Michael Jackson








Michael Jackson




ขอเชิญชมความสามารถของ Michael Jackson .. The King of Pop

จากเพลง ‘Dangerous’ ความยาว 4.11 นาที
















ข่าวการเสียชีวิตของราชาเพลงป็อปชื่อก้องโลก (The King of Pop) ไมเคิล แจ็คสัน ขณะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลยูซีแอลเอ นครลอสแองเจลิส ด้วยเฮลิคอปเตอร์แต่ไม่ทันการ เขาเสียชีวิตกลางทางขณะเดินทาง จากการสันนิษฐานเบื้องต้นวิเคราะห์ว่า เกิดจากโรคหัวใจในวัย 51 ปี (เขาเกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2501) ข่าวนี้ สร้างความเสียใจเศร้าใจให้กับบรรดาแฟนเพลงของเขาเป็นอย่างมากทั่วโลก รวมทั้งบุคคลสำคัญจากหลายๆวงการ เพราะนับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการเพลงระดับโลก เทียบเท่ากับการสูญเสียนักร้อง เอลวิส เพรสลีย์ และ เดอะบีตเติ้ล ทีเดียว









เดบบี โรว์ อดีตภรรยาคนที่ 1 ของไมเคิล แจ็คสัน กล่าวว่า รู้สึกเสียใจและสับสนเป็นอย่างมากต่อข่าวการเสียชีวิตของ ไมเคิล แจ็คสัน และรู้สึกสงสารลูกๆ ทั้ง 3 คนของเขา



ลิซ่า มารี เพรสลีย์ อดีตภรรยาคนที่ 2 ของไมเคิล แจ็คสัน กล่าวว่า รู้สึกเสียใจ และเศร้าใจแทนลูกๆ ทั้ง 3 คน ที่เป็นแก้วตาดวงใจของเขามาก









อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวยกย่อง ไมเคิล แจ็คสัน ว่า เป็นผู้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการเพลงป๊อป และเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ที่ยิ่งใหญ่ เป็นที่นิยมชมชอบของชนทุกเพศทุกวัยทั่วโลก



บริทนีย์ สเปียร์ เผยว่า เธอเคยได้ร้องเพลง The way you make me feel คู่กับไมเคิล แจ็คสัน เนื่องในวันฉลองครบรอบ 30 ปี ของไมเคิล แจ็คสัน เมื่อปี 2001 โดยบริทนีย์ บอกว่า เธอรู้สึกเหมือนหัวใจแตกสลายต่อข่าวการจากไปของ ราชาเพลงป๊อป เธอเคยคิดว่าจะปลีกตัวจากการทัวร์คอนเสิร์ตที่ยุโรปไปชมการทัวร์คอนเสิร์ตของ ไมเคิล แจ็คสัน ที่อังกฤษด้วย



จัสติน ทิมเบอร์เลค นักร้องชื่อดังของโลก เขากล่าวว่า ไมเคิล เป็นเสมือนแรงบันดาลใจให้กับตัวเขาเอง ไม่มีคำพูดใดๆที่มากไปกว่าคำว่า ‘สูญเสีย’ ต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เพราะ ไมเคิล เป็นต้นแบบเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักร้องรุ่นหลังๆ และโดยส่วนตัวก็มีความใฝ่ฝันว่าสักครั้งหนึ่ง อยากจะขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีเดียวกับ ไมเคิล แจ็คสัน นอกจากนี้ยังมีบุคคลในวงการบันเทิง และวงการการเมืองของสหรัฐฯ อีกหลายคนที่เสียใจต่อข่าวการจากไปของ ไมเคิล แจ็คสัน โดยหลายคนบอกว่า ความอัจฉริยะของ ไมเคิล แจ็คสัน นั้น ไม่มีทางที่ใครจะมาทาบรัศมีได้









ทันทีที่มีข่าวการเสียชีวิตของ ไมเคิล แจ็คสัน เผยแพร่ออกไป แฟนเพลงนับพันได้เดินทางมารวมตัวกันที่หน้าโรงพยาบาลยูซีแอลเอ ในนครลอสแองเจลิส ที่แจ็คสันถูกส่งตัวไปรักษา ขณะเดียวกันกับที่ จัตุรัส ไทม์สแควร์ ในมหานครนิวยอร์ก ก็มีแฟนเพลงและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ไปร่วมกันยืนไว้อาลัยกันที่นั่น ส่วนที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประชาชนต่างส่งข่าวผ่านข้อความโทรศัพท์มือถือ มีหลายคนที่ยังไม่อยากจะเชื่อว่า ข่าวการเสียชีวิตของแจ๊คสันเป็นเรื่องจริง เพราะเมื่อเร็วๆนี้ คือเมื่อวันที่ 1 มี.ค. ก็เพิ่งมีการแถลงข่าวว่า ไมเคิล แจ็คสัน จะมาเปิดแสดงคอนเสิร์ต ที่ประเทศอังกฤษ ถึง 50 รอบ ที่ ดิส อิส อิท ณ โอ ทู อารีนา โดยจะเริ่มการแสดงตั้งแต่ วันที่ 8 ก.ค. 2552 ปีนี้ ถึง 24 ก.พ. 2553 ปีหน้า









