I'm not a Chef...but I sure am a Good Cook!
Group Blog
 
All blogs
 

❤ Banana Caramel Cake ❤

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ โพสต์นี้คุณบี๊ห์มีเค้กกล้วยหอมสูตรนุ่มละมัยละลายในปากมาฝาก
เป็นอีกสูตรที่นุ่มอร่อยไม่แพ้สูตรดังในตำนานบล๊อกแกงค์/ห้องก้นครัว คุณบี๊ห์ชอบมาก
แตกต่างจากเค้กกล้วยหอมทั่วไปตรงส่วนท็อปปิ้ง ราดซอสคาราเมลส่วนหน้าขนมให้ทั่ว
ก่อนนำเข้าอบ ก็จะได้หน้าตาขนมออกมาแบบลวดลายหินอ่อน สูตรนี้ไม่หวานมากด้วย







ก่อนทำขนมเราควรเตรียมคาราเมลซอสก่อน
เพราะต้องพักไว้ให้เย็นก่อนนำไปใช้งาน

Salted Caramel Sauce
1) น้ำตาลทราย 180 กรัม
2) น้ำเปล่า 110 กรัม
3) เนยเค็ม 50 กรัม
4) วิปปิ้งครีม 110 กรัม
5) กลิ่นวานิลา ½ ช้อนชา
6) เกลือ ½ ช้อนชา

วิธีทำคาราเมลซอส 
ใส่น้ำตาลทราย และน้ำเปล่าในหม้อเคลือบ ยกขึ้นตั้งไฟกลางค่อนไปทางอ่อน
คนให้น้ำตาลละลาย ใส่เนยเค็มลงไป คนจนละลายและเข้ากันดี เพิ่มเป็นไฟกลาง
ล่อยให้ซอสเดือดโดยไม่ต้องคนจนส่วนผสมเป็นสีน้ำตาลอ่อน (ประมาณ 10-15 นาที)
ยกลงจากความร้อน...ค่อยๆ เทวิปปิ้งครีม ใช้ไม้พายคนต่ออย่างเร็วจนส่วนผสมเข้ากัน
ใส่เกลือชมพู กลิ่นวานิลา คนผสมให้เข้ากัน พักซอสไว้ให้เย็นก่อนนำไปใช้งาน








เค้กกล้วยหอม-หน้าคาราเมล  
Banana Salted Caramel


ส่วนที่ 1 ของแห้ง
แป้งเอนกประสงค์ 120 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา
เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
* ร่อนแป้ง + ผงฟู + เบกกิ้งโซดา รวมกัน เตรียมไว้
-------
ส่วนที่ 2 ของเปียก
ไข่ไก่เบอร์ 2 – 1 ฟอง
น้ำตาลทราย 45 กรัม
น้ำมันคาโนล่า 65 กรัม  
-------
ส่วนที่ 3 ของเปียก (ชามกล้วยหอม)
กล้วยหอมสุกบด ½ ถ้วย
นมสดจืด 80 กรัม
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
บดกล้วยหอมงอม ๆ ให้ละเอียด ใส่นมสด น้ำมะนาว
เติมกลิ่นวานิลา คนผสมให้เข้ากัน พักเตรียมไว้








วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบรอที่อุณฯ 165 องศาเซลเซียว เตรียมพิมพ์สีเหลี่ยมขนาด 9 นิ้ว หรือ 11 นิ้ว
ทาเนย ปูกระดาษไข หรือทำใส่ในพิมพ์กระดาษจีบ (คัพเค้ก) พิมพ์ฟอยด์รูปทรงตามชอบ 

2. ตีไข่ไก่กับน้ำตาลให้ขึ้นฟูจนเป็นสีอ่อนๆ (ตี 5 นาที) เทน้ำมันลงไปตีผสมให้เข้ากัน

3. เทของเปียกส่วนที่ 3 (กล้วยหอม) ลงไปตีผสม / ใส่แป้งลงไปตีผสมให้เข้ากัน








4. เทส่วนผสมใส่ในพิมพ์ ตักซอสคาราเมลใส่ในถุงบีบ บีบซอสโรยหน้าขนม
โดยบีบเป็นเส้นๆ จนทั่ว ใช้ไม้จิ้มฟันวาดเส้นวนไปมาจนเป็นลวดลายหินอ่อน

5. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 165 องศาเซลเซียส ไฟบนล่าง อบประมาณ 30 นาที
หรืออบจนกว่าขนมสุก การสุกขึ้นอยู่กับขนาดของพิมพ์และความหนาของส่วนผสม








ตอนใช้ไม้วนควรคนให้ลึกลงก้นถาด เพื่อให้ลวดลายเด่นชัด
อบออกมาตัวขนมมีรอยแยกลึกและชัดเจน ขนมออกมาสวยงาม








เค้กกล้วยสูตรนี้สูตรไม่ใหญ่ แป้งไม่มาก ไข่ไม่เยอะ หวานน้อย (ถ้าไม่รวมซอสคาราเมล)
ไม่ต้องมีเครื่องตีผสม มีแค่กะละมังใบย่อมกับตะกร้อมือก็ทำเค้กกล้วยได้แล้ว ง่ายมาก ๆ









คุณบี๊ห์บอกเลย สูตรนี้อร่อยมาก อยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองทำ








เค้กกล้วยหอม กินได้ตลอดกาล ไม่เคยเบื่อ






 




 

Create Date : 30 มิถุนายน 2565    
Last Update : 30 มิถุนายน 2565 13:31:52 น.
Counter : 3172 Pageviews.  

❤ เค้กมะตูมเชื่อม ❤

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ช่วงนี้เริ่มกลับมาทำขนม ทำขนมที่ทำแล้วมีคนกิน รวมถึงตัวคนทำด้วย
มีเพื่อน ๆ หลังไมค์มาออดอ้อนอยากกินเค้กมะตูมฝีมือคุณบี๊ห์ เราได้แนะนำคนทำเจ้าอื่นให้
ปรากฏว่าไม่เอา ไม่อยากกินเจ้าอื่น อยากกินเค้กมะตูมของคุณบี๊ห์ ทักมาบ่อยชักจะเกรงใจ
จึงต้องเปิดให้จองแบบมาไวไปไว ได้จำนวนตามที่กำหนดแล้วปิดการจองทันที ชิ่งหนีเลย
ทำขายเล็กน้อยพอฟื้นความจำ ระหว่างอาหารคาวและของหวาน รักการทำอาหารมากกว่า


เค้กมะตูมสูตรเล็ก ๆ ทำกินแค่พอให้หายอยาก
แป้งและไข่ไม่มากแบบสูตรเดิมที่เคยทำนะคะ







เค้กมะตูม
ส่วนผสม 1
แป้งเค้ก 100 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา (ถ้าไข่สดมากไม่ใส่ก็ได้)
เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา

ส่วนผสม 2
เนยเค็ม 110 กรัม
น้ำตาลทรายขาว 30 กรัม
น้ำตาลทรายแดง 30 กรัม
ไข่แดงเบอร์ 2 – 4  ฟอง
มะตูมเชื่อมหั่น 200 กรัม

ส่วนผสม 3
ไข่ขาวเบอร์ 2 – 4 ฟอง
น้ำตาลทรายขาว 20 กรัม







วิธีทำเค้กมะตูมเชื่อม
ส่วนผสม
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส เตรียมพิมพ์อบขนมตามชอบ
2. ร่อนแป้ง + ผงฟู + เบกกิ้งโซดา เข้าด้วยกัน

3. ตีเนยกับน้ำตาลให้เป็นครีม (ห้ามตีผสมนานมาก) ใส่ไข่แดงทีละฟองจนครบ
4. ใส่เนื้อมะตูมลงไปตีผสมให้เข้ากัน ใส่แป้งลงไปตีผสมให้เข้ากัน ปิดเครื่องผสม
5. ตีไข่ขาวให้เป็นฟอง ใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไปตีผสมให้เข้ากันและตั้งยอดอ่อน ๆ

6. นำส่วนของไข่ขาวไปผสมในส่วนของไข่แดง ผสมให้เข้ากันแบบเบามือ
ตักส่วนผสมใส่ในพิมพ์ 3/4 ของพิมพ์ กระแทกพิมพ์เบา ๆ เพื่อไล่ฟองอากาศ

7. นำขนมเข้าอบด้วยไฟบนและล่างที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส 
อบนานประมาณ 30-35 นาที การสุกขึ้นอยู่กับขนาดของพิมพ์ที่ใช้อบ







