...มันดูจะไม่แฟร์เท่าไหร่ ถ้าจะเอา
สายลับจับบ้านเล็ก มาเปรียบ เทียบกับ
เพื่อนสนิท ในแง่ความซึ้งประทับใจ เพราะถึงผู้กำกับจะเป็นคนเดียวกัน แต่ โทนของหนังและธีมของหนังก็ออกจะไกลเป็นคนละเรื่อง
เพื่อนสนิท มาในแนวหนัง
โรแมนติกดราม่าหยอดคอมิดี้ แต่
สายลับฯ มาใน แนวหนัง
ตลกเป็นหลักโดยหยอดความโรแมนติก ผมคิดว่า ถ้าจะเทียบความประทับใจจากหนังเรื่องนี้โดยผกก.คนเดียวกัน น่าจะนำไปเทียบกับ
หนูหิ่น หรือนำไปเทียบกับหนังแนว
เดอะกิ๊ก ดูจะใกล้เคียงกว่า
เมื่อตัดสินใจมาในสายของ หนังตลก สายลับฯก็เตรียมตัวรับคำวิจารณ์ที่ออกมาสองด้านได้เลย เพราะ เท่าที่ผ่านมา หนังตลกเป็นหนังที่ยากจะกวาดคนดูให้ตกหลุมรักมากๆแบบเป็นเอกฉันท์ เพราะ เหมือนว่า เราแต่ละคนถูกเซ็ตต่อมตลกในตัวไม่เหมือนกัน คนที่ชอบ หนังตลกอย่างมิสเตอร์บีน หนังตลกอย่าง ซิมป์สัน กับ หนังตลกอย่างบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม อาจไม่ใช่คนกลุ่มเดียวกัน และ ก็ไม่ได้หมายความว่า ใครมีรสนิยมดีกว่าใคร
ดังนั้นถ้าไม่ชอบมุกตลกแบบบอดี้การ์ด แล้วเข้าไปดู บอดี้การ์ด บอกหนังไม่ตลก หรือ ไม่ชอบมุกแบบมิสเตอร์บีนแล้วเข้าไปดูหนังโทษว่าหนังไม่ฮา ก็ดูจะไม่ยุติธรรมกับคนทำหนังเท่าไรนัก
ความเป็นหนังตลกของสายลับฯ มีจุดอ่อนที่มาพร้อมกับความแตกต่างจากหนังเรื่องก่อนๆของก๊วนแฟนฉัน นั่นคือ มุกตลกในหนังสายลับฯ ผสม
มุกตลกแบบน่ารักๆสไตล์เพื่อนสนิท/ซีซั่นเช้นจ์ บวก
มุกตลกเว่อร์ๆเหมือนอ่านการ์ตูนเป็นช่องๆ(ตัวอย่างตอนทวงหนี้ของสามสหาย) ที่เพิ่มเข้ามามากขึ้นกว่าเรื่องก่อนๆ คือการอัด
มุกตลกแบบตลกคาเฟ่ตึ้งโป๊ะเข้ามามาก ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานอกจากจะเวิร์คบ้างไม่เวิร์คบ้างสลับกันไป แต่การผสมมุกแบบกวาดตลาดคนดูก็ทำให้ ใครไม่ชอบมุกแบบคาเฟ่คำหยาบก็อาจจะไม่ฮาแม้ว่ามุกนั้นจะขำก็ตาม หรือ คนไม่ชอบความเว่อร์ๆก็ออกจะรำคาญความเป็นการ์ตูนในหลายตอน
(จะดีกว่านี้ หากหนังลด คำหยาบของแจ๊คลงไปบ้าง หนังก็ไม่น่าจะขำน้อยลง เพราะ หนังตลกไทยๆเราชักจะเป็นโหมดอัตโนมัติสิ้นคิดเสียแล้วที่จะต้องอัดคำหยาบเกินปกติเพื่อให้เอาเสียงหัวเราะ )อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่าถ้าให้เปรียบ ความซาบซึ้ง จะนำไปเทียบกับเพื่อนสนิท ก็คงไม่แฟร์ แต่ในแง่คุณภาพของตัวหนัง ต้องยอมรับว่า สายลับฯ เป็นงานที่เดินถอยหลังจาก เพื่อนสนิท ไม่ใช่แค่ว่า เพื่อนสนิท คือผลงานที่สร้างมาตรฐานไว้สูง เพียงอย่างเดียว แต่เพราะตัว สายลับฯ เองก็ยังขาดความลงตัวอยู่ในหลายๆจุด
