bloggang.com mainmenu search
... ผมเชื่อว่าหลายคนมีปัญหา ‘ต่อมน้ำตาไม่ยอมสั่งการ’ ทำให้เวลาผิดหวังเสียใจ จะมากจะน้อยแค่ไหน ก็ไม่ค่อยมี น้ำตา ออกมาให้คนภายนอกเห็น และ ทำให้หลายคนเข้าใจว่าเป็นคนเย็นชา ที่ ไม่ว่าจะสอบตก หรือ อกหักเลิกรักเลิกรา คนก็จะมองว่าไม่ค่อยรู้สึกรู้สาอะไร

จริงหรือที่คนไม่มีน้ำตา คือ คนเข้มแข็งกว่าและเจ็บปวดไม่เป็น




... ลีชินเอ จาก Secret Sunshine ก็เป็นอีกคนที่เกิดภาวะ ‘ต่อมน้ำตาไม่ยอมสั่งการ’ในงานศพของลูกชาย จนถูกแม่สามีตำหนิว่า คนอื่นร่ำไห้จะเป็นจะตายกับการสูญเสียลูกชายของเธอ ไฉนเธอถึงเฉยเมยเย็นชา ราวกับว่า ไม่มีหัวจิตหัวใจ

ย้อนความกลับไปก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน ลีชินเอ เดินทางมาเมือง เมียร์ยาง บ้านเกิดของสามีที่เคยวางแผนร่วมกันว่าจะย้ายมาตั้งรกรากด้วยกัน แต่ตัวสามีนั้นด่วนจากไปเสียก่อน

กระนั้น ชินเอ ก็ไม่โยนความฝันที่วางร่วมกับสามีทิ้งไป เธอตั้งใจลงหลักปักฐานที่เมืองนี้กับลูกชายตัวน้อย เธอเปิดสอนเปียโนและมองหาที่ดินหวังสร้างบ้านอยู่ถาวร เธอมีกลุ่มเพื่อนผู้ปกครองจากโรงเรียนของลูก มีชายหนุ่มที่ช่วยเหลือเธออย่างจริงใจตั้งแต่วันแรกที่เข้าเมือง



ทุกอย่างในชีวิตกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี แต่แล้วคืนหนึ่งหลังกลับจากสังสรรค์กับเพื่อนๆ เธอก็พบว่าลูกชายถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่

เธอนำเงินเก็บที่มีทั้งหมดไปส่งมอบให้คนร้าย สุดท้ายการรอคอยของเธอก็เงียบงัน ก่อนจะลงเอยที่ตำรวจพบ ศพของลูกชาย

ชินเอ หัวใจสลาย เริ่มต้นที่สูญเสียสามี ต่อมาสูญเสียเงินเก็บ และ สุดท้าย สูญเสียลูกชาย



... ชินเอ ในภาวะไร้หลักพึ่งพิงหันไปร่วมกลุ่มเข้าโบสถ์ ตามคำชักชวนของเจ้าของร้านขายยา หวังว่าการสวดอ้อนวอนพระเจ้า จะช่วยให้เธอพ้นทุกข์ ทั้งที่แรกเริ่มเธอไม่เคยมีความเชื่อหรือศรัทธา

หลังจากเข้าร่วมงานชุมนุมอธิษฐานของคนที่ทุกข์ใจ ภาพภายนอกดูเหมือนว่า ความทุกข์ของชินเอจะหายเพียงข้ามคืน เธอยิ้มหัวเราะได้เปลี่ยนไปในวันเดียว

ชินเอ รู้สึกดีและคิดว่า การเข้าหาพระเจ้านั้นมันดีจริงๆ




... หลังจากนั้น เธอตัดสินใจไปมอบดอกไม้ให้ฆาตกรที่ลักพาตัวและสังหารลูกชายเพื่อให้อภัยแก่เขา แต่เมื่อไปพบหน้าที่ห้องขัง แล้วได้ยินจากปากชายหนุ่มที่ทำให้ลูกของเธอต้องตายใช้คำว่า “พระเจ้าของเรา”