การตกแต่งหน้าเค้กมะตูม จัดไปตามที่ชอบ








คนทำชอบแต่งหน้าด้วยชิ้นมะตูมฝานให้บาง แล้ววางลงไปบนหน้าขนมก่อนนำเข้าอบ
ผู้คนมักถามว่า "ทำไมเค้าลองทำแบบนี้แล้ว ตอนอบออกมาเนื้อมะตูมจมลงก้นพิมพ์"
คุณบี๊ห์ตอบว่า ควรเป็นมะตูมที่แช่เย็นให้เนื้อมะตูมแข็ง ๆ ตอนหั่นมันฝานให้บางง่าย
ถ้าเนื้อมะตูมไม่แข็งพอ ตอนหั่นเนื้อมันจะย่นยวบลงไปรวมกัน ดึงให้กลับรูปเดิมยาก
 







แบบนี้เหมือนภาคบังคับ แรกๆ คุณบี๊ห์ตกแต่งแบบนี้ หั่นชิ้นเต๋าแล้ววางโปะลงไป
ราดหน้าด้วยไอซิ่งเกลซให้ดูมีเรื่องราว แล้วก็กลายเป็นหน้ามะตูมยอดฮิตกันไป
แรกๆ ทำแบบนี้ ระยะหลังผู้คนบอกหนักไป มันหวาน ราดน้ำตาลอีก หวานเกิน




 




 

Create Date : 23 มิถุนายน 2565    
Last Update : 24 มิถุนายน 2565 15:40:09 น.
Counter : 1720 Pageviews.  

❤ Caramel Cornflakes ❤

ปีนี้ได้ของฝาก(แทนใจ)ช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ฝากญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงแล้ว
บอกเลย ไม่เคยคิดจะทำขนมขบเคี้ยวชนิดนี้ มีเพื่อนหลานชายที่เป็นแอร์โฮสเตรสทำขาย
คิดเสมอว่ารสชาติก็คล้ายกันหมด อยู่ที่เจ้าไหนใจถึงจัดหนักส่วนผสมต่าง ๆ จำพวกถั่วและ
ผลไม้แห้งมีราคาใส่ไป โดยรวมแล้วรสชาติแทบไม่ต่างกัน งั้นเราก็ซื้อเขากินโดยไม่ต้องทำ
ก็เมื่อคุณพี่สาวและหลานชายชอบกิน ที่เขาทำขายใส่ผลไม้แห้งและถั่วที่หลานรักไม่ชอบ
จึงเป็นเหตุให้คุณน้าสาว(แม่ครัว/เชฟประจำบ้าน)สมควรทำกินเอง เงินทองไม่รั่วไหลด้วย 







คาราเมลคอนเฟลกมีหลายสูตร เพื่อน ๆ ลองเสริชหาดู ชอบสูตรใดก็ว่ากันไป เอาที่ชอบนิ
สูตรนี้ได้มาจากห้องเบเกอรี่ น้องที่สนิทกันคนหนึ่งจัดให้ บอกว่าสูตรนี้ได้รับความนิยมมาก
คุณบี๊ห์พิจารณาดูแล้วและลองนำหลายสูตรที่ได้มาเปรียบเทียบเรื่องของวัตถุดิบ บวกกับที่
ตัวเองพอจะทำขนมได้ จึงนำหลกหลายสูตรนั้นมาเปรียบเทียบ และยำสูตรใหม่ให้ถูกปาก

คลังพัสดุ(คลังแสง)บ้านเราพร้อมมากทุกสิ่งอย่าง
ถั่วและธัญพืชต่าง ๆ ผลไม้แห้ง จัดได้
 














Caramel Cornflakes 
Cornflakes 300 กรัม (เราใช้ของ Nestle)
มะม่วงหิมพานต์ชนิดครึ่งซีก 150 กรัม
ถั่วแอลมอนด์สไลด์  150 กรัม
เมล็ดทานตะวัน 100 กรัม
งาขาวคั่ว 100 กรัม
ลูกเกดสีดำ 200 กรัม

ถั่ว ธัญพืช ผลไม้แห้งต่าง ๆ เพิ่มปริมาณมากน้อยตามชอบ







Caramel Sauce
1. เนยเค็ม 100 กรัม
2. นมข้นจืด 65 กรัม
3. น้ำตาลทรายขาว 30 กรัม
4. น้ำตาลทรายแดง 30 กรัม
5. เกลือ ½ ช้อนชา
6. น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
7. กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
 
