bloggang.com mainmenu search



ชายหนุ่มกับโหลกุญแจ



...เขาจำชื่อลูกค้าไม่เคยได้ แต่ถ้าบอกชนิดอาหารที่ลูกค้ากินเขาจะนึกหน้าออกในทันที มีลูกค้ามากหน้าหลายตา แวะเวียนเข้ามาในร้านของเขาแล้วก็ลืมกุญแจทิ้งไว้ เขาจะเก็บกุญแจใส่ขวดโหล รอเจ้าของมารับคืน กุญแจแต่ละดอกก็จะมีเรื่องเล่าของตัวมันเอง

เช่น บางดอก ที่เป็นเรื่องของ ชายหนุ่มที่มีความรักกับหญิงสาวแต่แล้วหญิงสาวก็เลือกบางสิ่งที่สำคัญมากกว่ากุญแจ ฯลฯ ชายหนุ่มเจ้าของกุญแจเลือกที่จะไม่ออกเดินทางตามหาหญิงสาว เพราะ แม่ของเขาเคยบอกว่าเวลาหลงทางให้อยู่กับที่ เดี๋ยวแม่จะตามหาเอง ครั้นเขาอยู่เฉยๆแม่ที่เดินทางตามหากลับกลายเป็นคนที่หลงทาง ดังนั้น อาจเป็นไปได้ว่า ถ้าเขาตามหาเธอโดยที่เธอมิได้รออยู่กับที่เสียด้วยซ้ำ โอกาสที่เขาจะหลงทางจนหาทางกลับไม่ได้ยิ่งมีโอกาสมากเหลือเกิน

ลูกค้าคนหนึ่งถามว่า เมื่อเป็นเช่นนั้น เมื่อไม่มีใครมารับกุญแจกลับไปทำไมถึงไม่ทิ้งกุญแจเหล่านั้นไปเสีย คำตอบคือ เขาไม่สามารถตัดสินใจแทนใครได้ว่า ประตูบานไหนสมควรถูกปิดตลอดกาล วันหนึ่ง เจ้าของกุญแจอาจต้องการกลับมาไขประตูที่ปิดตาย

กระนั้นก็ดี บางคนถือกุญแจไว้ในมือก็เลือกที่จะไม่เปิดประตูบานนั้นตลอดกาล กุญแจจึงอาจไม่สำคัญเท่าความรู้สึกที่อยู่ภายในว่ายังต้องการจะก้าวผ่านประตูบานนั้นอีกต่อไปหรือเปล่า


หญิงสาวกับพายบลูเบอรี่



หลังจากแน่ใจว่าชายคนรักไปกับหญิงคนอื่น เธอก็จมอยู่ในร้านอาหารเล็กๆกับเจ้าของร้านและอาหารที่เหลือประจำวัน เจ้าของร้านบอกเธอว่า อาหารในร้านที่ขายดีที่สุดคือ ชีสเค้ก ส่วนขนมที่เหลือทิ้งท้ายเสมอคือ พายบลูเบอรี่

หญิงสาวจึงถามว่า What’s wrong with bluberry pie ? ชายเจ้าของร้านตอบว่า ไม่มีอะไรที่ผิดปกติหรอก มันก็แค่ลูกค้าเลือกขนมอันอื่นก็แค่นั้น ไม่ใช่ว่า พายบลูเบอรี่จะไม่ดี หรือ ไม่อร่อย

บางคนมักสงสัยว่าตัวเองไม่ดีตรงไหน ทำไมเราถึงไม่มีใครมองแต่เพื่อนในกลุ่มกลับถูกจีบอยู่เสมอ เราไม่ดีหรืออย่างไร ทั้งที่ความเป็นจริง การไม่ถูกเลือกไมได้แปลว่า เรานั้นไม่ดี

และในบางครั้ง เมื่อเราถูกทิ้ง เราก็คิดว่า ตัวเองเป็น บลูเบอรี่พาย ที่ไม่ดีจึงไม่มีใครต้องการ แท้จริงนั้น คนที่ไม่ต้องการเราต่างหากที่มีปัญหาไม่ชอบกินของดีอย่าง บลูเบอรี่พาย




