เนื้อสัตว์













เนื้อสัตว์










บล็อกวันนี้ ขอนำข้อมูลจากเอกสารเผยแพร่ของ กองสัตวแพทย์สาธารณสุข

สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร มาเขียน



กองสัตวแพทย์สาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบด้าน การตรวจสุขภาพสัตว์ก่อนฆ่า การควบคุมการฆ่าสัตว์ การตรวจสุขลักษณะห้องตัดแต่งเนื้อสัตว์ การตรวจสุขอนามัยเนื้อสัตว์ตามสถานที่จำหน่าย เช่น ตลาดสด ซูเปอร์มาร์เก็ต การสุ่มเก็บตัวอย่างเนื้อสัตว์ไปตรวจวิเคราะห์ การตรวจสอบยาปฏิชีวนะที่ตกค้างในเนื้อสัตว์และนม รวมทั้งการเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการ ฯลฯ











1.

การแพร่ขยายของเชื้อแบคทีเรียในเนื้อสัตว์





• เนื้อสัตว์ขนาด 1 กรัมหรือขนาดประมาณเท่ากับเหรียญ 25 สตางค์ สมมติว่ามีเชื้อแบคทีเรีย 1,000 ตัว หากไม่ได้จัดเก็บในตู้เย็นที่อุณหภูมิอย่างน้อย 4 องศาเซ็นเซียส ..ภายใน 1 ชั่วโมง เนื้อสัตว์ก้อนเล็กก้อนนั้น จะมีจำนวนเชื้อแบคทีเรียเพิ่มขึ้นเป็น 4,000 ตัว



• ภายใน 2 ชั่วโมง เนื้อสัตว์ก้อนเล็กก้อนนั้น จะมีจำนวนเชื้อแบคทีเรียเพิ่มขึ้นเป็น 16,000 ตัว



• ภายใน 3 ชั่วโมง เนื้อสัตว์ก้อนเล็กก้อนนั้น จะมีจำนวนเชื้อแบคทีเรียเพิ่มขึ้นเป็น 64,000 ตัว



• ภายใน 4 ชั่วโมง เนื้อสัตว์ก้อนเล็กก้อนนั้น จะมีจำนวนเชื้อแบคทีเรียเพิ่มขึ้นเป็น 256,000 ตัว



• ภายใน 5 ชั่วโมง เนื้อสัตว์ก้อนเล็กก้อนนั้น จะมีจำนวนเชื้อแบคทีเรียเพิ่มขึ้นเป็น 1,024,000 ตัว





รู้อย่างนี้แล้ว จึงไม่ควรจะซื้อเนื้อสัตว์ที่เขาวางขายในตลาดสด นานหลายชั่วโมง เพราะนอกจากจะมีเชื้อแบคทีเรียจำนวนเพิ่มขึ้นในเนื้อสัตว์ที่ขายแล้ว ยังมีเชื้อโรคจากฝุ่น และเชื้อโรคจากแมลงวันอีกด้วย



และรวมทั้งไม่ควรจะซื้ออาหารที่ปรุงสุกๆดิบๆจากร้านอาหารข้างทาง เพราะส่วนใหญ่เจ้าของร้านจะแขวนหรือวางเนื้อสัตว์ไว้นอกตู้เย็น ตลอดจน มีด เขียง จาน ชาม ช้อน ผ้าเช็ดเอนกประสงค์ ก็ไม่สะอาดเท่าที่ควร
















2.

ปัจจัยที่ทำให้เชื้อแบคทีเรียเพิ่มจำนวนขึ้น





• อุณหภูมิระหว่าง 5 – 60 องศาเซ็นเซียส

เพราะถ้าเย็นกว่านี้ ก็คืออยู่ในตู้เย็น ถ้าร้อนกว่านี้ ก็คืออยู่บนเตาอุ่นตลอดเวลา



• อาหารที่มีโปรตีนสูง

สังเกตเถอะน้ำเต้าหู้ซึ่งมีโปรตีนสูง ก็บูดเสียง่าย

เพราะการเพิ่มจำนวนของเชื้อแบคทีเรียในโปรตีน



• ระยะเวลาของการเก็บรักษาเนื้อสัตว์

ยิ่งนานชั่วโมง จะยิ่งมีเชื้อแบคทีเรียจำนวนเพิ่มขึ้น

ในประเด็นนี้ สามารถจะนับรวมไปถึงพวกผ้าเช็ดมือชื้นๆ หรือผ้าเช็ดตัวชื้นๆด้วย

หากวางไว้นานๆ ไม่รีบนำไปซัก ก็จะมีเชื้อแบคทีเรียเพิ่มจำนวนขึ้นเช่นเดียวกัน



• ความชื้นสัมพัทธ์มากกว่า 0.85



• ความเป็นกรดด่างอยู่ในช่วง pH 4.6 – 7.0















3.