STEP 1 - การทำซอสคาคาเมล
ทำคาคาเมลซอส โดยผสมเนย, นมข้นจืด, น้ำตาลทั้งสองชนิดในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ
คนจนส่วนผสมทั้งหมดละลายเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อเห็นฟองเดือดปุดเล็กๆ ปิดไฟเตาก่อน
สุดท้ายใส่น้ำผึ้งหรือคาราเมลซอสลงไป เติมกลิ่นวานิลลา คนให้ส่วนผสมเข้ากัน พักรอไว้








STEP 2 - วิธีผสมคอนเฟลก
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เตรียมถาดอบ ปูกระดาษไขรองอบ เตรียมไว้

2. นำถั่วต่าง ๆ และธัญพืช เข้าอบก่อนให้กรอบ (ส่วนผลไม้แห้งไม่ต้องอบ เค้าอบมาแล้ว)
อบถั่วแล้วพักไว้ให้เย็นก่อน มาเทคอนเฟลกใส่ในกะละมังใบใหญ่พอให้ผสมได้สะดวก
ใส่ถั่วที่เย็นแล้ว ใส่งาขาวคั่ว ผลไม้แห้ง ผสมทั้งหมดให้เข้ากันด้วยมือ ผสมแบบเบามือ







ถ้ากลัวว่าราดซอสไปแล้วจะกระจายไปไม่ทั่ว ก็ให้แบ่งส่วนผสมอย่างละเล็กน้อย
หรือแยกคลุกในส่วนตัวคอนเฟลกก่อน แล้วค่อยราดซอสในถั่วงา และผลไม้แห้ง
แล้วค่อยนำทั้งสองส่วนมาผสมให้เข้ากัน วิธีนี้ทำให้ซอสแทรกตัวไปทุกอนูขนม 







3. ค่อยๆ ราดซอสคาราเมลที่พักไว้ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันทั่วด้วยพายยาง
เทซอสลงไปตรงส่วนที่ยังไม่ทั่ว คนผสมไปเรื่อยๆ จนเข้ากันดีประมาณ 5 นาที
จะเริ่มเห็นซอสคาราเมลที่ราดไปเริ่มแห้งเหือด (ตัวคอนเฟลกไม่ติดกันเป็นก้อน)

หมายเหตุ
หรือเอาซอสคาราเมลใส่ในขวดพลาสติกที่มีรูด้านบน ขวดใส่ครีมซอสแบบของญี่ปุ่น
ค่อยๆ บีบซอสให้ออกทางรู (ขวดบางชนิดมีรูให้น้ำซอสออกมาสามรู แบบนี้ทั่วถึงแน่)

บางตำราเอาถั่วไปอบก่อนให้กรอบ ตอนคลุกไม่เอาถั่วใส่ ราดซอสเฉพาะตัวคอนเฟลก
จากนั้นเอาส่วนคอนเฟลกที่คลุกซอสมาคลุกรวมกับถั่วต่างๆ และผลไม้แห้งตอนหลัง
 








4. แบ่งขนมใส่ถาดที่รองด้วยกระดาษไข นำเข้าเตาอบที่อุณฯ 150 องศาเซลเซียส
อบด้วยไฟบนและล่างประมาณ 10 นาที จากนั้นเอาขนมออกมาผึ่งไว้ หากต้องการ
ให้ขนมเย็นไวก็ใช้พัดกระดาษช่วยพัดเพื่อให้ขนมคลายความร้อนแบบรวดเร็ว 







5. นำขนมเข้าอบรอบสองอีก 10 นาที (เพื่อให้มีความกรอบ) อบเสร็จเทใส่ในถาดแล้ว
เกลี่ยให้กระจายตัว พักให้เย็นสนิท จากนั้นเก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิทเพื่อไม่ให้ลมเข้า













จากนั้นเก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิทเพื่อไม่ให้ลมเข้า ตอนจะทานควรแบ่งใส่ถ้วย
หากเอามือเข้าไปล้วงบ่อย ๆ จะเกิดความชื้นและทำให้คอนเฟลกกรอบได้ไม่นาน






 

Create Date : 06 ธันวาคม 2564    
Last Update : 6 ธันวาคม 2564 17:55:28 น.
Counter : 8435 Pageviews.  