King of the white chips & His wife





ชายหนุ่มที่เคยคิดตั้งใจเลิกเหล้าแต่กลับไม่สามารถตัดขาดจากมันไปได้ เขาสะสมชิปสีขาวไว้มากมายอันเป็นเครื่องหมายของการหลุดไปดื่มทุกๆครั้ง

การดื่มเหล้าคือพฤติกรรม แต่ สิ่งที่ฝังเขาไว้กับชิปสีขาว คือความรู้สึกที่ยังจมกับความสัมพันธ์ ของตัวเองกับภรรยาที่ขอแยกทาง

เขาพบกับเธอตั้งแต่เป็นหญิงสาวแรกรุ่น พอคบไปนานปีหญิงสาวกลับวาดฝันว่าวันหนึ่งจะไปจากเขา แต่เมื่อถึงที่สุดแล้วก็พบว่าตัวเองไปแล้วก็ต้องกลับมา หญิงสาวไม่ได้เกลียดชายหนุ่ม เธอแค่อยากจะให้เขา ปล่อยเธอไป เธอเองไม่รู้ตัวว่า สายใยที่เขารั้งเธอไว้ ก็มีเส้นด้ายอีกสายหนึ่งที่เธอพาดคล้องไว้ที่เขาเช่นกัน


ลูกสาวนักพนัน



เรื่องขำๆที่เธอเล่าให้คนร่วมทางฟังคือ เรื่องที่พ่อสอนเธอนับเลขต่อจาก 10 แทนที่จะเป็น 11 กลับเป็น jack และสอนเธอให้รู้จักกับการเล่นพนัน

พ่อสอนให้เธอเรียนรู้ที่จะไม่ไว้ใจใคร ปัญหาคือความสัมพันธ์ของเธอกับพ่อก็ใช่ว่าจะไปด้วยดี ครั้นรู้ว่าพ่อป่วยเธอก็คิดว่าเป็นแผนการที่จะหลอกเธอ ปัญหาของความไว้วางใจ ทำให้เธอไม่สามารถผูกสัมพันธ์กับใครได้มั่นคง

ความไม่ไว้ใจใครทำให้เธอไม่เหลือใครที่จะร่วมเดินทาง จนบางครั้งต้องโกหกอีกฝ่าย เพียงเพื่อหวังให้เส้นทางที่ต้องเดินนั้นไม่เปลี่ยวเหงาเกินไป






... ประสบการณ์ผมกับหนังของเฮียหว่องคือ ทุกเรื่องที่ได้ดู ผมมีอันต้องหลับในรอบแรกเสมอ ขนาดเรื่องที่ชอบที่สุดอย่าง In the mood of love หรือ ครึ่งหลัง ของ Chunking express ที่กว่าผมจะได้ดูจบก็ทิ้งช่วงปิดๆเปิดๆไปหลายรอบ

หนังเฮียหว่องเหมือนหนังชุนจิ อิวาอิ อยู่สองประการ หนึ่งคือ หนังของทั้งคู่เน้นการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกโดยไม่ต้องพร่ำพรรณนามากความ และ ทั้งคู่เป็นผู้กำกับที่ตาถึงเสมอในการเลือกนักแสดงนำหญิง

อ่านผ่านๆตาก่อนดูหนังเห็นว่าหนังเรื่องนี้เป็นกึ่งๆงานรีเมค Chunking express ของตัวเฮียหว่องเอง พอได้ดูหนังแล้วตัวเองไม่รู้สึกเช่นนั้น มีเพียงแค่โครงเรื่องเล็กน้อยที่หยิบยืมมา แต่ เนื้อหาและทิศทางของหนังค่อนข้างแตกต่างกัน

ปรัชญาความรักกับไดอะล็อคที่คมคาย + การถ่ายภาพในสไตล์หนังหว่อง(คาไว) + หลายชีวิตที่มาซ้อนทับกันบนความเปล่าเปลี่ยวและรวดร้าว ยังคงเป็น สูตรเดิมๆของหนังหว่องคาไวที่แฟนๆคาดหวังได้ในหนังเรื่องนี้

