bloggang.com mainmenu search
Ip man ภาคแรก (DVD)



... แม้หลายคนจะจับตามอง Ip man เวอร์ชั่น หว่องคาไว ที่ได้ เหลียงเฉาเหว่ย มารับบทนำ แต่ ถึงตอนนั้น เราอาจได้ดู ปรมาจารย์ยิปมันเวอร์ชั่นคนเหงา กับ ฉากแอคชั่นแบบสโลว์โมชั่น อย่ากระนั้นเลยไม่ต้องรอนาน บัดนี้ Ip man โดย ดอนนี่ เยน หนังกังฟูดีๆมีเป็นแผ่นมาให้เราทำความรู้จักกับ ปรมาจารย์มวยคนนี้แล้ว

หนังสร้างจากชีวิตจริงของ ยิปมัน ครูมวยหยงชุน วิชามวยที่คิดค้นจากผู้หญิง ทำให้อาจารย์บางคนดูถูกวิชามวยนี้ และส่งผลให้ ยิปมัน ไม่ได้อยู่อย่างสงบในคฤหาสถ์หลังโต เพราะ หากไม่ใช่มีคนมาขอท้าประลองเพื่อพิสูจน์ความสามารถ ก็จะมีคนมาขอสมัครเป็นศิษย์อยู่เป็นระยะ ยิปมันมีความภูมิใจแต่ก็ไม่โอ้อวด เขาพึงพอใจที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบกับภรรยาและลูก

เหตุการณ์แปรเปลี่ยน เมื่อเกิดสงครามแล้วญี่ปุ่นบุกมาเหยียบย่ำคนจีนถึงถิ่น ประชาชนล้วนยากจน ไม่เว้นแม้แต่ ยิปมันและครอบครัวที่ไม่ได้มั่งมีเหมือนแต่ก่อน หลายคนเมื่ออดอยากจริงๆก็เดินหน้าเข้าไปในค่ายทหารญี่ปุ่น ขึ้นต่อสู้บนเวทีกับนายทหารญี่ปุ่น เพื่อพิสูจน์ความเป็นเลิศในวิชาต่อสู้ แลกกับข้าวสาร หลายคนโดนดูถูก พ่ายแพ้ และ หลายรายตายคาเวที

ยิปมัน กลายเป็น ความหวังหนึ่งเดียวของผู้คนรอบข้างที่จะกู้ศักดิ์ศรีของคนจีนกลับคืนมา แต่ ณ.จุดนั้น ยิปมันก็ต้องคิดหนักระหว่าง เดินหน้าสู้เพื่อชาติแต่เสี่ยงกับการทำให้ลูกเมียเดือดร้อน หรือ ปกป้องครอบครัวให้ปลอดภัยไว้ก่อน ในภาวะที่เอาแน่เอานอนไม่ได้

Ip man ทำได้ดีทั้งในส่วนของความเป็นหนังกังฟูดูสนุกดูมันส์ และ ปลุกกระแสรักชาติเสียเข้มข้น จนทำให้ผมเผลออินแบบลืมตัวนึกว่าเป็นคนจีนไปชั่วขณะ เพราะรู้สึกพลุ่งพล่านตามอารมณ์กู้ชาติของตัวละคร




Ip Man 2


... อยากดูเสียงจีน แต่มีแค่โรง house ไม่สะดวกเดินทางไป เลยตั้งใจว่าจะรอแผ่นเหมือนภาคแรก แต่หลายเสียงเชียร์ว่าพากย์ไทยก็ไม่ทำให้หนังด้อยลง เชียร์มากจนตัดสินใจไปดู และก็จริงอย่างที่ว่า พากย์ไทย ฮา ได้ใจ เป็นความฮาสมเหตุสมผล ไม่ฮาเลอะเทอะเหมือนหนังจีนหลายเรื่องที่พากย์ฮาจนหนังเสีย เรื่องนี้ดูพากย์ไทยจึงไม่น่าจะทำให้อรรถรสหนังด้อยลงแต่อย่างใด