❤ Coffee Walnut Bundth Cake ❤

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ที่ผ่านมาอัพบล๊อกมีแต่อาหารคาว บล๊อกนี้ขอเป็นขนมหวานบ้าง
จะว่าไปทำขนม(อบ)บ่อยค่ะ แต่ไม่ได้มาอัพบล๊อก เพราะมิตรรักแฟนคลับของอิฉัน
สนใจอาหารมากกว่าขนมหวาน 555 พูดแบบนี้ดูเหมือนจะเอาใจแฟนคลับซ๊ะกระนั้น

เพื่อนจี๊ดคนที่เป็นแอดมินฯ ห้องอาหารและเบเกอรี่นำพาการบ้านมาส่งเชฟกษิดิส
แม่ครัวบี๊ห์เห็นแล้วถูกใจมาก เข้าตากรรมการ ชอบมากเลยเค้กที่มีส่วนผสมกาแฟ
ตั้งใจจะทำเค้กส้มซันคีสให้เพื่อนรัก เปลี่ยนใจทำเค้กกาแฟให้เพื่อนแบบโดนบังคับ







Coffee Walnut Bundth Cake
ส่วนผสมเค้ก
แป้งเอนกประสงค์ 250 กรัม
แป้งข้าวโพด 6 ช้อนชา 
ผงฟู 3/4 ช้อนชา (3 กรัม)
เบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
เกลือ 1/2 ช้อนชา
วอลนัทสับหรือบดละเอียด 100 กรัม
ไข่ไก่เบอร์ 0 - 4 ฟอง
เนยละลาย 227 กรัม
น้ำตาลทราย 300 กรัม (ชอบสีเข้มใส่น้ำตาลทรายแดง)
โยเกิร์ตรสจืด 1 ถ้วย
กาแฟเอสเปรซโซ่เข้มข้น 5 ช้อนโต๊ะ

หมายเหตุ - น้ำตาลทราย ลดน้ำตาลลงเหลือ 200 กรัม
ผงกาแฟ - ใส่กาแฟเอสเปรสโซ่ชนิดเข้มข้น (กาแฟเวียดนาม)
ร่อนผงกาแฟพร้อมแป้งอีก 1 ช้อนโต๊ะ (ขอไม่ใส่กลิ่นกาแฟ)
 






ส่วนผสม frosting
เนยละลาย 55 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 180 กรัม
วนิลาเพสท์ 1-2 ช้อนชา
ครีมข้น 4-5 ช้อนโต๊ะ
วอลนัทอบสับหยาบ 50 กรัม

สิ่งที่ต้องเตรียม
1. อุ่นเตาอบที่ 180 °C  หรือ 160° C  เลือกอบที่อุณหภูมิตามชอบได้เลย
(ระหว่างอุ่นเตาอบ เราเอาวอลนัทสำหรับแต่งหน้าขนมเข้าอบประมาณ 7 นาที)

2. ทาเนยที่พิมพ์ โรยแป้งแล้วเคาะออก หากทำพิมพ์เดียวแนะนำให้ใช้ขนาด 10 นิ้ว

3. บดถั่ววอลนัท เตรียมไว้ (ครั้งนี้ถั่ววอลนัทไม่พอ เราใส่อัลม่อนป่นแทน)

4. ร่อนแป้ง แป้งข้าวโพด ผงฟู เบคกิ้งโซดา เกลือ เข้าด้วยกัน 1 รอบ
ใส่ถั่ววอลนัทบดละเอียดลงไปคลุกเคล้ากับทั้งหมดให้เข้ากัน พักรอไว้







วิธีทำเค้ก
1. ตีไข่กับน้ำตาลทรายวด้วยหัวตีตะกร้อ (ไม่ต้องให้ฟูมาก)
ใส่กาแฟผงเข้มข้น ตามด้วยโยเกิร์ต สุดท้ายใส่เนยละลาย
2. นำส่วนผสมแป้งเทในส่วนไข่ ตีผสมให้เข้ากันราว 1 -2 นาที อย่าตีนาน 