เพื่อนสนิท มีความสม่ำเสมอของหนังแทบตลอดทั้งเรื่อง จะไม่มีช่วงไหนที่เรารู้สึกหนัง หลุด ไปจากแกนกลาง จะมีก็แต่ จี๊ดมากจี๊ดน้อยเป็นช่วงๆไป แต่
สายลับฯ มีหลายช่วงทีเดียวที่หนัง หลุดไปจากค่าเฉลี่ยความสนุกของตัวเอง หลายตอนที่หนังฝืดๆฝืนๆพยายามดันไปกับมุกที่สามารถเกลาให้ขำกว่านี้ได้แต่ก็รีบยิงซะก่อน โดยเฉพาะช่วงต้น ที่ดูหนังใช้เวลาอยู่นานกว่าจะเข้าที่เข้าทาง
และก็มีหลายตอนที่หนังรีบหาบทสรุปแบบรวบรัดตัดความง่ายๆจนเกินไป และ นั่นก็ทำให้ คาถาเสกความจี๊ดหรือความโรแมนติก ของผู้กำกับเอส คมกฤษ ไม่ขลังเหมือนที่เคย เพราะ หนังไม่ปูทางให้คนดูอินไปกับความรักที่ควบคู่มากับความฮา ขนาด สูตรใส่เพลงจี๊ดๆเข้าไปในหนัง แต่ "คนของเธอ" ในหนังเรื่องนี้ไม่สามารถดึงให้คนดูอินไปกับเพลงเท่าไหร่เลย
...สำหรับผม สิ่งที่สายลับฯเหนือกว่า เพื่อนสนิท มีเพียงอย่างเดียวคือ
การแสดงของซันนี่ ที่พลิ้วและเนียนไปกับหนังเหลือเกิน
แรกเริ่มผมอยากดูหนังเรื่องนี้ เพราะ ตัวผู้กำกับที่สร้างหนังโรแมนติกจี๊ดๆอย่างเพื่อนสนิท กับอีกปัจจัยคือ สองจอมขโมยซีนที่มาชนกันเป็นครั้งแรกระหว่าง แจ๊ค กับ โอปอล์ แต่ ปรากฏว่า คนที่ครองซีนตัวจริงคือ พระเอกซันนี่ ที่เล่นบทตลกได้เป็นธรรมชาติมากๆ เล่นได้ดีกว่าที่คิด เป็น ก้าวที่กระโดดดูไปได้ไกลกว่าตอนเล่นเพื่อนสนิทเยอะ
แถมในบางตอนเขากลับเป็นตัวขโมยซีนจากแจ๊คและโอปอล์เสียเองด้วยซ้ำ ในทางตรงข้ามผมออกจะผิดหวังกับแจ๊คและโอปอล์ในบางตอนเพราะผมคิดว่า ผู้กำกับปล่อยให้ทั้งคู่เล่นเยอะจนล้นจนเวอร์เกินไปในหลายๆฉาก
ที่ไม่ควรพลาดที่จะพูดถึงเด็ดขาดในสายลับฯ ย่อมต้องเป็น น้องน้ำปั่น ซึ่งวีดวิ๊วคนดูหนุ่มๆได้เป็นอย่างดี หนูพีคเล่นหนังเรื่องนี้สอบผ่านสบายๆแต่ยังพิสูจน์อะไรไม่ได้มากหากน้องหนูคิดจะเดินต่อบนถนนสายนี้ เพราะสายลับฯ ไม่ต้องการอะไรจากเธอมากไปกว่า ความน่ารักและเซ็กซี่แบบซอฟร์คอร์ ซึ่งเธอก็มอบให้อย่างน่าพึงพอใจ
... ที่ผมสนใจในตัวน้ำปั่นมากเป็นพิเศษ ไม่ใช่ ทรวดทรงองค์เอว แต่ น้ำปั่น ทำให้หนังมีมุมมองดีๆมีสาระแง่คิดดีๆสอดแทรกในความฮา กับการที่บทหนังเขียนให้เธอไม่ได้เป็นสาวใสซื่อบริสุทธิ์แต่ นางเอกในหนังเรื่องนี้เป็น บ้านเล็ก or กิ๊ก or เมียเก็บ or เมียน้อย
