bloggang.com mainmenu search
สวัสดีครับ

... งานสัปดาห์หนังสือฯ มาถึงอีกครั้ง ก็ถึงเวลาที่ข้าพเจ้าขอแวะมาแนะนำหนังสือใหม่กันอีกหน

จาก หนังสือรัก (คลิกเพื่ออ่าน) , องศาที่ 361 (คลิกเพื่ออ่าน), เมื่อฉันลืมตาแล้วโลกเปลี่ยนไป (คลิกเพื่ออ่าน), LifeScan-มากกว่าที่ตาเห็น (คลิกเพื่ออ่าน), เจ็บเพราะรัก (คลิกเพื่ออ่าน)



ในที่สุดก็มาถึง หนังสือเล่ม 6 ที่มีกำหนดคลอดในงานสัปดาห์หนังสืออาทิตย์ที่จะถึงนี้แล้วจ้า

ภายใต้คอนเซ็ปท์

'สุข เศร้า เหงา คิด และ การใช้ชีวิตในยุค social network'

ในหนังสือชื่อ

ความสุขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้



เนื้อหาจะเป็นอย่างไร ขอเชิญอ่าน คำนำประจำหนังสือ เพื่อทำความรู้จักหนังสือได้ด้านล่างเลยเน้อ





เปิดตัวในงานหนังสือที่ บูธ H09 สนพ. 4-letter word โซนเพลนนารี่ฮอลล์

ครั้งนี้ จัดหนัก มาเต็ม!!!

จากที่หลายท่านบ่นว่า หายากยิ่งกว่าน้ำมันปาล์ม แต่งานหนังสือฯงวดนี้ หนังสือเล่มก่อนทั้ง 5 เล่ม มีวางขายพร้อมกัน แถม เมื่อฉันลืมตาฯ ยังเป็นฉบับพิมพ์ใหม่ปกใหม่ ไฉไลกว่าเดิม




*****
*****



ตารางเวลา”ผมอยู่ข้างหลังบูธ H09” มารอบังคับให้ผู้อ่านรับลายเซ็น และ พบปะเพื่อนๆ

วันเสาร์ที่ 2 เมษายน 14.00 - 17.00 น.

วันอาทิตย์ 3 เมษายน 12.00 – 14.00น.
center>


*****
*****


คำนำ จากหนังสือ ความสุขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้


... สมชายตื่นนอนตอนเช้า ได้ยินเสียงโทรทัศน์พร้อมเสียงแม่เฮสลับกันเป็นพักๆเวลาคนบนเวทีปราศรัยตะโกนถามถึง “พ่อแม่พี่น้อง...” แม่ติดตามเหตุการณ์บ้านเมือง ตั้งแต่เช้าจรดเย็นมาเป็นเดือนๆ เหมือนกับ พ่อของเขาที่เปิดรายการข่าวดูเกือบตลอดเวลา ต่างกันแค่ แม่กับพ่อใส่เสื้อคนละสี มีความเชื่อคนละอย่าง ระยะหลังทั้งคู่หงุดหงิดง่ายและนั่งดูทีวีกันคนละเครื่อง

อาบน้ำเสร็จ ได้ยินพ่อกับแม่เถียงกันเสียงดัง ว่า “ทำไมไม่รักชาติ “ ส่วนตัวเขาแต่งตัวเตรียมจะไปเยี่ยมป้าที่ป่วยเป็นมะเร็ง พร้อมกับของฝากเป็น น้ำสูตรพิเศษที่แม่สั่งซื้อจากที่เห็นออกในรายการทีวี เขาสงสัยในสรรพคุณวิเศษเหลือเชื่อของมัน ในการรักษาโรคที่หมอยังรักษาไม่ได้ ดูฉลากไม่เห็นมี อ.ย. แม่ก็บอกว่า ‘กินดีกว่าไม่กิน ไม่เชื่ออย่าลบหลู่’ ก่อนออกจากบ้านแม่ตะโกนออกมาเตือนว่า ปีนี้เป็นปีชง อย่าลืมแวะวัดจีนเพื่อไปแก้ชงด้วย