นอกจากนี้ ชาวญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่น ก็ต่างรู้สึกตกใจกับข่าวการเสียชีวิตของ ไมเคิล แจ็คสัน ด้วย โดยในการแถลงข่าวของรัฐบาลญี่ปุ่นในช่วงเช้า นายทาเคโอะ คาวามูระ โฆษกรัฐบาลก็ยังได้กล่าวถึงเรื่องนี้ออกมาด้วย ขณะที่วัยรุ่นญี่ปุ่นต่างรู้สึกเสียใจต่อการจากไปของ ไมเคิล แจ็คสัน อย่างกะทันหัน บางคนยกย่องชื่นชม แจ็คสัน ว่า เป็นผู้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีความสามารถพิเศษชนิดหาตัวจับยาก และบางคนถึงกับเปรียบเทียบข่าวการเสียชีวิตของ แจ็คสัน ว่า เป็นข่าวที่น่าตกใจโด่งดังพอๆ กับการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา แห่งประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ แจ็คสัน เคยเยือนประเทศญี่ปุ่นมาแล้วหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายคือ การไปเยี่ยมบ้านเด็กกำพร้าในกรุงโตเกียว เมื่อปี 2549









ขณะที่ประเทศเกาหลีใต้ แฟนเพลงจำนวนมากต่างก็รู้สึกตกใจและเสียใจต่อข่าวการสูญเสียในครั้งนี้ สื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างพากันประโคมข่าวการเสียชีวิตของแจ๊คสัน อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แฟนเพลงต่างระบุตรงกันว่า แจ็คสัน เป็นบุคคลต้นแบบของวัยรุ่นเกาหลีจำนวนมาก ซูเปอร์สตาร์แห่งเอเชีย หนุ่มเรน เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า การที่เขาขึ้นมาเป็นนักร้องแถวหน้าของเอเชียได้ เพราะแรงบันดาลใจจาก ไมเคิล แจ็คสัน คาดว่าในเร็วๆวันนี้ แฟนเพลงของเรน จะได้ฟังเสียงความรู้สึกของเรน ต่อการจากไปของ ไมเคิล แจ็คสัน









ที่ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย แฟนเพลงถึงกับช็อค ต่อข่าวการจากไปของแจ็คสัน โดยวงการเพลงออสเตรเลียได้ไว้อาลัยให้กับไอดอลเพลงป๊อป นักร้องระดับตำนานของโลกผู้นี้ ด้วยการระดมโพสต์ข้อความลงบนเว็บไซต์ของสถานีวิทยุโทรทัศน์ เอบีซี ของออสเตรเลียว่า ข่าวการเสียชีวิตครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่ง และเขาเป็นฮีโร่ในดวงใจของใครๆหลายคน









จากสาเหตุการเสียชีวิตของราชาเพลงป๊อบของโลกในครั้งนี้ เว็บไซท์ BBC รายงานว่า การสัญจรทางไซเบอร์สเปซ ต้องล่าช้าอย่างมากจนเกือบจะกลายเป็นอัมพาต เพราะคนทั่วโลกต่างสนใจหลั่งไหลเข้าไปตรวจสอบข้อมูลการเสียชีวิตของ ไมเคิล แจ็คสัน



เว็บไซท์ค้นหาชื่อดัง "กูเกิล" ได้ยืนยันต่อ BBC ว่า ตอนที่มีข่าวการเสียชีวิตของแจ็คสันออกมาในนาทีแรก ตอนแรกทางเว็บกูเกิล นึกว่าจะโดนโจมตีจากไวรัส เพราะผู้คนนับหลายล้านคน ต่างพากันค้นหาชื่อ ชื่อเดียวกันพร้อมกันคือชื่อ Jackson ทำให้ทางเว็บต้องเตือนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตว่า คำถามของพวกเขานั้นคล้ายกับคำถามที่ถูกไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือ สปายแวร์ กำหนดไว้



เกเบรียล สตริ๊กเกอร์ โฆษกของ กูเกิล กล่าวว่า เป็นความจริงที่ว่า ในช่วงเวลาระหว่างเวลา 14.40-15.15 น. ตามเวลาในฝั่งแปซิฟิก ผู้ค้นหาข่าวจาก กูเกิล นิวส์ ต่างประสบความยากลำบากในการค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับ ไมเคิล แจ็คสัน และกลับต้องพบกับหน้าที่ผิดพลาด แนวโน้มการใช้เว็บท่า กูเกิล ได้แสดงให้เห็นว่า ผลการค้นหาคำว่า ไมเคิล แจ็คสัน ได้พุ่งขึ้นอยู่ในระดับที่เรียกว่า "ร้อนแรง" ชนิดเรียกว่า "โวเคนิค" หรือ ภูเขาไฟ









กูเกิล ไม่ใช่เว็บท่าเพียงแห่งเดียว ที่มีคนหลั่งไหลเข้าไปค้นหาข้อมูล เว็บท่าที่ให้บริการบล็อคสั้น เช่น ทวิตเตอร์ ก็ต้องเผชิญกับคลื่นมหาชนที่หลั่งไหลเข้าไปใช้บริการล้นหลามเช่นเดียวกัน การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ แจ็คสัน พุ่งขึ้นพรวดพราด รวมทั้งเข้าไปใช้พร้อมกันครั้งละมากๆ ก็ทำให้เว็บล่มโดยปริยาย



