2 ข้อที่ว่าด้วย 'ปรากฎการณ์ ทไวไลท์ อะไรกันนักหนา ?' + 8 ข้อที่อยากพูดถึง New Moon
1. มีเสียงของคนดูหนังชุด Twilight แล้วกลับมาสงสัยว่าทำไมหนังถึงดังเหลือเกิน ทำไมคนพูดถึงกันนักกันหนา ทั้งที่เนื้อหาก็ดูไม่ได้มีอะไรมาก
ถ้าจะเอาจริงๆ มันก็พอจะมีข้อเท็จจริง ที่อธิบายได้ และ ทำให้ไม่แปลกใจ ที่
Twilight จะสร้างปรากฎการณ์ระดับถล่มทลาย เพราะ ด้วยคุณภาพหนังก็อยู่ในระดับแนวหน้าทั้งงานสร้างและการกำกับ แต่ ที่ถล่มทลาย ไม่ได้มาจากคุณภาพเป็นสาเหตุหลักๆ หากแต่ เพราะในส่วนเนื้อหา ตัวหนังกับหนังสือ มีคุณสมบัติหลายข้อที่ จับใจ คนดูกลุ่มกว้าง
Twilight เป็นหนังแวมไพร์ที่เกี่ยวข้องกับ
เพศหญิง ทั้งผู้สร้างและผู้ชมมากเป็นพิเศษ เริ่มตั้งแต่ผู้แต่งนิยายก็เป็นหญิง (Stephenie Meyer) ตัวนิยายก็ใช้นางเอกเป็นคนเล่าเรื่องแทนตัวเองว่า ฉัน
ดังนั้นเวลาอ่านหนังสือ ยิ่งผู้เขียนบรรยายเรื่องราวได้ดีมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ผู้อ่านสาวๆเคลิ้มอินตามไปด้วยมากเท่านั้น
ครั้นเมื่อมาทำเป็นหนังภาคแรก ก็เกิดการแท็คทีมพลังหญิง อันประกอบไปด้วย
ผู้กำกับ Catherine Hardwicke ,
คนเขียนบท Melissa Rosenberg และ
Stephenie Meyer ที่ตามมาด้วย ทั้งสามสาวแสดงออกถึงเข้าใจความโรมานซ์สำหรับสาวๆได้เป็นอย่างดี
เพราะปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Twilight ทั้งเวอร์ชั่นหนังและหนังสือชนะใจคนดู คือ การฝากภาพ
เพศชายในอุดมคติ ไว้ที่ตัว
เอ็ดเวิร์ด คัลเลน เอ็ดเวิร์ด เป็น แวมไพร์โปรไฟล์เลิศ ทั้ง หล่อ + รวย + หัวดี + พลังกายเกินร้อย + พลังใจงดงาม มีคุณสมบัติเพียบพร้อมกับการเป็นชายในฝัน อีกทั้ง ความเป็นแวมไพร์ ของ เอ็ดเวิร์ด ใน Twilight สามารถตีความโยงไปถึง sex ได้อย่างน่าสนใจ
เมื่อทั้งหนังและหนังสือล้วนบรรยายความรู้สึกที่กระหายอยากสูบเลือดนางเอก แต่ก็พยายามควบคุมตัวเอง ได้ราวกับความรู้สึกของแรงขับทางเพศ ซึ่งเจ้าตัวต้องต่อสู้ระหว่าง
ความอยาก - Id กับ
ความถูกต้อง - Superego ความพยายามหักห้ามใจไม่ล่วงเกินฝ่ายหญิง ของเอ็ดเวิร์ดนี้เอง เป็นสัญลักษณ์ของการให้เกียรติสตรีเพศ แสดงให้เห็น ความเป็นสุภาพบุรุษที่สาวๆมองหาในตัวชายหนุ่มในสังคม
จึงไม่น่าแปลกใจ ที่พลังหญิงของคนเขียน, ผู้กำกับ , ผู้ชม และ ผู้อ่าน จะพา Twilight ไปได้ไกลถึงขนาดนี้
2. แล้ว
New Moon ละ ?
New Moon เป็น ปรากฎการณ์พล็อต ละครไทย ที่ถูกพัฒนาไป ในระดับฮอลลีวู๊ด
พล็อตไม่มีอะไรมาก ตัดสถานภาพ
แวมไพร์ กับ
มนุษย์หมาป่า ทิ้งไป เราก็จะได้ละครไทยเนื้อหาประมาณ
...