น้ำปั่น เป็น พริตตี้สาวเซ็กซี่ ที่วาดฝันอยากจะมี บ้านหลังโตเป็นของตัวเอง
ความฝันที่อยากจะมีบ้าน เมื่อเห็นลู่ทางก็ลืมทุกอย่างไม่เว้นแม้ผิดชอบชั่วดี
...ฉากน้ำปั่น บรรยาย เหล่าบ้านเล็กที่ต้องเอนหลังเวลาเข้าม่านรูดแล้วสะดุดกึกเหมือนนึกถึงภาพตัวเอง สะท้อนให้เห็นถึง ศีลธรรม หรือ Superego ในตัวเองที่ไม่ได้ขาดหายไป แต่มันถูกกดไว้เพราะความอยากที่เข้ามาครอบงำ
และมันก็ทำให้เราได้เห็น ชีวิตของคนเป็นบ้านน้อย เมียเก็บ คนเป็นชู้ เป็นตัวทำลายครอบครัวคนอื่น พฤติกรรมผิดๆเหล่านี้ อาจไม่มีเหตุผลที่จะมาหักล้างให้เป็นสิ่งถูกต้อง แต่ มันก็มิได้หมายความว่า พวกเขาเป็นคนเลว คนชั่วช้า หรือ คนไร้จิตสำนึกเสมอไป
ในสภาพ
สังคมที่ให้เชิดชูความสำคัญกับคนที่ประสบความสำเร็จ ความร่ำรวย
การเลี้ยงดูที่หล่อหลอมให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ มุ่งเน้นแต่ให้มองไปที่ เป้าหมาย มุ่งเน้นให้เด็กมีความฝัน
แต่ไม่เคยให้ความสำคัญถึง
วิธีการ ไม่สนใจคำที่ไม่มีตัวตนอย่าง
ความถูกผิดหรือจริยธรรมหากทัศนคติของคนในสังคม หรือ ครอบครัว ยังคงเป็นเช่นนี้ แน่นอนว่า เราก็จะพบ น้ำปั่น ต่อๆไป แถมอาจจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวเรา กับ คนดีๆที่เส้นศีลธรรมพร่าเลือน เพราะ สายตามุ่งไปแต่ที่เป้าหมาย คนที่พร้อมทำทุกอย่าง ยอมแลกทุกอย่าง เพื่อไปให้ถึงความฝัน
ผมชอบตอนจบที่หนังทำให้เห็นวิธีการปรับตัวของนางเอกที่จูนตัวเองกับความฝันเข้าด้วยกัน โดยไม่สูญเสียความฝันและไม่ต้องทิ้งความเป็นคนดีๆ เหมือน พระเอกที่รักในการเป็นนักประดิษฐ์ ถึงจะรู้ว่าเอาดีทางนี้ไม่ได้ จะทำเป็นอาชีพก็เลิกหวัง แต่เขาก็ไม่ได้โยนความฝันทิ้งไป เขาแค่ปรับมันเป็นแค่ งานอดิเรกยามว่างของตัวเอง
เราทุกคนมีความฝัน แม้บางครั้งมันก็จะไกลและต้องใช้เวลา จนชวนให้อยาก มักง่าย ไปให้ถึงไวๆโดยแกล้งทำผิดไม่รู้ไม่เห็น เพื่อไปให้ถึงฝัน แต่แน่ใจแล้วหรือว่า เมื่อถึงจุดนั้นโดยแลกกับความดีงามในตัวเรา แล้ว เราจะมีความสุขจริงๆ เพราะ หากต่อมศีลธรรมของเรายังคงหลงเหลืออยู่ เมื่อถึงเวลา เราก็จะพบว่า
นี่ไม่ใช่ความสุขที่ฉันต้องการ สู้ว่า ระหว่างนั้น เราหันมาปรับความฝันให้เข้ากับความเป็นจริงที่มีอยู่ดีกว่าไหม