ข้อมูลเบื้องต้นของ เทรดร์ ซึ่งเป็นเว็บที่ติดตามการเคลื่อนไหวของเว็บไซท์ข่าวสังคมออนไลน์ พบว่าจำนวนคนที่เข้าไปโพสต์ใน ทวิตเตอร์ เมื่อบ่ายวันพฤหัสบดี เกี่ยวกับ ไมเคิล แจ็คสัน มีมากกว่า 1 แสนคนต่อชั่วโมง และค่อย ๆ ไต่ขึ้นเป็น 2 แสน 2 หมื่นคนต่อชั่วโมง ซึ่งมากกว่าข่าวการเลือกตั้งในอิหร่าน หรือ ข่าวการระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ด้วย โดยข้อความคอมเมนท์ใน บล็อคสั้น ทวิตเตอร์ " #MichaelJackson" มีปรากฏหลายภาษา และล้วนเขียนเพื่อไว้อาลัยต่อ ไมเคิล แจ็คสัน แทบทุกวินาที และ บางรายยังยกย่องชมเชยเพลงของ ไมเคิล แจ็คสัน ว่าต่อไปจะเป็นเพลงที่อมตะมากกว่าเพลงของ บีโธเฟน



กล่าวกันว่า TMZ เว็บกอสซิปคนดัง เป็นเว็บแรกที่เสนอข่าวเรื่องนี้ ด้วยการเปิดประเด็นจากเจ้าหน้าที่การแพทย์ ไปคฤหาสน์ของ ไมเคิล แจ็คสัน แต่เว็บก็ล่มเช่นเดียวกัน เมื่อเว็บหนึ่งล่ม ชาวเน็ตก็แห่กันไปค้นที่เว็บอื่น จนกลายเป็นทำให้เว็บอื่นล่มอีก แล้วเว็บถัดไปก็ล่มอีก ล่มกันแบบต่อเนื่องอย่างตัวโดมิโน่ รวมทั้งเว็บไซท์ของนักเขียนดัง เปเรซ ฮิลตัน ก็เป็นหนึ่งในเว็บที่ล่มไปกับเขาด้วย ทั้งนี้เว็บไซท์ที่ล่ม จากข่าวเสียชีวิตของ ไมเคิล แจ็คสัน ได้รวมถึงเว็บของ AOL , CBS, CNN , MSNBC และ Yahoo









ยิ่งกว่านั้น ในเว็บเก็บรูปภาพชื่อดังอย่าง ฟลิกเกอร์ (Flickr) ก็มีสังคมภาพของ ไมเคิล แจ็คสัน เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่ใน เฟสบุ๊ก (Facebook) เว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่มีเพจใหม่ ในชื่อ "Michael Jackson RIP" มาพร้อมกับจำนวนสมาชิกไม่ต่ำกว่า 28,000 คนในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง รวมถึงหน้า "Michael Jackson Isn't Dead" หรือ "ไมเคิล แจ็คสันยังไม่ตาย" ก็มีสมาชิกจำนวนมากกว่า 34 คนแล้วในขณะนี้



สำหรับในเว็บ วิกิพีเดีย ก็เกิดความสับสนเช่นเดียวกัน เพราะมีผู้ประสงค์ดีเข้าไปแก้ไข เปลี่ยนแปลง อัพเดทข้อมูลใน วิกีพีเดีย ในช่วงเวลานั้นตลอดเวลานับหมื่นคน ทำให้บรรณาธิการเว็บ ต้องคอยเกาะติดสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น










แฟนเพลงทั่วโลกร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของ ไมเคิล แจ็คสัน ราชาเพลงป็อป



ราชินีเพลงป๊อป "มาดอนน่า" ออกแถลงการณ์ในเว็บไซท์ของเหล่าคนดัง " พีเพิล ดอท คอม " ว่า เธอไม่อาจหยุดร่ำไห้ต่อข่าวการจากไปของ " ราชาเพลงป๊อป " ไมเคิล แจ็คสัน เธอยกย่องเขาเสมอ โลกแห่งเสียงเพลงได้สูญเสีย หนึ่งในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ไปแล้ว แต่เสียงเพลงจะยังคงอยู่ตลอดไป เธอขอส่งใจไปยังลูกทั้ง 3 ของเขา และสมาชิกในครอบครัวของเขา ขอพระเจ้าทรงอำนวยพร



ควินซี่ โจนส์ นักดนตรีและโปรดิวเซอร์ชื่อดัง เปิดเผยต่อสถานีโทรทัศน์ NBC ว่า เขาหัวใจสลายต่อข่าวนี้ เขาพูดไม่ออก พระเจ้านำดวงวิญญาณของเรามาเจอกัน และให้เราได้ทำอะไรร่วมกันในช่วงทศวรรษที่ 80 ทุกวันนี้ เสียงดนตรีที่เล่นอยู่ทั่วทุกมุมโลก ด้วยสิ่งที่เขาทำไว้ ด้วยพรสวรรค์ ด้วยความงดงาม และความเป็นมืออาชีพ " ผมสูญเสียน้องชายเล็ก ๆ และวิญญาณส่วนหนึ่งของผมก็ไปกับเขาด้วย "



อลิซาเบธ เทย์เลอร์ หนึ่งในผู้ที่สนิทสนมที่สุดของ แจ็คสัน และเป็นเพื่อนที่คบหากันมายาวนาน เธอ ยากที่จะทำใจเกินกว่าจะออกถ้อยแถลงใด ๆ ถึง แจ็คสัน ได้



