bloggang.com mainmenu search
Blog's talk


1. งานมหกรรมหนังสือครั้งนี้ ผลงานลำดับที่สาม หรือ หนังสือเล่มล่าสุดของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" เตรียมพบเพื่อนๆแล้วนะครับ เปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมหนังสือ ที่ บูธ D12 สำนักพิมพ์ 4 Letter word ในโซน Plenary Hall

เจ้าของบล็อกหรือผู้เขียนนี่เอง จะไปพบปะเพื่อนๆและแจกลายเซ็น(หากท่านต้องการ) ใน วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม ช่วง บ่าย 3 - 4 โมงเย็น หรือ อาจนานกว่านั้นอีกหน่อย เพราะว่าจะรอขอลายเซ็นคุณคงเดชต่อด้วย เพราะอยู่บูธเดียวกัน

แล้วพบกันครับ กับหนังสือเล่มล่าสุดที่ชื่อว่า








... ผมขอละ ‘ติ๋ม’ ไว้ก่อน เพราะ ถึง ติ๋ม จะมีความสำคัญขนาดเป็นชื่อหนัง แต่ จุดโฟกัสที่ทำให้ผมประทับใจหนังเรื่องนี้คือ การถ่ายทอดชีวิตของ ‘คนธรรมดาๆ’ อย่าง ตึ๋ง ชายหนุ่มที่ประกอบอาชีพเป็น มวยโชว์ในบาร์พัทยา มีจ๊อบเสริมเป็นคนล่อจระเข้โชว์นักท่องเที่ยว กับ มะขิ่น สาวชาวเขาที่เดินเร่ขายของชำ เช่นยาดม ลูกอม ยาหม่อง

ตึ๋ง กับ มะขิ่น เหมือนคนส่วนใหญ่ที่เรารู้จัก(และอาจหมายถึงตัวเราเองด้วย) คือเป็น

คนธรรมดาๆ ที่ไม่ได้โดดเด่นใดๆในสังคม
คนธรรมดาๆที่เดินปะปนกับฝูงชนก็กลืนหาย
คนธรรมดาๆที่ไม่ได้เป็นฮีโร่หรือขวัญใจของใครๆ
คนธรรมดาๆที่ถูกมองข้ามไปได้ง่ายๆเมื่อไปยืนอยู่ข้างๆคนสำคัญ



... การเป็นคนธรรมดาๆ มักเจอฝันร้ายคล้ายๆกัน คือ

เมื่อรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า เมื่อรู้สึกว่าคนอื่นไม่เห็นหัว

เมื่อคนรอบข้างมองอย่างดูถูก เมื่อใครๆก็เหยียดหยาม และ เมื่อ ถูกคนมองข้ามเหมือนไม่มีความหมาย

เมื่อแอบหมายปองใครสักคน แต่ก็ไม่กล้าจะจีบเพราะกลัวผิดหวัง หรือ เห็นคนในฝันเดินไปกับคนมีชาติตระกูลมากกว่า มีชื่อเสียงมากกว่า

สำหรับ ตึ๋ง ยังมีฝันร้ายที่หนักยิ่งกว่า คือ เมื่อ สะท้านฟ้า แชมป์นักมวยตัวจริงที่เขายกย่องให้เป็นฮีโร่ในใจ แต่เมื่อรู้จักตัวจริง แล้วพบว่า ฮีโร่ในฝันที่เทิดทูนบูชา ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด

...เมื่อภาพมายาที่ตึ๋งวาดไว้มาพังตรงหน้า มันช่างให้ห้อารมณ์ คล้ายๆกับตอนที่ พระเอกจากหนังเรื่อง เฉิ่ม พบว่า ภาพฝันที่ตัวเองบูชาไม่ได้เป็นอย่างที่คิด

ฝันร้ายของตึ๋ง ยังซ้ำเติมเขาหนักขึ้นไปอีก เมื่อ สะท้านฟ้า เข้ามาทำลายชีวิตโดยอาศัย ความศรัทธาของตึ๋ง และ ฝันร้ายที่สุดเมื่อถูกทรยศหักหลังจากคนที่เขารักหมดหัวใจ

คนธรรมดาๆอย่าง มะขิ่น ก็มีฝันร้ายคล้ายๆกัน กับการแอบมองคนที่ตัวเองชอบและไม่กล้าแสดงออกให้ชัดเจน และ เมื่อถึงคราวที่เธอเสียสละทำสิ่งดีๆให้คนที่เธอรัก กลับโดนด่าและไล่ตะเพิดเหมือนหมาข้างถนน