ถึงผลลัพธ์ที่ออกมาจะไม่ถึงระดับมาสเตอร์พีซอย่าง In the Mood of love หรือ Chungking express ก็จริง แต่ความชอบของผมกลับนำหน้าความดีงามของหนัง ออกจะชอบมากกว่างานล่าสุดอย่าง 2046 เสียด้วยซ้ำ ช่วงเวลานาตาลี พอร์ทแมน ทำเอาน้ำตาซึม เช่นเดียวกับประเด็นของ บลูเบอรี่ พาย ก็กินใจมิใช่น้อย

ป.ล. การเลือกนักแสดงหญิงในหนังเรื่องนี้คือส่วนที่ผิดหวังมากที่สุด เพราะที่ผ่านมา เฮียหว่องมักจะนัยน์ตาเทพ เลือกดาราหญิงครั้งใดเจิดจรัสในจอไม่ว่าจะเป็น เฟย์ หว่อง หรือ จางม่านอวี้ แต่ นอร่า โจนส์ ดูธรรมดาไปหน่อย และ ราเชล ไวส์ ก็ดูไม่ค่อยเข้าพวกกับภาพรวมของหนังเท่าไหร่นัก





แจ้งข่าวครับ :

1. เชิญชวนเพื่อนผู้อ่านทั้งใน Blog และ ใน Book มาพบปะพูดคุยและบังคับแจกลายเซ็น ที่ บูธซีเอ็ด ใน งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน เที่ยงครึ่งถึงบ่ายสองโมง จ้า (อย่าปล่อยข้าพเจ้านั่งหง่าวเพียงลำพังเลย)


2. "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ได้รับคำชวนจาก www.yarisme.com มาเป็นพันธมิตรร่วมกัน แต่ ผมเองคนเดียวคงไม่สามารถจะมีเวลาให้มากพอ ผมจึงเกิดไอเดียชวนเพื่อนร่วม blog อีกห้าท่านที่เป็นคนรักหนังและสนุกกับการเขียนเหมือนๆกัน อันได้แก่ คุณบลูยอชต์ + Nanoguy + renton_renton + OncE UPoN'-'a MaN + เทพบุตรตบะแตก มาเปิด blog ร่วมกันที่ใช้ชื่อว่า

//vreview.yarisme.com


Vreview = We review = การรวมบทความรีวิวเกี่ยวกับหนังของแต่ละคน อาทิเช่น อัพเดตรีวิวสั้นๆถึงหนังโรงที่ได้ดูพร้อมคะแนนเพื่อช่วยตัดสินใจ พร้อม link ไปอ่านฉบับเต็มของแต่ละคน หรือ รีวิวเต็มๆตามสไตล์ใครสไตล์มัน

ซึ่งนั่นจะทำให้เพื่อนผู้อ่าน มีตัวช่วยในการเลือกดูหนังมากขึ้น เพราะด้วยตัวเองแล้วไม่มีเวลาสามารถพอที่จะเขียนถึงหนังได้ครบทุกเรื่อง

ด้วยความหลากหลายของแต่ละคน คาดว่า ถ้าเว็บไม่บอกลาเราไปเสียก่อน น่าจะเป็น blog ที่รวบรวมรีวิวหนังไว้ได้มากพอสมควร จึงเชิญชวนแวะมาเยี่ยมเยือนพร้อมติดตามเรื่องรางวัลได้ที่ blog นั้นคู่กันไปครับ



องศาที่ 361 คลอดอย่างเป็นทางการแล้ววววว




อ่านเบื้องหลัง ที่มาที่ไป ไขเบื้องหลังของหนังสือ คลิกได้ที่นี่เลยครับ

เบื้องหลัง 'องศาที่ 361' - พ็อกเก็ตบุ้คเล่มที่ 2 ของ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ”

อ่านจบเมื่อใด ขอเชิญชวนมาพูดคุยแสดงความเห็นเกี่ยวกับหนังสือ คลิกที่ลิงค์ข้างล่างนี้เลยครับ

อ่านแล้วมาคุยกัน ... "องศาที่ 361


ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม



เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม





ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิกhtmlentities(' >')> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง




ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
Create Date :21 มีนาคม 2551 Last Update :21 มีนาคม 2551 22:49:56 น. Counter : Pageviews. Comments :17