และ บอกกับเธอว่า เขาเองก็มีศรัทธาต่อพระเจ้า เช่นเดียวกับเธอ เขาน้อมรับพระเจ้าเข้ามาในหัวใจ พระเจ้าเข้าใจคนบาปเช่นเขาและพระองค์ช่วยชำระบาปให้ทำให้จิตใจสงบสุข

ณ.จุดนั้นเอง ที่ ชินเอเหมือนถูกตบหน้าอย่างจัง

เพราะ เธอไม่เข้าใจว่า ทำไมพระเจ้าองค์เดียวกันจึงให้อภัยแก่ฆาตกรก่อนเธอ ทำไมพระเจ้าถึงมอบความสงบสุขให้ฆาตกรที่ฆ่าลูกชาย แต่มอบความทุกข์ทรมานเจียนตายให้เธอแบกรับ

แล้วณ.จุดนั้น ชินเอ ก็รู้ตัวว่า หัวใจที่แตกสลาย ไม่ได้สมานแผลไปพร้อมกับ ก้าวย่างที่เธอเดิน



รอยยิ้มหัวเราะไม่กี่วันที่ผ่านมา มันเป็นแค่พฤติกรรมที่ทำตามคนอื่นเสมือนว่าจะช่วยให้รู้สึกดี แต่ข้างในจิตใจลึกๆยังเป็นแผลที่ไม่ได้รับการเยียวยา

จากวันนั้น ชินเอ ก็ออกอาการสติแตก เธอเลิกเข้าร่วมชุมนุม เธอขโมยซีดีเพลงในร้านค้า เข้าไปป่วนงานพิธีที่คนกำลังสวดอ้อนวอน พลีกายให้ชายเจ้าของร้านขายยาโดยไม่ได้รัก ก่อนจะตัดสินใจฆ่าตัวตาย




... เส้นทางของ ชินเอ เป็น เส้นทางที่ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับ ชาร์ลี ไฟน์แมน จาก Reign over me ผู้สูญเสียภรรยากับลูกสาวสามคนที่โดยสารอยู่บนเครื่องบิน ลำที่พุ่งเข้าชนตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์

หลังเหตุการณ์ 9/11 ชาร์ลีทิ้งอาชีพหมอฟันแล้วกลายเป็นคนใช้ชีวิตแบบไร้แก่นสาร หากไม่หมกตัวเล่นเกมส์อยู่ในห้อง ก็จะขี่สกู๊ตเตอร์เที่ยวไปเรื่อยตอนกลางวัน เข้าผับเล่นดนตรีตอนกลางคืน เขาไม่สุงสิงกับใคร ใส่หูฟังตลอดเวลาเหมือนต้องการปิดตัวเองจากโลกภายนอก



อลัน อดีตรูมเมทสมัยเรียนมหาวิทยาลัยมาพบชาร์ลีโดยบังเอิญ จึงเข้าไปชวนคุย ชาร์ลีพูดจาเสมือนไม่เคยมีครอบครัวมาก่อน และ โกรธถึงขนาดสาดน้ำใส่หน้าตอนที่อลันชวนเขาคุยถึงการเริ่มต้นชีวิตใหม่

อลันเห็นภาพชีวิตของเพื่อนเก่าเปลี่ยนไปเช่นนี้ จึงพยายามหาทางช่วยเหลือด้วยการพาไปปรึกษาจิตแพทย์

จิตแพทย์สงสัยว่าอาการของชาร์ลี คืออาการหนึ่งของโรค PTSD(Post traumatic stress disorder) หรือ ความเจ็บป่วยทางจิตใจที่เกิดกับผู้ประสบภัยพิบัติหรือเหตุการณ์รุนแรง เช่น แผ่นดินไหว ไฟไหม้ ถูกข่มขืน ฯลฯ