สรุป ... ส่วนตัวแล้วชอบเพราะดูไปก็เฮฮาไปเป็นพักๆ มองในแง่ หนังตลกไทยๆ ถือว่าน่าพอใจไม่เสียดายตังค์ เดินออกจากโรงได้พร้อมรอยยิ้ม เป็น หนังตลกที่ขำบ้างแป้กบ้างแต่ส่วนที่แป้กก็ยังพอขำๆพร้อมเพื่อนร่วมโรงผ่านไปได้ไม่ถึงกับฝืดจนนั่งหาว การผสมมุกตลกแบบสไตล์หนังแฟนฉันกับมุกตลกแบบตลกคาเฟ่ตึ๊งโป๊ะ อาจทำให้คนที่ไม่ชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ขำเวลาที่มุกสไตล์นั้นออกมา
ถ้าจะเอากลับไปเทียบกับมาตรฐานของงานเก่าๆของก๊วนแฟนฉัน สายลับก็จัดได้ว่าเป็นงานมือตกในแง่คุณภาพแต่ยังสอบผ่านในด้านความบันเทิง
(ผมชอบมากกว่าหนังคอมิดี้ในก๊วนเดียวกันอย่าง หมากเตะรีเทิร์นส ) หรือ ถ้าจะมองในแง่ของความเป็นหนังตลกฮาๆปาจิงโกะ สายลับฯ เป็นหนังคอมิดี้ของไทยที่น่าพอใจท่ามกลางหนังตลกมากมายที่บ้างก็ไม่เน้นโครงเรื่อง บ้างก็เน้นแต่คำหยาบคายและขายตัวละครเพศที่สาม
เพียงแต่แอบหวังว่า จากคาถาของผู้กำกับที่เคยเสกในเพื่อนสนิท ให้กลายเป็นหนังจี๊ดชั้นดี จะสร้างหนังที่มีความลึกหรือน่าสนใจมากขึ้น ไม่ใช่ เฮฮาปาจิงโกะ ต่อๆไปแบบย่ำอยู่กับที่
Link บทความเกี่ยวข้องที่เคยเขียนถึงเพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนรางSeason changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม
เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.phpชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิกhtmlentities(' >')> หน้าสารบัญ ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ -->
หน้าแรก รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง
ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา
คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน
คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
ชอบเพื่อนสนิทมาก พี่เขียนเก่งจัง ชอบ
โดย: สหมิว (Be a good guy ) 10 กันยายน 2550 0:44:59 น.
โดย: joblovenuk 10 กันยายน 2550 1:02:29 น.
โดย: เข็มขัดสั้น 10 กันยายน 2550 9:34:48 น.
ตอนนี้ตัดสินใจได้แล้วค่ะ
คิดว่ารอดูตอนออกเป็นวีซีดีดีกว่า
โดย: Almondblist 10 กันยายน 2550 10:12:27 น.
ขอบคุณนะค่ะที่เอาข้อมลูมาแบ่งปันกันค่ะ
โดย: เพราะฉันห่างไกล 10 กันยายน 2550 10:49:19 น.
