Group Blog
All Blog
|
ทนายอ้วนพาเที่ยวเชียงใหม่ - ดี๋ใจยิ่งแล้ว .. แขกแก้วมาเยือนอีกเตื้อ - พระตำหนักดาราภิรมย์ แม่ริม สถานที่ท่องเที่ยว : พระตำหนักดาราภิรมย์ แม่ริม, เชียงใหม่ Thailand พิกัด GPS : 18° 54' 46.52" N 98° 56' 31.80" E สถานที่ท่องเที่ยวในเชียงใหม่ที่ไปมาในทริปเชียงใหม่ในปีนี้แห่งต่อไปขอบอกว่า .... ชอบ ... ไม่ใช่แค่ชอบครับ ... นอกจากจะเป็นสถานที่ที่น่าไปเยือน สวยงาม สงบ ร่มรื่น แล้วยังเป็นสถานที่ที่เจ้าของบล็อกเคารพที่สุดครับ .... พระตำหนักดาราภิรมย์ แม่ริม เชียงใหม่ ![]() (โปรดกด “เล่น” เพื่ออรรถรสในการอ่านบล็อก : การแสดงพื้นเมืองของภาคเหนือเป็นพระราชกรณียกิจที่สำคัญประการหนึ่งของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี โปรดให้แต่งละครซอ (เลียนแบบโอเปร่า) เรื่อง “น้อยไชยา – แว่นแก้ว” และนี่คือเพลงน้อยใจยาแบบราชสำนักก่อนที่ศิลปินแห่งชาติ จรัล มโนเพชร จะมาปรับปรุงเป็นเพลงน้อยใจยาแบบที่ได้ยินกันจนคุ้นหู) พระตำหนักดาราภิรมย์ ตั้งอยู่ในบริเวณค่ายดารารัศมี หลังที่ว่าการอำเภอ อำเภอแม่ริม แต่การเดินทางจะต้องไปใช้ซอยวัดแม่ริม ผ่านโรงเรียนวัดแม่ริมทางขวามือแล้วจะเห็นประตูรั้วทางเข้าพระตำหนักทางซ้ายมือครับ เจ้าของบล็อกเคยได้อ่านพระราชประวัติพระราชชายาเจ้าดารารัศมี รวมถึงประวัติของเจ้านายฝ่ายหลายท่านตั้งแต่เล็กๆ จินตนาการไม่ออกว่า “เจ้านายฝ่ายเหนือ” จะเป็นยังไงเพราะความเป็นเด็ก ความรู้รอบตัวยังน้อย จนมาได้อ่าน “สีแผ่นดิน” ซึ่ง ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้บรรยายไว้ว่า – เป็นตำหนักตึกขนาดใหญ่ ข้าราชบริพารล้วนไว้ผมยาวเกล้ามวย นุ่งซิ่น สูบบุหรี่ขี้โย ใช้ชีวิตแบบเชียงใหม่ ก็ยิ่งติดใจวัฒธรรมของภาคเหนือ ยิ่งเมื่อได้รู้ว่าพระตำหนักของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี สร้างด้วยเงินประทานของเจ้าอินทวิชยนนท์ยิ่งพอจะจินตนาการภาพของเจ้านายฝ่ายเหนือได้ว่าร่ำรวยมากๆ ในสมัยรัชกาลที่ 5 นอกจากพระบรมวงศานุวงศ์แล้วก็คงไม่มีใครที่สามารถสร้างตึกขนาดใหญ่ได้ “เจ้านายฝ่ายเหนือ” ที่สร้างตึกขนาดใหญ่ในพระราชฐานฝ่ายในได้คงต้องมีฐานะและอำนาจที่ “มั่งคั่ง” มาก พระราชายาเจ้าดารารัศมีได้ถวายตัวรับราชการฝ่ายในเมื่อพระชนมายุ 14 ปี เมื่อครั้งที่ตามเสด็จเจ้าอินทวิชยนนท์ลงมากรุงเทพฯเพื่อร่วมงานพระราชพิธีลงสรงและสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประทับอยู่ที่กรุงเทพฯตลอดมาเป็นเวลา 22 ปี ถึงได้มีโอกาสเสด็จกลับมาเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2451 ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2453 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต และในปี พ.ศ. 2457 ได้กราบบังคมทูลลาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จนิวัติเชียงใหม่เป็นการถาวร เมื่อเสด็จนิวัตเชียงใหม่แรกๆประทับอยู่ที่คุ้มเจดีย์กิ่ว ในบั้นปลายพระชนมชีพทรงประทับอยู่ที่พระตำหนักดาราภิรมย์มาตลอด ก่อนจะย้ายไปประทับที่คุ้มรินแก้ว (เคยมีผู้รู้บอกว่าเคยอยู่ตรงข้ามเซ็นทรัลกาดสวนแก้วแต่ปัจจุบันรื้อลงแล้ว) เพราะประชวร พระราชายาเจ้าดารารัศมีสิ้นพระชนม์ในวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2476 สิริพระชันษา 60 ปี ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() พระราชายาเจ้าดารารัศมีโปรดให้ก่อสร้างพระตำหนักขึ้นในที่ส่วนพระองค์ขึ้นประมาณช่วงปี พ.