.... สาเหตุที่ทำให้ คนธรรมดาๆ มักจะตกลงไปทำให้ฝันร้าย คือ เรามักจะถูกหลอกใช้ได้ง่ายๆจากปมด้อยที่เราสร้างขึ้นมาเอง

เพราะถ้าเรารู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่ คนธรรมดาๆ ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่า ตัวเอง ไม่มีค่า เมื่อนั้น เวลา ถูก คนธรรมดาๆ ด้วยกัน ชื่นชม ก็จะไม่ค่อยดีใจ แต่ ถ้าเมื่อไหร่ มีคนที่ ดูดีกว่า มีฐานะตำแหน่งดีกว่า มาชื่นชม ก็หลงคล้อยตาม

ไม่แปลกที่ ตึ๋ง จะตกบ่วงรัก อิเตมิ ได้โดยง่าย เหมือน คนธรรมดาๆ ที่เวลาเล่น เน็ต เล่นเอ็ม เล่น hi-5 แล้วถ้ามีปมด้อยที่รู้สึกว่าตัวเองไม่น่าคบ รู้สึกว่าตัวเองไม่หล่อไม่สวยไม่ดี พอมีคนหน้าตาดีมา add หรือ มาหย่อนคำหวาน ก็หัวใจพองโต ตกหลุมได้โดยง่าย จนกลายเป็น เหยื่อของคำหวานที่มาเสริมสร้าง คุณค่าในตัวเรา(self esteem) แบบปลอมๆ

ดังนั้น

ฝันร้ายของตึ๋ง ไม่ได้เกิดจาก คนอื่น
ฝันร้ายไม่ได้เกิดจากการเป็น คนธรรมดาๆ
ฝันร้ายไม่ได้เกิดจากอาชีพที่ทำอยู่
ฝันร้ายไม่ได้มาจากเงินเก็บในกระเป๋าตังค์



....แต่ฝันร้ายที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ มันมีที่มาจาก ปัญหาของทัศนคติและการตัดสินคุณค่าในตัวเอง(self-esteem)

นั่นคือ ยิ่งเรามองตัวเองด้อยค่า ความด้อยค่ายิ่งปรากฏชัด
ยิ่งเวลาเราไปเปรียบเทียบกับคนที่ดีกว่า เราก็จะเผลอมองตัวเองต่ำเตี้ย

การเป็นมวยโชว์อย่างตึ๋ง มีศักดิ์ศรี มีคุณค่า แต่เมื่อเขาไปมองว่า มวยจริง เท่กว่า ดีกว่า เจ๋งกว่า ความรู้สึกด้อยค่าก็จะตามมาโดยอัตโนมัติ เหมือนๆกับทุกๆอาชีพ


ถ้าเราเห็นว่า อาชีพอื่นๆดูดีกว่า และ ไม่ให้เกียรติไม่ให้คุณค่ากับอาชีพของตัวเอง เราก็จะมีชีวิตอยู่ในวงเวียนของ ชนชั้นสองไปชั่วชีวิต

อย่าลืมว่า การเป็น คนธรรมดาๆ ไม่ได้แปลว่า จะมี คุณค่า ด้อยกว่า คนเด่นหรือคนดัง แต่ ไม่มีวันเลย ที่จะ สลัดบ่วง ความรู้สึกว่าตัวเอง โหลยโท่ยห่วยแตก ได้พ้น ตราบเท่าที่เรายังมองตัวเอง โหลยโท่ยห่วยแตก ต่อไป และ ตราบใดที่เรายังใช้ชีวิต โหลยโท่ยห่วยแตก แบบนั้นจริงๆ



...ถึงแม้ จะเจอฝันร้าย ก็ใช่ว่า จะต้อง มีชีวิตอยู่กับ ฝันร้ายไปจนตาย เนื่องจาก ปัญหาของฝันร้ายไม่ได้เกิดจาก การเกิดมาเป็นคนธรรมดาๆ แต่ เกิดจากทัศคติและคุณค่าที่เราตัดสินตัวเอง

เพราะ ถ้าเราสามารถปรับเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นได้ เราก็สามารถเปลี่ยนฝันร้ายให้เป็นฝันดีเหมือนกับ ตึ๋ง