ผลของอุณหภูมิต่อการเพิ่มจำนวนเชื้อแบคทีเรีย





• อุณหภูมิที่ 32 องศาเซ็นเซียส (ประมาณอุณหภูมิห้อง) จำนวนเชื้อแบคทีเรียจะเพิ่มเป็นทวีคูณ ภายในเวลา ½ ชั่วโมง



• อุณหภูมิที่ 21 องศาเซ็นเซียส (ประมาณห้องแอร์เย็นมาก) จำนวนเชื้อแบคทีเรียจะเพิ่มเป็นทวีคูณ ภายในเวลา 1 ชั่วโมง



• อุณหภูมิที่ 16 องศาเซ็นเซียส จำนวนเชื้อแบคทีเรียจะเพิ่มเป็นทวีคูณ ภายในเวลา 2 ชั่วโมง



• อุณหภูมิที่ 10 องศาเซ็นเซียส จำนวนเชื้อแบคทีเรียจะเพิ่มเป็นทวีคูณ ภายในเวลา 3 ชั่วโมง



• อุณหภูมิที่ 4 องศาเซ็นเซียส จำนวนเชื้อแบคทีเรียจะเพิ่มเป็นทวีคูณ ภายในเวลา 6 ชั่วโมง



• อุณหภูมิที่ 0 องศาเซ็นเซียส จำนวนเชื้อแบคทีเรียจะเพิ่มเป็นทวีคูณ ภายในเวลา 20 ชั่วโมง



• อุณหภูมิที่ - 2 องศาเซ็นเซียส จำนวนเชื้อแบคทีเรียจะเพิ่มเป็นทวีคูณ ภายในเวลา 60 ชั่วโมง















4.

ระดับอุณหภูมิขั้นต่ำที่ใช้ปรุงอาหารที่คนปลอดภัย




• เนื้อไก่ 75 องศาเซ็นเซียส


• เนื้อหมู 70 องศาเซ็นเซียส


• เนื้อวัว 70 องศาเซ็นเซียส


• ข้าว, ถั่ว 60 องศาเซ็นเซียส















5.

ระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมกับการจัดเก็บอาหารไว้นานๆ





• 60 องศาเซ็นเซียส หรือมากกว่าเล็กน้อย

เช่น การอุ่นอาหารที่วางขาย



• น้อยกว่า 5 องศาเซ็นเซียส

เช่น ในห้องเย็น ในตู้เย็น














6.

การละลายเนื้อสัตว์แช่แข็ง




ทำได้โดย



• แช่ในตู้เย็นช่องปกติจนน้ำแข็งละลาย



• แช่ในน้ำประปา แต่ไม่เกิน 2 ชั่วโมง



• ทำละลายด้วยเตาไมโครเวฟ



• ปรุงอาหารด้วยความร้อนแบบต่อเนื่อง จนเนื้อสัตว์สุกทั่ว














7.

เวลาในการรับประทานอาหาร




เวลาในการรับประทานอาหารที่ดี คือทันทีที่ปรุงอาหารสุก แล้วรับประทานทันที นับเป็นเวลาที่ดี เพราะเวลานั้นเชื้อแบคทีเรียยังไม่ทันเกิดขึ้น และอาหารจะมีรสชาติอร่อย



ไม่ควรจะรับประทานอาหารที่ปรุงเสร็จนานแล้วเกิน 4 ชั่วโมง โดยไม่ได้อุ่นให้ร้อนอีกครั้ง เพราะอาหารจะมีเชื้อแบคทีเรียมากเกินไปจนอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น ไม่ควรรับประทานอาหารเย็นที่วางค้างคืนไว้จนถึงรุ่งเช้า หากจำเป็นจะต้องรับประทาน ควรเช็คให้แน่ใจว่าอาหารไม่บูดเสีย และควรจะอุ่นให้ร้อนเสียก่อน













8.

เกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับเนื้อสัตว์




เรื่องรสชาติ..... ความร้อนจะเปลี่ยนแปลงไขมันและโปรตีนในเนื้อสัตว์ และเป็นเรื่องที่ดีทำให้กลิ่นและรสชาติของเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกอร่อยกว่าเนื้อสัตว์ดิบ แต่หาก ย่างหรือทอดนานเกินไป จนน้ำระเหยออกจากเนื้อสัตว์มาก เนื้อสัตว์หดตัวมาก เนื้อสัตว์ก็จะมีรสชาติไม่อร่อยเช่นเดียวกัน ทางที่ดีควรจะปรุงเนื้อสัตว์พอสุกเท่านั้น รสชาติจะอร่อย



เรื่องการย่อยอาหารของร่างกาย...... เนื้อสัตว์ที่หุงต้มพอสุก เนื้อจะนุ่มและย่อยง่าย เนื้อสัตว์ดิบและเนื้อสัตว์ที่มีไขมันมาก ร่างกายจะย่อยยาก



เรื่องคุณค่าทางโภชนาการ...... การปรุงเนื้อสัตว์เป็นอาหาร จะไม่มีผลมากต่อโปรตีนในเนื้อสัตว์ แต่จะมีผลมากต่อวิตามินในเนื้อสัตว์ เช่น วิตามินบี เมื่อปรุงอาหารนานๆ วิตามินบีจะถูกทำลายไป วิตามินบางตัวจะละลายอยู่ในน้ำซุป ดังนั้นการรับประทานเนื้อสัตว์ที่ดี จึงควรรับประทานน้ำซุปเข้าไปด้วย





การทำให้เนื้อสัตว์สุก



1. โดยการใช้ความร้อนแห้ง เช่น การย่าง และการ อบ เป็นการใช้อากาศเป็นตัวนำความร้อนไปทำให้โปรตีนแข็งตัว การทอด และการผัด เป็นการใช้น้ำมันเป็นตัวนำความร้อนไปทำให้โปรตีนแช็งตัว เหมาะกับเนื้อส่วนที่นุ่ม เช่น เนื้อไก่อ่อน เนื้อปลา เนื้อสัตว์บด เนื้อสันในของวัว เป็นต้น



2. โดยการใช้ความร้อนเปียก เช่น การต้ม การตุ๋น หรือการนึ่ง จะใช้น้ำร้อนหรือไอน้ำร้อนเป็นตัวนำความร้อน เหมาะกับเนื้อสัตว์ที่ค่อนข้างเหนียว เช่น เนื้อควาย เนื้อวัว เป็นต้น




การทำให้เนื้อสัตว์นุ่ม



1. โดยการหั่น ตัดเส้นใยกล้ามเนื้อให้สั้น และการตัดพังผืดและเอ็นแยกออก



2. โดยการใช้เอนไซม์ ช่วยให้เนื้อสัตว์เปื่อยเร็ว เอนไซม์ที่ช่วยให้เนื้อเปื่อยแบบสำเร็จรูปที่นิยมคือ พาเพอิน ถ้าจากธรรมชาติก็จากมะละกอ สับปะรด



3. โดยการเพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของโปรตีน การคลุกเกลือเล็กน้อยกับเนื้อสัตว์ จะทำให้เนื้อสัตว์นุ่มขึ้น เพราะเกลือจะช่วยทำให้โปรตีนอุ้มน้ำได้มากขึ้น และทำให้น้ำของเนื้อสัตว์ออกมาข้างนอกน้อยกว่าเนื้อที่ไม่ได้คลุกเกลือ แต่ควรจะใช้เกลือเพียงเล็กน้อย เช่น 1 ช้อนชาต่อเนื้อสัตว์ 1 ปอนด์ ... การเพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของโปรตีนอีกวิธีหนึ่งคือ การเปลี่ยน pH ของเนื้อสัตว์ การเพิ่มความเป็นเบสและลดความเป็นกรด จะช่วยทำให้เนื้อสัตว์สูญเสียน้ำน้อยลงในการหุงต้ม วิธีที่ใช้กัน เช่น หมักเนื้อในน้ำส้ม เติมใบมะขามลงไปเคี่ยวกับขาหมู เป็นต้น














หากท่านใดต้องการจะอ่านข้อมูลเพิ่มเติม ขอเชิญเปิดอ่านที่นี่



yyswim


yyswim@hotmail.com





Create Date : 19 สิงหาคม 2552
Last Update : 19 สิงหาคม 2552 0:05:03 น. 18 comments
Counter : 1913 Pageviews.