ศ. 2470 -2472 ![]() ![]() ![]() รูปแบบตัวอาคารได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมตะวันตก พระตำหนักดาราภิรมย์เป็นอาคารสองชั้นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ครึ่งตึกครึ่งไม้ ใต้ถุนโล่งแต่มีการต่อเติมใช้ประโยชน์ภายหลัง ชั้นบนเป็นไม้รวมทั้งโครงสร้างของหลังคา รูปแบบอาคารเป็นบ้านแบบฝรั่งประยุกต์ตามความนิยมในสมัยนั้น มีลักษณะคล้ายบ้านพักอาศัยในกรุงเทพฯ ที่ก่อสร้างในเวลาใกล้เคียงกัน ผังพื้นชั้นบนประกอบด้วยห้องขนาดใหญ่หลายห้องแต่ละห้องสูงโปร่ง มีลวดลายฉลุบริเวณคอสองเพื่อระบายอากาศ มีชุ้มทางเข้าหน้าอาคารสำหรับเทียบจอดรถยนต์และมีระเบียงร้านไม้ด้านหลัง หลังคารูปทรงผสมแบบจั่ว Gable และแบบมะลิลา Hipped roof หลังคาเป็นดาดฟ้า คอนกรีตเสริมเหล็ก สำหรับชมบริเวณสวนโดยรอบ ซึ่งได้รับ อิทธิพลจากต่างประเทศในยุคนั้น เนื่องจากเป็นอาคารขนาดใหญ่ และมีความต้องการใช้สอยพื้นที่ใต้หลังคา จึงมีการยกระดับหลังคาบางส่วนเพื่อเป็นช่องแสงและยื่นชายคา มุงกระเบื้องซีเมนต์ใยหินสองเล็กสีแดง ![]() ![]() พระราชายาเจ้าดารารัศมี ทรงทำพินัยกรรมประทานที่ดินและพระตำหนักดาราภิรมย์ ให้เป็นมรดกแก่เจ้าแก้วมงคล ณ เชียงใหม่ ราชบุตรในเจ้าราชวงศ์ (เลาแก้ว ณ เชียงใหม่) เจ้าราชวงศ์แห่งนครเชียงใหม่ ซึ่งเป็นมรดก 1 ใน 4 ส่วนของพระราชายาเจ้าดารารัศมีต่อมาในปี พ.ศ. 2492 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ขอซื้อที่ดินและพระตำหนักดาราภิรมย์ เพื่อเตรียมการขยายการศึกษาระดับอุดมศึกษาสู่ภูมิภาค แต่ต่อมาก็ไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด กระทั่งได้บูรณะและจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์อันเป็นมรดกล้ำค่าของแผ่นดินแทน ปัจจุบันพระตำหนักอยู่ในความดูแลของศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้พัฒนาพื้นที่ ![]() ![]() จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเห็นว่า พระตำหนักดาราภิรมย์อยู่ในสภาพทรุดโทรม แต่สภาพอาคารยังมีความมั่นคงแข็งแรง มีรูปแบบอาคารที่ชัดเจน อาจใช้เป็นกรณีศึกษา อาคารที่ได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมตะวันตกในประเทศไทย การบูรณะใช้แนวทางอนุรักษ์และเตรียมการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2541 ด้วยการรักษาส่วนประกอบของอาคารและรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้อันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาฯ เพื่อจัดตั้งแสดงและตกแต่งห้องต่างๆให้อยู่ในสภาพใกล้เคียงกับอดีตมากที่สุด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากกลุ่มเจ้านายฝ่ายเหนือ พ่อค้า และประชาชนชาวเชียงใหม่ ที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันบริจาคและเสาหาสิ่งของเครื่องใช้เพื่อจัดตั้งแสดงในพิพิธภัณฑ์ ปัจจุบันพระตำหนักดาราภิรมย์อยู่ในการดูแลของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้ปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ จัดแสดงพระราชประวัติและพระราชวงศ์ฝ่ายเหนือ เครื่องใช้ส่วนพระองค์ ของที่ทรงได้รับพระราชทาน รวมทั้งพระราชหัตถเลขาระหว่างพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระราชายาเจ้าดารารัศมี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรักระหว่างพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ฝ่ายเหนือ ที่ได้ทรงดำรงพระอิสริยยศพระราชชายา อันเป็นพระฐานันดรศักดิ์พระมเหสีเทวีพระองค์เดียวในประวัติศาสตร์ไทย ![]() ![]() ![]() ภายในพระตำหนักดาราภิรมย์มีพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้อันเกี่ยวเนื่องกับพระราชายาเจ้าดารารัศมี โดยให้มีสภาพ ใกล้เคียงกับอดีตมากที่สุด อาทิเช่น ห้องพักผ่อนพระอิริยาบถ จัดแสดงจานชาม เครื่องเสวย ของใช้ส่วนพระองค์ และเครื่องดนตรี เป็นต้น 1.โถงทางเดิน จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระปฐมวงศ์ พระประวัติพระตำหนักที่ประทับในพระราชายาเจ้าดารารัศมีพระตำหนัก ดาราภิรมย์ 2.ห้องรับแขก จัดแสดงของถวายอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชายาเจ้าดารารัศมี และเครื่องเรือนร่วมสมัย 3.ห้องบรรทม จัดแสดงของถวายอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชายาเจ้าดารารัศมี และเครื่องเรือนร่วมสมัย 4.ห้องพักผ่อนพระอิริยาบถ จัดแสดงจานชาม เครื่องเสวย ของใช้ส่วนพระองค์ และเครื่องดนตรี 5.ห้องจัดแสดงพระกรณียกิจ ด้านการศาสนา ด้านการเกษตร และด้านศิลปะศาสตร์ 6.ห้องจัดแสดงชุดเครื่องทรง ผ้าทอที่พระราชชายาฯทรงออกแบบลวดลายและส่งเสริมการทอ ชุดการแสดงที่พระราชชายาฯได้ทรง ฟื้นฟูและทรงดัดแปลงศิลปะภาคกลางให้เข้ากับศิลปะภาคเหนือ 7.ห้องสรง ชั้นล่างจัดแสดงเครื่องมือเกษตร ที่ทรงใช้ในการทดลองการเกษตรแผนใหม่ ในสวนเจ้าสบาย นอกจากนั้นยังมีเครื่องทอผ้า ซึ่งใช้ทอผ้า สำหรับพระราชายาเจ้าดารารัศมีโดยเฉพาะ ![]() ![]() ![]() พระราชายาเจ้าดารารัศมี ทรงสนพระทัยในการเกษตรและทรงหวังจะช่วยการกสิกรรมของภาคเหนือ ทรงสร้างสวนทดลองการเกษตรชื่อ "สวนเจ้าสบาย" ทรงเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของราชสมาคมกุหลาบแห่งประเทศอังกฤษ ทรงริเริ่มและสนับสนุนการปลูกกุหลาบทั่วนครเชียงใหม่ และหัวเมืองใกล้เคียง ภายหลังทรงพบกุหลาบขนาดใหญ่พันธุ์หนึ่ง ซึ่งมีสีชมพูระเรื่อ ส่งกลิ่นหอมตลอดเวลา ทำให้ทรงหวนระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่เสด็จสวรรคตไปแล้ว จึงได้ประทานนามกุหลาบพันธ์นั้นตามพระนามในพระบรมราชสวามีว่า "จุฬาลงกรณ์" พระราชายาเจ้าดารารัศมี โปรดให้สร้างแปลงเพาะพันธุ์บน พระตำหนักม่อนจ๊อกป๊อก บนดอยสุเทพ ซึ่งมีอากาศเย็นทั้งปี เมื่อเสด็จมาประทับ ณ พระตำหนักดาราภิรมย์ ในช่วงปลายพระชนม์ชีพ ก็โปรดให้ปลูกกุหลาบจุฬาลงกรณ์โดยรอบพระตำหนัก และทรงตัดดอกถวายสักการะพระบรมราชสวามี ซึ่งต่อมาภายหลังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำกุหลาบจุฬาลงกรณ์มาเพาะพันธุ์และโปรดให้ปลูกประดับโดยรอบพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ![]() ![]() ![]() ปัจจุบันในบริเวณ สวนเจ้าสบาย มีการปลูกกุหลาบสีสวยแปลกตาและมีกลิ่นหอมอยู่หลายพันธุ์ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() รายละเอียดเพิ่มเติม เปิดให้เข้าชมวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแ ต่เวลา 09.00-17.00 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก/นักศึกษาในเครื่องแบบ 10 บาท พระสงฆ์และนักเรียนในเครื่องแบบเข้าชมฟรี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 5329 9175 อีกช่องทางหนึ่งในการติดตาม “ทนายอ้วนพาเที่ยว” นะครับ Chubby Lawyer Tour - ทนายอ้วนพาเที่ยว https://www.facebook.com/ChubbyLawyerTour/ Chubby Lawyer Tour ………………….. เที่ยวไป............. ตามใจฉัน ![]() ![]() ![]()
ผมไม่รู้ประวัติเกี่ยวกับพระตำหนักนี้มาก่อนเลย
เข้ามาอ่านแล้วได้ความรู้ดีมากเลยครับ ผมเองก็ทำตามคำแนะนำ คือ เปิดยูทูปที่คุณทนายแปะมาเพื่อให้เพลงเล่นไป เสียงเครื่องดนตรีบรรเลงตอนอินโทร พากลิ่นอายทางเหนือลอยมาเลย อีกอย่างนึงคือผมก็เพิ่งรู้อีกเหมือนกันว่า คุณจรัล มโนเพชร นำเพลงโบราณนี้มาเรียบเรียงปรับปรุงใหม่ ให้เป็นแบบไทยสากล ที่เราได้ยินกันคุ้นหูมาโดยตลอด ![]() โดย: สีเมจิก (สมาชิกหมายเลข 5106714
![]() ที่นี่เคยไปเมื่อนานมาแล้วค่ะ
แต่เพลงเวอร์ชั่นนี้เพิ่งจะเคยได้ยินจากบล็อกนี้นี่แหละ บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog ทนายอ้วน Travel Blog ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() ![]() พระตำหนักดาราภิรมย์สวยมาก มีเสน่ห์น่าชมมากค่ะคุณบอล
ได้ชมสถาปัตยกรรมสวยๆ ดอกไม้สวยๆและได้ความรู้อีกด้วยนะคะ ขอบคุณคุณบอลที่แวะชมเมนูบ้านต๋าด้วยค่ะ ฉู่ฉี่ไข่เจียวก็น่าทำค่ะคุณบอล ขอบคุณไอเดียค่ะ ![]() โดย: Sweet_pills
![]() ![]() เที่ยววัง แบบชาววังแบบนี้ ต้องใส่ชุดไทยไม๊ แต่เห็นทริปนี้ น้ำปิงก็จัดไปนี่คะ
โดย: Sai Eeuu
![]() ![]() ปล เข้ามาอ่านอีกรอบ กดคริป เพื่ออรรถรสในการอ่านไปด้วย เพราะจัง เคยฟังแต่แบบคุณจรัล มโนเพชรร้อง
โดย: Sai Eeuu
![]() ![]() โดย: Find the Best Financial Advisors Near You IP: 139.99.104.93 วันที่: 11 เมษายน 2562 เวลา:2:14:36 น.
พี่ยังไม่เคยไปที่นี่เลยค่ะ เคยไปแต่พระตำหนักภูพิงค์
กุหลาบสวย ๆ ทั้งนั้นเลย โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ
![]() ![]() |
ทนายอ้วน
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Friends Blog
|
พระตําหนักดาราภิรมย์
https://www.paiduaykan.com/province/north/chiangmai/dara
pirom.html
พระตําหนักดาราภิรมย์
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E
0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B
8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B
2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E
0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B9%8C
ท่องเที่ยวตามรอยประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์
https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/708045