ฝันดีของตึ๋ง ไม่ได้มาจาก ผลแพ้ชนะ หรือ การเป็นคนเด่นคนดัง

การผ่านประสบการณ์ที่แสนเจ็บช้ำ ทำให้ ตึ๋ง พบว่าเขาเองก็มี ความเป็น ฮีโร่ ภายในตัวเอง เช่น ตอนที่พยายามปกป้องฝรั่งเจ้าของร้าน หรือ ความพยายามทวงคืนคนรักแบบแมนๆ และ เมื่อเขามองเห็นคุณค่าอันแท้จริงได้ชัดเจนไม่ยึดติดแค่เปลือกของ ความเป็นแชมป์ ความสวยความงาม หรือ ความยกย่องชื่นชม

มันก็ทำให้เขาตาสว่าง เพิ่มขึ้น จนสามารถมองเห็นว่า ไม่ต้องเก่งไม่ต้องแชมป์ แต่เขาก็ยังมี คนที่รักในสิ่งที่เขาเป็น มีคนที่ห่วงใยเขาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบาร์หรือว่าคนข้างกาย



กลับมาที่ ‘อีติ๋ม’

...ใครติดตามข่าววงการหนังบ่อยๆก็คงรู้กันแล้วว่า อีติ๋ม เป็นโปรเจ๊คต์ที่ ยุทธเลิศ จับมือกับ โน้ส เคยวาดฝันจะสร้างให้เป็นหนังตลกแอคชั่นทุนหนา ในแนวล้อเลียนหนังดังๆ ซึ่งผมคิดว่า ด้วยสไตล์ผู้กำกับ และ บุคลิกของนักแสดงนำ น่าจะเวิร์ค ยิ่งตัวอย่างแรกที่ตัดมาตั้งแต่ตอนนั้นที่ล้อเลียนเจมส์ บอนด์ ก็ทำออกมาเข้าท่า

แต่ด้วย เหตุผลทางทุนรอนตามที่สัมภาษณ์ ทำให้

อีติ๋ม กลายเป็น โปรเจ๊คต์ รักโรแมนติกคอมิดี้ เล็กๆ

และนั่น ก็ทำให้ผมไม่มั่นใจในตัวหนังเท่าไอเดียเดิม เพราะ เคยผิดหวังมาจาก ความเลี่ยนมากๆในหนังรักของยุทธเลิศอย่าง กุมภาพันธ์ และ ไม่ใช่ แฟนพันธุ์แท้ของ โน้ส-อุดม มิหนำซ้ำบ่อยครั้งยังรู้สึกไม่ดีกับมุกเหยียดปมด้อยคนอื่น

แต่ ใจหนึ่งก็คิดว่า ผลงานหนังรักล่าสุดอย่าง รัก/สาม/เศร้า ก็พอจะเป็นสัญญาณดีๆจากยุทธเลิศได้ เพราะ รัก/สาม/เศร้า เป็นงานที่เห็นได้ชัดถึง การเติบโตของผู้กำกับที่ตัวหนังดูมีวุฒิภาวะต่างจากตอน กุมภาพันธ์ อย่างเห็นได้ชัด

จะว่าไป ความจริงแล้ว ตัวผมเองก็ใช่ว่าจะชอบความนิ่งของ ยุทธเลิศ เพียงอย่างเดียว เพราะ หนังของยุทธเลิศที่ผมชอบมากที่สุด อีกสองเรื่อง ก็คือ หนังโฉ่งฉ่างตามสไตล์ของเขา อย่าง มือปืนโลกพระจัน และ บุปผาราตรี แต่ หลังจากนั้น ก็ดูเหมือนว่า หนังโฉ่งฉ่างของยุทธเลิศจะไม่สามาถเรียกฟอร์มกลับคืนมาได้อีกเลย

....ส่วนโน้สนั้น เป็น เดี่ยวไมโครโฟน ที่เก่ง แต่ในส่วนนักแสดง เขาเป็นนักแสดงที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองเข้ากับบทซักเท่าไหร่ หากแต่บทหนังมักจะปรับให้ตรงกับบุคลิกของเขา ดังนั้น เวลาดูหนังจึงเหมือน ดูโน้ส มากกว่า ดูตัวละคร แถม ภาพโน้สยังฝังแน่นกับ ความตลก จนยากจะสลัดหลุด

