โพ เป็น หมาแพนดี้ ที่เป็นแฟนคลับของวิชากังฟู แต่เขาเป็นเพียงลูกเจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวแสนจะธรรมดา วันหนึ่ง มีข่าวว่า ไต้หลุง อาชญากรร้ายหลุดจากคุกกำลังจะกลับมาอาละวาด บนยอดเขาอันเป็นที่ชุมนุมของ ผู้เยี่ยมยุทธ์จึงคัดเฟ้นหาตัวแทนตามคำพยากรณ์ที่จะได้รับการถ่ายทอด วิทยายุทธ ระดับสุดยอด ไปต่อกรกับไต้หลุง

โพ แอบหนีพ่อไปดูการประลอง แต่แล้ว ด้วยชะตาฟ้าลิขิต ทำให้ โพ กลับกลายเป็น ผู้สืบทอดวิชาลับ อย่างไม่ทันตั้งตัว แต่ โพ จะสู้กับ ไต้หลุง ได้อย่างไร เพราะแค่ขึ้นบันได พุงโตๆของโพก็กระเพื่อมพร้อมกับกลิ้งตกบันไดแล้ว



เรื่องราวถัดจากนี้คือบทพิสูจน์ของ โพ ว่าเมื่อโอกาสก้าวเข้ามา เขาจะอดทนสู้เพื่อฝันได้หรือไม่ ท่ามกลางความไม่เชื่อใจของ ห้ารุ่นพี่และหนึ่งอาจารย์ที่มองเขาอย่างหยามเหยียด เพราะไม่มีใครเชื่อว่า เขาจะเป็น The One ตามคำทำนาย

... เนื้อเรื่องของ Kung fu panda อ่านแล้วคุ้นๆก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะ เค้าโครงเรื่องแบบนี้แค่หลับตาหยิบนิยายของ โก้วเล้ง หรือ กิมย้ง มาสักเล่มที่อยู่ในกอง ก็จะพบเนื้อหาประมาณ พระเอกไก่อ่อนกลายเป็น The One อย่างไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งนั่นก็เพราะ บทหนังจีนกำลังภายในแบบนี้ วนเวียนมาแล้วเป็นร้อยเป็นพันเรื่อง

หรือ ถ้านั่งดูๆไปเห็นพล็อต ลูกศิษย์ที่เก่งกาจเผลอล่วงเข้าด้านมืดจนคิดล้างครู แล้วอดคิดถึง Star wars ไม่ได้ ก็คงเป็นจุดอ่อนเล็กๆจุดเดียวของหนังเรื่องนี้คือ มี เนื้อเรื่องที่ซ้ำซากไม่แปลกใหม่




... ส่วนที่เหลือคือ ข้อดีๆที่ Kung fu panda มีมอบให้คนดู ไม่ว่าจะเป็นการสอดแทรกปรัชญาทางฝั่งตะวันออกเข้าไปในหนังการ์ตูนฝรั่งๆได้แบบไม่ขัดเขิน เราจึงเห็น คอนเซ็ปท์ตะวันออกแท้ๆอย่าง วิทยายุทธขั้นสูงสุดคือไร้วิทยายุทธ ประเภท กระบี่อยู่ที่ใจ อยู่ผสมกับ คำคมภาษาฝรั่งดีๆที่ดัดแปลงปรัชญาฝั่งตะวันออกอย่าง Yesterday is History, Tomorrow is Mystery, Today is a gift that is why its is called 'Present' ได้อย่างกลมกล่อม

งานด้านภาพไม่ได้ถึงขั้นตื่นตะลึง แต่ งานออกแบบฉากต่อสู้ เลิศมาก ทำให้หนังไม่ออกมาเป็น ฝรั่งกระแดะแตะกังฟู แต่เป็น ฝรั่งที่ทำการบ้านเกี่ยวกับกังฟูมาดี และ ผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมตัวเองได้ลงตัว กังฟูในหนังเรื่องนี้ไม่หน่อมแน้ม ฉากแอคชั่นทั้งหลายจึงสนุกตื่นเต้น อาจจะมากกว่า หนังกังฟูคนเล่นหลายๆเรื่องเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะ ฉากต่อสู้บนสะพาน ตื่นตาตื่นใจดีแท้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่หนังเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีเหลือเกิน คือ ผู้กำกับ เล่าเรื่องหนังออกมา หนุกมากกกกกกกกก