พรหล้า สาวชาวบ้าน รัก
เอ๊ดดี้ ลูกเศรษฐีผู้สูงศักดิ์ แต่ เอ๊ดดี้ คิดว่า พรหล้า ต้องเจ็บปวด เมื่ออยู่ไปก็ปรับตัวกับความไฮโซไม่ได้ แถม พรหล้า ยังอยากจะเปลี่ยนตัวเองให้ไฮโซ อยากพลีกายให้เอ๊ดดี้ แต่ เอ๊ดดี้ ไม่ใช่คนแบบนั้น ที่ เอ๊ดดี้รักคือ ความเป็นคนธรรมดาๆของพรหล้า
และ เพราะความดีเกิน เอ๊ดดี้ จึงหนี พรหล้า เปิดโอกาสให้
ตะขบ เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ถือโอกาสเข้ามาใกล้ชิด ดามหัวใจที่ถูกหัก แล้วสุดท้าย เอ๊ดดี้ สำนึกได้ กลับมาหา พรหล้า สร้างปัญหาหัวใจให้ยุ่งเหยิง
พล็อตสไตล์นี้ สามารถส่งตัวตนของ พรหล้า เข้าไปแทนที่ สาวๆคนดูอีกครั้ง คล้ายๆกับใน Twlight ด้วยการ ตอบสนอง จิตใต้สำนึกของแฟนๆที่ดูอยู่ ให้รู้สึกถึง
คุณค่าในตัวเอง มากจนเป็นที่ต้องการของ ผู้ชายแสนดีสองคน คนหนึ่ง ซื่อ จริงใจ ใส่กล้ามเต็มสูบ มาโช่เต็มที่ ส่วนอีกคน หล่อด้วย รวยด้วย เดินแต่ละก้าวประกายส่องวิบวับ หล่อมาแบบเมโทรเซ็กช่วล
หล่อสองสไตล์ พยายาม ปกป้องเธอจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต ยอมอดทนแม้เธอจะทำฉันช้ำใจ
เป็น สาวคนไหน ได้อ่าน หรือ ได้ดู ก็น่าที่จะประทับใจได้ไม่ยากเย็น
3. คำถามที่พบบ่อย Twilight New Moon อันไหน หนุก-ดี กว่ากัน ?ผมคิดว่า คุณภาพโดยรวมนั้นสูสี โดย
New Moon อาจตามหลังเล็กน้อย
ข้อดีของตัวหนัง
Twilight คือ อารมณ์หนังอุ่นไอไปด้วยความโรมานซ์ หวานจนอาจจะเลี่ยนไปสำหรับหนุ่มๆ แต่ ก็ละมุนละไมใส่ความเป็นเพศหญิง (คล้ายๆกับที่ หนังของไมเคิล มานน์ ก็อบอวลด้วยความแมนในตัวหนัง)
ในขณะที่
Chris Weitz ผู้กำกับ
New Moon ที่เพิ่งดับมากับ The Golden Compass มีจุดเด่นตรงเทคนิกการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ เช่น การนำเสนอ เวลาที่ผ่านไปแต่ละเดือน , การมาของเอ๊ดเวิร์ดในรูปแบบละอองภาพ , ความกลัวถึงอายุที่เล่าผ่านความฝัน ฯลฯ แต่ก็ด้อยลงในแง่ อารมณ์ (บางตอนก็ซึ้งอยู่ อย่างตอนเสียศูนย์นี่ก็จี๊ด)
ด้วยตัวเนื้อหา ที่ก็ไม่ได้มีอะไรมากอยู่แล้ว สำหรับคนที่อิน ก็เชื่อว่า จะอินไปกับทั้งสองภาค แต่กับตัวเอง อินแค่ประมาณหนึ่ง คือ ก็ซึ้ง แต่ ซึ้งสั้นๆ สลับ เหนื่อย กับ ความเนือย ที่มาหลายช่วง จน อยากให้ผ่านช่วงนั้นไปไวไว(เช่นใน New Moon ช่วง เอ๊ดเวิร์ด จากไป จน กลับมา ตอนแรกก็ซึ้ง แต่นานไปมันก็เริ่มเนือย)
4. สำหรับคอหนังที่ไม่รู้ ว่าดูหนัง หรือ อ่านก่อน ดีกว่ากัน ในฐานะที่ อ่านเล่มแรกแล้วไม่ถูกจริต จึงคิดว่า คนที่แพ้อารมณ์ Twilight ถ้าอยากจะดูภาค New moon ให้สนุกไม่ต้องอ่านแล้วไปดูเลยจะดีกว่า เพราะทดลองกับตัวเองแล้วว่า ผลที่ออกมาดีกว่า(อ่านมาแล้ว)จริงๆ เนื่องจาก ตัวเนื้อหาหนังสือก็ไม่มีอะไรมาก แถมหนังก็ไม่กล้าดัดแปลงมากอีก พออ่านมาก่อน ก็เลยไม่ได้ลุ้นเท่าไหร่