ในเรื่องนี้ เมื่อเลือก โน้ส มารับผิดชอบควบสองตำแหน่ง ทั้งในส่วนพระเอกและคนเขียนบท จึงเป็นเหมือน ดาบสองคม

ข้อดีคือ โน้สเขียนเองเล่นเอง ย่อมที่จะรู้ว่า บทอย่างไรที่จะเหมาะกับตัวเองมากที่สุด แต่ข้อเสียคือ ถ้าโน้สเขียนบทเองเล่นเอง มีโอกาสสูงที่โน้ส จะสลัด ความเป็นเดี่ยวไมโครโฟน ออกไปได้ยาก และ ผลลัพธ์ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ที่หลายจังหวะของมุกในหนัง เป็น สเต็ปเดียวกับจังหวะมุกของโน้สในเดี่ยวไมโครโฟน ที่เดาได้ไม่ยากว่า มุกจะปล่อยออกมาลักษณะไหน ยังไง

แต่ยังดีที่ผู้กำกับคือ ยุทธเลิศ เพราะ ยุทธเลิศ เป็น ผู้กำกับที่สามารถคุมนักแสดงที่มีความเป็นตัวของตัวเองให้อยู่ในหนังได้ค่อนข้างดี ดูอย่าง มือปืนโลกพระจัน ที่รวมนักแสดงอย่าง ป๋าเทพ , หม่ำ , ถั่วแระ ที่ไปอยู่เรื่องไหน ก็จะเด่นแบบโดดๆเสมอ แต่มาอยู่ในหนังของยุทธเลิศกลับอยู่รวมกันได้แบบกำลังดี

ซึ่งถ้าผู้กำกับคุมนักแสดงที่มีความเป็นตัวของตัวเองมากๆไม่อยู่ หนังก็มีสิทธิจะหลุดไปได้มาก เหมือน โน้สที่อยู่ในจอ โคตรรักเอ็งเลย ซึ่งทำได้ไม่ดีเท่าเรื่องนี้


... ผลงานของโน้สและยุทธเลิศ พอถึงคราวจะดี ก็จัดเข้าขั้นเซียนเหยียบเมฆ แต่ จุดอ่อนสำคัญที่ โน้ส กับ ยุทธเลิศ มีร่วมกันอย่างไม่น่าเชื่อ และเป็น จุดอ่อนที่ทำให้ผลงานของทั้งคู่ ออกอาการเป๋ไปบ่อยๆ คือ มักจะปล่อยของจน ล้น หรือ เกินพอดี อยู่หลายครั้ง

ดูจาก เดี่ยวไมโครโฟน หรือ ล่าสุดก็ เดี่ยว 7 ที่มุกบางมุก ตลกแล้ว ขำแล้ว แต่ โน้สก็อดไม่ได้ที่จะขยี้ซ้ำๆ ด้วยอารมณ์ และ คำหยาบ จนถึงระดับหยาบหนักๆจนมันเริ่มไม่ตลก หรือ เวลาที่ล้อเลียนคนอื่นๆ ที่เกินเลยความน่ารัก จนกลายเป็น การดูถูกหรือเหยียดปมด้อยของคนอื่นแทน ส่วนงานของยุทธเลิศ บางชิ้นอย่าง สายล่อฟ้า ก็มีความห่ามสะใจกำลังสนุก แต่หลายตอนก็มุทะลุมากเกินจนหนังไม่กลมกล่อม


... โชคดี ที่ อีติ๋ม ไม่เป๋ไปตามนั้น

โน้ส ก็ยังเป็นคนเดิมๆที่ มี ความ เดี่ยวไมโครโฟนลอยฟุ้งอยู่ในหนัง เพียงแต่ เรื่องนี้ เขาสามารถปรับลด ความเป็นโน้ส-เดี่ยวไมโครโฟน ไม่ให้เด่นจนบดบังส่วนอื่นๆ สามารถกลืนไปเป็นส่วนร่วมเดียวกับตัวละครรอบๆตัวได้ดีกว่า ผลงานอื่นๆที่มีเขาเป็นส่วนร่วม

ส่วน ยุทธเลิศ ก็ไม่ทำให้หนังห่ามสุดโต่ง หรือ เลี่ยนสุดขีด ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่า ความนิ่งจาก รัก/สาม/เศร้า ไม่ใช่ ความฟลุ้ค แต่เป็น ทางที่ยุทธเลิศเริ่มจับได้ชัดเจนขึ้น ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะมีบางช่วงที่หลุดๆไปบ้างแต่โดยรวมแล้ว ตลอดทั้งเรื่อง อารมณ์และทิศทางของหนังไปในทางที่อยู่ในระดับคงที่ที่น่าพอใจ