แล้วจากนั้นมีอาการ แยกตัว มึนชา ตัดตัวเองออกจากสังคม , ตื่นตระหนกตกใจง่าย , หลีกเลี่ยงการเผชิญกับสิ่งแวดล้อมที่ทำให้ระลึกถึงเหตุการณ์ และ เห็นภาพเดิมซ้ำๆที่ทำให้เจ็บปวดในความคิดหรือในความฝัน

จิตแพทย์และอลันพยายามที่จะช่วยชาร์ลีให้กลับมามีชีวิตเป็นปกติ แต่ การดึงชาร์ลีออกจากสมดุลที่เขาสร้างไว้ ให้หันกลับมาเผชิญหน้ากับความเจ็บปวด ทำให้ ชาร์ลี เสียศูนย์จนคิดฆ่าตัวตาย



... คำถามที่เกิดขึ้นคือ ถ้าการที่คนเรารับมือกับความจริงอันเจ็บปวดจนเสียสติและลงท้ายด้วยการคิดสั้น เช่น ชาร์ลี และ ชินเอ

สู้ปล่อยให้ พวกเขาหลีกหนีความจริง หลีกหนีความเจ็บปวด ต่อไปเรื่อยๆจะดีกว่าหรือไม่ ?


คำตอบคงต้องอ้างอิงตามหลักจิตวิทยาของ กระบวนการทำใจ ซึ่ง ความเศร้าโศกหลังการสูญเสีย ไม่ว่าจะเสียลูก เสียพ่อแม่ เสียคนรัก ฯลฯ ไม่ว่าจะตายหรือลาจาก มีศัพท์เฉพาะเรียกว่า Grief

Grief นั้นถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา บางคนอาจร้องไห้ บางคนอาจเศร้าซึม ยกเว้นอาการนั้นจะรุนแรงหรือกินเวลายาวนานเกินเหตุที่เรียกว่า Pathological grief ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปสู่ภาวะโรคซึมเศร้าจนคิดฆ่าตัวตายเช่นสองคนนี้

การจะก้าวผ่านช่วงเวลาของ Grief ไปได้ด้วยดี ก็ต้องอาศัยกระบวนการที่เรียกว่า Mourning task ซึ่งมีสี่ขั้นตอน คือ

1.ยอมรับว่าการสูญเสียเกิดขึ้นจริง
2.เปิดใจยอมรับความเจ็บปวด
3.ปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบชีวิตที่ไม่มีคนรักที่จากไป
4.เริ่มต้นชีวิตใหม่ สามารถสร้างความสัมพันธ์ใหม่กับคนอื่นๆ



... จิตใจก็เหมือนร่างกาย ถ้าเจ็บปวดเพราะถูกหนามตำก็จำเป็นต้องดึงหนามออก ทำแผล จึงจะหายขาด นั่นคือ จำเป็นต้องผ่านขั้นตอน 1 และ 2 ของ Mourning task

การหลีกเลี่ยงความจริงหรือทำเป็นไม่รู้สึก มีแต่จะทำให้ช่วงเวลา Grief กัดกินใจยาวนานขึ้น เช่น วิธีการของชาร์ลี ก็เสมือนหลีกหนีที่จะมองดูหนามที่ทิ่มตำ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับบาดแผล ใช้ชีวิตเหมือนอยู่ได้ ทั้งที่จริงคือการย่ำอยู่กับที่ และบาดแผลที่มีก็คอยกระตุ้นให้เจ็บปวดข้างในอยู่เป็นระยะๆ

ส่วน วิธีการของ ชินเอ ที่หัวเราะร่าเริงในช่วงแรกที่เข้าร่วมกลุ่มชุมนุม ก็เหมือนกับ กินยาแก้ปวด ที่ทุเลาอาการปวดเป็นพักๆแค่ชั่วคราว แต่แผลนั้นยังคงอักเสบอยู่ข้างใน หนามยังไม่ถูกดึงออก หากปล่อยทิ้งไว้ ก็จะอักเสบอยู่ข้างใต้กลายเป็นฝีหนองที่มองไม่เห็น