หลังกลับจากเยี่ยมป้า เขาแวะเข้าไปที่มหาวิทยาลัย เช็คผลสอบผ่านทางอินเตอร์เน็ต เจอ ช่อลดา เพื่อนร่วมชั้นปี เธอเม้าธ์ให้เขาฟังเรื่องที่ จอย กับ กฤษณ์ เลิกกันแล้ว เธอติดตามข่าวของคู่นี้มาตลอดผ่านหน้า facebook ที่คนหนึ่งอัพเดตสเตตัสตัดพ้อมาเป็นระยะ แต่ความจริงสมชายรู้ข่าวนี้มาพักใหญ่ เหมือนข่าวซุบซิบนินทาอื่นๆในคณะ ที่ เกรียนไกร เพื่อนของเขาคอยส่ง link หน้า blog หรือ facebook ที่แต่ละคนเขียนบ่นระบายเรื่องส่วนตัว มาให้อ่านทางเมลล์

ช่อลดาชวนเขาไปดูหนัง ระหว่างดูหนังเขาสงสัยว่าทำไมหญิงสาวคนที่นั่งด้านหน้าถึงเล่น BB ในโรงหนังเกือบตลอดเวลา ดูหนังจบออกมาเดินเล่นใน ร้านหนังสือ เขาสังเกตว่า หนังสือขายดีของคนไทยส่วนใหญ่ไม่พ้นหมวดหมู่ บุญ , ธรรม , กรรม ,สุข ฯลฯ โดยเฉพาะ ธรรมะมีจัดเป็นชุดๆเหมือนแพ็คเกจ ก่อนแยกย้ายกลับบ้าน ช่อลดาชวนเขาไปปฏิบัติธรรมช่วงวันหยุด ในสถานที่ที่ช่อลดาภูมิใจว่าต้องจองล่วงหน้าถึงสี่เดือนและมีแต่คนดีๆเขาไปกัน

ขากลับบ้าน สมชายติดรถเกรียนไกรที่มีสมบัตินั่งมาด้วยไปลงสถานีรถไฟฟ้า เกรียนไกรเปิด twitter ทาง iphone 4 เช็คเส้นทางที่จราจรไม่ติดขัด แล้วเช็คอินให้เพื่อนๆรู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ตรงจุดไหน ส่วนสมบัติก้มหน้า chat BB กับแฟนโดยไม่คุยกับใคร ขับไปได้สิบห้านาที รถติดสาหัส เกรียนไกรด่าคนมาชุมนุม แต่ สมบัติที่นั่งแถวหลังพยายามอธิบายเหตุผลของการชุมนุม คุยกันได้ไม่นาน เกรียนไกรหันมาต่อยสมบัติเป็นที่ชุลมุน

ขึ้นรถไฟฟ้า สมชายโหนราวดูจอแอลซีดีก็เห็นโฆษณาส่วนใหญ่เน้นภาพ หญิงสาวขาวอมชมพู ก่อนออกจากรถไฟฟ้าสายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายโฆษณานางแบบที่ขายความขาวจนเขาเคลิบเคลิ้ม

กลับถึงบ้าน แม่บอกว่าจะไม่ทำต้มยำกุ้งอีกต่อไป เพราะกลัวจะตายจากการกินกุ้งพร้อมวิตามินซีเหมือนที่อ่านเจอใน ฟอร์เวิร์ดเมล พร้อมอยากให้เขาไปตรวจร่างกายกับ หมอสฟิงซ์ ที่สามารถตรวจหา กรรม ซึ่งเป็นต้นเหตุของมะเร็งกับโรคร้าย ด้วยเครื่องมือรูปทรงกระป๋องโลหะที่ไม่น่าจะมีอะไรอยู่ด้านใน แถมยังมีปีกเหมือนหนวดกุ้งคล้ายเครื่อง GT200

