ผลสำรวจผู้ใช้อินเตอร์เน็ต
ผลสำรวจผู้ใช้อินเตอร์เน็ต
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) รายงานผลการสำรวจกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2551 ซึ่งการสำรวจนี้ เป็นการสำรวจออนไลน์ ที่เนคเทคจัดทำอย่างต่อเนื่องทุกปี มีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บรวมรวมข้อมูลลักษณะพฤติกรรม และความคิดเห็นของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในด้านต่างๆ สำหรับใช้เป็นแนวทางเสนอแนะเชิงนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาอินเทอร์เน็ตของประเทศไทยในโอกาสต่อไป
ผู้สนใจ สามารถจะหาอ่านรายละเอียดทั้งหมด ได้จากหนังสือ รายงานผลการสำรวจกลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2551 พิมพ์ครั้งที่ 1 ...กันยายน 2551 จำนวน 123 หน้า ราคา 80 บาท ...ซื้อได้ที่ ศูนย์หนังสือ สวทช.
ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการเนคเทค ให้ข้อมูลว่า การสำรวจกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยครั้งล่าสุด สำรวจระหว่างเดือน สิงหาคม กันยายน 2551 มีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 14,809 คน โดยตอบออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ของเนคเทค และของเว็บไซต์ที่เข้าร่วมโครงการ
ผลการสำรวจ สรุปว่า ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย คือเป็นเพศหญิง 57.6% และเพศชาย 42.4% ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่ มีอายุอยู่ในช่วง 20 - 29 ปี ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้ของปี 2551 ไม่แตกต่างไปจากของปีก่อนๆมากนัก
แต่ที่น่าสนใจ มีดังนี้ ...
1.
ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ นิยมใช้งานอินเทอร์เน็ต จากที่ทำงานเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้ว คือปี 2550 ใช้งาน 38.6% ปี 2551 ใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น 44.9% ขณะที่การใช้งานอินเทอร์เน็ตจากที่บ้านมีปริมาณลดลง คือปี 2550 ใช้งานที่บ้าน 47.9% มาปี 2551 ใช้งานที่บ้านลดลงเหลือเพียง 44.8% และการใช้งานในร้านอินเทอร์เน็ต ซึ่งปี 2550 ใช้งานเพียง 7.8% มาปี 2551 กลับใช้งานลดลงไปอีก เหลือใช้งานเพียง 2.4%
2.
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ผู้ตอบแบบสอบถามที่ระบุว่าใช้งานอินเทอร์เน็ตจากที่บ้าน จำนวน 6,634 คน บอกว่า เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านการเป็นสมาชิกกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มากที่สุด คือ 51.7% รองลงมาเป็นสมาชิกกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์ (ISP) คือ 30.7% และใช้อินเทอร์เน็ตฟรี ผ่านบัญชีอินเทอร์เน็ตขององค์กรหรือของสถานศึกษา 12.6%
3.
การเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน เอดีเอสแอล หรือ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มีปริมาณสูงถึง 43.5% สวนทางกับการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน ไดอัล-อัพ ซึ่งมีปริมาณลดลง ปี 2551 มีเหลือเพียง 10.3% โดยปี 2550 มีใช้งานมากกว่าคือ 14.3% และที่น่าจับตามองอีกอย่าง คือ การเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ ปี 2551 มีปริมาณมากขึ้น โดยในปี 2550 มีใช้งาน 2.8% แต่ในปี 2551 เพิ่มขึ้นเป็น 7.1% ซึ่งคาดว่าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
4.