ดังนั้น ถึงภาพภายนอกของชินเอ กับ ชาร์ลีจะมีภาวะ‘ต่อมน้ำตาไม่ยอมสั่งการ’ แต่ ความเป็นจริงคือ จิตวิญญาณข้างในของทั้งสองคนแหลกเหลวย่อยยับยิ่งกว่าใครๆในโลก

มีความเจ็บปวดที่รอการช่วยเหลือเยียวยา แต่คนรอบข้างไม่สามารถเข้าถึงความเจ็บปวดของพวกเขา เพราะ เข้าใจว่า คนที่เสียใจควรมีน้ำตา หรือ คนที่สูญเสียน่าจะจับมือกันเดินผ่านช่วงเวลาของความทุกข์ใจ



เหมือนเช่น พ่อตาแม่ยายของชาร์ลีที่สูญเสียลูกสาวกับหลานๆ ก็พยายามชวนชาร์ลีพูดคุยรำลึกความหลัง ชวนมาพบปะมีกิจกรรมร่วมกัน แต่ชาร์ลี กลับเดินหนี หมางเมินเฉยชา ใช้ชีวิตราวกับไม่เคยมีความทรงจำของภรรยาและลูกสาวหลงเหลือ

จนพ่อตาแม่ยายของชาร์ลี ที่ยังพกรูปลูกสาวติดตัวตลอดเวลา ตะโกนด่าชาร์ลีในศาลว่าเป็นเหมือน สัตว์ป่าที่ไร้หัวใจ

แต่เมื่อชาร์ลีเปิดเผยความรู้สึกตัวเองว่า

“ผมไม่จำเป็นต้องพูดถึงเธอหรือดูรูปถ่าย เพราะทุกครั้งเวลาเดินบนถนนผมก็มองเห็นหน้าใครๆเป็นใบหน้าเธอ ผมมองเห็นภาพเธอชัดเสียยิ่งกว่าทุกรูปถ่ายที่พวกคุณพกเสียด้วยซ้ำ

ผมรู้ว่าพวกคุณเจ็บปวดแต่พวกคุณสองคนยังมีกันและกัน ส่วนผมคือคนที่ต้องทนเห็นภาพเธอและลูกๆอยู่คนเดียวในทุกที่ที่เดินไป แม้กระทั่งเวลาเห็นหมาพันธุ์อเมริกันเชพเพิร์ด ผมก็ยังมองเห็นมันเป็นหมาพุดเดิ้ลของเรา”


ผู้คนรอบข้างถึงเข้าใจ ว่า ภาพภายนอกไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกถึงความรู้สึกที่อยู่ภายในเสมอไป กระบวนการทำใจของแต่ละคนมีรูปแบบไม่เหมือนกัน และ นาฬิกาของการทำใจแต่ละคนใช้เวลาไม่เท่ากัน




... ชื่อหนัง Secret Sunshine นอกจากจะเป็นความหมายของชื่อเมือง เมียร์ยอง ที่ชินเอหวังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฉากเปิดเรื่อง แต่เมื่อหนังจบก็จะพบว่า Secret Sunshine ยังหมายความถึง แสงสว่างที่ส่องทางให้ชีวิตเธอ โดยทอแสงผ่านตัว จองชาน ชายที่อยู่ข้างๆ คอยช่วยเหลือ คอยให้กำลังใจ ชายที่ยอมเปลี่ยนตัวเองเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อพาเธอก้าวผ่านความทุกข์

แต่ ตัวชินเอ จะไม่มีวันมองเห็นแสงสว่างที่ซ่อนเร้นนี้ได้เลย หากเธอยังจมจ่อมอยู่ในความเศร้าโศกและไม่ยอมรับความจริง