 
แวะมาอรุณสวัสดิ์วันสีเขียวค่ะ

อิอิอิ....นอนหลับฝันดีนะค่ะ

น่าทานมากเลยค่ะพี่ชาย..
ไม่ทานเนื้อวัวค่ะ..แต่ทานเนื้อหมู.ไก่นะ

งานเลี้ยงวันแม่บ้านพี่ชายดังมาถึงหัวใจคุณแคทเลยค่ะ
แบบปลาบปลื้มและซึ้งๆๆเลยค่ะ







โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:0:21:41 น.  

 
- หวัดดียามดึกครับ

- มาเชิญไปชม "เก็บตก(หล่น)" ครับ


โดย: พี่รี่+ต๊อก วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:0:29:58 น.  

 
เป็น blog ที่มีสาระ ให้ความรู แต่รูปอ่ะ น่ากินมากมากอ่ะ


โดย: พี่เอ๋ IP: 125.24.189.227 วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:6:15:42 น.  

 
เป็นความรู้ที่ย่อยง่ายดีนะคะ

ดูรูปน่ากิน แต่อ่านเรื่องแล้ว แหยงๆแบคทีเรีย

กลางวันวันนี้...คิดไม่ตกว่าจะกินอะไรดี

อาจจะเว้นเนื้อสัตว์ซักวันค่ะ...อิอิ


โดย: นักล่าน้ำตก IP: 111.84.60.15 วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:7:38:55 น.  

 
หวัดดีค่ะพี่สิน

อ่านเรื่องแบคทีเรียในเนื้อสัตว์แล้ว ทำเอาความอยากกินเนื้อลดวูบเลยค่ะ 5555

ตะก่อนกินข้าวกลางวันแถว ๆ ที่ทำงาน เบื่อด้วย เอียนด้วย คือนอกจากอาหารจะมันและเลี่ยนแล้ว เค้ายังไม่ค่อยเน้นผัก อาหารแต่ละอย่างเต็มไปด้วยแป้งกับเนื้อสัตว์ กินมาปีกว่าน้ำหนักมีแต่ขึ้น กับขึ้น

ตอนหลังป้าเดซี่เปลี่ยนกิจวัตรใหม่ คือเอาข้าวกล่องแบบเน้นผักมากินเอง บางครั้งก็เป็นชีวจิตไปเลย น้ำหนักลดไปหลายกิโลเลยค่ะ อย่างวันนี้มีลูกชิ้นปลาผัดขิง โอ้ย อยากให้ถึงพักเที่ยงเร็ว ๆ

แต่ก็อ่ะนะคะพี่สิน ป้าเดซี่ชอบกินเนื้อมากที่สุด แล้วรูปในบล็อกพี่ก็ชวนให้น้ำลายสอซะ ก็เลยไม่ได้ซีเรียส ความสุขของป้าเดซี่อยู่ที่การกินอ่ะค่ะพี่ ยอมรับหน้าด้าน ๆ อิอิ เลยเอานะ ทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำไป พอร่างกายมันปฎิเสธ เช่นแอบสิวขึ้น หรือคัดจมูกน้ำมูกไหลที ก็ไปทำดีท็อกซ์สวนล้างลำไส้ซะที

บล็อกนี้ได้เคล็ดลับการทำให้เนื้อนุ่มโดยคลุกเกลือนิดหน่อย ไม่เคยทำอ่ะค่ะพี่ ของป้าเดซี่ใช้นม น้ำมัน หรือ กะทิตลอด เดี๋ยวต้องลองใช้เกลือดูบ้างแล้วหละ


โดย: Oops! a daisy วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:8:16:09 น.  

 


คุณแคท คนงาม.... นานแล้วครับ ไม่ได้เจอะเจอ จะขึ้นบ้านใหม่เมื่อไหร่ ช่วยกระซิบผมด้วยนะ

งานวันแม่ที่บ้าน เข้ามาอ่านด้วยเหรอ อิ อิ ทางบ้านคุณแคท น้องชายทั้งสองคน นำอะไรมามอบให้บ้างครับ แล้วมีทานอะไรพิเศษกันบ้าง?