5. ตัวละครหลายคน น่าเป็นห่วงในปัญหาสุขภาพจิต
หนูเบลล่า สามารถใช้เป็นตัวอย่างหรือ Case study ของ
โรคซึมเศร้า ได้เป็นอย่างดี ตามอาการดังนี้ อารมณ์เศร้าซึม , เบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไร , แยกตัวจากสังคม ทำกิจกรรมสังคมลดลง, นอนไม่หลับ ฝันร้าย อาการรุนแรงถึงขนาด มีหูแว่ว ภาพหลอน , คิดทำร้ายตัวเองชนิดลืมพ่อลืมแม่ ฯลฯ อาการเข้าข่ายโรคซึมเศร้าครบครัน
ส่วน
เจค๊อบ พ่อหนุ่มมนุษย์หมาป่ากับผองเพื่อน เผ่าพันธุ์นี้ มี
อาการหลงรูปตัวเองขั้นรุนแรง เสื้อก็ไม่ค่อยจะใส่ มีโอกาสต้องโชว์แมนเป็นว่าเล่น ทั้ง ซิกส์แพ็ค กางเกงเอวต่ำ (สงสัยว่า คอสตูมดีไซเนอร์ มาจากหนังชุดเดียวกับ หนังของพิง ลำพระเพลิง)
บวกพฤติกรรมโชว์แมนไม่สมเหตุสมผล เช่น ไถลแมงกะไซด์ที่เพิ่งซ่อมให้พังยับ โผไปช่วยนางเอกแทนที่จะจอดดีๆก่อนก็คงไม่เป็นไร หรือ เห็นนางเอกเลือดออก พี่เล่นถอดเสื้อทั้งตัว เพื่อ เอามาซับเลือด ทันที
(เป็น มาตรฐานใหม่ของความเป็นสุภาพบุรุษ ที่น่ากลัวมาก สร้างความกดดันให้กับ ผู้ชมแฟนหนุ่มที่ตามแฟนสาวไปดูหนัง เพราะ จาก The Letter ทำให้หนุ่มตาน้ำข้าวต้องไปฝึกล้างเท้านวดเท้าให้แฟนสาวพิสูจน์รักแท้ แต่ งวดนี้ หนุ่มๆต้องพร้อมจะถอดเสื้อกลางชุมชน ได้ทุกขณะจิต แม้เพียงมีดบาดนิ้วแฟนสาว)
6. ถ้า หนูเบลล่า อยู่ครอบครัวอื่นที่ไม่ได้มี พ่อผู้แสนดีแบบในเรื่อง น้องหล้า มีสิทธิถูกพ่อแม่ตบสั่งสอน ข้อหาบ้าผู้ชาย ในระดับน่าเป็นห่วงมาก
สำหรับนักเรียนมัธยมปลายซักคน ที่พร้อมจะหนีตามผู้ชาย ชนิด สวยไม่แคร์สื่อ หรือ ไม่สนพ่อแม่ อีกทั้ง บทจะทำร้ายตัวเองก็ลืมครอบครัวไปเสียหมด เพียงเพราะ ชายทิ้ง
แถมตอนอ่อนแอ ทำทีเหมือนจะมีใจให้ เพื่อนชาย ครั้นคนรักเก่ากลับมา ก็เข้าใจว่า จะกลับไปหา คนรักเก่า แต่คำพูดคำจาของเธอ ช่างไม่ทะนุถนอมน้ำใจตอนเขาเคยทำดี แต่ตอบสั้นๆเชิดหน้าประมาณ
ไปเถอะ ยังไง ชั้นไม่เอาเธอหรอก น่าจะรู้ตัวนะ 7. ปกติ จขบ. จะหวั่นไหวกับนางเอกหน้าสวยสไตล์ คริสเตน สจ๊วต แต่ขณะดู New Moon อยู่ก็พบคำตอบว่า ทำไมถึงไม่หลงใหลน้องเบลล่า เลย
เพราะ หน้าตาเบลล่า ดูเหมือนท้องผูกอยู่ตลอดเวลา ขนาดฉากซึ้งหรืออารมณ์ดี ก็ดูยังมีปัญหาลำไส้ให้ใบหน้าตึงเครียด ทั้งๆที่ปูมหลังชีวิตในเรื่องก็ไม่ได้ระกำลำบากหนักหนา หรือ ขาดรัก มาจากไหน
ความสดใสเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้ Twilight สองภาค กระชุ่มกระชวยสำหรับจขบ.คือ
อลิซ 8. ดู
New Moon แล้วสงสารคนรอบข้างเบลล่า (พ่อ , แฟน , เพื่อน ) นั่งคิดว่า ถ้าอยากให้หนังเข้าตานักวิจารณ์
8.1 ผู้กำกับน่าจะลองกล้าหาญชาญชัย เพียงเปลี่ยนบทตอนท้ายนิดเดียว เช่น
เจค๊อบ :
ฉันมีอะไรอยากจะพูดกับนายเอ๊ดเวิร์ด :
ฉันอยากขอบคุณนายก่อน ที่ปกป้องเบลล่าเจค๊อบ :
เอาเถอะ เอ๊ด เรื่องเบลล่า เราเหนื่อยมาพอแล้ว เรารู้ใจตัวเองแล้ว
เราชอบนายวะ นายจริงใจ ไม่หวั่นไหวง่ายเหมือน เบลล่า ไม่ทำเราเจ็บปวดเหมือนเบลล่า เราอยากคบกับนายเอ๊ดเวิร์ด :
ฉันก็ชอบแก จาค็อบ คบแกมันง่ายๆดี ไม่เดือดร้อน ถ้าเรารักกัน เผ่าพันธุ์ของพวกเราจะได้ผสานกันเป็นหนึ่งเดียวเข้าสู่ไตรภาค
Twilight mountain 8.2 หรือจ้าง คอมโพเซอร์ จากเมืองไทย ใส่เพลงไทยใน OST. ดังนี้ น่าจะทำให้อินในเนื้อเรื่องที่เป็นอยู่มากกว่า เพลงเดิมที่ใช้อยู่
ธีมของเอ๊ดเวิร์ด - รักก็เจ็บ เลิกก็เจ็บ , ฟ้าคงสะใจ , ฉันทำผิดเอง
ธีมของเจคอบ - ตัวจริงของเธอ , ตัวสำรอง , เหนื่อยไหม
ธีมของเบลล่า - อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน , ดาวมหาลัย (ใส่เสียงร้องแบบกอสเปลช่วง "พ่อไม่เข้าใจเบล พ่อไม่เซ้นซิถีฟ")
9. ข้อนี้ไม่สปอยล์ เพราะจขบ.ยังไม่ได้อ่านเล่มถัดไป แต่ คิดเล่นๆในแง่ว่า
พล็อตของ Twilight มีสิทธิไปได้ไกลกว่า นิยายรักโรมานซ์ ถ้าต่อยอดประเด็นว่า เอ็ดเวิร์ด กับ เบลล่า มีลูก
โดยที่ทั้งสองคนเป็นแวมไพร์ แต่ ลูกเป็นคนธรรมดา ครั้น เมื่อลูกโตเข้าวัยรุ่นเริ่มรู้ความจริง ลูกอยากเป็นเหมือนพ่อแม่ ทั้งคู่ จะเลือกให้ ลูกโตเป็นคนธรรมดาใช้ชีวิตเหมือนเพื่อนๆ หรือ จะกัดซอกคอทำให้เขาเป็นแวมไพร์
พล็อตนี้ขอเปลี่ยนเอาผู้กำกับ
Let the right one in มาทำแทน เป็น
Let the twilight one in10. เหล่าโวลทูรี่ เท่จริง เจ๋งจริง เสียดายบทน้อยไปหน่อย (น้องดาโกต้า พูดแค่ไม่ถึง ห้าประโยค กับ เจ้าหนูคาเมรอน ไบรท์จาก Birth ไม่ได้พูดซักแอะ) , ชอบ Michael Sheen มากมาตั้งแต่พี่แกเป็น โทนี่ แบล ใน
The Queen แล้วเปลี่ยนมาเป็น ฟรอสต์ ใน
Frost/Nixon โดยไม่ทำให้คนดูติดภาพในบทเดิม งวดนี้เลยกลายมาเป็น เล่นหนังไตรภาคแวมไพร์หมาป่า สองเรื่องเลย ว่าจะไปหยิบ
The Damned United มาดูต่อซะหน่อย
สรุป ... ในฐานะไม่ใช่แฟน เอ็ด , เบล หรือ จา ดูแล้วก็ออกแนวอารมณ์ประมาณ ก็ดี ไม่ดี ไม่แย่
ถ้าชอบภาคแรก ก็ไม่ควรพลาดภาคสอง แต่ ถ้าภาคแรกหาวเป็นพักๆ ภาคสองควรเตรียมหมอนไปด้วย
Link บทความที่เกี่ยวข้อง
Twilight + The Duchess + Teeth , (สัปดาห์หนังพลังหญิง) อาทิตย์นี้ ผู้หญิง ครองโรง
The Golden Compass , ง๊ายง่าย เด๊กเด็ก
The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
Angels and Demons + Let the right one in , แดน บราวน์ ห้าวเป้ง ปะทะ แวมไพร์เจ๋งเป้ง
โดย: นางสาวเปิ่นจัง 23 พฤศจิกายน 2552 2:34:45 น.
โดย: McMurphy 23 พฤศจิกายน 2552 7:05:55 น.
ขำมากๆด้วย
โดย: มาดามอุ้ย 23 พฤศจิกายน 2552 7:47:19 น.
โดย: krookkroo IP: 125.24.136.26 23 พฤศจิกายน 2552 9:44:39 น.
ปล. ดู คุณน้องร้อบบี้ไปออกรายการ Letterman show น้องเขาพูดไม่สบตาคน อินกับบทแวมไพร์จริงๆ สำเนียงอเมริกันจ๋าด้วย
โดย: จังไม IP: 116.68.148.34 23 พฤศจิกายน 2552 10:01:36 น.
เห็นด้วยอลิซ ชอบอลิซ คนอื่นไม่สน
โดย: jantp27 IP: 10.100.1.20, 202.47.230.38 23 พฤศจิกายน 2552 10:04:57 น.
ที่จะไปดู ก็เพราะอยากรู้ว่าตัวเองจะยังรับหนังตระกูลนี้ไหวมั้ยเนี่ยแหละครับ
อ้าวละเว้ย! วันพุธนี้ คงมีคำตอบให้ตัวเองล่ะนะ
โดย: OncE UPoN'-'a MaN 23 พฤศจิกายน 2552 10:15:19 น.
ปล.ผมก็ไม่เข้าใจมาก ทำไมเห่อกันจังเลย กับหนังเรื่องนี้ สาวๆเค้าต้องการอะไรจากคนที่ตัวเองรักกันแน่นะ ความ Perfect หรือ ความเป็นตัวเราเองกันแน่ ถ้าอ้วนๆไม่หล่อแต่รักจริง มันไม่พอเหรอ
โดย: Boatmaster IP: 114.128.179.42 23 พฤศจิกายน 2552 11:33:12 น.
และยังไม่ได้ไปดูภาคนี้
แต่อ่านจากที่คุณคิด
ดิฉันก็คิดว่าคงเข้าทางสาวๆอย่างดิฉัน
55++
ดูน่าพี่เอ็ดเวิดเสีย 60 ก็คุ้มแล้ว
โดย: โบ IP: 58.9.6.147 23 พฤศจิกายน 2552 11:57:33 น.
คิดกันไปได้ ฮาๆๆ
โดย: Roof IP: 113.53.119.25 23 พฤศจิกายน 2552 13:51:06 น.
สอดแทรก เนื้อหาเล็กน้อย ไม่น่าเบื้อ ขำตรงตะขบงะ คิดได้ไงเนี่ย กับมุข mountain สุดยอด
แต่จากประโยคที่เขียนดูให้อารมณ์ อิจฉา หนุ่มในเรื่องยังไงไม่รู้ สงสัยจัง ว่า 6 แพคของ คุณ เป็นไงน้า
พอได้อ่านแล้วชักคิดถึงหนังสือเล่มหน้าของคุณซะแย้ว
เริ่มอยากอ่านแล้ว
โดย: jubu IP: 124.157.200.88 23 พฤศจิกายน 2552 18:01:01 น.
ที่เค้าต้องใส่แค่กางเกงเพราะเวลาแปลงร่างมันลำบากนะคะ ตามเล่ม3 เจคบอกว่าเวลากลายร่างเป็นหมาป่า ต้องเอากางเกงไปผูกไว้กับขา แล้วถ้ายังมีเสื้ออีก จะลำบากขนาดไหน
อิอิ แต่ยังไงก็ชอบค่ะ 8แพ็คของเจค
โดย: Snoopy IP: 10.7.74.247, 202.28.180.220 23 พฤศจิกายน 2552 19:26:16 น.