เช่นเดียวกับ ชาร์ลี ที่หากยังขังตัวเองไว้ในโลกของสกู๊ตเตอร์และห้องสี่เหลี่ยม สิ่งเดียวที่จะอยู่เหนือชีวิตเขาหรือ Reign over me ตามชื่อหนัง ก็คือ ความทุกข์และความเจ็บปวด ที่รังแต่จะทำร้ายเขาจวบจนวันสุดท้ายของชีวิต

ขอเพียงไม่หลีกหนี และ ยอมรับความจริง ถึงหัวใจจะเจ็บปวดร้าวรานเพียงใด แต่ เชื่อเถอะว่า หัวใจของเราทุกคนถูกสร้างมาให้แข็งแรงมากพอที่จะเก็บความรักของคนที่จากไป และ ยืนหยัดมีชีวิตอยู่ต่อได้ในที่สุด




หมายเหตุ: ลีชินเอ รับบทโดย จอนโดยอน หญิงสาวจากแดนกิมจิคนแรกที่ไปคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงจากเมืองคานส์ ส่วนตัวแล้วชอบเธอมาตั้งแต่หนังเรื่องก่อนคือ You are my sunshine การแสดงของเธอเป็นตัวอย่างที่ดีของการตีบทให้แตกกระจายละเอียดยิบย่อย และช่างบังเอิญที่ทั้งสองเรื่อง ล้วนมี ‘แสงสว่าง(sunshine)’ ในชื่อหนัง ซึ่งมันก็ช่างส่องประกายเจิดจ้ารอบตัวเธอเสียเหลือเกิน

ส่วน Reign over me เป็นหนัง Post 9/11ที่นำเสนอเรื่องราวของมิตรภาพในอารมณ์อบอุ่นนุ่มนวล เป็นหนังที่ อดัม แซนด์เลอร์ พิสูจน์ความสามารถให้เห็นอีกครั้งว่าเขาสามารถแสดงจริงจังได้น่าประทับใจไม่แพ้ตอนเล่น Punch-Drunk Love




Link บทความที่เกี่ยวข้อง

Winged creatures , การเดินทางของหัวใจที่บาดเจ็บและร้าวราน (1)



"ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขอฝากหนังสือเล่ม 4 ที่ชวนเพื่อนผู้อ่าน ออกเดินทางสำรวจจิตใจมนุษย์ และ ทำความรู้จัก'คน' ให้มากขึ้น ผ่านโลกภาพยนตร์ ในหนังสือชื่อ มากกว่าที่ตาเห็น - LifeScan วางขายในร้านสือทั่วไป พฤษภาคมนี้จ้า






พื้นที่แนะนำผลงาน{ตัวเอง}

(คลิกที่รูปหนังสือ เพื่อ อ่าน หรือ แสดงความเห็น ต่อหนังสือแต่ละเล่มได้เลยครับ)

ปีนี้ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” ขอฝากผลงานเล่มล่าสุดที่เพิ่งคลอดจ้า อันว่าด้วย 'ความรักและกำลังใจ' ผ่านแรงบันดาลใจจากชีวิตและภาพยนตร์ ในหนังสือที่ชื่อว่า

เมื่อฉันลืมตา แล้วโลกเปลี่ยนไป



และ ผลงานสองเล่มก่อน จากสองปีที่ผ่านมา



"หนังสือรัก" หนังสือที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม กับ องศาที่ 361 หนังสือที่อาสาช่วยคุณค้นหามุมเล็กๆในตัวเองที่จะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้น โดยอาศัย'หนัง'เป็นสะพานพาไปเข้าใจตัวเอง


มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป แต่ เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 และ เมื่อฉันลืมตา แล้วโลกเปลี่ยนไป สั่งได้จากในเว็บหรือหน้าร้านซีเอ็ดครับผม






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก

พูดคุยกับเจ้าของ Blog คลิก

เปิดหารายชื่อหนังเก่าๆนอกเหนือจากในหน้าสารบัญ คลิก




ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
Create Date :21 พฤษภาคม 2552 Last Update :21 พฤษภาคม 2552 0:56:32 น. Counter : Pageviews. Comments :9