กิจกรรมที่นิยมทำมากที่สุดบนอินเทอร์เน็ต ยังเป็นการค้นหาข้อมูล คือ 31.4% ใช้อีเมล์ 23.0% และติดตามข่าวสาร 10.3% โดยช่วงเวลาที่มีปริมาณการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตมากที่สุดคือ ช่วงกลางคืน ระหว่าง 20.01- 24.00 น. คิดเป็น 29.3% รองลงมาคือระหว่าง 12.01 16.00 น. คิดเป็น 26.3% ขณะที่ช่วงเวลาที่ใช้งานน้อยที่สุด คือ ช่วงเช้าตรู่ ระหว่าง 04:01 - 08:00 น. ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับปี 2550
5. ขณะที่ปัญหาสำคัญบนโลกอินเทอร์เน็ต ผู้ตอบแบบสอบถาม ล้วนตอบว่าเป็น ไวรัส 64.4% เป็นแหล่งยั่วยุทางเพศ 60.6% และเป็นการสื่อสารช้า 56.2% ทั้งนี้ผู้ตอบแบบสอบถามให้ข้อเสนอแนะว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะพิจารณาแก้ไขเป็นลำดับต้นๆ คือ การโจมตีจากไวรัสและการรักษาความมั่นคงของเครือข่าย 40% การกระจายความทั่วถึง 33.4% และการป้องกันสื่อลามกอนาจารบนอินเทอร์เน็ต 28.8%
6.
อนึ่ง สำหรับเรื่องการกระจายความทั่วถึง หรือการแพร่กระจายการใช้งานของอินเทอร์เน็ตนั้น ผลการสำรวจในปี พ.ศ. 2550 ของประเทศกลุ่มอาเซียนพบว่า ไทยมีอัตราการแพร่กระจายของการใช้งานอินเทอร์เน็ต ต่ำกว่าประเทศมาเลเซียและประเทศเวียตนาม โดยประเทศมาเลเซียมีอัตราการแพร่กระจาย 59.0% และประเทศเวียดนามมีอัตราการแพร่กระจาย 23.4% ส่วนประเทศไทยมีอัตราการแพร่กระจายการใช้อินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 20.3% ทั้งนี้ประเทศไทยมีจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งสิ้นประมาณ 13.4 ล้านคน
7. การซื้อสินค้าหรือบริการผ่านอินเทอร์เน็ต ในปี 2551 มีความนิยมซื้อสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น โดย 45.9% ตอบว่าเคยซื้อสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ต ในขณะที่ในปี 2550 มีซื้อเพียง 28.9% เท่านั้น ทั้งนี้ผู้ที่อยู่ในเขตเมืองและมีรายได้ครัวเรือนสูง มีแนวโน้มซื้อมากกว่าผู้ที่อยู่นอกเขตเมืองและมีรายได้ครัวเรือนต่ำ และกลุ่มผู้ชายนิยมซื้อสินค้าบนอินเทอร์เน็ตโดยเฉลี่ยมากกว่าผู้หญิง ซึ่งต่างจากผลสำรวจในปี 2550 ที่กลุ่มที่นิยมซื้อสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ต คือกลุ่มผู้หญิง
8.
มูลค่าการซื้อสินค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ต ผลสำรวจระบุว่า
ต่ำกว่า 1,000 บาท ร้อยละ 27.6
ตั้งแต่ 1,001 - 5,000 บาท ร้อยละ 41.2
ตั้งแต่ 5,001 - 10,000 บาท ร้อยละ 13.3
ตั้งแต่ 10,001 - 20,000 บาท ร้อยละ 7.9
ตั้งแต่ 20,001 - 40,000 บาท ร้อยละ 7.1
และมากกว่า 40,000 บาทขึ้นไป ร้อยละ 2.9
9.
สินค้าหรือบริการที่สั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ตระบุว่า
สั่งซื้อหนังสือ ร้อยละ 36.4
จองบริการต่างๆ เช่น จองที่พักโรงแรม จองเช่ายานพาหนะ จองตั๋วภาพยนตร์ ร้อยละ 30.7
สั่งซื้อซีดีภาพยนตร์ที่ส่งผ่านพัสดุ ร้อยละ 18.1
สั่งซื้อเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย เช่น กระเป๋า รองเท้า เข็มขัด ร้อยละ 17.7
และสั่งซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ร้อยละ 16.3
10.