3. เทส่วนผสมใส่พิมพ์ เคาะพิมพ์เบา ๆ 2 - 3 ครั้งเพื่อไล่ฟองอากาศ
4. นำขนมเข้าอบที่อุณฯ 160 C ประมาณ 45 - 50 นาที ขึ้นอยู่กับพิมพ์ที่ใช้อบ






เมื่อขนมสุกนำออกจากเตาแล้วค่ำพิมพ์ลงบนตะแกรง ให้ก้นขนมเย็นตัวก่อน
ประมาณ 10 นาที จากนั้นเคาะพิมพ์ออก นำขนมวางบนตะแกรงทิ้งให้คลายร้อน







Butter Frosting
1. ละลายเนยทิ้งให้เย็น
2. เทเนยลงในน้ำตาลไอซิ่ง เติมวนิลาเพสท์ (เม็ดวานิลา)
(หรือใส่กลิ่นกาแฟ) เติมครีม ผสมให้เข้ากันจนเนียนเหลวในระดับที่พอใจ
จากนั้นนำส่วนนี้ไปราดหรือบีบบนขนมแล้วแต่งด้วยวอลนัทสับหยาบ






ไม่ชอบทานถั่ววอลนัท จะใส่ถั่วที่ชอบ ถั่วพิตาชิโอ ถั่วพีแคน
หรือใส่อัลม่อน หรือ ผลไม้แห้งอื่น ๆ เลือกตามที่ชอบได้เลย







แนะนำให้ใส่กาแฟเอสเปรซโซ่ชนิดเข้มข้น หลีกเลี่ยงการใส่กลิ่น
บางคนแย้งว่า ใส่กาแฟแล้วไม่หอม ต้องเพิ่มกลิ่นกาแฟเข้าไปด้วย
ตรงนี้อิฉันขอแย้งว่า ตัวเองทำเค้กกาแฟ ไม่เคยใส่กลิ่นกาแฟค่ะ
ใส่ผงกาแฟล้วน ๆ เลือกชนิดมีคุณภาพ ใส่กาแฟเวียดนามก็หอมดี






ตรงส่วนหน้าฟรอสติ้ง ฉันแนะนำให้ใส่เมล็ดวานิลา ถ้าไม่มีใส่กลิ่นก็ได้
ใส่เมล็ดวานิลากลิ่นหอมมาก ๆ กลิ่นวานิลาผสมกับกลิ่นเนย ฟินสุด ๆ

เพื่อน ๆ ลองทำนะคะ หอมกลิ่นกาแฟ อร่อยทีเดียว ถูกใจคนทำมาก





 




 

Create Date : 04 กรกฎาคม 2562    
Last Update : 5 กรกฎาคม 2565 18:06:46 น.
Counter : 8329 Pageviews.  

❤ เค้กกล้วยตาก - Honey Banana Cake ❤



สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ สวัสดีมิตรรักแฟนคลับแม่ครัวบี๊ห์(บ่งบ๊ง) ทุกมุมโลกด้วยนะคะ
เทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับศักราชใหม่ใกล้และงวดเข้ามาทุกที
หลายบ้านเตรียมการและเริ่มนับถอยหลังกันแล้ว เดือนนี้ผู้คนไม่ค่อยอยากทำงาน
อยากออกไปจับจ่ายซื้อข้าวของ เตรียมทำขนมต่าง ๆ เพื่อมอบในช่วงเทศกาล

แม่ครัวบี๊ห์เองก็มีขนมที่ตั้งใจทำเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้คนที่แวะมาเยี่ยมเยือนด้วย
ใคร ๆ ก็ทำเค้กผลไม้ในแบบสากล แต่แม่ครัวบี๊ห์ขอทำเค้กผลไม้ในแบบไทย ๆ
เป็นการอุดหนุนสินค้าของกลุ่มแม่บ้าน และให้ผู้เฒ่าคนแก่ได้มีงานทำอีกด้วย 

อยากบอกว่า ปกติทำขนมเองและมักไม่ค่อยได้ทานขนมที่ตัวเองทำแบบจริงจัง
แต่สำหรับเค้กกล้วยตากสูตรนี้ ทำเอง กินเอง ไม่ให้ใครเลย เพราะเสียดายของ
มันอร่อยถูกใจ ละเลียดกินวันละพิมพ์จนหมดเกลี้ยงสามพิมพ์ (กินแบบพลีชีพ)