โดย: ่Demon IP: 58.137.0.19 23 พฤศจิกายน 2552 19:44:48 น.
โดย: Gob IP: 222.123.221.186 23 พฤศจิกายน 2552 20:41:19 น.
โดย: โปรดทำให้ฉันหยุดหัวเราะ 23 พฤศจิกายน 2552 22:19:43 น.
ยังไม่ได้ไปดูเลยค่ะ กะว่ารอไปดูพรุ่งนี้
แต่รอมาอ่านในบล็อคคุณหมอก่อน เข้ามาประจำ
ส่วนตัวเเล้วอชบภาคแรกและรอภาคสองมานาน
คุณหมอวิจารณ์ตรงประเด็นดี มันเป็นแบบนั้นจริงๆ
ภาคนี้ดูๆไปก็พล็อตไทยๆเรานี่เอง(น้ำเน่า)
ไม่เคยอ่านเป็นนิยายเลยคะ หาไม่เจอ กลัวอ่านแล้วจะไม่ชอบเท่าที่ดูหนัง เดี๋ยวจะเสียอารมณ์ซะเปล่าๆ
ขอบคุณคุณหมอนะคะ
ปล.อดคิดไม่ได้คะ... อย่าว่างั้นงี้นะ แต่คุณหมอปากร้ายชะมัดเลย ถ้าฉันเป็นเมเยอร์นะ... ฉันมาฉีกอกคุณแล้ว5555+
โดย: กวินชนก IP: 125.25.236.9 24 พฤศจิกายน 2552 8:36:25 น.
เพราะชีวิตในเรื่องเหมือนเราเลยแต่กลับกันที่เราเป็นผู้หญิง
แต่เราเป็นเจคอบที่โดนหลอกให้มาเยียวยาและรักเขา
แต่สุดท้ายก็โดนเบลล่า(ผู้ชายของเรา)หลอกและกลับไปหาของเก่า
ว้า นอกเรื่องซะไกลเลย
แต่ตามอ่านทุกเรื่องนะคะ
โดย: วันจันทร์ถึงศุกร์ IP: 125.26.131.237 24 พฤศจิกายน 2552 13:30:49 น.
ส่วนภาคนี้ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ดูเมื่อไหร่
โดย: เจรามี 24 พฤศจิกายน 2552 17:45:09 น.
บอกได้เลยว่าหากลูกสาวเป็นแบบน้องหล้า คงได้ตบล้างน้ำกันในยุค 2000 แน่นอนค่ะ
(จะมีสาวๆค้านว่า แล้วหากเอ๊ดเป็นพี่เคนล่ะ อืม...ขอเป็นน้องหล้าก็ได้ ฮาาาาาาา)
พรุ่งนี้จะไปดูค่ะ (วันพระ ผีไม่กัดหรอกเน๊อะ) แล้วกลับมาอ่าน เหมือนทุกครั้งที่อ่านแล้วไปดู และกลับมาอ่านอีกรอบ ^ ^
โดย: มนน้ำฝน IP: 113.53.161.244 24 พฤศจิกายน 2552 20:07:42 น.
ไม่ค่อยชอบเบลล่าตรงที่ทำหน้าเหมือนคนหงุดหงิดตลอดเวลา
ขนาดตอนเจอพระเอก(อีกครั้ง) ทำหน้าเหมือนปวดตับ เจ็บเม็ดเลือดแดงมาก ๆ
(ตกลงว่าเจ๊ดีใจหรืออยากเข้าห้องน้ำกันแน่เนี่ย -"-)
ตอนดูเกือบหลังเหมือนกัน แต่สิ่งที่ยังทำให้ตื่นอยู่ได้ก็คือเสียงสาว ๆ ในโรงกรี๊ดกร๊าดกันนี่แหล่ะค่ะ แถมแอบได้ยินเสียงกลั้นหายใจของน้องคนข้างหลังตอนเจคถอดเสื้อเห็น 8 pack ด้วย
โดย: หลานสาวเชอร์ล็อคโฮล์มส์ 24 พฤศจิกายน 2552 21:09:00 น.