ยูริ เกลเลอร์ เพื่อนสนิทของแจ็คสัน กล่าวว่า เขาก็หัวใจสลายเช่นกัน และเศร้ามาก เพราะสวดอ้อนวอนต่อวิญญาณของ แจ็คสัน ซึ่งเป็นชายที่ดีที่สุด ตอนที่ภาพทางโทรทัศน์แสดงให้เห็นเขากำลังกล่าวคำสาบานในพิธีแต่งงาน เมื่อปี 2544 เกลเลอร์ บอกกับ BBC ว่า เขาช็อคอย่างสิ้นเชิง แจ็คสัน กำลังไปได้สวยในการฝึกซ้อมเพื่อกลับมาแสดงคอนเสิร์ตที่กรุงลอนดอน ในวันที่ 13 กรกฎาคม ปีนี้









นักแสดงชาวอเมริกัน เจมี่ ฟ็อกซ์ ให้สัมภาษณ์ เอ็กซ์ตร้า ทีวี ตอนที่ได้ทราบข่าวนี้ว่า เขาหวังว่า แจ็คสัน จะได้รับการจดจำในฐานะนักดนตรีผู้แพรวพราย ไม่ใช่แค่พวกโชว์คั่นการแสดงละครสัตว์ เหมือนสภาพชีวิตในบั้นปลายของเขา



สุดยอดนักปั่นจักรยาน แลนซ์ อาร์มสตรอง ได้เขียนในบล็อกสั้น ในเว็บเครือข่ายชุมชนออนไลน์ ทวิตเตอร์ แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของทั้ง แจ็คสัน และ ฟาราห์ ฟอว์เซ็ตต์ ...ด้าน เดวิด มิลลิแบนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศ อังกฤษ ได้โพสต์ข้อความถึง แจ็คสัน ใน ทวิตเตอร์ ว่า " ไม่มีใครบินสูงเกินไป และไม่มีใครดำดิ่งลงต่ำเกินไป ....ขอจงสู่สุขคติเถิด ...ไมเคิล "



แอชตัน คุชเชอร์ นักแสดงมาดกวน ได้โพสต์ข้อความลงใน Twitter ว่า “สู่สุคติ เราขอส่งความรักให้กับครอบครัวและเพื่อนๆของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกๆ ทั้งสามคน” และ เดมี มัวร์ ภรรยาของ แอชตัน ก็ได้ออกมากล่าวถึงการสูญเสียอย่างยิ่งใหญ่ครั้งนี้ว่า “ฉันเสียใจอย่างสุดซึ้งจริงๆ กับการสูญเสียทั้งฟาร์ราห์ ฟอว์เซตต์ และไมเคิล แจ็กสัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกๆ ของพวกเขา!”



จอห์น เมเยอร์ นักร้อง-นักแต่งเพลงชื่อดัง ก็ได้แสดงความเสียใจต่อการจากไปครั้งนี้ของศิลปินระดับตำนานผ่านทาง Twitter ว่า “เรางงกันทั้งสตูดิโอ คนสำคัญหลักของวงการ ต้นตำนานทางดนตรีของพวกเรา จากไปแล้ว สู่สุคติเถิด ไมเคิล แจ็กสัน เราต่างเศร้าโศกต่อการจากไปครั้งนี้ของเขา เหมือนกับเราสูญเสียความเป็นเด็กในตัวเรา เมื่อได้ฟังเพลง Thriller”









ขณะที่แฟนเพลงในประเทศจีน ก็เสียใจไม่น้อยต่อการจากไปของไมเคิล แจ็คสัน ซึ่งถือเป็น ศิลปินต่างชาติคนหนึ่งที่ครองใจชาวจีนได้สำเร็จ ในช่วงที่จีนเริ่มเปิดประเทศเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน ชาวจีนจำนวนไม่น้อยต่างไปเข้าคิวเพื่อชมพิพิธภัณฑ์ที่มีหุ่นขี้ผื้งของ ไมเคิล แจ็คสัน จัดแสดงอยู่ที่กรุงเซี่ยงไฮ้ อันเป็นสาขาหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ มาดาม ทุสโซ่ จนพิพิธภัณฑ์ถึงกับโยกย้ายหุ่นขี้ผึ้งของ ไมเคิล มาไว้ที่ทางเข้าพิพิธภัณฑ์แทน เพื่อความสะดวกแก่เหล่านักท่องเที่ยวและแฟนคลับ จะได้เดินทางมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกจำนวนมาก



และอีกสาขาหนึ่งของพิพิธภัณฑ์มาดาม ทุสโซ ในฮ่องกง ซึ่งมีหุ่นขี้ผึ้งของ ไมเคิล แจ็คสัน จัดแสดงอยู่ด้วยเช่นกัน ก็มีแฟนเพลงผู้รัก ไมเคิล แจ็คสัน เดินทางมาเยี่ยมชมและถ่ายรูปด้วยจำนวนมากไม่แพ้กัน



นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแฟนเพลงของ ไมเคิล แจ็คสัน กล่าวว่า ครั้งแรกที่ได้ยินข่าวจากสถานีโทรทัศน์ บีบีซี. รายงานข่าวออกมา ก็ตกใจคิดไม่ถึงว่า ไมเคิล จะเสียชีวิตจริง ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนเคยทราบมาว่า ไมเคิล เตรียมที่จะจัดคอนเสิรต์ใหญ่ ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งก็มีข่าวออออกมาตลอดเช่นกันว่า ไมเคิล มีปัญหาเรื่องสุขภาพ และช่วงหลังก็ไม่ค่อยปรากฏตัว แต่สุดท้ายก็มาจบชีวิตลงเสียก่อน อย่างไรก็ตามตนเองคงจะไม่ถึงกับเดินทางไปไว้อาลัยที่ประเทศสหรัฐฯ แต่ถ้ามีใครเปิดเว็บไซด์เพื่อแสดงการไว้อาลัยเป็นการเฉพาะ ตนเองก็จะร่วมแสดงการไว้อาลัยด้วย ซึ่งส่วนตัวก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของไมเคิลด้วย



นายศิริ กล่าวอีกว่า ตนชื่นชอบ ไมเคิล มาตั้งแต่อายุ 18 - 19 ปี ซึ่งในขณะนั้น ตนเองกำลังศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ โดยระหว่างนั้น ตนได้รับงานพิเศษเป็นดีเจ.ตามงานเลี้ยงของสมาคมต่างๆ ซึ่งเพลงส่วนใหญ่ที่เปิดก็จะเป็นเพลงของ ไมเคิล เป็นประจำ ส่วนความชื่นชอบ ไมเคิลของตนนั้น น่าจะมาจากสไตล์การร้องเพลง และท่าการเต้นมูนวอล์ค ที่มีเอกลักษณ์ โดยตนก็มักจะนำท่าเต้นของ ไมเคิล มาเต้นระหว่างที่เป็นดีเจ.ด้วย



"ในสมัยก่อน ผมยังเคยซื้อชุดหนังสีแดง-ดำ ซึ่งเป็นชุดที่เหมือนกับของ ไมเคิล เพื่อนำมาสวมใส่ในขณะที่เป็นดีเจด้วย อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าการเสียชีวิตของ ไมเคิล คงจะสามารถเทียบเคียงกับ เลดี้ไดอาน่า หรือ เอลวิส ได้ในระดับหนึ่ง เพราะเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลสูงหรือเป็นไอดอลให้กับสังคม เช่น วัยรุ่นในสมัยนั้น มักจะจับกลุ่มเพื่อหัดเต้นท่าของไมเคิล แทนที่จะไปมั่วยาเสพติด ดังนั้นการเสียชีวิตในครั้งนี้ จึงถือว่าเป็นการสะเทือนขวัญคนในรุ่นของตนที่ได้เคยสัมผัสเพลงของไมเคิล"









มีข่าวตามมาว่า หลังการเสียชีวิตของ แจ็คสัน อัลบั้มเก่า ๆ ของเขา ได้กลับมาขายดีอีกครั้งหนึ่ง จากผลการสำรวจพบว่า เว็บ อเมซอน ซึ่งเป็นเว็บไซท์ค้าปลีกทางออนไลน์ชื่อดัง ได้รับการสั่งซื้อ อัลบั้มเดี่ยวชุดแรก ของแจ็คสัน อย่าง ออฟ เดอะ วอลล์ ที่มีเพลงดังอย่าง " โด๊นท์ สต็อป ทิล ยู เก็ท อีนัฟ และ ชี'ส เอ๊าท์ ออฟ มาย ไลฟ์ " ส่วนอัลบั้มที่ถูกสั่งซื้อตามมาเป็นอันดับสอง คือ แบ้ด ออกจำหน่ายเมื่อปี 1987 และขายดีเป็นอันดับสาม คือ ทริลเลอร์ ที่ได้ชื่อว่าเป็น อัลบั้มขายดีตลอดกาล มียอดจำหน่ายทั่วโลกระหว่าง 50 - 100 ล้านแผ่น









การเริ่มต้นความโด่งดังของไมเคิล แจ็คสัน


แจ็คสัน ออกอัลบั้มเดี่ยวชิ้นแรกชื่อ Got to Be There ที่วางแผงเมื่อปี พ.ศ. 2514 ในขณะที่ตอนนั้น ยังเป็นสมาชิกวง The Jackson 5 อยู่ และมีอายุประมาณ 11-12 ปี ซึ่งตอนนั้นเขาสามารถคว้าอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงมาครอง ได้มากถึง 3 เพลงฮิต ต่อจากนั้นเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2522 แจ็คสัน ได้เปิดตัวอัลบั้ม "Off the Wall" ซึ่งเป็นอัลบั้มชุดที่ 5 ของเขา โดยทำยอดขายกว่า 20 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลก









ตามมาด้วยอัลบั้มชุดที่ 6 Thriller ที่วางแผงวันแรก เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2525 นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์อัลบั้มที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล ถึง 60 ล้านชุด และจากอัลบั้มนี้ ทำให้แจ็คสันได้รางวัล Grammy Awards ถึง 7 ตัว คือ Album of the Year, Record of the Year (เพลง "Beat It"), Best Male Pop Vocal Performance ( เพลง "Thriller"), Best Engineered Recording, Non-Classical (เพลง Thriller), Best Male Rock Vocal Performance (เพลง "Beat It"), Best Male R&B Vocal Performance (เพลง "Billie Jean"), Best R&B Song (เพลง "Billie Jean") นอกจากนี้ ในปีเดียวกัน ยังคว้า American Music Awards มาได้อีก 8 รางวัล และคว้ารางวัล MTV Video Music Awards มาได้อีก 3 รางวัล










และปีต่อมา "The Making of Michael Jackson's Thriller" ก็ได้รางวัล Best Video Album มาครอง จากงานประกาศผลรางวัลแกรมมี่ ครั้งที่ 27 โดยอัลบั้มนี้ติดอยู่ในชาร์ต American Top 10 นานต่อเนื่องกันถึง 80 สัปดาห์ โดยติดอยู่ในอันดับ 1 นานถึง 37 สัปดาห์ 7 เพลงจากทั้งหมด 9 เพลงในอัลบั้ม ติดอันดับ Top 10 singles ในชาร์ต Billboard Hot 100 และแต่ละซิงเกิ้ล ยังขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ในอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี ออสเตรเลีย เดนมาร์ก เบลเยียม แอฟริกาใต้ สเปน ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ และแคนาดาอีกด้วย








ส่วนอัลบั้ม Bad ที่วางขายวันแรกเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2530 แจ็คสันสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการเพลงต้องตะลึงอีกครั้ง ด้วยการเป็นอัลบั้มที่มีซิงเกิ้ลต่าง ๆ ขึ้นถึงอันดับ 1 บิลบอร์ดมากที่สุด โดยมีเพลงฮิตอย่าง I Just Can't Stop Loving You, Bad, The Way You Make Me Feel, Man in the Mirror, Dirty Diana, Another Part of Me และ Smooth Criminal ที่ขึ้นชาร์ตเพลงฮิตในอเมริกาและอังกฤษ









มาถึงอัลบั้มชุดที่ 8 ของไมเคิล แจ็คสัน อย่าง Dangerous ที่ออกอัลบั้มวันแรก เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2534 ในอัลบั้มนี้ แจ็คสันส่งเพลง Black or White ติดอันดับ 1 ทั้งในบิลบอร์ดและชาร์ตเพลงทั่วโลก และมียอดขายกว่า 32 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลก โดยได้รางวัลจากอัลบั้มนี้ไปหลายสถาบัน อาทิ American Music Awards , BMI Awards, Grammy Awards, Soul Train Awards และ World Music Awards









อีกหนึ่งอัลบั้มประวัติศาสตร์ของ แจ็คสัน ที่หลายๆคนยังจดจำได้ คือ อัลบั้มชุดที่ 9 ของ แจ็คสัน History ที่วางแผงไปเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2538 โดยมีเพลง You're Not Alone ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลแรกในประวัติศาสตร์ที่ติดอันดับ 1 ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย รวมไปถึงรางวัล Grammy Award คือ Best Music Video, Short Form (เพลง "Scream")








ในส่วนมิวสิกวีดีโอของ ไมเคิล แจ็คสัน นั้น ยังกลายเป็นงานศิลปะชั้นเยี่ยมที่คนทั้งโลกต้องตะลึง เพราะมิวสิกวิดีโอแต่ละเพลงของไมเคิลนั้น เต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่อลังการ ยังไม่นับรวมกับ ท่าเต้นมูนวอล์ก ท่าลูบเป้า ที่กลายเป็นท่าสุดคลาสสิกในช่วงปี 2533 ที่ทั้งเด็กไทยและวัยรุ่นทั่วโลกต่างเลียนแบบ ซึ่งท่าเต้นมูนวอล์คของแจ็คสัน มีที่มาจากการที่แจ็คสันต้องไปออกรายการทีวี ในโอกาสครบรอบ 25 ปี โมทาวน์ เร็กคอร์ด และแจ็คสันต้องคิดท่าเต้นเพื่อประกอบเพลง Billy Jean จึงกลายเป็นที่มาของท่าเต้นสุดฮิตของวัยรุ่นทั่วโลกในขณะนั้น และในภาพยนตร์ Moonwalker ที่แจ็คสันแสดงนั้น ยังได้รวมท่าเต้นสุดฮิตนี้ไว้อีกด้วย







นอกจากนี้ แจ็คสัน เป็นหนึ่งในศิลปินไม่กี่คน ที่ได้รับการจารึกชื่อใน Rock and Roll Hall of Fame ถึง 2 ครั้ง และได้รับการจารึกไว้ใน กินเนสบุ๊ก ว่าเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาล ด้วย 13 รางวัลจาก แกรมมี่อวอร์ดส รวมทั้งมีเพลงฮิตถึง 13 เพลงที่ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงทั่วโลก และสถิติยอดขายอัลบั้มที่มากถึง 750 ล้านชุดทั่วโลกอีกด้วย








เชิญฝึกท่าเดินแบบ มูน วอล์กเกอร์

How To Moon Walk













ต้องการอ่านประวัติ ไมเคิล แจ็คสัน อย่างละเอียด เชิญเปิดอ่านที่นี่











อนึ่ง คนดังที่อายุเท่ากันกับ ไมเคิล แจ็คสัน คือเกิดในปี พ.ศ. 2501 ..ตรวจสอบข้อมูล เชิญเปิดอ่านที่นี่ ได้แก่


กาญจนา จินดาวัฒน์, เควิน เบคอน, เจมี ลี เคอร์ติส, ชารอน สโตน, ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล, ทิม ร็อบบินส์

ธงไชย แมคอินไตย์, เนวิน ชิดชอบ, มยุรา เศวตศิลา, มาดอนน่า, มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์, ลิขิต เอกมงคล, สุรเกียรติ์ เสถียรไทย

หว่อง คาไว, อนงค์วรรณ เทพสุทิน, เด๋อ ดอกสะเดา, เทียรี่ เมฆวัฒนา, เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์, และ โธมัส เฮิร์นส์







yyswim


yyswim@hotmail.com





 

Create Date : 27 มิถุนายน 2552
18 comments
Last Update : 28 มิถุนายน 2552 19:15:30 น.
Counter : 2234 Pageviews.