มุกตลกในหนังล้วนแพรวพราว เสียงฮามีมาเป็นระยะๆไม่ขาดสาย ยิ่งตัวหนัง สร้างแต่ละคาแรคเตอร์ได้แข็งแรง มีตัวตนให้จับต้องได้ มีเสน่ห์ทั้งสีหน้าท่าทางและบุคลิกนิสัย ยิ่งทำให้คนดูรัก โพ / พ่อของโพ / อาจารย์ / ปรมาจารย์เต่า ได้อย่างเต็มหัวใจ (เสียดาย ที่ ห้าศิษย์เอก ยังมีเสน่ห์น้อยไปนิด)

ไม่อยากให้พลาดกันจริงๆ สำหรับแอนิเมชั่น ที่จะทำให้ หัวใจคนดูเบิกบานใจเต็มที่ ในแง่หนังดีอาจไม่ได้ถึงระดับ Ratatouille หรือ อาจไม่ได้แฝงข้อคิดคมคายเช่นเดียวกับแอนิเมชั่นของปีนี้อย่าง Horton Hears a Who! แต่เมื่อเทียบความสนุกแล้ว Kung fu panda ชนะเลิศศศศศ

... Kung fu panda เป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องของปี ที่ผมสามารถโยนความไม่สบายใจทิ้งไปได้เต็มร้อย เหมือนตอนดู Enchanted ที่หนังเป็นเหมือนวิตามิน บำรุงชีวิตให้สดใสมากไปกว่าซุปไก่สกัด จึงไม่กลัวที่จะขอเอาบล็อกเป็นเดิมพันในการเชียร์กันให้ไปดู





... ส่วน The Incredible Hulk คือ การจับเจ้ายักษ์เขียวมาแต่งองค์ทรงเครื่องเสียใหม่

หนังเลือกใช้ผู้กำกับที่ถนัดทำหนังแอคชั่นเต็มตัวแบบ Transporter 2 มาแทนผู้กำกับที่ทำยักษ์เขียวเป็นหนังดราม่า อย่าง อั้งลี่

หนังเปลี่ยนพระเอกของเรื่องเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทอย่าง เอ็ดเวิร์ด นอร์ตั้น แทนพระเอกหน้าซื่อคนเก่าอย่าง อีริค บาน่า

และ หนังเลือกใช้บริการ ลิฟ ไทเลอร์ แทนที่สาวสวยตาคมขวัญใจผมอย่าง เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี่


...ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ

ยักษ์เขียวเวอร์ชั่นนี้ สนุกมากกว่า ตื่นเต้นมากกว่า อัดแน่นด้วยฉากแอคชั่นมากกว่า ซึ่งก็คงสมปรารถนาของทางผู้สร้าง ที่กริ่งเกรงว่า ยักษ์เขียว จะออกมานิ่งสงบเหมือนตอนที่ อั้งลี่ ปรุงแต่งให้ออกมาตึงเครียดจริงจัง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมประทับใจ ยักษ์เขียวของ อั้งลี่ มากกว่า



จริงอยู่ว่า เวอร์ชั่นนี้ ดูแล้วตื่นเต้นเป็นหนังแอคชั่นซูเปอร์ฮีโร่ที่ดูสนุกกว่าเวอร์ชั่นอั้งลี่ แต่ ถ้าไม่นับ ความสนุกตื่นเต้น แล้ว หนังไม่ได้มีอะไรที่น่าจดจำเป็นพิเศษ เป็น ความสนุกที่คนดูคุ้นเคย ดูจบแล้วก็จบกัน คล้ายๆ Iron man แต่ยังจะด้อยกว่าก็ตรงที่ว่า หนังแทบจะไม่กล้าออกนอกลู่นอกทางการเล่าเรื่องแบบสูตรสำเร็จ ทุกอย่างเดินไปข้างหน้าแบบเพลเซฟแล้วโชว์สเต็ปแอคชั่นกันลูกเดียว