ที่จริงก็ไม่อยากดูแต่เพื่อนลากไปน่ะค่ะ
พอเข้าไปดู ช่วงแรกๆรำคาญเบลลามากเลย
ยายนี่ป่วยจริงๆด้วย
แต่พอมีผู้ชายเปลือยอกโผล่มาเรื่อยๆก็โอเคขึ้น แล้วสุดท้ายก็นั่งขำเพราะมัวแต่คิดถึงหนังคุณพิง ลำพระเพลิงอยู่ดี ฮ่าๆๆ
โดย: น.ว. IP: 58.8.210.7 25 พฤศจิกายน 2552 20:21:58 น.
ขำ 8.1 และ 8.2 ถ้าทำตามนั้นคงดังระเบิดกว่านี้นะครับ ฮ่าๆๆ
โดย: absent-minded IP: 158.108.228.110 26 พฤศจิกายน 2552 9:10:51 น.
ปล. เราก็เป็นผู้หญิงนะ
โดย: เลดี้ IP: 58.8.19.16 27 พฤศจิกายน 2552 23:44:42 น.
เราก็เป็นผู้หญิงนะ ไม่เห็นจะชอบเลย
โดย: เลดี้ IP: 58.8.19.16 27 พฤศจิกายน 2552 23:45:47 น.
ปล.อยากให้ชล็อกโฮร์มเข้าไวไว ไม่รู้พี่หมอจะไปดูไหม อยากอ่านมากๆ เลยว่าพี่หมอคิดไง
โดย: กวินชนก IP: 125.25.23.188 8 ธันวาคม 2552 13:02:35 น.
คิดว่าส่วนตัวแล้วเป็นเบลล่าไม่ได้แน่นอนค่ะ เพราะถ้าเกิดเหตุกับชีวิตตัวเองแบบที่เกิดกับเบลล่านั้น คงไม่จิตตกถึงขั้นซึมเศร้าแบบเบลล่า
ตรงนี้คิดว่าขึ้นอยู่กับ personality type ของแต่ละคนมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนแต่ละคนมี coping ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น ก็เลยไม่อินกับเรื่องของเบลล่ามากนักค่ะ
แต่จขบ.ใจตรงกับเราอยู่อย่างค่ะ
คือว่าเราชอบ อลิซมากที่สุดเลย หุหุ
โดย: ชื่อนี้ไม่มีในสารบบ IP: 58.9.195.95 15 ธันวาคม 2552 19:59:26 น.
ตอนอ่านเรื่องนี้ ยอมรับว่าเล่มสองน่าเบื่อสุด แต่ทนอ่านต่อไปเพราะยังอยากรู้ว่าเมื่อไหร่เบลล่าจะเป็นแวมไพร์
แต่ในฐานะคนอ่านครบทุกเล่ม คิดว่าภาคสามและสี่จะสนุกขึ้นแน่นอนค่ะ เพราะมันจะเป็นลักษณะของสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ ทั้งแวมไพร์ หมาป่า
ตอนแรกเอือมๆเบลล่าไปหลายเล่ม แต่พอเล่มจบรักยัยเบลล่าเลยค่ะ เพราะสิ่งที่เธอทำมันยิ่งใหญ่มากในชีวิตลูกผู้ ญ.คนนึง สำหรับอีกชีวิตที่เธอรักไม่แพ้ตาเอ็ดเลย
โดย: aiannahna 16 ธันวาคม 2552 16:19:15 น.
รำคาญนิสัยนางเอกเหมือนกัน 555
หมาป่าก็โชว์กล้ามเวอร์ไปหน่อยจริงๆ
แม้บักเจคจะหุ่นดีก็เหอะ 555
ภาคแรกนี่ผมว่าโรแมนติกกะลังดี
แต่ภาคนี้ดูแล้วเลี่ยนมากๆ ครับ -.-''
คิดถึงหนังไทยจริงๆ ซะด้วย O_o''
โดย: lkunl IP: 146.23.250.105 1 มกราคม 2553 4:16:06 น.
โดย: แฟนหนังเรื่องนี้!! IP: 58.64.84.145 22 กุมภาพันธ์ 2553 17:05:33 น.
โดย: แฟนหนังเรื่องนี้!! IP: 58.64.84.145 22 กุมภาพันธ์ 2553 17:14:13 น.