 

ช่วงนี้หลายๆ blog เขียนถึง MJ กันทั้งนั้นเลย (รวมทั้งเราด้วย แหะๆ) เค้าจากไปแล้วเชื่อว่าคงจะมีคนระลึกถึงเค้าแต่ในเรื่องที่เค้าสร้างความสุขทางเสียงเพลงให้กับเรานะคะ

ปล.ไม่ได้แวะมา blog นี้ซะนานอีกแล้ว อิๆๆ

 

โดย: babyL' 27 มิถุนายน 2552 8:46:03 น.  

 

so sad ขอขอบคุณสำหรับความสุขที่คุณมอบให้ตลอดมา หลับให้สบายเถิด ราชาเพลงป๊อบผู้ยิ่งใหญ่ เราจะจดจำคุณไว้ในใจตลอดไป

 

โดย: tu khongdam IP: 117.47.87.236 27 มิถุนายน 2552 13:13:21 น.  

 



เพื่อนๆที่สนใจ Mj หรือ Michael Jackson



โปรดหาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ ในกระทู้ห้องเฉลิมกรุง เพราะมีผู้เข้าไปแสดงความอาลัยไว้นับ 10 กระทู้

หรือจะลองเลือกอ่านเฉพาะกระทู้ ที่ตั้งโดย คุณ kwangMJ ก็ได้ กระทู้นี้มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นนับ 300 ท่าน


ไมเคิล ถ่ายรูปคู่กับ ประธานาธิบดี บิล คลินตัน




ไมเคิล ถ่ายรูปคู่กับ เจ้าหญิง ไดอาน่า




 

โดย: yyswim 27 มิถุนายน 2552 13:50:52 น.  

 



กระทู้นี้ เฉลยท่าเต้น ยืนเอียงเกินจุดศูนย์ถ่วง






 

โดย: yyswim 27 มิถุนายน 2552 14:02:52 น.  

 

michael jackson, you're not alone

 

โดย: คุณแม่น้องปอ IP: 58.9.63.138 27 มิถุนายน 2552 19:43:07 น.  

 

R.I.P. MJ.
เป็นบล็อกที่เรียบเรียงข้อมูลอ่ะครับ ขอบคุณครับ

 

โดย: เอก IP: 124.122.152.189 27 มิถุนายน 2552 23:20:14 น.  

 

ขอบคุณพี่ไมเคิล สิน มากๆๆครับ...ความรู้เพียบแน่นๆๆ
ตอนนี้ผมกำลังหัดเต้นอยู่ แต่ว่ามันมันขยับแต่พุงน่ะ..อิอิ
เสียใจและเสียดายความสามารถของเขามากๆครับ...

 

โดย: ตาติ๊ก...ครับ (สกุลเพชร ) 28 มิถุนายน 2552 10:52:40 น.  

 

เข้ามาไว้อาลัยด้วยคนค่ะ
เมื่อก่อนตอนเป็นเด็กๆ
หนูก็ร้องเพลงเค้าได้ด้วยค่ะ
มีโปสเตอร์รูปเค้าเยอะด้วย
ข้อมูลบล็อกพี่สิน แน่นจริงๆ
สบายดีนะคะพี่

 

โดย: แม่ภุมิ (Artagold ) 28 มิถุนายน 2552 13:24:31 น.  

 


RIP...Michael Jackson ...
"King of Pop"....Rest in peace...



นอกนั้นเราก็รักMadonna/ Kavin Bacon /Micheal Fifer/เทียรีเนาวรัตน์/พี่เบริด และคุณมยุรา..ค่ะ

 

โดย: เริงฤดีนะ 28 มิถุนายน 2552 16:33:05 น.  

 

 

โดย: katoy 28 มิถุนายน 2552 18:26:14 น.  

 

มาขอบพระคุณ ท่านพี่ ไมเคิล สิน มากๆครับ
สำหรับบุญที่จะฝากไปทำ...ไม่มีอะไรพิเศษหรอกครับ
ไปวัดธรรมดาๆนี่เองแบบง่ายๆครับ...

เอาไว้ถ้ามีงานบุญใหญ่ แบบมหกรรมทำบุญเมื่อไหร่
จะเรียนเชิญท่านพี่เป็นคนแรกๆเชียว...
แค่ท่านพี่คิดฝากทำบุญเนี่ยะ...
พี่ท่านก็ได้บุญก่อนใคร...แล้ว....สาธุ..

 

โดย: ไมเคิล ติ๊ก (สกุลเพชร ) 28 มิถุนายน 2552 22:19:52 น.  

 

ขอร่วมไว้อาลัยให้ Michael Jackson ด้วยคนครับ

 

โดย: หน่อไม้ดอง IP: 58.8.80.5 29 มิถุนายน 2552 0:51:31 น.  