โดย: BloodyMonday 10 กันยายน 2550 11:02:37 น.
จะไปดูเพราะชื่อ ผกก เหมือนกัน
โดย: หัวใจสีชมพู 10 กันยายน 2550 11:25:37 น.
โดย: บลูยอชท์ 10 กันยายน 2550 12:09:37 น.
อย่างเรื่องความรักระหว่างตัวพระนางนี่
บทสนทนาของ 2 คนนี้ บางช่วงยังเเปร่งๆอยู่
มุขที่ยิงออกมาบางครั้งก็ถี่เกินไป
ฯลฯ
เเต่ยังไงจุดเหล่านี้ ผมก็มองข้ามมันไปได้สบายครับ
เมื่อเทียบกับความสนุก และได้คลายเครียด
เเถมอาหารตา ที่ได้รับเเล้วสดชื่นสุดๆ จากน้องพีคอีก ^^
สำหรับผม สายลับฯ จึงเป็นหนังคอมดี้เลิฟใสๆ ที่สอบผ่านในเรื่องความบันเทิง
ซึ่งมันก็เป็นจุดหลักที่ทำให้ผมไปดูเรื่องนี้ครับ
โดย: เมื่อฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี IP: 124.120.87.236 10 กันยายน 2550 13:15:29 น.
แอบบ ตรู่ อีกแย้วววว
แว๊บ ๆ
โดย: หนี่หนีหนี้ (แพรวขวัญ ) 10 กันยายน 2550 15:08:17 น.
ขอชื่นชมซันนี่แบบสุดๆที่เล่นได้มึน แต่เท่แบบธรรมชาติจริงๆ
เขาเล่นให้เราเชื่อว่าเขาเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ
ส่วนน้ำปั่นน่ารักดีค่ะ แต่ในแง่เรื่องที่ว่าอยากมีบ้านแล้วไปเป็นเมียน้อย(โดยที่ยังมีสำนึกที่ดีอยู่นั้น) มันดูยังไม่ลงตัวยังไงไม่รู้ ปมมันน้อยเกินไปนิดนะ
โดย: ต.เต่าหลังตุง IP: 203.131.212.75 10 กันยายน 2550 18:06:48 น.
เพราะตัวอย่างมันก็แสดงออกมาว่า "นี่คือโรแมนติก-คอมเมดี้" แต่หนังทำออกมาไม่ได้แบบที่วางไว้
อย่าเอาไปเทียบกับ Bridge to Terabithia นะครับ เพราะแม้ตัวอย่างจะโปรโมตเป็นแฟนตาซี แล้วตัวหนังจริงออกมาเป็นดราม่า แต่เราจะเห็นความตั้งใจว่าเทราบิเตีย ต้องการวางตัวเป็นดราม่าจริงๆ
ในขณะที่ "สายลับฯ" ผมมองว่ามันตั้งใจจะเป็น "โรแมนติก-คอมเมดี้" ไม่ใช่ "คอมเมดี้-โรแมนติก" แต่มันดันออกมาอย่างหลังมากกว่าซะอย่างงั้น
แถมการเล่าเรื่องยังออกมาคล้ายๆกับละครซิทคอมของ Exact ที่จะเล่าสองเหตุการณ์ไปพร้อมๆกัน เหตุการณ์นึงซีเรียส อีกเหตุการณ์นึงเป็นคอมเมดี้แบบไม่สนใจโลก ซึ่งผมก็ไม่ได้ชอบอะไรขนาดนั้น
แล้วทีนี้คอมเมดี้ของสายลับฯ มันดันหลุดโลกออกไปซะจนไม่คิดถึงหลักเหตุผลและตรรกะอะไรอีกแล้ว เหมือนกับเขียนบทมาเพื่อให้เพื่อนมีหนังเล่น อย่างที่ผมว่าไปในกระทู้นู้น (ไม่รู้พี่ได้แวบไปอ่านมั้ย)
โดย: nanoguy 10 กันยายน 2550 22:42:05 น.