เส้นเรื่องกับโครงเรื่องแทบไม่ต่างจากภาคแรก คือ มีศัตรูที่ถูกวาดภาพให้เลวร้ายสุดขั้ว เป็น คนจากชาติที่สาม ที่เหยียดหยามคนจีน โดยมีคนจีนหนึ่งคนเป็นตัวประสาน แต่เมื่อถูกกดขี่มากๆทนไม่ไหว ฮึดสู้ก็แพ้พ่าย สุดท้าย ‘จานยิป ต้องสู้เพื่อกู้ชาติจีนกลับมา ภาคสองจะต่างออกไปก็แค่ เปลี่ยนตัวร้ายชาติที่สามจาก ญี่ปุ่น เป็น ฝรั่ง

ถ้าเทียบกัน ผมชอบบทกับการปูอารมณ์ของภาคแรกมากกว่า ที่ทำให้เห็นตั้งแต่ ยุครุ่งเรืองไปสู่ยุคตกต่ำของ 'จานยิป และ คนรอบข้าง แสดงการกดขี่ข่มเหงคนจีนจนสามารถบิวต์อารมณ์คนดูขึ้นได้สูงในฉากประลองบนเวทีแลกข้าวสาร และ การต่อสู้ครั้งสุดท้าย ซึ่ง การไต่ระดับอารมณ์ของภาคสอง เพื่อสู้ในฉากสุดท้าย ยังไม่ทำให้รู้สึก ฮึกเหิมพลุ่งพล่านเท่า

ภาคสองมีฉากแอคชั่นประเคนมาให้มากกว่า แต่ยังไม่มีฉากไหนมีพลังหรือติดตาเท่าภาคแรกอย่าง ฉากประลองในบ้าน กับ ฉากสู้กับญี่ปุ่นแบบสิบต่อหนึ่ง (พอจะมี ฉากประลองกับอาจารย์มวยสำนักอื่นๆ และ จานหง ที่เกือบๆได้อารมณ์เท่า)

แต่ถึงจะชอบน้อยกว่า ก็ไม่ได้แปลว่า Ip man 2 เป็นหนังที่น่าผิดหวัง เพราะ สำหรับคอหนังแอคชั่นหรือ martial art นี่ยังคงเป็นหนังที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ฉากแอคชั่นยังคงมันส์สะใจเหมือนนั่งเล่นเกมส์แอคชั่นที่เตะต่อย ผัวะๆๆ พลั่กๆๆ แล้วมือเรากดยิกๆๆ ปล่อยท่าไม้ตายตอนท้าย

และเป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่า หนังแอคชั่นเน้นโชว์ศิลปะการต่อสู้ ก็สามารถใส่บทดีๆเข้าไปได้ นอกจาก หนังจะมีคุณภาพ ยังทำให้ นักแสดงมีโอกาสฉายความสามารถที่ทำให้คนดูชื่นชมและผูกพัน ไม่ใช่แค่ ต่อยเป็นฉากๆสลับกับการทวงของ แล้วให้ตัวละครหน้าตาอารมณ์เดียว ซึ่งมีแต่จะพา ดาวดัง(อย่าง จา) ไปสู่ ดาวโรย ในเวลาอันรวดเร็ว

ป.ล. ลูกชายตัวเล็กของ ‘จานหง แก้มตุ่ยน่าหยิกชะมัด




ขอฝาก หนังสือเล่ม 5 ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" จ้า
(ตามร้านหนังสือทั่วไทย หลังสงกรานต์นี้)










อ่านจบแล้ว ชวนมาคุยกันที่นี่ครับ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=18

และ

ความเห็นของ เพื่อนผู้อ่านที่อ่านจบแล้ว และสละเวลาเขียนถึง

//blogs.lumamagic.com/?p=1957



หนังสือ 4 เล่มก่อนหน้าที่ว่าด้วย 'ภาพยนตร์ - จิตวิทยา - พัฒนาตัวเอง(self - development)' ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"








สำหรับเพื่อนๆที่เล่น FaceBook หรือ Twitter ณ.บัดนาว "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขยายสาขาเรียบร้อยแล้วจ้า




Create Date :18 พฤษภาคม 2553 Last Update :18 พฤษภาคม 2553 15:12:39 น. Counter : Pageviews. Comments :8