่เคยกลัวๆแบบผีเด็กใน 3.1 มันก็เฝือไปแล้วใน 3.2
2.ทีมนักแสดง ... ทีมเก่าๆที่เคยอยู่ประจำซีรีย์บุปผา มางวดนี้ไม่ฮา นอกจากขาดความสด พอมาเจอมุกที่ไม่เวิร์ค การแสดงที่ดูจืดๆเลยออกกร่อยๆ ส่วนทีมใหม่ที่เลือกมาไม่เด็ดพอ (อย่างบุปผา2 ทีม เด่นเด๋อดู๋ดี๋ ยังพอช่วยพยุงมุกไปได้)
และ มาริโอ เรื่องนี้ทั้งสีหน้าและการเคลื่อนไหว ตอนดูนึกถึงหุ่นยนต์มากๆคือแทบจะหน้าอารมณ์เดียวเดียวและทื่อๆ มันทำให้หนังดึงอารมณ์ร่วมจากคนดูแทบจะไม่ได้เลย คนที่เล่นดีสุดกลับเป็น เด็กสาวหน้าใหม่ที่รับบท ด.ญ.ปลา ที่แซงหน้าพี่ๆในจอไปได้หลายคน
สรุป .... หนังออกแนว เรื่อยๆหึๆกร่อยๆ ไม่ถึงขั้นชอบ แต่ก็ยังไม่รู้สึกเสียดายค่าตั๋วเท่าตอนดู
ดื้อสวยดุ และก็ยังอยากจะดูซีรี่ย์บุปผาต่อไป เพียงแค่หวังว่า งวดหน้าจะเด็ดกว่านี้ ที่อยากดูเพราะตัวเองก็ยังมีความประทับใจในซีรี่ย์บุปผา เนื่องจากที่ผ่านๆมา ยังไม่มีหนังเรื่องไหน ที่ทำให้ ทั้ง สยอง ตกใจ และ หัวเราะ ไปพร้อมๆกันได้เหมือนกับต้นฉบับ บุปผาราตรี
และเพิ่งสังเกตตัวเองว่า หนังของยุทธเลิศยุคแรกๆ ผมชอบหนังผี/แอคชั่น(
บุปผาราตรี , มือปืนโลก/พระ/จัน) มากกว่า หนังรัก(
กุมภาพันธ์) แต่ งานยุคหลังผมกลับคิดว่า ยุทธเลิศ ทำหนังรัก(
รัก/สาม/เศร้า) ได้ลงตัวกว่า หนังผี(
บุปผาฯ3)
ป.ล. จขบ. มี Twitter แล้วเน้อในชื่อ
//twitter.com/ibehindu มีกรอบวิดเจตอยู่ด้านขวาของบล็อกนี้ สนใจ อัพเดตหนัง อัพเดทบทความ หรือเรื่องทั่วๆไป แบบเร็วทันใจ ก็ตามไปด้วยกันกับทวิตเตอร์ได้เล้ยยย
Link บทความที่เกี่ยวข้อง
บุปผาราตรี 3.1 , โถ บุปผา หนูมากับ 'ความน่าผิดหวัง' ทั้งๆที่ เปี่ยมด้วย 'ของดี'
รัก|สาม|เศร้า , เมื่อ รัก|สาม|เศร้า ทำข้าพเจ้าน้ำตาซึม
จีจ้า ดื้อสวยดุ , ว่าด้วยความจั๊กจี้และผิดหวังของหนังจีจ้า
สามชุก , ไม่ได้น่าดูเพราะ'เจตนาดี-มีบทเรียน แต่น่าดูเพราะ 'หนังดี-กินใจ-เข้าใจคน'
แต่ก็จะรอดูในแผ่นละกัน
ป.ล. ชอบคอลัมน์แบรดพิทท์ใน starpics หรอครับ ช่วยติชมหน่อยนะครับ อยากรู้ว่ามันดีหรือไม่ดี
โดย: passonvichan IP: 112.143.22.215 22 สิงหาคม 2552 2:47:37 น.
เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน
ความสามารถก็อาจจะเปลี่ยน (ฮา)
โดย: merf1970 22 สิงหาคม 2552 9:07:17 น.
ดูหนังดูละครแล้วย้อนดูตัว
ชีวิตต้องดำเนินต่อไป..
โดย: katoy 22 สิงหาคม 2552 9:24:21 น.
อยากดูมากๆ ติดสอบซะงั้น
แต่ส้มว่ามันก็ตลกนะคะ 3.1 ก็ตลก
3.2 ออกทางแป๊กหลอคะ แต่เดี๋ยวก็จะติดตามนะคะ
โดย: somo (olpsomoqlo ) 22 สิงหาคม 2552 10:18:44 น.
ผมติดตามอ่านทุกเรื่องเลยแหละ
แต่ไม่ค่อยได้ดูหนัง เพราะหลังๆ
มีแต่หนังไม่สนุก ส่วนหนังที่คุณหมอ
บอกว่าสนุก กลับไม่เข้าโรงที่ ตจว. T__T
โดย: gonz IP: 118.173.53.82 22 สิงหาคม 2552 10:38:25 น.
อ่านว่า i-be-hin-du
แปลว่า : ผมเป็นฮินดู
ใช่มั้ยครับ
โดย: pran IP: 58.9.183.74 22 สิงหาคม 2552 14:00:36 น.
โดย: ฮัน IP: 112.142.89.10 25 สิงหาคม 2552 23:15:38 น.
ที่พรรณาถึงอารมย์ มันทำให้คิดถึง กุมภาพันธ์ ที่เคยสับโขกไป 555+ ผมว่าเค้าทำหนังรัก โรแมนติก ยังได้อารมย์ร่วมเสียกว่า ...
ปล. อารมย์เสียดสี และ ล้อเลียนของเค้า ยังกล้าๆกลัว เหมือนเคย
โดย: praraam 1 กันยายน 2552 14:00:44 น.
โดย: 27933 IP: 192.168.10.214, 202.142.208.13 2 กันยายน 2552 15:10:58 น.
โดย: บลูยอชท์ 4 กันยายน 2552 16:02:34 น.
ทั้ง ตลก ทั้ง น่ากลัว
ปล.ชอบมากๆอ่ะ
โดย: มายด์ IP: 58.64.76.112 30 ตุลาคม 2553 10:30:43 น.