 

เมื่อตอนที่เรียนอยู่ ที่ม.ธ.
มีคำกล่าวถึงการสูญเสียบุคคลอยู่ 2 ลักษณะ คือ
หนักอย่างขุนเขา
หรือ เบาอย่างขนนก

โดย ณ ขณะนั้น เราคิดว่า บุคคล ที่เสียชีวิตเพราะ ทั้งชีวิตอุทิศตน เพื่อคนอื่น เพื่อความอยู่ดี กินดี หรือ เพื่อให้บุคคลอื่น มีอิสระ เสรีภาพในการมีชีวิต พ้นจากความทุกข์ยากความยากจน โดยไม่ห่วงตนเอง
บุคคลเหล่านั้น เราถือว่า เขามึคุณูปการต่อ เพื่อนมนุษย์ เราจดจำคุณงามความดี เขาไว้ หนักแน่นดุจขุนเขา

ส่วนคนที่ทำเพื่อตนเอง หรือ ทำอะไรที่ตรงกันข้ามกับที่กล่าวมา เราถือว่า เขาตายเบาอย่างขนหนก

ขอไว้อาลัยให้กับการจากไปของ นักร้องท่านนี้ด้วยคนครับ

 

โดย: ทวีศักดิ์ ถาวรรัตน์ IP: 113.53.57.97 29 มิถุนายน 2552 11:09:43 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณสิน...ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิด ... รูปดอกไม้สวยมากค่ะ

เข้ามาได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับไมเคิล แจ็คสัน จนจุใจเลย ... เสียใจไปกับข่าวด้วยเหมือนกัน ขอไว้อาลัยกับการจากไปของ ราชาเพลงป๊อปด้วยค่ะ

 

โดย: VA_Dolphin 29 มิถุนายน 2552 12:00:41 น.  

 

หวัดดีค่ะพี่สิน ได้ข่าวไมเคิลตอนที่ล็อกอินเข้าแมสเซนเจอร์เมื่อวันศุกร์เช้า ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นแฟนเพลงของไมเคิล แต่ความยิ่งใหญ่ของเค้าในอดีตก็ทำเอาใจแป้วไปเลย คิดว่าหลาย ๆ คนคงรู้สึกเหมือนกัน

จากบล็อกป้าเดซี่ พี่สินชอบดูหนังรึป่าวเอ่ย ??? อยากเจอพี่สินจัง ไว้ถ้าได้เจอ เรามาถกเรื่องหนังกันนะ เป็นคนชอบดูหนังมาก ส่วนใหญ่ดูเคเบิลนี่แหละค่ะ ปีนึงดูหนังหลายร้องเรื่องอ่ะพี่

เรื่อง The Reader เนี่ย มันโดนใจตรงที่มันเป็นเรื่องที่คนจริง ๆ ก็คงทำอย่างนั้น มีหลายตอนที่ป้าเดซี่เดาได้นะพี่ คือเดาด้วยการเอาตัวเองเข้าไปวัดอ่ะ

อย่างตอนที่พี่สินพูดถึง พระเอกเข้าไปเยี่ยมนางเอกในคุก แต่เดินกลับออกมาหน้าตาเฉย นั่นก็เป็นตอนนึงที่ป้าเดซี่เดาไว้

คือเข้าไปแล้วจะพูดอะไร พระเอกก็ไฮโซซะขนาดนั้น เดินเข้าไปในสถานที่แบบนั้นก็น่าจะป๊อดพอสมควรแล้วอ่ะค่ะ

แต่ที่สำคัญคือ 'แล้วชั้นจะพูดอะไรกับเธอ' นี่แหละ

อีกตอนคือหลังจากที่พระเอกได้มาเจอกับนางเอกเป็นครั้งแรกในแคนทีนคุกนะ หลังจากที่ไม่เจอกันหลายสิบปี

พอพระเอกกลับไป นางเอกหยิบหนังสือ เชื่อมั้ยพี่ ป้าเดซี่ปิ๊งเลยว่า มันต้องเอาหนังสือมาตั้งบนโต๊ะ แล้วผูกคอตาย

คือถ้าเป็นป้าเดซี่ ก็ฆ่าตัวตายเหมือนกันอ่ะพี่ คือพระเอกมันทำร้ายจิตใจชั้นซะขนาดนั้น

พี่สินอย่าเรียกอาการนี้ว่า อาการ 'อิน' นะ แถวบ้านป้าเดซี่เค้าเรียก 'Arts Appreciation' ค่ะ

 

โดย: Oops! a daisy 29 มิถุนายน 2552 12:39:54 น.  

 

I Love U MJ

 

โดย: tangwan 30 มิถุนายน 2552 15:36:42 น.  

 

อาลัยในการการจากไปของเขา

ได้ยินได้ฟังเพลงของเค้าตั้งแต่เด็ก

จนกระทั่งปัจจุบัน...

ความแปลงเปลี่ยนพัตนาการของเขามัอิทธิพลต่อสังคมโลกโดยเฉพาะวงการดนตรี

เขาทำให้หลายๆอย่างเกิด

เขาจะอยู่ในความทรงจำของพวกเราทุกคนตลอดกาล


the King oF pop

 

โดย: เพกร 1 กรกฎาคม 2552 19:28:16 น.  

 

รักและอาลัย Michael Jackson
from.my heart to you

 

โดย: pitchapat tuntisook IP: 202.12.118.61 3 กรกฎาคม 2552 13:29:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
27 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.