สำหรับผู้ที่ไม่ซื้อสินค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ต จำนวน 8,012 คน ระบุสาเหตุของการไม่ซื้อสินค้าและบริการว่า
ไม่ไว้ใจผู้ขายสินค้าว่าจะส่งสินค้าให้จริง ร้อยละ 59.1
ไม่สามารถเห็นหรือจับต้องสินค้าได้ ร้อยละ 58.9
ไม่มั่นใจในระบบชำระเงิน ร้อยละ 46.0
ขั้นตอนการสั่งซื้อยุ่งยาก ร้อยละ 40.7
และไม่ต้องการส่งข้อมูลบัตรเครดิตผ่านทางอินเทอร์เน็ต ร้อยละ 34.2.
11.
พฤติกรรมการใช้สังคมออนไลน์ ในปี 2551 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม มีบล็อกหรือมีไดอารีออนไลน์เป็นของตนเอง ถึงร้อยละ 69.7 โดยวัตถุประสงค์ของการใช้บล็อก คือการค้นหาข้อมูล การเขียนบันทึกและบทความ กิจกรรมบนอินเทอร์เน็ตที่ทำร่วมกันระหว่างเครือข่ายเพื่อนที่สนใจในเรื่องเดียวกัน มากที่สุดคือ การแลกเปลี่ยนข้อมูลและความรู้ รองลงมาคือ แลกเปลี่ยนรูปภาพและคลิปวิดีโอ ส่วนบริการที่ไม่เคยทำมากที่สุด คือการแพร่ภาพวิดีโอออนไลน์
12.
เว็บไซต์ที่เป็นที่นิยม คือ Hi5 คิดเป็น 47.5% เว็บไซต์ที่นิยมรองลงมา คือ วิกิพีเดีย รองลงไปอีก คือ ยูทูบ ทั้งนี้ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วง 20 - 29 ปี และผู้หญิงมีแนวโน้มในการทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ และแลกเปลี่ยนรูปภาพ มากกว่าผู้ชาย ในขณะที่ผู้ชายมีแนวโน้มในกิจกรรม หาเพื่อนใหม่ทางอินเทอร์เน็ต มากกว่าผู้หญิง
13.
แม้สังคมออนไลน์จะมีประโยชน์ แต่ผู้ใช้ 66.8% เห็นว่า ควรให้มีการกำกับดูแล โดย 72.7% มองว่าเพื่อความปลอดภัยของเยาวชน และ 17.7% มองว่าเพื่อความสงบของสังคม ในขณะที่ผู้ใช้ที่ตอบไม่เห็นด้วย กับการที่ต้องกำกับดูแล จำนวน 85.4% ระบุว่าเป็นการปิดกั้นเสรีภาพ และ 13.2% มองว่าไม่สามารถจะปฏิบัติได้จริง
ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการเนคเทค กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มการใช้อินเทอร์เน็ตในปี 2552 นั้น คาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ของการใช้สังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นบล็อก หรือ เว็บไซต์ประเภทสังคมออนไลน์ หรือแม้แต่สารานุกรมต่อยอด เช่น วิกิพีเดีย อันจะนำมาซึ่งการสร้างสรรค์เนื้อหาดิจิทัลของไทยไปอีกมาก และจะเป็นส่วนหนึ่งของสังคมอุดมปัญญาของไทยในอนาคต ซึ่งทุกภาคส่วนควรจะมีการเตรียมความพร้อมเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติ ในการกระตุ้นและพัฒนาให้เกิดการสร้างสรรค์เนื้อหาดิจิทัลที่มีคุณภาพ รวมทั้งการกำกับดูแลความเหมาะสมของเนื้อหาดิจิทัล โดยไม่ให้กระทบต่อการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี และให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนภายในประเทศ
yyswim
yyswim@hotmail.com
Create Date : 13 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 13 มิถุนายน 2552 2:00:51 น. |
|
17 comments
|
Counter : 3744 Pageviews. |
|
|
|
ดูแล้วเราเป็นหนึ่งในผลการสำรวจที่ทำสถิติสูงนะคะ
จุดประสงค์ที่ใช้เขียนบล๊อกนี่ก็พุ่งขึ้นสูงจากปีก่อนเยอะเหมือนกัน
แต่ที่แน่ ๆ ช่วงเวลาที่เราใช้เป็นช่วงเวลาที่คนเข้ามาใช้น้อยที่สุด มิน่าลื่นปรู๊ดปร๊าดเชียว
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