ช่วงหัวค่ำ สมชายนอนเอกเขนกเปิดทีวีดูละครก็เห็นเซ็นเซอร์หมอกมาบังปืนในมือตัวร้าย แกว่งไปแกว่งมา ดูแล้วรำคาญสายตา เปลี่ยนไปอีกช่องก็เห็นหมอกมาบังขวดเหล้าที่พ่อครัวกำลังทำอาหาร เลยคิดว่าดูการ์ตูนโดเรมอนน่าจะสบายตากว่า เปิดไปก็ดันเห็นว่า ชิซูโกะ ก็โดนเบลอเหมือนกัน

ก่อนล้มตัวนอน เกรียนไกรโทรมาบ่นให้ฟังว่าถูกเพื่อนที่คบกันมาสี่ห้าปี remove เขาออกจากการเป็น friend ใน facebook เพียงเพราะเขาเขียนสเตตัสบ่นเรื่องการเมือง แถมพอโทรไปเคลียร์ อีกฝ่ายก็บอกสั้นๆแค่ว่า “เราไม่ใช่เพื่อนกันอีกต่อไป”

... ผมอยู่ในยุคเดียวกับ สมชาย และตั้งใจเขียนหนังสือเล่มนี้ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นที่เฝ้ามองการทำงานของจิตใจในกระแสสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลง

ยุคที่เราใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางคลื่นความคิดที่ขัดแย้งในสังคม คลื่นลมแรงของชีวิตยุค 3G(T200) และ กระแสอันเชี่ยวกรากของเทคโนโลยีใหม่ๆมากมาย เช่น facebook , twitter , BB , iphone ฯลฯ

มองไปรอบตัว เราเห็นความนิยมในการเฝ้าหน้าจอเพื่อปลูกผักเลี้ยงวัวล้อมรั้วเก็บสตรอเบอรี่ , คอยติดตามและส่งข่าวสารผ่าน twitter , รอดูปีชงรอฟันธงรอคอนเฟิร์ม , ออกไปเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มมวลชนไม่ว่าจะทางการเมืองหรือทางความคิด , กระแสธรรมะอินเทรนด์ , การนั่งรายงานให้โลกรับรู้ว่าตัวเองเศร้า เหงา เกาผื่นที่แผ่นหลัง ผ่านหน้า wall facebook ฯลฯ

ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นตัวบอกถึง ความพยายามในการแสวงหาความสุขสบายใจของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน

เราอาจจะมีวิธีเพิ่มพูนความสุขมากมายจากตัวอย่างข้างต้น แต่หากไม่รู้เท่าทันจิตใจของตัวเองท่ามกลางโลกสมัยใหม่ที่หมุนด้วยอัตราเร็วที่ต่างจากเดิม การถามหาความสุขที่เหนื่อยแทบขาดใจ อาจตามมาด้วยเสียงจากปลายสายว่า “ความสุขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”


ขอขอบคุณ


ป๊ากับม๊าที่ให้ความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข และ เชียร์ให้เขียนหนังสือที่ไม่เน้นหนังบ้าง จนกลายมาเป็นหนังสือเล่มนี้

คุณแป้ก บก. & สำนักพิมพ์ โฟร์ เล็ตเตอร์ เวิร์ด ที่เป็นแรงผลักดันและช่วยพัฒนาจนมาเป็นรูปเล่ม

ทุกความเชื่อมั่น ทุกกำลังใจจาก friends ทุกท่านทั้งในโลกไซเบอร์และ ชีวิตจริง

เพื่อนผู้อ่านทุกท่านที่ Follow , Like และ รับหนังสือเล่มนี้ไว้ในครอบครอง


“ผมอยู่ข้างหลังคุณ”
(www.facebook.com/ibehindYou , i_behind_you@yahoo.com)




Create Date :24 มีนาคม 2554 Last Update :1 เมษายน 2554 0:21:50 น. Counter : Pageviews. Comments :13