ขอบคุณครับที่กรุณามาเจิม


คุณต๊อก.คุณรี่ .....ตะกี้นี้ ผมแวะไปเยี่ยมที่บล็อกแล้วครับ แต่ปรากฏว่ารูปภาพ BG จะเป็นปัญหาสักอย่าง เลยทำให้อ่านเรื่องในบล็อกบ้านคุณต๊อกไม่ได้ครับ



ขอบคุณครับ พี่เอ๋



คุณอัยย์ .... หากไม่ทานเนื้อสัตว์ แล้วรู้สึกดี ก็หยุดทานบางวัน ขอเชียร์ครับ

ผมชอบทานส้มตำ อุ อุ แต่ขอรสจัด นิดนุง



ป้าเดซี่.... เชื้อแบคทีเรียจะมองไม่เห็น จะสังเกตได้โดยสังเกตที่ สีเปลี่ยน กลิ่นเปลี่ยน รสชาติบูด

ป้าเดซี่เก่งเรื่องการบ้านการครัว การเก็บเนื้อสัตว์ที่ถูกต้อง คงจะรอบรู้กว่าผมครับ

บล็อกวันนี้ เขียนขึ้นจากการอ่านแล้วนำมาเขียนนะครับ

ไม่ได้เกิดขึ้นจากประสบการณ์ตรง เพราะผมไม่เคยเป็นพ่อครัว

ข้อมูลแนวเคล็ดลับในครัว ที่จริง มีให้เขียนอีกครับ

แต่เกรงใจผู้รู้จริงอย่าง ป้าเดซี่ เลยชะงัก!!



โดย: yyswim วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:21:47:56 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

น่าทาน
ช่วงนี้ที่บ้านจะได้รับอภินันทนาการมาก
ตระกูลหมูเจ้าค่ะ
หมูยอ หมูแผ่น หมูกรอบ หมูหยอง หมูแดดเดียว
และข้าวขาหมู
ฟรีทั้งนั้นเลย
บางคนส่งมาทางไปรษณีย์อีกต่างหาก
หลับฝันดีค่ะพี่สิน


โดย: อุ้มสี วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:22:23:26 น.  

 
เป็นแม่บ้าน พ่อบ้าน อ่านบล็อกวันนี้แล้วได้ประโยชน์
มากมายเลยล่ะค่ะคุณสิน ... และสังเกตุจริงๆ ว่า เอ้อ จริงเลยค่ะว่า
อาหารบางอย่างเวลาหน้าร้อนแบบนี้เสียได้ง่ายๆ
ว่าแล้วอ่านบล็อกนี้ทำให้สังเกตุเกี่ยวกับเรื่องอาหารได้
เยอะขึ้นจริงๆ ค่ะ ..
.................


จริงๆ บล็อกต่อจากอันเก่าของตัวเองนี่ว่าจะเขียนเรื่อง
เกี่ยวกับเนื้อๆ อยู่พอดีเลยค่ะ เ ห็นภาพจากบล็อกของคุณสิน
เลยอยากได้บ้าง แถมยังมาทำให้หิวด้วยนะคะ
เพราะว่าเนื้อบางส่วนนี่แค่เห็นก็เหมือนว่าอยากคีบตะเกียบ
จ้วงแข่งจังเลยคะ น่าอร่อยจัง


โดย: JewNid วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:22:33:33 น.  

 


อ่านที่คุณพู่ คอมเมนต์ข้างบนว่า

"บล็อกต่อจากอันเก่าของตัวเองนี่ว่า จะเขียนเรื่องเกี่ยวกับเนื้อๆ อยู่พอดีเลยค่ะ เห็นภาพจากบล็อกของคุณสิน เลยอยากได้บ้าง"

อยากได้เหรอครับ ขอเชิญคุณพู่ คลิกเลือกภาพที่นี่ครับ

แล้วกดที่ previous หรือ next เพื่อค้นหาภาพเนื้อสัตว์ภาพอื่นๆ จะมีให้คุณพู่เลือกเยอะทีเดียว




โดย: yyswim วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:23:47:46 น.  

 


น้องอุ้ม....ผมอ่านคอมเมนต์แล้ว

โอ ลาภหมูหลายชนิดเลยนะนั่น

หมูปิ้ง หมูพะโล้ เสียดาย ไม่มีเนาะ ..ไม่งั้น ครบชุด

อภินันทนาการจากหลายคนเหรอ?



โดย: yyswim วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:23:59:16 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาบล็อคพี่สินที่ไหร่ได้ความรู้มหาศาลกลับไปทุกทีเลยครับ

เห็นภาพประกอบแล้วอยากไปกินสเต็กเนื้อจังเลยครับ

อิอิ

ปล. จะมาตามพี่สินไปอ่านตำนานผักคะน้าครับ

คลิกไปที่ ...