เราเป็นคนนึงที่เป็นแฟนหนังสือเรื่องนี้ คิดเหมือนกันว่าพล็อตแนวละครหลังข่าว รู้อ่ะ ว่ามันเน่า แต่ก็ชอบ เหมือนว่า "นี่แหละ ที่ฉันกำลังตามหา"
อ่านความเห็นของพี่แล้วตลกดี จริงๆ แล้วก็แอบหวังนะเนี่ยให้เอ็ดดี้กับจาคอบกิ๊กกัน (ต่อมสาววายทำงาน กร๊ากก)
ภาค 2 ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ ไม่ค่อยกระตือรือร้นเหมือนภาคแรก ขนาดอ่านนิยายเรายังไม่ค่อยปลื้มยายเบลล่าเท่าไหร่ (ถึงเล่มหลังๆ เธอจะดีขึ้นก็ตาม)
แต่จำความรู้สึกตอนไปดูภาคแรกได้ค่ะ ว่าไปดูกับเพื่อนกะเทย นั่งกรี๊ดกันแบบไม่เกรงใจคนข้างๆ (คนข้างๆ ก็กรี๊ดเหมือนกันนี่นา 55) แค่ฉากที่เอ็ดเวิร์ดปรากฏตัวก็... กรี๊ด
ฉากหมอคัลเลน ปรากฏตัวก็กรี๊ด....
หลังจากนั้นก็กรี๊ดทุกฉาก ทุกลมหายใจของครอบครัวคัลเลน (ฮา)
สำหรับคนชอบอ่านหนังสือแล้ว เราว่า เราไม่หวังอะไรจากหนังที่ดัดแปลงจากหนังสือไปมากกว่า การที่เห็นตัวละครที่เราชอบออกมามีชีวิต ได้เห็นฉากที่เราเฝ้าฝันถึงมีสีสัน และออกมาได้ไม่น่าเกลียดก็พอค่ะ
โดย: lala IP: 118.172.151.174 6 มีนาคม 2553 23:31:47 น.
พูดได้โดนน
ตอนแรกเราก็ถูกหลอกซื้อหนังสือมายกชุด เพราะคนรีวิวที่ปกติเชื่อถือได้บอกว่า "สนุก"
แต่อันนี้รสนิยมเราคงไม่ตรงกันจริงๆ
พอดูหนังแล้ว
โอ้โห
ทำไมเค้าคลั่งกันอ่ะ
ป.ล.เราก็ผู้หญิงนะ
แต่อย่างนี้มันก็เน่าป๊าย
อ่านนวนิยายของคุณนักเขียนป้าๆมือขมังหลายคนยังสมเหตุสมผลกว่านี้เลย
โดย: omelet IP: 58.64.72.221 27 มีนาคม 2553 20:35:56 น.
แย่ๆ เก่งนักก็ไปเขียนบทเองสิ
แน่ใจหรอว่าอ่านหนังสือแล้ว?
โดย: ดดดด IP: 58.8.44.129 12 พฤษภาคม 2553 7:53:10 น.
โดย: อีไล IP: 119.42.103.182 2 มิถุนายน 2553 2:11:56 น.
ชอบนะ หนังเรื่องนี้ เหนือจินตนาการดีค่ะ
โดย: Bella IP: 125.26.145.108 30 มิถุนายน 2553 21:46:42 น.
สงสัยจะไม่วัยรุ่นซะละมั้ง เลยไม่ชอบ
โดย: นั่งมอร์มาต่อเมล์ 1 กรกฎาคม 2553 9:10:54 น.
ขำกับมุข Twitlight Mountain คิดได้ไงครับ 555
โดย: buddhi IP: 124.157.186.253 5 กรกฎาคม 2553 11:33:06 น.
ดูแล้วก็เพลินๆนะคะ แต่ไม่กรี๊ดๆๆ สงสัยจะแก่เกินไปมั๊งเรา เคยอ่านนิยายภาคแรกแล้ว รู้สึกว่างั้นๆค่ะ
โดย: หุหุ IP: 115.67.133.27 5 กรกฎาคม 2553 21:18:55 น.
แต่เรื่องหนังนี่อิฉันก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้
ว่ามันดีล่ะค่ะ
เห็นด้วยกะความเห็น จขบ สุด ๆ
โดย: คนดีผีคุ้ม 6 กรกฎาคม 2553 20:20:01 น.
โดย: TeamAlec IP: 202.176.185.150 22 ตุลาคม 2553 18:18:10 น.
ทีมเจคอบค่ะ เจค แซม พอล ควิล เอ็มบรี้ น่ารักก้พอ
แต่ไม่ชอบนิสัยเบลล่าจิง
โดย: teamjake IP: 58.9.39.80 15 มิถุนายน 2554 11:59:08 น.
โดย: นุช IP: 58.9.153.59 29 พฤศจิกายน 2554 12:46:37 น.