บทที่โน้สเขียน มีจุดดีหลายจุดที่น่าชมเชย อาทิเช่น การใช้มุกที่ผ่านกระบวนการคิดมาอย่างดี ไม่ใช่มุกมักง่าย และยังมีมุมมองดีๆหลายด้าน เช่น นอกจาก ประเด็น คนธรรมดาๆกับความรู้สึกด้อยค่า ที่เขียนถึง อีกหนึ่งประเด็นที่ผมชอบ คือ หนังแสดงถึง การด่วนตัดสินคนเพียงเปลือกผิวนอก บ่อยมาก

อิเตมิ หลงรัก ตึ๋ง จาก ภาพของคนเก่ง ภาพของฮีโร่ และ ก็พร้อมสลัด ตึ๋ง ไปเมื่อเจอ คนใหม่ที่เก่งกว่า

หรือจะเป็น ตึ๋ง เองก็ตาม ที่

ตึ๋ง ตัดสิน อิเตมิ จาก ความงามและความหวานหรือ ตัดสิน มะขิ่น จาก ความคิดแบบเหมารวม ว่า กระเหรี่ยงชาวเขาขายของ ต้อง เป็นพวกต้มตุ๋น ไม่ว่ามะขิ่นจะโต้แย้งเพียงใด ธงในใจของตึ๋ง ก็ตัดสินไปแล้วว่า กะเหรี่ยงขายของต้องต้มตุ๋น

นิสัยตัดสินคนเพียงผิวเผิน มักจะทำให้เราสูญเสียคนดีๆไปหลายคน ไม่ใช่แค่นั้น การด่วนสรุปตัดสินคนอื่นด้วยธงในใจ แบบนิ้มิใช่หรือ ที่ปัญหาบ้านเมืองเราทุกวันนี้ไม่เคยจบลง เพราะ เมื่อมีธงในใจโดยไม่มองเหตุผล เมื่อไหร่ก็ตามที่ ใครคิดไม่เหมือนเรา เราจะสรุปทันทีว่า มันผิด มันเป็นศัตรู โดยอัตโนมัติ




... มุกเด่น ประเด็นแจ่ม คือ จุดดีของบทหนังฝีมือโน้ส แต่ โน้ส ถ้ายังอยากจะเอาดีทางด้านเขียนบทต่อไป สิ่งที่ควรเพิ่มเติมคือ การใส่ที่มาที่ไปของ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล สร้างเหตุผลรองรับให้คนดูคล้อยตามแบบหนักแน่นมากกว่านี้

ซึ่งในหนัง ก็ไม่ได้ถึงกับขนาดเลื่อนลอย แต่ ถ้าหนังทำให้เห็นภาพของ ตึ๋งชัดเจนว่าทำไมตึ๋งถึงชอบบอกเลิก , ตึ๋งมีใจให้มะขิ่นหรือมะขิ่นมีใจให้ตึ๋งเมื่อไหร่อย่างไร ไม่ใช่มาเร่งรัดเอาตอนท้าย น่าจะช่วยให้ คนดูคล้อยตามในส่วน ความสัมพันธ์ของผู้คนได้ดียิ่งขึ้นไปอีก

การเลือกเพลงประกอบ ทุกๆตอนที่แทรกเข้ามา ถือว่า เลือกได้ เด็ดดี ไปได้ดีกับภาพความเป็นไทย แบบ ไท๊ยไทย ซึ่งโลเคชั่น พัทยา เป็น การเลือกสถานที่ที่เหมาะกับหนังเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง


สิ่งที่ชอบ


1.มุกตลก ... โดยเฉพาะ มุกตลกจิกกัดการเมือง ตลกดี อย่างมุก หมา หรือ ว่าจะเป็น มุก แม้ว นี่ชอบมาก

2.โดนใจ ... นับจาก รัก/สาม/เศร้า สองเรื่องนี้เป็นหนังที่มีหลายๆจุดหลายๆคำพูดหลายๆฉาก ที่ผมรู้สึกว่ากระแทกโดนใจแรงๆ และ เชื่อว่าคนดูผู้ประสบชะตากรรมเหมือนตัวละครจะโดนอย่างมาก แต่ คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ร่วมอาจรู้สึกว่า หนังปรุงแต่งหรือเฟค ก็เป็นได้

3.คริส หอวัง ... เล่นได้เนียนตา นำหน้า ความตลกของโน้ส และ ความคิกขุของอาซึกะ

4.คำเด็ด ... มีอยู่มากมาย เช่น ‘เจ็บสั้นดีกว่าปวดนาน’คงต้องยกเครดิตให้กับโน้สรับไปเต็มๆ

5.ฉากบอกว่า nice to meet u ... ฉากนี้ อึ้ง เจ็บ แมน และ โน้สเล่นดีมาก

6. สาระที่หนังมอบให้แบบไม่ยัดเยียด


สิ่งที่ไม่ชอบ

1.ความเกินจริง ... ถ้าหนัง ลดความ เกินจริง ของตัวละคร ตึ๋ง ลงซักนิด และ ใส่ความ realistic อีกซักหน่อย ไม่ปล่อยให้ ความเกินจริง หรือ การปล่อยให้ความเป็นโน้ส ลดทอนอารมณ์ realistic ของหนัง เช่น กำลังซึ้งก็พยายามปล่อยมุกขำ

หรือ อาจขยายความเพื่อให้เข้าใจตัวละครมากขึ้น เช่น ว่าทำไม ตัวละครนี้ถึงเดินไปบอกเลิกกับชาวบ้านก่อนเรื่อยไป น่าจะทำให้ จุดไคลแมกซ์หลายๆตอนน่าเชื่อถือขึ้น และทำให้เรามีความเห็นใจตัวละครได้มากยิ่งขึ้น

2.ตอนจบ ...ตอนดูฉากในร้านแม็ค มันก็ซึ้งน้ำตาซึม แต่มันก็รู้สึกว่าดูแปลกๆโดดๆ มันดูให้อารมณ์โน้สๆ ไม่ค่อยกลืนไปกับหนังรวมๆทั้งเรื่องเท่าไหร่ เหมือนกับ ฉากในร้านอาหารญี่ปุ่น ที่ให้อารมณ์โดดๆเหมือนกัน และ ก็ ไม่ชอบตรงฉากจบที่ตัดอารมณ์จบสั้นง่ายไปนิด


สรุป ... ผมชอบ แต่เชื่อว่า มีหลายคนอาจผิดหวัง ถ้าคาดหวัง ความห่ามแบบยุทธเลิศที่คุ้นเคย หรือ ความฮาระเบิดเถิดเทิงแบบดูเดี่ยวไมโครโฟน แต่ถ้า ชอบ รัก/สาม/เศร้าก็จะเข้าใจว่า นี่คือทางของผกก. ที่ยังคงมีความเก๋ากวนในตัวเอง เพียงแต่มีความนิ่งขึ้น ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ซึ่งเหมือนจะเป็น ยุคใหม่ของหนังยุทธเลิศ ที่ผมเองก็กำลังเล็งๆว่า บุปผาราตรีภาคใหม่ ยุทธเลิศจะปรับให้ออกมาเป็นเช่นไร

เขียนถึงตรงนี้ ผมก็พบว่า ตัวเองกลายเป็นแฟนพันธุ์แท้ หนังยุทธเลิศ ไปเสียแล้ว จึงตัดสินใจว่า ไหนๆก็ไหนๆ เห็นที ต้องไปหาแผ่น โกยเถอะเกย์ มาดูดีกว่า จะได้ครบทุกเรื่อง



Link ของ บทความที่อ้างอิง

รัก|สาม|เศร้า , เมื่อ รัก|สาม|เศร้า ทำข้าพเจ้าน้ำตาซึม

เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ

โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"






สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง ได้ที่ //vreview.yarisme.com









ขอฝากหนังสือสองเล่มของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ด้วยค้าบ "หนังสือรัก" หนังสือที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม ส่วน องศาที่ 361 คือ หนังสือจะช่วยให้คุณค้นหามุมเล็กๆในตัวเองที่จะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้น โดยอาศัย'หนัง'เป็นสะพานพาไปเข้าใจตัวเอง


เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม




ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิกhtmlentities(' >')> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง




ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป




Create Date :14 ตุลาคม 2551 Last Update :15 ตุลาคม 2551 16:21:49 น. Counter : Pageviews. Comments :27