เพราะไม่ได้ตั้งความหวังอะไรไว้มากอยู่แล้ว
หนังทำให้ผมขำอยู่ตลอด พอเห็นฉากแรกก็พอจะรู้ว่าโทนหนังจะเป็นแนวไหน ก็ไม่คิดมากแล้ว เลยได้ความตลกไปเต็มๆ
ผมคงไม่เอาเรื่องนี้ไปเทียบ "เพื่อนสนิท" เพราะมันคนละชั้นกันครับ
ปล. แต่ก็เห็นด้วยครับ เรื่องน้องแจ๊คที่พูดหยาบมากไปหน่อย(เยอะเลยแหละ) และสำหรับโอปอล์คงยากที่จะไปห้ามเค้าอ่ะครับ(เหมือนกันทุกเรื่อง จนไม่ตลกแล้วครับ)
โดย: DoNg IP: 124.121.172.220 11 กันยายน 2550 0:18:13 น.
ที่บอกว่าโอเค คือหนังก็ตลกอ่ะ ไม่ได้คิดว่าหนังเรื่องนี้จะต้องให้คุณค่ากับสังคมมากมายไปกว่าความบันเทิง มุขตลกก็ขำกลิ้งดี(ในบางฉาก) ชอบเพลงธีมที่มาจากหนังฝรั่งหลายๆเรื่อง คือถ้าคุณจะดูแค่ให้มันตลก มันก็โอเคนะคะ ไม่ได้เลวร้ายขนาดดูไม่ได้ โถ ไปดูหน้าใสๆปากแดงๆ(ไม่ได้เมคอัพ)ของน้องซันนี่ก็คุ้มแล้ว ส่วนที่หนุ่มๆจะปลื้มน้องน้ำปั่นนั้น ก็สมควรปลื้มอยู่หรอก ว่าแต่หน้าตาน้องเธอดูแล้วคิดถึงเมย์ อีกทั้งเสียง แบ๊วๆของเธอก็น่าเอ็นดูพอควร
เพราะได้ดูหนังตัวอย่างเรื่อง เพื่อนฯของพจน์ อานนท์แล้ว เลยขอพูดพาดพิงสักหน่อย มีใครอยากไปดูเรื่องนี้บ้างมั้ย? โอ้โฮ ทำได้ยังไง แค่ฉากอาบน้ำบนดาดฟ้า(มั๊ง) เรียกเสียงกริ๊ดลั่นโรง แถมมีกระแสเสียงลอยมาจากหมู่สาวๆ(แท้)อีกว่า รับไม่ได้ๆๆ แหะๆ คราวนี้เพลงอยากรู้แต่ไม่อยากถาม ของแครอลี่ บลาๆ คงกระหึ่มอีกครั้งมั๊ง ?
โดย: lสาวเหนือแต๊ๆเจ๊า IP: 58.136.69.43 11 กันยายน 2550 23:45:07 น.
ถ้าไม่ตั้งความหวังไว้มากก็จะรู้สึกดี
ชอบช่วงท้ายของหนัง โดยเฉพาะฉากสุดท้าย มันได้อารมณ์จริงๆ ^_^
โดย: บะหมี่หยกหกก้อน IP: 202.44.136.50 14 กันยายน 2550 16:38:49 น.
ถ้าคุณเป็นผู้ชาย.....ดู "น้องพีค" ทั้งเรื่องนี้.."คุ้ม"...
ถ้าคุณเป็นผู้หญิง...ดู "ซันนี่" ใส่บอกเซอร์ฉากเดียว.."คุ้มสุดคุ้ม"...
สำหรับดิฉันเหรอคะ....."คุ้มสุดคุ้ม"......ค่ะ
โดย: น้องขนม IP: 125.26.80.128 14 กันยายน 2550 17:39:22 น.