ตำนาน ... ผักคะน้า ... ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนเลย (จริง ๆ นะ)

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:0:36:51 น.  

 
หวัดดีสวย ๆ ครับพี่สิน

รูปประกอบบล็อกนี้น่ากินมากกกก แต่พออ่านเนื้อเรื่องแล้วใจหาย อะไรจะขนาดนั้น ทำเอาความอยากกินเนื้อสัตว์หดหายไปเยอะเลยอะ รูปเนื้อย่างน่ากินมากเลยอะ แต่พลไม่ค่อยกินเนื้อมาหลายปีละ แต่ก็มีแอบ ๆ บ้าง นาน ๆ ที แบบถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็กิน ส่วนมากจะกินหมู ไก่ ปลามากกว่า แต่ใจจริง ๆ ก็ยังอยากกินอยู่นะ เนื้อวัวเนี่ย พูดแล้วน้ำลายไหล


โดย: พล (aoigata ) วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:10:11:04 น.  

 
ขอบคุณมากๆ เลยค่ะคุณสิน ... เข้าไปดูลิงก์
ที่คุณสินแนะนำมาแล้ว รูปภาพเค้าเยอะจริงๆ ล่ะคะ
ยิ่งภาพอาหาร เห็นแล้วยิ่งกระตุ้นต่อมจริงๆ


โดย: JewNid วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:13:10:41 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่สิน
อ่านไป อ่านไป
ความสนใจของหนูมันดัน ไปตกอยู่ที่ภาพอาหารค่ะ
ท้องร้องเลย

..........
สมัยเรียนอยู่ศิลปากร
มีโอกาสซนๆ ไปปั่นจักรยาน ช่วงประมาณ ตี 3 ตี 4
ที่แถว ตลาดนครปฐมรอบองค์พระ
เป็นเวลาที่ เขียงหมู เค้ากำลังชำแหละหมูเลยค่ะ
เพื่อนมันก็ช่างซน พาปั่นไปดู โอ้แม่เจ้า
ไม่อยากกินเนื้อสัตว์ ไปเป็นเดือน
เพราะบางเจ้า เค้าก็มา เฉือนกันจากตัวตอนนั้นเลย
เอาแล้ว นึกขึ้นมาแล้วก็ เห็นภาพอีกแล้ว
แถมกลิ่น ก็ อื้อหือ ไม่ไหว
โอ้ย ไม่ไหว


โดย: แม่ภูมิ IP: 61.7.189.169 วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:19:46:24 น.  

 




พระนี้แรม 14 ค่ำเดือน 4

แสงเทียนที่ลิบหลี่คือความสว่างที่มีค่าในความมืดฉันใด...
แสงธรรมที่น้อยนิดคือสิ่งที่เตือนสติให้รู้ค่าในชีวิตมากมายฉันนั้น..




วันนี้..ก่อนนอนอย่าลืมไหว้พระนะค่ะ
ปล่อยจิตให้วาง..วางหัวลงหมอน..
หลับตาให้สนิทนะค่ะ
แล้วจะรู้สึกสบายนะค่ะคุณที่รัก
อนุโมทนาค่ะ
cattleya..







ค่ะพี่ชายคนดี..
ไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของคุรแคทหรอกค่ะ
5555555555555


ที่เห็นๆๆนะภาพลวงตา


มีความสุขนะค่ะพี่ชาย
งานบุญครั้งนี้อยากให้พี่ชายไปด้วยจังเลยค่ะ
มีมิตติ้งด้วยค่ะ..อยากให้ไปนะค่ะ

ระลึกถึงเสมอ
แคทรียา



โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:20:48:09 น.  

 
สาระล้วนๆค่ะ


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:22:48:30 น.  

 
แบคทีเรียมันขยายตัวเร็วจริง ๆ เลยนะคะ

มิน่าล่ะเวลากินอาหารหลังปรุงสุกใหม่ ๆ นี่อร่อยจริง ๆ จะรู้สึกถึงความสด โดยเฉพาะผัก

รูปเนื้อสัตว์ที่ปิ้ง ๆ ย่าง ๆ น่ากินมากเลยค่ะ


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:9:07:58 น.  

 
น่าทานมากค่ะ ชอบๆ


โดย: แอนน้อย IP: 202.143.164.218 วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:13:06:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
19 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.