วิชัย ศรีขวัญ
วิชัย ศรีขวัญ
ตำแหน่ง ปลัดกระทรวงมหาดไทย
บล็อกเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สอง ของบล็อกเรื่องชุดชาวเกาะสมุย ซึ่งจะมีทั้งหมด 5 เรื่อง เป็นการแนะนำชาวเกาะสมุย จำนวน 5 ท่าน บล็อกละ 1 ท่าน ทุกท่านเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี
ข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2552
วิชัย ศรีขวัญ ผงาดนั่งปลัดมหาดไทย
คณะรัฐมนตรี มีมติ เด้ง "พีรพล ไตรทศาวิทย์" ปลัดกระทรวงมหาดไทย มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี
พร้อมกับ มีมติแต่งตั้ง "วิชัย ศรีขวัญ" รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยแทน ตั้งแต่วันที่มีพระบรมราชการโองการโปรดเกล้าฯ
การเด้งปลัดกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งจาก นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย มีหนังสือ มท.เลขที่ 0100/0502 เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการ โดยมีเนื้อหาระบุว่า ด้วยกระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์ของทางราชการ
"วิชัย" เกิดเมื่อ 5 มีนาคม 2492 จบการศึกษารัฐศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรัฐศาสตร์มหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบหลักสูตรนักเรียนนายอำเภอรุ่นที่ 27 และหลักสูตรนักปกครองระดับสูง รุ่นที่ 31
ในอดีต เคยดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการปกครอง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และโยกมานั่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ล่าสุด ครม.แต่งตั้งนั่ง ปลัดกระทรวงมหาดไทย
วิชัยเป็นลูกน้ำเค็ม ชาวอ.เกาะสมุย ที่พ่อแม่มีอาชีพเดิมคือค้าขายมะพร้าว ก่อนที่จะหักเห มาทำธุรกิจรีสอร์ท และมีโรงแรมเฟิร์ส แห่งแรกของเกาะสมุย
จากชีวิตน้อยๆที่ อ.เกาะสมุย ต่อมาสอบเข้ามาศึกษาต่อปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เพราะตั้งใจจะเข้ามาเป็นนักปกครอง จนกระทั่งวันนี้ ชีวิตผงาดขึ้นนั่งสูงสุดในชีวิตข้าราชการกระทรวงมหาดไทย
ประวัติในวัยเด็ก
คุณวิชัย ศรีขวัญ เกิดที่อ่าวเฉวง (หมู่บ้านเฉวง) ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2492 (ปัจจุบันอายุ 60 ปี) เป็นบุตรคนที่ 5 ของนายเขียม และนางเยี่ยม ศรีขวัญ มีพี่น้องจำนวน 8 คน ร่วมบิดามารดา
1. นางอรพิน ศรีขวัญ
2. นางปนัดดา ศรีขวัญ
3. นางสาวมะลิ ศรีขวัญ
4. เรือโทสมโชค ศรีขวัญ
5. นายวิชัย ศรีขวัญ (ปลัดกระทรวงมหาดไทย)
6. นางถนอมศรี ศรีขวัญ
7. นางสาวฉวีวรรณ ศรีขวัญ
8. นายสมชาย ศรีขวัญ
บ้านของคุณวิชัย ที่อยู่อ่าวเฉวงสมัยโน้น การสัญจรยังไปมาไม่สะดวกเท่ากับปัจจุบัน ถนนหนทางเป็นดินทรายอัดแน่น บางตอนเป็นถนนลูกรัง แต่เป็นถนนแคบ รถจิ๊บต้องขึ้นเนินเขาสูงหลายลูก สมัยโน้นอ่าวเฉวงยังไม่เจริญ ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ยังไม่มีน้ำประปาใช้ ตลาดสดยังไม่มี โรงแรม หรือรีสอร์ตใดๆก็ยังไม่มี นั่นคือชีวิตในวัยเด็กของคุณวิชัย ศรีขวัญ
การศึกษา
- รัฐศาสตร์บัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- รัฐศาสตร์มหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
การฝึกอบรม
- หลักสูตรนายอำเภอ รุ่นที่ 27
- หลักสูตรนักปกครองระดับสูง รุ่นที่ 31
- หลักสูตรผู้บริหารระดับ 9 ของกระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2541
ประวัติการรับราชการ
พ.ศ.2515 - 2517 พนักงานสงเคราะห์ ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จังหวัดเชียงใหม่
กองสงเคราะห์ชาวเขา กรมประชาสงเคราะห์
พ.ศ.2517 - 2524 ปลัดอำเภอ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี,
ปลัดอำเภอ อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี,
ปลัดอำเภอ อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี,
ปลัดอำเภอ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พ.ศ.2524 หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ จังหวัดนครพนม
พ.ศ.2525 - 2528 ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย
พ.ศ.2528 - 2533 หัวหน้าสำนักงานจังหวัดระยอง
หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครสวรรค์
พ.ศ.2533 หัวหน้าฝ่ายสรรหาบรรจุแต่งตั้งและข้อมูลบุคคล สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย
พ.ศ.2534 หัวหน้าสำนักงานจังหวัดปราจีนบุรี
พ.ศ.2537 ผู้อำนวยการ กองตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย
พ.ศ.2538 ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ช่วยราชการสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย)
นักปกครอง 9 สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย
พ.ศ.2539 รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พ.ศ.2540 รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา (ช่วยราชการสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย)
พ.ศ.2541 ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย
พ.ศ.2544 ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท
พ.ศ.2547 ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี (ผลการประเมินของสำนักงาน ก.พ.ร ได้ คะแนนสูงสุดของประเทศ)
พ.ศ.2549 ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
พ.ศ.2550 อธิบดีกรมการปกครอง (แต่งตั้งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2550 ในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์)
พ.ศ.2551 รองปลัดกระทรวงมหาดไทย (แต่งตั้งเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2551 สมัยรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์)
พ.ศ.2552 ปลัดกระทรวงมหาดไทย
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก(ม.ป.ช.)
ชีวิตครอบครัว
คุณวิชัย ศรีขวัญ สมรสกับ คุณวิภาวี
และมีบุตรธิดา 2 คนคือ
1. นายวิทวัท ศรีขวัญ
2. น.ส.วิกันดา ศรีขวัญ
ข้างล่างนี้ นำมาจาก ข่าว ของ ไอเอ็นเอ็นนิวส์
ข่าวบอกว่า...
เรื่องความสัมพันธ์กับเทพเทือกนั้น วิชัย บอกว่า "รู้จักกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นคนจังหวัดสุราษฎร์ธานี เหมือนกัน แต่ไม่เคยร่วมงานกัน และยอมรับว่ามีการส่งสัญญาณแจ้งมาล่วงหน้าให้ดำรงตำแหน่งนี้"
ส่วนที่มีข่าวว่าสนิทกับ "พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน" ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่มีข่าวว่ารู้จักกัน ตอนที่ วิชัย เป็นผู้ว่าลพบุรี และพล.อ.สนธิ เป็น ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ที่ลพบุรี เรื่องนี้ วิชัย บอกว่า "สมัยผมเป็นผู้ว่าฯ ลพบุรี ผบ.หน่วยสงครามพิเศษ คือ พล.ท.ปมุข อุทัยฉาย ไม่ใช่ พล.อ.สนธิ ท่านย้ายออกไปแล้ว ผมมารู้จักท่านตอนหลัง สมัยท่านเป็น ผบ.ทบ.แล้ว พบกันเป็นครั้งคราว ไม่ได้สนิทกับผู้ใดเป็นการส่วนตัว แต่เรื่องการทำงานต้องประสานกันตามหน้าที่"
สิ่งที่จะทำเมื่อได้เป็นปลัดมหาดไทยเต็มตัว วิชัย บอกว่า "ทันทีที่ได้ทำหน้าที่ จะรีบสานต่อนโยบาย 9 ข้อของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่มอบไว้ แต่ยังไม่คิดถึงขั้นควบคุมกลุ่มคนเสื้อแดง หรือโยกย้ายข้าราชการ เพื่อเป็นฐานเสียงให้รัฐบาลในการเลือกตั้ง"
ไอเอ็นเอ็น สัมภาษณ์ "วิชัย ศรีขวัญ" สั้นๆ หลังรู้คำสั่งแต่งตั้งได้ไม่นาน
@ก่อนหน้านี้ไม่ได้คุยกับสุเทพมาก่อนใช่ไหมเรื่องการโยกย้าย
ไม่ได้คุย ไม่ทราบ คงไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง เป็นเรื่องงานของกระทรวงมากกว่า
@การโยกย้ายนี้คล้ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องของข้าราชการ
ความจริงงานระดับกรม ระดับ อธิบดี จริง ๆ แล้วก็ต้องเกี่ยวกับการเมือง ที่ผมตอบทุกฝ่ายว่า ฝ่ายการเมืองเป็นผู้ออกนโยบาย แล้วให้นำนโยบายเหล่านั้นให้ไปทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน อย่างนี้มากกว่า แต่ว่าถ้าไปทางการเมือง คงไม่ใช่
@ถ้าเกิดอนาคตมีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็พร้อมที่จะรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เหมือนกัน
จริงๆ แล้วถ้าใครรู้จักผมดี จะรู้ว่าผมไม่ยึดมั่น ไม่รู้สึกอย่างไร คือการโยกย้ายผมนี่ มันเป็นเรื่องที่ผ่านมาก็ดีบ้างไม่ดีบ้าง เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว คือทำงานให้ดีที่สุด แต่ว่าจะสำเร็จอย่างไรนั้น ให้เป็นเรื่องของงานมากกว่า
@จากนี้ไปแนวการทำงาน หรือบางอย่างที่อาจจะแตกต่างจากปลัดคนเก่า มีบ้างไหมพอที่เห็นเป็นรูปธรรม
จริง ๆ แล้วงานของกระทรวง เป็นงานลักษณะสำคัญอยู่ 3 ลักษณะ คือหนึ่งงานที่เป็นหน้าที่ประจำภารกิจของกระทรวง หรือจังหวัดที่ต้องทำอยู่แล้ว อันที่สองคืองานเร่งด่วนที่ผู้เกี่ยวข้องก็คือให้บริการประชาชนที่งานกระทรวงเห็นว่าเป็นงานเร่งด่วน ส่วนงานที่ทำคืองานนโยบาย ของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย เพราะฉะนั้นในการทำงาน ในทุกเรื่องที่ผมทำ คือตั้งแต่ทำแผนที่กลยุทธ์ในการทำงาน มีเป้าประสงค์ มี ตัวชี้วัด มีกระบวนการ ทุกอย่างต้องเป็นระบบตรวจสอบได้ ติดตามได้
@จากประวัติท่าน ท่านจะคัดเลือกคนที่ทำงานดี 5 เปอร์เซ็นต์ขึ้นมาใช้งานแทน
คำว่าคนดี คนเก่งก็คือ ในองค์กรทุกแห่งมันมีหมด คือถ้าผมได้ทำ คือการทำงานในแนวราบ ให้ทุกคนมีโอกาสได้ร่วมกันทำงานไม่ว่าเขาจะ เป็นซี 3 ซี 2 ซี 4 ก็ตามก็จะมาช่วยกัน แต่คุณต้องสละเวลากลางคืนก็ต้องมาช่วยทำงาน ช่วยกันคิด ส่วนมากคนดีไม่บ่น เพราะว่าตนเองต้องมาทำงานมากกว่าคนอื่น ที่ผ่านมาเป็นผู้ว่า 3 จังหวัด และก็อยู่กรมการปกครองนั้นค่อนข้างจะสำเร็จจากคนเหล่านี้ เขาจะได้การอบรม พวกนี้ เขาเก่งอยู่แล้ว เขาผ่านการอบรมต่างจากคนอื่น แต่อย่างไรก็ตามคนเหล่านี้ก็ไม่ได้มีสิทธิพิเศษอะไรมากกว่าคนอื่น
@เพราะฉะนั้นก็เลยมองว่าอาจมีการขยับในส่วนล่างๆ บ้างในบางส่วน
ไม่ได้ขยับคน เอาคนที่ทำงานอยู่ไม่ได้มาทำงานกับผมนะ เช่น สัปดาห์หนึ่งก็หนึ่งฝ่าย ทุกคนมาคุยกัน ทุกคนคอยเฝ้าระวังว่าจะต้องทำอะไรเร่งด่วนให้ คือถ้าคนดีและคนเก่งเขาจะไม่เถียงหรอกว่าตัวเองทำงานมากกว่าคนอื่น ถ้าคนไหนบ่น คนนั้นไม่ใช่คนดีและคนเก่ง
@กระทรวงมหาดไทยมีงบประมาณมาก จะวางตัวอย่างไร
เวลาทำงานผมจะไม่ได้มองตรงงบประมาณเป็นหลักนะ ผมมองความจำเป็นของเรื่องนั้นเป็นหลัก ความเยอะต่างกัน และเวลาเราทำงานกัน งบอะไรก็ได้ที่ทำ อย่างวันนี้ผมก็ประชุมแล้ว ทุกเรื่องต้องมีที่ปรึกษามีแผนงานโครงการ ตัววัดที่ชัดเจน ผมเชื่อมั่นทุกเรื่องที่ทำงานประจำหรือว่างานที่เป็นยุทธศาสตร์ รวมทั้งการใช้งบพิเศษเหล่านั้น จะต้องชัดเจน ชัดเจนตั้งแต่วันแรกที่เราคุยกัน ก็ถกเถียงกันนานหน่อยในเรื่องวางแผน ก็จะดีขึ้น
ข้างล่างนี้ นำมาจาก ข่าว ของ มติชนรายวัน
ข่าวบอกว่า...
"วิชัย" เป็นทายาทของผู้บุกเบิกโรงแรมแรกแห่งเกาะสมุย ชื่อ "เฟิร์ส บังกะโล บีช รีสอร์ท"
เพียงแค่ชื่อ ก็รู้ว่าต้องเป็นแห่งแรก
"วิชัย" เล่าที่มาของรีสอร์ทแห่งนี้ว่า ชีวิตในครอบครัวไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ตั้งแต่ในอดีตทุกๆครอบครับที่อาศัยอยู่บนเกาะสมุย มีฐานะที่ใกล้เคียงกัน ทุกคนประกอบอาชีพสวนมะพร้าวและเรือประมง
ด้วยสายเลือดลูกประมง ทำให้ "วิชัย" รักที่จะออกเรือไปจับปลา ซึ่งแต่ละครั้งเขาออกไปนานกว่า 6 เดือน ทำให้พ่อแม่เป็นห่วงว่าจะเสียการเรียน แล้วก็เป็นจริง
"ผมออกเรือไป 6 เดือน พอกลับเข้าฝั่ง ปรากฏว่าโรงเรียนที่มีอยู่ 3 แห่ง บนเกาะสมุย เปิดรับสมัครไปหมดแล้ว พ่อจึงพาผมไปหาหลวงลุงซึ่งเป็นพี่ชายของพ่อ หวังว่าจะสามารถหาที่เรียนให้ได้"
"หลวงลุงได้ฝากกับพระชื่อดัง ให้ไปเรียนที่ จ.นครนายก ซึ่งพ่อได้ฝากให้ผมไปกับเรือเดินทะเล ไปลงที่ปากน้ำ และนั่งรถไปที่นครนายก และเข้าเรียน ม.1- ม.2 จากนั้นได้เข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ"
ระหว่างที่เรียนอยู่ในกรุงเทพฯ ได้เกิดพายุถล่มแหลมตะลุมพุก จ.นครศรีธรรมราช ปี 2505 ทำให้ชาวบ้านอพยพไปอยู่บนที่สูง เหลือเพียงพ่อและแม่ที่ยังอาศัยที่เดิม ต่อมาปี 2508 มีชาวต่างประเทศซึ่งเป็นหนุ่มสาว 2 คน สะพายกระเป๋าแบ๊คแพ็ค มาขออาศัยค้างคืนที่บ้าน ซึ่งพ่อและแม่ก็ให้การต้อนรับและดูแลเป็นอย่างดี
นั่นคือจุดเริ่มต้นของการทำกิจการโรงเแรมแห่งแรก
"จากนั้นมีชาวต่างชาติมาพักที่บ้านมากขึ้นเรื่อยๆ พ่อกับแม่ก็ทำกับข้าวให้กิน ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมือง ฝรั่งก็ต้องกินแบบนั้น ตอนหลังๆเขาก็ให้เงิน ไม่นานฝรั่งก็มาเที่ยวเต็มบ้านผมเลย พ่อเลยสร้างโรงนอนให้กับนักท่องเที่ยวผู้ชาย ส่วนผู้หญิงให้นอนที่บ้านเหมือนเดิม เพราะเป็นห่วงพวกผู้หญิงเหมือนที่ห่วงลูกตัวเอง"
พ่อและแม่ต้อนรับฝรั่งที่เดินทางมาพักแรมนานนับ 10 ปี
"ช่วงนั้นมีการตัดถนนผ่านที่ดินของครอบครัวผม และตัดต้นมะพร้าวออกเพื่อทำถนน ทำให้มีต้นมะพร้าวถูกตัดเป็นจำนวนมาก พ่อจึงเลื่อยไม้มะพร้าวมาสร้างเป็นกระท่อมเล็กๆให้ชาวต่างชาติอยู่ และมีชาวต่างชาตินำปีกไม้มะพร้าว มาแกะสลัดคำว่า First ด้วย"
พอเป็นรีสอร์ท นายอำเภอมาบอกให้จดทะเบียนให้ถูกต้อง ครอบครัวของเราจึงเลือกที่จะใช้ชื่อ เฟิร์ส รีสอร์ท จึงถือเป็นที่มาของโรงแรมแห่งแรกของเกาะสมุย
แต่เมื่อลูกๆ หลายคนในครอบครัว ต้องไปเรียน ไปรับราชการ แต่มีบางคนที่เสียสละอยู่กับพ่อแม่
"ตอนปี 2530 ผมจบรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และได้บรรจุเป็นหัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครสวรรค์ จึงให้น้องสาวที่เป็นพยาบาล ลาออก แล้วมาฝึกงานด้านโรงแรมที่นครสวรรค์ ส่วนผมก็ต้องอ่านหนังสื่อที่เกี่ยวกับการบริหารงานโรงแรมทุกอย่าง ส่วนน้องที่ไปฝึกงานก็ให้เป็นคนดูแลแม่บ้าน ตั้งแต่เรื่องปูผ้า ปูที่นอน ทำความสะอาด จัดห้อง ดูแลเรื่องอาหาร ดูแลทุกอย่าง"
เมื่องานของครอบครัวไปได้ด้วยดี ทุกคนจึงกลับไปช่วยกันทำงาน เหลือเพียง "วิชัย" ที่ยังคงรับราชการอยู่ จนธุรกิจขยายใหญ่โต
โรงแรมเฟิร์ส เป็นเสมือนกงสีใหญ่ ที่ต่อมามีการขยายกิจการทั้งสร้างโรงแรมใหม่ๆขึ้น และร่วมลงทุนกับต่างชาติ
"พ่อจะเป็นคนดูแลทุกอย่าง ทั้งความปลอดภัย อาหารการกิน คอยตัดต้นไม้ที่ขวางทางเดิน ดูแลคนที่ลงเล่นน้ำเมื่อเห็นว่าเริ่มจะมืด พ่อก็จะเรียกให้ขึ้นจากน้ำ เพราะกลัวจะมีอันตราย ทั้งๆที่พูดภาษอังกฤษไม่เป็น จนกระทั่งท่านเสียชีวิต พวกเราต้องหาคนมาทำหน้าที่แทน เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากคนที่มาพักพูดกันปากต่อปาก จนมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาตลอดทุกฤดูกาล"
ทำให้ "เฟิร์ส" เป็นโรงแรมที่โด่งดังและรู้จักกันอย่างแพร่หลายของชาวต่างชาติ จากอดีตจนปัจจุบัน
หมายเหตุ 1 จาก จขบ. : บุคคลที่มีชื่อเสียง ที่มีอายุครบ 60 ปีในปีนี้ (เกิดปี พ.ศ.2492)
ตรวจสอบข้อมูลได้ที่นี่ ได้แก่
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา, กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ, เจสซิกา แลงจ์ (เจ้าของรางวัลออสการ์ 2 รางวัล), ดารุณี กฤตบุญญาลัย, ดู๋ ดอกกระโดน, พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร, เทพ โพธิ์งาม,
ประภัตร โพธสุธน, ปิยะณัฐ วัชราภรณ์, พระราชธรรมนิเทศ (พยอม กลฺยาโณ), พลากร สุวรรณรัฐ, มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช, เมอรีล สตรีป, รณ ฤทธิชัย, ริชาร์ด เกียร์, ลลิตา ฤกษ์สำราญ,
วรรณรัตน์ ชาญนุกูล, วิชัย ศรีขวัญ, สุรินทร์ พิศสุวรรณ, สุเทพ เทือกสุบรรณ, เสกสรรค์ ประเสริฐกุล, รศ.ดร.เสรี วงษ์มณฑา, อาร์แซน เวนเกอร์ (ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล), ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม, และ ไลโอเนล ริชชี
หมายเหตุ 2 จาก จขบ. : ผมไม่รู้จักกับคุณวิชัย แต่ผมรู้จักกับญาติสนิทของคุณวิชัยในบ้านที่อ่าวเฉวง เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเดียวกันกับผมนาน 6 ปี นั่งใกล้ชิดกันมาตลอด เป็นคนนิสัยดีครับ และเรียนเก่งกว่าผม
บล็อกชุดเรื่อง ชาวเกาะสมุย เรื่องที่สองนี้ เป็นข้าราชการ
สำหรับเรื่องที่สาม จะเป็นชีวิตชาวเกาะสมุย ในวงการศิลปินนักร้องนักแต่งเพลงนักคิดนักเขียน
เพียงเอ่ยชื่อ หลายๆคนจะรู้จัก ..ขอแย้มว่าเป็น สมาชิก วงเฉลียง
อุ๊บ... ไม่ยักกะ มี เสียงกรี๊ด
yyswim
yyswim@hotmail.com
Create Date : 18 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 18 กรกฎาคม 2552 22:59:46 น. |
|
19 comments
|
Counter : 5381 Pageviews. |
|
|
|
ชอบครับชีวิตชาวชนบทต่างจังหวัด
น่าศึกษา เป็นความรู้้ดี