มันก็สนุกนะแต่เหมือนมีอะไรหายไป
พี่หมอเขียนได้ตรงใจเหมือนเคยค่ะ
รู้แล้วว่าอะไรที่หายไป
โดย: หูนิ่ม IP: 117.47.157.52 22 กันยายน 2550 13:19:49 น.
+ เพราะส่วนคอมมิดี้มันดูการ์ตูนเว่อร์ๆ ตัวละครแทบทุกตัวก็โอเวอร์แอ๊คติ้งกันไปหมด (ยกเว้นซันนี่ ที่ดูเป็นธรรมชาติ เพราะตัวอื่นนั้นหลุดโลกกันไปหมดแล้วนั่นเอง เลยดูกลายเป็นคนปกติที่สุดไป), ในส่วนดราม่านั้น ค่อนข้างจะบางเบาไปนิด และในส่วนของโรแมนติค น่าจะถือว่าสอบผ่านไปได้
+ หลายมุกใช้ได้ หลายมุกแป้ก ... แต่ขัดหูกับพวกคำหยาบเจงๆ ด้วยครับ มันไม่จำเป็นเลยที่จะต้องพูดกันเยอะขนาดนั้น เอาแต่พองามก็พอ ... ส่วนมุกคาเฟ่ตึ่งโป๊ะ ผมก็ไม่ค่อยตลกด้วยเท่าไหร่อ่า
+ น้องพีค น่ารักเหมือนพริตตี้งานมอเตอร์โชว์เจงๆ เล้ยยย ... ส่วนพวก 'ผู้ชายของบ้านใหญ่' ก็ขำๆ ที่เอาทั้ง สุเมธ & เดอะปั๋งมาเล่นกันทั้ง 2 คนเลย
+ สำหรับผมถือว่า 'เสมอตัว' อ่ะครับ ... แต่ถ้าไม่ได้รู้ก่อนว่าหนังจะหน้าตาออกมาเป็นยังไง เข้าไปดูตั้งแต่ช่วงเข้าฉายใหม่ๆ ก็คงจะรู้สึก 'ติดลบ' อ่า
โดย: บลูยอชท์ 27 กันยายน 2550 15:02:09 น.
สำหรับเรื่องนี้อยากดูเหมือนกันค่ะ แต่เวลาไม่เอื้อเท่าไร คงต้องรอแผ่นแล้วล่ะ
โดย: butbbj 9 ตุลาคม 2550 16:49:52 น.
หนังเรื่องนี้ให้ข้อคิดสำคัญข้อหนึ่งว่า ผู้หญิงสวย ต่อให้ผ่านผู้ชายมาหลายมือ ก็ยังสามารถหาผู้ชายดีดีมาเป็นคู่ชีวิตได้อยู่ดี
ถ้าเป็นคุณล่ะ จะรับน้ำปั่น แต่งงานไหมล่ะ ทั้งๆที่รู้ว่าเค้าเคยนอนเสี่ยมาหลายคน ซึ่งของแบบนี้จริงๆมันก็เริ่มต้นปรับตัวกันใหม่ได้ ซึ่งผมก็เคยมีแฟนเป็นเด็กดริ๊งนะ รู้ทั้งรู้ว่าเคยนอนกับผู้ชายมาเยอะ แต่ตอนเราคบกัน เราก็มีความสุขกันดี
แต่ยังไงก็ตาม คนที่เราอยากให้เป็นแม่ของลูกในอนาคต เราก็อยากจะหาให้ดีที่สุด แต่บางทีความถูกชะตา มันก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ปล.นอกประเด็นไปเยอะขออภัย
โดย: นักวิจารณ์สมัครเล่น IP: 125.24.181.222 3 พฤศจิกายน 2550 14:19:06 น.
i love you
โดย: ภูริณิชา สรรสุนทร IP: 124.120.188.128 4 มกราคม 2551 16:49:17 น.
สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม
หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง
ได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน
โดย: ป๋องแป๋ง IP: 124.120.0.136 24 มีนาคม 2551 16:42:50 น.