ถนนสายนี้มีตะพาบโครงการที่ 75ให้มีคำพูดที่ดูเท่ในงานเขียน
ถนนสายนี้มีตะพาบโครงการที่ 75 ให้มีคำพูดที่ดูเท่ในงานเขียน โจทย์โดยคุณต่อ36จะเขียนอย่างไรก็ได้ ขอตั้งชื่อตอนนี้ว่าเหตุผลของความรัก เหตุผลของความรัก เมื่อสองเดือนที่แล้วผมได้ไปงานแต่งงานของลูกสาวพี่ที่ รพ. ทั้งคู่เรียนจบปริญญา มีหน้าที่การงานมั่นคง คบหาดูใจกันมานานถึงแปดปี แม้ว่าจะเคยได้ยินคำอวยพรคู่บ่าวสาวมาก็หลายงาน แต่ไม่เคยได้ยินประโยคที่แปลกและดูเท่มากๆประโยคหนึ่งจงอยู่กันด้วยความรัก อย่าอยู่กันด้วยเหตุผล ฟังแล้วเหมือนจะขัดแย้งว่าไม่ให้ใช้เหตุผลในการอยู่ร่วมกัน แล้วก็อธิบาย คำพูดนั้น คนฟังได้แต่ตั้งใจฟัง อมยิ้มพยักหน้าเห็นด้วย จนท่านพูดจบ เมื่องานเลี้ยงโต๊ะจีนปีใหม่ของ รพ.เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ปีนี้จัดล่าช้ามากๆเพราะติดการตรวจประเมินHA วาระสอง เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ผลคือผ่านไปได้ด้วยความร่วมมือของทุกแผนก ท่านผู้อำนวยการก็กล่าวประโยคที่เท่มากๆอีกแล้ว ขอบคุณที่เราทำงานหนักจนผ่านการประเมินได้ด้วยดีผมไม่มีอะไรมอบให้นอกจาก...ความรัก ความรักที่เรามีให้กันและกัน ความรักที่เรามีให้กับรพ. เรามาช่วยกันทำงานให้คนไข้ ให้รพ.ที่เรารักกันนะครับ" แล้วท่านก็เดินแจกดอกกุหลาบแดง เป็นสัญลักษณ์ของความรัก ไปทั่วทุกโต๊ะ สร้างความประทับใจ และรอยยิ้มให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคน ผมเปิดนิตยสารซีเคร็ตที่เพิ่งได้มาพบคำเท่ๆ โดนๆอีกสองประโยคความเกลียดทำให้คนตาบอดได้พอๆกับความรัก(ออกสการ์ ไวลด์) คนดีๆอยู่ที่ไหน...คนดีอยู่ที่เรา ถ้าเราดี จะอยู่ตรงไหนกับใครก็ดีทั้งนั้น(หลวงพ่อชา สุภัทโท) บางครั้งใจเราก็เหมือนชาล้นถ้วย ที่เต็มไปด้วยความคิดความเชื่อแบบเดิมๆ คำเท่ๆโดนๆบางครั้งก็ช่วยกระแทกให้น้ำชาเก่าๆได้กระฉอกออกไป เพื่อพร้อมจะรับความคิดเห็นใหม่ๆดีๆเข้ามาแทนที่ได้บ้าง มีคำเท่ๆโดนๆ ของคนดังๆ รวมทั้งมีทฤษฎีมากมายในเรื่องของชีวิต การงานและความรัก มีทั้งปรัชญา ศาสนาที่สอนเรื่องของชีวิต มีตำราวิชาการมากมายในการบริหารงาน บริหารเงิน บริหารคน และมีเพลงนับล้านๆเพลงที่บรรเลงเรื่องความรักและเรื่องราวของผู้คน ให้เราเรียนรู้ ซึมซับ และเก็บไว้เป็นข้อมูล ในการสร้างคำพูดและความคิดเท่ๆ ให้กับตัวเองแต่ถ้าทุกๆคำพูดเราที่พูดออกมาจากความรู้ ความคิด ความเชื่อ หรือประสบการณ์ชีวิตนั้น ไม่ได้แสดงถึงความปรารถนาดีต่อผู้อื่นแล้ว คำพูดนั้นๆก็ไม่ได้มีความหมายอย่างไรเลย นอกจาก แสดงตัวตนของเราและทำให้ตัวเราดูดีขึ้นเท่านั้นเอง คนสมัยนี้มีเหตุผลกันมากแต่มีหัวใจที่ค่อยๆแห้งแล้งลงไป พอบอกว่าจงแต่งงานด้วยความรัก ไม่ใช่อยู่ด้วยเหตุผล จงทำงาน ด้วยความรัก ไม่ใช่เพื่อสร้างผลงานให้กับตัวเอง ให้กับหน่วยงาน ที่ได้ยินกันบ่อยๆคนก็เลยงงกันใหญ่ เพราะไม่ค่อยจะได้ยิน แต่ก็เป็นความจริงที่สุด เพราะถ้าเราไม่รักกันแล้ว "ความเกลียด"ทำให้เราตาบอดยิ่งกว่าความรัก เราจ้องมองหาคนที่ดี คนที่ไม่เคยทำความผิด คนที่คิดดี พูดดี ทำดี และทำให้ตัวเราพอใจได้ตลอดเวลา ซึ่งไม่มีในโลก เราไม่เคยมองส่องกระจกมอง"ความเป็นคนดี" ของเราว่ามีมากน้อยแค่ไหน เมื่อมีปัญหาความรักกับแฟน เมื่อทำการงานตรงไหนกับใครเมื่อมีปัญหา เราจึงมองเห็นแต่"ความผิด"ของคนอื่นตลอดเวลา ไม่ค่อยมีใครโทษตัวเอง ไม่มีใครแก้ไขตัวเอง ไม่มีการเปิดใจให้ปรับตัวเข้าหากัน ทุกคนพยายามหาคนที่ยอมรับทุกอย่างที่เป็นตัวเองให้ได้ ส่วนหัวหน้าก็ไม่เคยทำความผิด เพราะไม่เคยยอมรับตัวเองว่าผิด มิหนำซ้ำยังมองว่าตัวเองดีเลิศประเสริฐศรีอยู่ตลอดเวลา เพราะไม่มีใครกล้าพอที่จะเป็นกระจกเงาสะท้อนความไม่ดีของเจ้านาย ไม่ว่าจะพูดจะทำอะไรที่ไม่ดี ไม่เหมาะสม จะทำร้ายจิตใจใครเท่าไหร่ ลูกน้องก็ต้องยอมทน ฝืนยิ้มและจำต้องฝืนเยินยอท่านหัวหน้าอยู่ร่ำไป นี่คือต้นเหตุให้ความรัก ความสัมพันธ์ส่วนใหญ่จบลง ก่อนที่จะเริ่มต้นด้วยซ้ำไป ความรักไม่ใช่เหตุผล และเหตุผลไม่ใช่ความรัก อย่าเอาเหตุผลมาเป็นความรัก และอย่าเอาความรักมาเป็นเหตุผล ถ้าเหตุผลมาก่อนความรัก แล้วเหตุผลของใครเล่าที่ถูก? เหตุผลใครเล่าที่ผิด? เพราะทุกคนก็ล้วนมีเหตุผลของตนทั้งนั้น ถ้าเหตุผลมาก่อนความรัก เธอต้องทำอย่างนั้น ฉันต้องทำอย่างนี้ เธอต้องมีเงิน มีทอง มีบ้าน มีรถ มีมือถือ มีเวลา เธอต้องปกป้องดูแล คุ้มครองห่วงใย ใส่ใจฉันทุกเรื่อง. นอกจากหน้าที่สามีที่ดีแล้ว สิ่งไหนที่แสดงความห่วงใยใส่ใจจากเธอบ้าง? สุดท้าย...ถ้าต้องเลิกกัน "ใครเป็นคนผิดกันแน่? ฉันไม่เข้าใจว่าฉันทำอะไรผิด?" จงรักเพราะว่าเรารักและห่วงใยเขาจริงๆ ไม่ใช่รักสิ่งที่เขาจะต้องให้ รักที่เงิน ที่ฐานะ หรือรักเฉพาะรูปร่างหน้าตา โดยไม่เคยคำนึงถึงจิตใจเขา เราไม่สามารถเข้าใจและยอมรับใครได้เลย ถ้าเราหมดสิ้นความรักต่อคนนั้นๆ หรือมองว่าการกระทำของใครคนหนึ่งเป็นแค่หน้าที่ๆหนึ่งที่เขาต้องทำแค่นั้น รูปร่างหน้าตาเป็นเพียงใบเบิกทางให้ได้รู้จักกันเท่านั้น จะคบกันได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับมีความรักและเข้าใจกันมากน้อยแค่ไหนต่างหาก ถ้าคบกันก็ดูว่าเราจะไปกันได้ไหม ด้วยความรัก ด้วยเหตุและผล พยายามปรับตัวเข้าหากันด้วยความรัก อดทนและเข้าใจกันให้มากที่สุด แล้วเราค่อยประเมินความรักที่ค่อยๆงอกงาม หรือ ความรักที่ค่อยๆน้อยถอยลงทุกที หัวใจจะบอกเราเองว่าสมควรจะเลิกหรือคบกันต่อไปถ้าจะมีเหตุผลสักเหตุผลเดียวของความรักแล้วละก็ ขอให้เหตุผลนั้นก็คือ "เราจะมีความสุขถ้าคนที่เรารักมีความสุข" ยิ่งเราทำอะไรก็ได้ที่ทำให้คู่ของเรามีความสุขมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งจะมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น และเขาก็รับรู้ว่า "เราทำด้วยใจ" แล้วก็สนใจห่วงใยดูแลเราบ้าง เวลาเราท้อหรือเหนื่อย แค่นี้ก็พอที่เราจะมีกำลังใจยิ้มและสู้เพื่อครอบครัวต่อไป นี่คงเป็นเหตุผลตื้นๆที่สุด ที่ผมคิดได้ตอนนี้ ในช่วงเดือนแห่งความรักเดือนนี้ ขอฝากคำเท่ๆโดนๆไว้ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน และขออวยพรให้ทุกๆคนให้มีความสุขกับความรักที่ดียิ่งๆขึ้นไป ถ้าคบกันอยู่ก็ขอให้ได้แต่งงานกันไวๆ ถ้าไม่มีแฟนก็ขอให้ได้เจอคนที่ใช่แบบรักแรกพบ สบตาก็รักกันทันที ถ้าแต่งงานแล้วก็ขอให้มีความสุขกับชีวิตคู่กันมากๆนะครับ ^^VIDEO เพลง"เพราะอะไร" ของป้าง นครินทร์ ฟังแล้วชอบมากๆครับ"รักเพราะรัก" บางครั้งก็ไม่ต้องการเหตุผลนะครับ เรื่องและภาพประกอบ วนารักษ์ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาอ่านงานเขียนเรื่องนี้ ขอบคุณเพื่อนๆประจำบล็อกที่ทำให้บล็อกนี้ยังไม่ร้าง ขอบคุณกระทู้จากคุณต่อและน้องเป็ด แอ๊ดมินงานตะพาบของเรา ขอบคุณบล็อกแก๊งค์นี้ที่ให้โอกาสพวกเราได้มาพบและรู้จักกัน และสุดท้ายขอบคุณที่โลกนี้มีความรักนะครับ ^^ เนื่องจากช่วงนี้ จขบ. มีธุระยุ่งมากๆ ขอปิดเม๊นท์ก่อนนะครับ ถ้ามีเวลาจะเขียนเรื่องแล้วจะชวนเพื่อนๆมาอ่านเหมือนเดิมครับ ดูแลสุขภาพให้ดีกันทุกๆคน คิดถึงเพื่อนๆเสมอครับ
Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2556
118 comments
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2556 21:00:06 น.
Counter : 4310 Pageviews.
มาเปิดบ้านไวหน่อยนะครับ เขียนเสร็จใส่ภาพเสร็จก็ไม่อยากเก็บไว้ ^^
อ่านเรื่องแล้วหวังว่าคงจะชอบกันบ้างนะครับ