ถึง ยักษ์เขียวของอั้งลี่ จะขาดความตื่นเต้นลุ้นระทึก แต่ การตีความของอั้งลี่ ก็ยังมีแง่มุมให้คนที่ชอบคิดกลับไปตีความกันต่อ โดยเฉพาะคนเรียนคลาสจิตวิทยาน่าจะหยิบมายกมาถกกันเพราะมีแง่มุมสนุกๆมากมาย ให้มองหา เสียดายที่ว่า บ้าดราม่ามากเกินไปนิดจนคนดูส่วนหนึ่งหลับตั้งแต่ยักษ์ยังไม่เขียว



... และน่าเสียดายอีกอย่างก็ตรง เวอร์ชั่นล่าสุดนี้ใช้ศักยภาพที่มีในตัว เอ็ดเวิร์ด นอร์ตั้น ได้ไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ เช่นเดียวกับ นักแสดงคนอื่นๆที่ผมเองก็ยังติดตากับทีมที่แล้วมากกว่า จนอดคิดอยู่ว่า ถ้าสลับ เอ็ดเวิร์ด นอร์ตั้น ไปเค้นพลังดราม่าในเวอร์ชั่นอั้งลี่ แล้ว เอา อีริค บาน่า มาบ้าพลังในเวอร์ชั่นนี้ คงจะน่าดูมากขึ้นทั้งสองเวอร์ชั่น

อ่านเจอมาว่า แฟนๆการ์ตูนบอกว่า เวอร์ชั่นนี้ใกล้เคียงตัวต้นฉบับมาก ส่วนตัวเองในฐานะคนที่ไม่ใช่ คอการ์ตูน มาก่อนก็ต้องบอกว่า สนุกคุ้มค่าตั๋ว แต่หากถามว่าถึงขั้น ต้องดู หรือไม่ คิดว่า รอแผ่นก็ได้เหมือนกัน

ป.ล. ชอบมุก กางเกง กับ ชีพจรเต้นเร็วตอนอยู่ในโรงแรม เพราะเป็นสองคำถามที่คนส่วนใหญ่คงคาใจอยู่เรื่อยมา หนังก็เลยหยิบมาพูดเองเสียเลย

ป.ล.2. ไม่ค่อยชอบ CG ยักษ์เขียวเวอร์ชั่นนี้เท่าไหร่เลย ดูหลอกตาอย่างบอกไม่ถูก





Link บทความที่อ้างอิงถึงใน blog


Ratatouille htmlentities('< ')htmlentities('< ')บนทางเดินของความฝัน - ในสังคมแห่งอคติhtmlentities(' >')> Hairspray

Horton Hears a Who! ,เสียงที่มองไม่เห็น เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย ประชานิยมหมักหมมปัญหา ปิดหูปิดตาประชาชน

คนขับ ( Speed racer) Vs. คนเหล็ก ( Iron man) / Vegas(21) Vs. Vegas (What happen in vegas


Enchanted , ในวันที่ไม่รู้จะยิ้มให้กับใคร ในวันที่ไม่มีใครยิ้มให้กับเรา

สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง ได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน

ขอฝาก พ็อกเก็ตบุ้คสองเล่มที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนังเพราะ "หนังสือรัก" เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม ส่วน องศาที่ 361 หนังสือเล่มล่าสุดที่จะช่วยให้คุณค้นหามุมเล็กๆในตัวเองที่จะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้น โดยไม่ต้องมองหาจากผู้อื่น


เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม



ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิกhtmlentities(' >')> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง




ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป