ถนนสายนี้มีตะพาบโครงการที่ 74"รอยยิ้ม"
ถนนสายนี้มีตะพาบโครงการที่ 74"รอยยิ้ม" โจทย์โดย จขบ.เอง ให้เขียนอย่างไรก็ได้ตามใจปราถนา ขอตั้งชื่อตอนนี้"ในรอยยิ้มยังมีความหวัง" ในรอยยิ้มยังมีความหวัง ถ้าดอกกุหลาบแสดงถึงความรัก รอยยิ้มคงแสดงถึงมิตรภาพ มิตรภาพที่บอกว่ายินดีที่ได้พบและรู้จักกับคุณ และเราเป็นเพื่อนกันนะ คนไทยยิ้มให้กันเสมอเมื่อเจอกัน จนเป็นที่มาของคำว่าสยามเมืองยิ้ม ที่"เรายิ้มให้กัน"ไม่ใช่เราไม่มีอะไรจะพูด ไม่ใช่"คนไทยสมองฝ่อ"แบบที่เขาชอบค่อนขอดกัน และไม่ใช่พูดภาษาฝรั่งไม่ได้ก็เลยได้แต่ยิ้มแทนคำตอบ "รอยยิ้ม"ไม่ได้เกิดจากเหตุผลตื้นๆว่า"เราไม่มีอะไรจะพูด" แต่เพราะ"รอยยิ้ม"นี้มาจากใจที่มีความสุขและร่มเย็นบนผืนดินไทย เป็นวัฒนธรรมในการทักทายกัน ที่เกิดจากความอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลาในนามีข้าว บ้านเมืองสงบสุขร่มเย็นมานานแสนนาน เราจึงมองทุกคนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเสมือนเป็นมิตร ที่ควรให้การยิ้มต้อนรับด้วยมิตรไมตรีต่างหาก เราอาจเคยชินจนไม่ค่อยจะรู้สึกพอใจที่อยู่เมืองไทยสักเท่าไหร่ จนเมื่อเราจะไปต่างประเทศที่ไม่มี"รอยยิ้ม"และ"น้ำใจ"ให้เห็น เราถึงจะรู้ว่า"ไม่มีเมืองไหนน่าอยู่เท่าเมืองไทยของเรานี้อีกแล้ว" เราอยู่ในเมืองไทย เป็นประเทศเดียวในโลก ที่ถือว่าทุกคนเป็นญาติเป็นครอบครัวเดียวกัน เราเรียกคนที่อายุมากกว่าว่าพี่ คนอายุน้อยกว่าว่าน้อง เรียกผู้ใหญ่ว่า คุณป้า คุณน้า คุณอา คุณลุง... แล้วเราก็ส่งยิ้ม ^^ ยิ้มให้กับคนที่เราพูดอย่างอบอุ่น เสมือนเราเป็นญาติกันจริงๆ เรามีความสุขในบ้านหลังใหญ่ที่มีความแตกต่างทั้งเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม ที่เราเรียกว่า ประเทศไทย ด้วยความเข้าใจและรอยยิ้มที่เรามีให้กันเสมอมา การยิ้มและยอมรับกันและกันคือวิธีที่ชาติไทยดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุข ท่ามกลางความแตกต่างทุกรูปแบบตั้งแต่สมัยโบราณ มีความแตกต่างหลากหลายเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ ต่างความเชื่อ ต่างศาสนา ต่างประเพณีวัฒนธรรม ประเทศไทยเคยเป็นศูนย์กลางการค้า และการเดินเรือ ที่เจริญรุ่งเรืองสืบต่อกันมานานนับศตวรรษ รอยยิ้มประสานความแตกต่างของสังคม เหมือนน้ำที่ประสานแผ่นดินทั้งผืนให้เป็นแผ่นเดียวกัน แผ่นดินที่มีทั้ง กรวด หิน ดิน ทรายผสมปนเปกันอย่างหลวมๆ ไม่ให้แตกแยกเป็นฝุ่นผงธุลี เป็นทะเลทรายอันร้อนแล้งไร้ผูู้คนอาศัย มีคนบอกว่าเราควรเหมือนประเทศโน้น ประเทศนี้ ควรขยัน ควรมีวินัย มีกฎระเบียบ ควรทำสิ่งต่างๆให้เหมือนกับประเทศที่เจริญแล้ว แล้วประเทศเราจะพัฒนาก้าวไกลไปยิ่งกว่าชาติใดๆ มองดูเผินๆเหมือนจะจริงตามที่เขาว่า แต่ถ้ามองดูที่มาที่ไปของสังคมไทยแล้ว มันจะเป็นจริงหรือ? แต่ไม่ว่าจะจริงหรือไปไม่ ผมก็เริ่มจะเห็นว่า เราเริ่มทำได้บ้างแล้ว และรู้สึกว่าสังคมกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล ที่ยูเทอร์นกลับรถเช้าวันหนึ่ง ผมขับรถไปทำงานตามปกติอากาศกำลังดี รถมอเตอร์ไซด์สองคัน คันหน้าผู้ชายผมสั้น รถเก่าๆ ขับไปช้าๆ คันหลังผู้ชายผมยาวรถรุ่นใหม่ใส่เสื้อคลุมอย่างหล่อ ขับไล่ตามมาจนทัน แล้วผู้ชายผมยาวก็เรียกคันหน้าให้จอด พร้อมกับชี้หน้าด่าอยู่พักใหญ่ พอคนผมสั้นฟังเข้าใจว่าด่าเรื่องอะไรแล้ว ก็เงื้อกำปั้น เข้าชกคนผมยาวทันที แถมยังตรงเข้าล็อกคอคมผมยาวจนหมดทางสู้ ผมยูเทอร์นกลับรถมองมาแล้วก็ใจหาย ไม่รู้ว่าความถูกผิด หรือเหตุผล ในการด่าหรือกำปั้นใครจะชนะใครกันแน่ นี่ถ้ามีอาวุธติดตัวมาผมว่าคงได้ลงข่าวหน้าหนึ่งแล้วกระมัง ที่ยูเทอร์นที่เดิม ต่อมาไม่กี่วัน หญิงสาวขับมอเตอร์ไซด์มาอีกฝั่งตรงข้ามกำลังจะกลับรถ แล้วรถก็สั่นล้มเพละลงไปต่อหน้าต่อตารถผมที่กำลังรอยูเทอร์นอยู่ ผมก็เลยรอจอดดูสักพักเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี เธอยกรถไม่ไหวเพราะเจ็บข้อมือ สักพักคนงานขุดท่อประปา เนื้อตัวมอมแมม ก็รีบวิ่งมาพร้อมกับรอยยิ้มฟันขาวมาแต่ไกล สอบถามอาการว่าเป็นอย่างไร แล้วรีบยกรถให้เธอจนเธอขับไปต่อได้ ที่เขาทำไปนั้น เขาทำด้วยน้ำใจโดยไม่ต้องมีเหตุผลใดๆ มาประกอบด้วยซ้ำไป ผมแอบมองด้วยความชื่นชม สังคมกำลังไปสู่เหตุผล ความถูกต้อง ผลประโยชน์ทางธุรกิจ สังคมกำลังไปสู่ความเจริญทางวัตถุ สังคมกำลังไปสู่การเปลี่ยนแปลง คนแต่ละคนล้วนเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก อยากได้ อยากมี อยากเป็น อยากให้ทุกอย่างถูกใจตัวเอง จิตใจของผู้คนหยาบและต่ำลงโดยไม่รู้ตัว สวนทางกับวัตถุที่เจริญขึ้น รอยยิ้ม น้ำใจ มิตรภาพ ค่อยๆจางไปจากสังคมไทย บ่อยครั้งที่ผมเข้าไปซื้อของในร้านที่ลูกจ้างไม่ยิ้ม ไม่มองหน้าลูกค้า ผมถามคำหนึ่งเขาก็ตอบคำหนึ่ง มีอาการหน้าบูดหน้าบึ้งประกอบด้วย ผมยืนงงๆพร้อมสงสัยว่า เรามาสร้างความไม่พอใจให้กับเขาตั้งแต่ชาติปางไหน? ผมต้องรีบหุบปาก ไม่กล้าซักถามอะไรมาก ทำตัวลีบๆ รีบจ่ายเงินแล้วเดินออกมาอย่างรวดเร็ว "โรคหน้าบูด"ที่เป็นโรคติดต่อรักษาไม่หายจะเริ่มเป็นในเด็กวัยรุ่น และเป็นมากขึ้นตามอายุและตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีขึ้น โดยมีความเจริญทางวัตถุเป็นพาหะ เกิดขึ้นและแพร่กระจายอยู่ทั่วไป สร้างความอึดอัดในแก่ผู้พบเห็น ยุคกำลังเปลี่ยนไป คนก็กำลังเปลี่ยนไปตามยุคสมัย คนรุ่นใหม่ที่โตมากับสังคมที่มีแต่คนเอาเปรียบกัน มีโลกส่วนตัวสูง มีมนุษย์สัมพันธ์ที่แย่ลงๆรอยยิ้มช่วยสร้างสถาบันในสังคมให้มีคุณค่า แต่รอยยิ้ม ค่อยๆจางจางไปจากใจของพวกเรา รอยยิ้มและความรักของพ่อแม่ คือกำลังใจให้ลูกๆค่อยๆเข้มแข็ง และเติบโตเป็นคนดีในสังคม รอยยิ้มและความเมตตาของครูทำให้ศิษย์มีความรู้ความเข้าใจ ในวิชาอาชีพและมีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตในอาชีพของตน รอยยิ้มที่มาจากจิตใจที่งดงามของหญิงสาว ก่อเกิดความรักให้เกิดขึ้นแก่ชายเมื่อแรกได้พบเห็น โดยไม่ต้องมีเหตุผลว่า"ทำไม?"เขาถึงรักเธอด้วยซ้ำไป รอยยิ้มของคู่ชีวิต ก่อเกิดกำลังใจในการสร้างฐานะ สร้างครอบครัวได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย รอยยิ้มของลูกทำให้พ่อแม่อบอุ่นใจ เติมความฝันและพลังในการมีชีวิตอยู่ต่อไปจนวัยชรา รอยยิ้มของคนไข้ ที่ให้กับคุณหมอ คุณพยาบาล คือรางวัลอันมีค่าสูงสุดที่เราตอบแทนให้แก่กันและกัน ก่อเกิดแรงใจให้ทำการรักษาคนไข้ ได้อย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย ถ้าจะต้อง"สูญเสีย"สิ่งใดจากสังคมไทยไปละก้อ ขออย่าให้สูญเสีย"รอยยิ้มแห่งมิตรภาพ"นี้ไป เพราะหากไม่มี"รอยยิ้ม"เหลืออยู่แล้ว รากเหง้า วัฒนธรรมความเป็นไทยจะสูญสลาย สังคมนี้จะไม่มีอะไรเหลืออยู่อีกเลยคนสมัยนี้เอารอยยิ้มมาเป็นเหตุผลกันมากขึ้น บางคนรอยยิ้มและความสัมพันธ์นี้หมายถึงผลประโยชน์ทางธุรกิจขายตรง ถ้าไม่ซื้อของของเขา เขาก็ไม่ยิ้มให้ บางคนรอยยิ้มหมายถึงการที่คุณต้องมาประจบ มาเอาอกเอาใจฉัน ถ้าคุณไม่ทำแบบนี้ฉันไม่ยิ้มให้ บางคนรอยยิ้มหมายถึงอำนาจ คือการควบคุมฝ่ายตรงข้าม ว่าคุณมันคนละระดับกับผม คุณต้องเคารพผม คุณต้องทำตามคำสั่ง ของผม ถ้าคุณไม่ทำตามผมไม่ยิ้มให้ เพราะรอยยิ้มคือความสัมพันธ์ คือมิตรภาพ คือสิ่งมีค่าสูงสุดที่มนุษย์ แสดงต่อกัน มันหมายความว่าผมใส่ใจคุณ เราเป็นเพื่อนกัน เรายังแคร์ความรู้สึกของกันและกันอยู่อย่านำรอยยิ้มมาเป็น"อาวุธ" จี้เอาความ"เป็นมิตรเป็นเพื่อน" เป็นตัวประกัน เพื่อต่อรองเอา"ข้อเรียกร้อง"ให้กับตัวเอง เพราะถ้าทำอย่างนั้นคุณกำลังทำตัวเป็นผู้ร้าย จิตใจโหดร้ายต่อความห่วงใย ของคนที่แคร์คุณ สุดท้ายคุณนั่นแหละจะไม่เหลือเพื่อนอีกเลย เพราะรอยยิ้มเหมือนกระจกเงาที่สะท้อนการแสดงออกของตัวเราเอง ไหว้ท่าน ท่านย่อมไหว้ตอบ น้ำใจย่อมแลกด้วยน้ำใจ เรายิ้มไป เขาก็ยิ้มตอบกลับมานอกจาก"รอยยิ้มและไมตรีจิต"ที่เราให้ไปก่อนแล้ว ไม่มีคำร้องขอ หรือ การกระทำใดๆที่ทำแล้วจะได้รอยยิ้มกลับคืนมา เพราะไม่มีใครไม่มีความทุกข์ ไม่มีใครไม่เคยผิดหวัง ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาด ไม่มีใครไม่เคยสูญเสีย ไม่ว่าจะดีร้ายอย่างไรก็ตาม.... ...ทุกชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปให้ได้... หลังจากช่วงเวลาเลวร้ายได้ผ่านพ้นไปแล้ว ไม่มีอะไรที่ทำให้เรายิ้มไม่ได้ ยิ้มรับมันและให้มันผ่านไปเป็นบทเรียนที่มีค่ากับชีวิตชีวิตที่สมบูรณ์ไม่ใช่ชีวิตที่ไม่เคยมีความทุกข์ แต่คือชีวิตที่ผ่านสุขและทุกข์มาแล้ว จนมั่นคงและเข้มแข็งต่างหาก ยิ้มเมื่อมีสุข ยิ้มมีเมื่อมีทุกข์ ยิ้มให้กับความสำเร็จ ยิ้มให้กับความล้มเหลว ยิ้มให้กับความถูกต้อง ยิ้มให้กับความผิดพลาด "รอยยิ้ม"คือการยอมรับ คือการเรียนรู้และเข้าใจโลกตามที่มันเป็นจริง เมื่อเรา"ยิ้มสู้"ได้อยู่ นั่นหมายถึงชีวิตของเรายังมีคุณค่า ยังมีความหมาย ยังมีพลังที่จะสู้ชีวิตต่อไป ยังมีอนาคตสดใส ไม่มืดมนนะครับ ^^ ขอบคุณที่โลกนี้ยังมีรอยยิ้ม ขอบคุณทุกรอยยิ้มที่สร้างเราจนเป็นเราทุกวันนี้ ขอบคุณรอยยิ้มจากครอบครัวที่ทำให้เรามีทุกๆวันที่งดงาม ขอบคุณรอยยิ้มของเพื่อนๆทุกคนในบล็อกแก๊งค์แห่งนี้ ขอบคุณรอยยิ้มทุกรอยยิ้มในสังคมไทย ที่ช่วยทำให้สังคมไทยนี้น่าอยู่VIDEO เพลง"ยิ้มให้กับความผิดหวัง" ของนิโคร เทริโอ เนื่อหาเข้ากับเรื่องที่เขียนนี้ได้อย่างลงตัว เป็นเพลงไพเราะความหมายดีๆนะครับ ^^ เนื่องจากช่วงนี้ จขบ. ยังยุ่งกับงานประจำอยู่มากๆ ขอปิดกล่องเม๊นท์ไปก่อนนะครับ แล้วเจอกันงานตะพาบคราวหหน้า 25 ก.พ.นี้ ตรงกับวัน มาฆบูชานะครับ ขอให้เพื่อนๆทุกคนมีความสุข สดชื่นสมหวังกับเทศกาลวาเลนไทน์ ดูแลสุขภาพหน่อยนะครับ อากาศเปลี่ยนบ่อยมากๆช่วงนี้ ^^
Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2556 16:20:38 น.
87 comments
Counter : 4110 Pageviews.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:22:46:19 น.
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:1:23:08 น.
โดย: ธูปหอม IP: 110.77.232.156 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:5:48:22 น.
โดย: ธูปหอม IP: 110.77.232.156 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:5:49:57 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:7:22:14 น.
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:7:31:10 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:8:40:57 น.
โดย: ชีริว วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:9:09:30 น.
โดย: panwat วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:9:19:38 น.
โดย: พรไม้หอม วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:9:25:48 น.
โดย: JewNid วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:10:49:05 น.
โดย: mastana วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:07:57 น.
โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:57:23 น.
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:13:36:10 น.
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:15:02:55 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:02:38 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:19:04 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:22:18:56 น.
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:22:37:15 น.
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:23:05:36 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:23:07:19 น.
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:8:36:39 น.
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:9:30:25 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:04:32 น.
โดย: พรหมญาณี วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:26:23 น.
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:40:19 น.
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:49:06 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:14:58:57 น.
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:16:19:34 น.
โดย: คมไผ่ วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:20:33:59 น.
โดย: คมไผ่ วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:22:05:50 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:23:05:21 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:1:12:59 น.
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:1:49:01 น.
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:8:28:30 น.
โดย: พรหมญาณี วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:10:01:52 น.
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:10:22:39 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:11:39:02 น.
โดย: เสี่ยวเฟย วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:08:36 น.
โดย: tifun วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:14:11:43 น.
โดย: phunsud วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:19:00:02 น.
โดย: ชีริว วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:19:25:04 น.
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:24:53 น.
โดย: mastana วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:47:31 น.
โดย: mastana วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:49:42 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:22:02:28 น.
โดย: mastana วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:0:09:17 น.
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:4:55:50 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:7:56:40 น.
โดย: พรหมญาณี วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:11:03:37 น.
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:15:47:52 น.
โดย: phunsud วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:18:55:42 น.
โดย: พรไม้หอม วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:20:41:21 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:31:23 น.
โดย: NENE77 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:53:15 น.
โดย: pantawan วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:22:55:17 น.
โดย: mastana วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:1:03:57 น.
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:1:14:04 น.
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:2:02:00 น.
โดย: ญามี่ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:7:04:09 น.
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:7:46:14 น.
โดย: พรไม้หอม วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:8:15:14 น.
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:9:18:34 น.
โดย: พรหมญาณี วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:10:18:44 น.
โดย: เสี่ยวเฟย IP: 101.108.36.172 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:11:15:45 น.
โดย: รุ่งฤดี วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:48:04 น.
โดย: NENE77 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:48:38 น.
โดย: **mp5** วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:13:30:59 น.
โดย: phunsud วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:14:32:22 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:15:18:38 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:15:31:57 น.
Location :
ปราจีนบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [? ]
ขอต้อนรับสู่บล็อกเล็กๆแห่งนี้มีมิตรภาพและความจริงใจให้กับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะเข้ามาทักทายกัน ^^ บทความและรูปภาพนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทาน พร้อมทั้งขอมอบเป็นน้ำใจกับเพื่อนๆทุกคนที่แวะเข้ามา สามารถคัดลอกนำไปเผยแพร่ได้ ยกเว้นเพื่อประโยชน์ทางการค้าซึ่งต้องขออนุญาตก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่ เพื่อนบางคนมาครั้งเดียว นานๆมาที มาไม่บ่อย มาบ่อยๆ บางคนมาเยี่ยมทุกวันให้ชื่นใจ บางคนเคยมาทุกวัน บางคนเคยมานานแล้ว บางคนหายไปจากบล็อก บางคนก็จะไม่แวะมาทักทายกันอีก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะขอเก็บความรู้สึกดีๆที่มีให้กันไว้ตราบนานเท่านาน เพราะเมื่อรักกันแล้วย่อมเข้าใจกันได้ไม่ยาก จขบ.เป็นคนซื่อๆง่ายๆจริงใจ ไม่มีเจตนาแอบแฝงในการทำบล็อก แต่บทความหรือรูปภาพก็อาจทำให้ผู้อ่านขัดใจได้ เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการของ จขบ.หรืออาจเป็นเพราะเราไม่เคยรู้จักดีพอ จึงกราบขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย และขอขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยียนด้วยความจริงใจนะครับ ^^ ฝากข้อความหลังไมค์
1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28
ออกมาจากอาจม เอ๊ย อาศรมสักที แหะๆ ^^
ขอบคุณหลังไมค์เพื่อนๆทุกๆท่านนะครับ วันนี้หาภาพประกอบเล่นเอาเสียดึกเลย แล้วจะทยอยตอบหลังไมค์นะครับผม ^^
ตรุษจีนปีนี้ขอให้ เฮงๆๆๆกันทุกคนนะครับผม