สูตรนี้ได้จากแม่บ้านของคุณป้า เดาเอาว่าเป็นสูตรเมื่อครั้งที่คุณป้าและคุณนายแม่ของฉัน
เพื่อนคุณแม่พากันไปร่ำเรียนทำอาหารและขนมที่สมาคม YWCA กว่าห้าสิบปีมาแล้ว
คงจำกันได้ช่วงที่ทหารอเมริกันมาประจำในประเทศไทย สมาคมแห่งนี้เขาเปิดให้ผู้คนทั่วไป
ร่ำเรียนทำอาหารและขนมกับครูฝรั่ง (ภรรยาทหารและเจ้าหน้าที่สถานฑูตประเทศไทย) 
คุณป้ามักจดสูตรอาหารและขนมต่าง ๆ ไว้ในสมุดบันทึก และเมื่อคุณป้าเสียชีวิตแล้ว
สมุดบันทึกเรื่องราวในครัว(การครัว) จึงตกเป็นสมบัติของแม่บ้านที่อยู่กันมายาวนาน
อยากได้สูตรอาหารไทย อาหารแขก สูตรขนมต่าง ๆ ก็ต้องไปหาแม่บ้านของคุณป้าคะ
นางทำเป็นทุกสิ่งอย่าง โดยเฉพาะบาเยียสูตรอร่อย อื่น ๆ อีกมากมายที่ฉันได้มาจากนาง






เค้กกล้วยตาก (Honey Banana Cake)
สูตรโดยคุณบี๊ห์ (บ่งบ๊ง)

ส่วนประกอบ
1. แป้งเอนกประสงค์ 225 กรัม
2. เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
3. เนยสด 150 กรัม
4. น้ำตาลไอซิ่ง (ร่อนแล้ว) 150 กรัม
5. ไข่ไก่เบอร์ 0 - 2 ฟอง
6. กล้วยตาก 200 กรัม (หั่นชิ้นเล็กๆ)
7. น้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ
8. ถั่วอัลมอนด์สับหยาบ หรือ สไลด์

ส่วนผสมไข่ขาว
1. ไข่ขาวเบอร์  2 ฟอง
2. ครีมออฟทาทาร์ 1/4 ช้อนชา

สิ่งที่ต้องเตรียม
Smiley  เตรียมพิมพ์อบทาเนย ปูกระดาษไข
Smiley  ร่อนแป้ง + เบกกิ้งโซดา รวมกัน
อุ่นเตาอบรอที่อุณหภูมิ 180 C ไฟบนและล่าง






ขั้นตอนการทำ

1. หั่นเนยที่นิ่มแล้วขนาด 1 นิ้ว ใส่ในโถผสม ตีเนยจนนิ่มและขึ้นฟู 
ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไปตีด้วยความเร็วปานกลาง เมื่อเนยและน้ำตาล
เข้ากันดีแล้ว ปรับสปีดเป็นความเร็วสูงสุด ตีต่อเนื่องอีกประมาณ 5 นาที 
ตีกระทั่งเนยและน้ำตาลเป็นสีครีมขาว ฟู ปรับเป็นความเร็วปานกลาง

2. ใส่ไข่แดงทีละฟองลงตีผสมให้เข้ากันจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี

3. ใส่กล้วยตากที่หั่นไว้ลงไปตีผสม จากนี้ปิดเครื่องก่อน

4. มาตีไข่ขาวกับครีมออฟทาทาร์ 1/4 ชช. กระทั่งตั้งยอดอ่อน ๆ
ปิดเครื่องตี ปรับเป็นความเร็วต่ำ แบ่งไข่ขาวในใจสองส่วน
 ใส่ไข่ขาวสลับกับแป้ง ผสมให้เข้ากันจนเนียน (อย่าผสมนาน)

5. เทส่วนผสมใส่ในพิมพ์ ปาดหน้าส่วนผสมให้เรียบ 
กระแทกพิมพ์เบา ๆ หนึ่งครั้งเพื่อไล่ฟองอากาศ

6. นำขนมเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 C ประมาณ 30-35 นาที 
หรือจนกว่าขนมจะสุก (พิมพ์สองปอนด์อบประมาณ 40 นาที)
หมายเหตุ - การสุกของขนมขึ้นอยู่กับขนาดพิพม์ที่ใช้อบ

7. เมื่อขนมสุกนำออกจากเตาวางบนตะแกรง เมื่อเย็นตัวนำมาตัดชิ้น






ใส่ไข่แดงทีละฟองลงตีผสมให้เข้ากันจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
ใส่กล้วยตากที่หั่นไว้ลงไปตีผสมให้เข้ากัน ปิดเครื่อง พักไว้ก่อน





ตีไข่ขาวแล้วแบ่งในใจเป็นสองส่วน ใส่ไข่ขาวสลับกับแป้ง
ขั้นตอนนี้จะตีผสม หรือจะปิดเครื่องก่อนแล้วค่อยผสมก็ได้





ใส่ไข่ขาวแล้วใช้ตะกร้อมือหรือพายยางตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันอย่างเบามือ
อย่าผสมแรงและนานเกิน ทำให้ไข่ขาวแตกตัว แป้งจะข้นและเหนียวด้วยนะคะ





เทแบทเธอร์ใส่พิมพ์ที่รองด้วยกระดาษไข หรือใส่ในพิมพ์ฟอยด์แบบนี้้
โรยถั่วต่าง ๆ ให้ทั่ว ยกพิพม์กระแทกเบา ๆ หนึ่งครั้งเพื่อไล่ฟองอากาศ






โดยปกติแล้วมักอบเค้กที่อุณฯ 180 C แต่ฉันชอบอบขนมที่อุณฯ 160-170 C
เพราะไม่ชอบขนมหน้าแตกยับเยิน แต่ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคในการอบของแต่ละคน
บางครั้งอธิบายให้เขาใจยาก ต้องสังเกตุและรู้ใจเตาอบและพิมพ์ชนิดต่าง ๆ ด้วย







รอบนี้หาพิมพ์ปอนด์ไม่เจอค่ะ ไม่ได้ทำเค้กใส่พิมพ์ปอนด์นานมาก นานจนลืม
จำไม่ได้เอาพิมพ์ไปเก็บซุกที่ใด เมื่อหาไม่เจอ จึงต้องทำใส่พิมพ์ฟอยด์แบบนี้
รอบนี้หน้าขนมยุบตรงกลางเล็กน้อย เนื่องจากลืมว่าเราอบเค้กที่อุณหภูมิ 170 C
จึงต้องอบนานกว่าอุณฯ 180 C เมื่อตรงกลางขนมยังไม่สุกดีแล้วเปิดเตาอบก่อน 
นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ขนมเกิดการยุบตัวตรงกลางได้ แต่ก็แปลกใจอีกว่า 
ทุกครั้งที่ทำในพิมพ์ปอนด์ หน้าขนมไม่เคยยุบตัว แต่กลับขึ้นฟูและปูดนูนด้วย 
โดยมากหน้าขนมจะแตกด้วย แต่ทำใส่พิมพ์ฟอยด์แบบนี้ ขนมมักจะยุบตัว 
แต่หน้าไม่แตก จึงคาดเดาสาเหตุได้ยาก แต่มั่นใจว่าเป็นเพราะเปิดเตาอบก่อน
ที่ขนมจะสุก แต่สาเหตุเรื่องหน้าขนมยุบตัว เกิดจากหลายสาเหตุ คงต้องค้นหา






ทำใส่พิมพ์ปอนด์ หน้าไม่ยุบ แต่มักหน้าแตก (คนทำพลอยหน้าแตกไปด้วย)












ภาพนี้เห็นเนื้อกล้วยตากชัดเจน เนื้อแน่นมาก เพราะใช้วิธีสับหยาบ
ถ้าเป็นแบบหั่น เนื้อกล้วยมักจมลงก้นพิมพ์ แม้จะคลุกแป้งแล้วก็ตาม






ปกติฉันไม่ทานขนมที่ตัวเองทำ ได้แค่ตัดชิม แต่ครั้งนี้ถูกใจกับสูตรนี้มาก
ทำครั้งแรกได้สามพิมพ์ ไม่ให้ใครเลย หวงของ เก็บไว้กินเองทั้งหมด 





เพื่อน ๆ ลองนำสูตรนี้ไปลองทำ ชอบหรือไม่ชอบ มีความเห็นอย่างไร
มาบอกเล่าสู่กันฟังถือเป็นเรื่องน่ายินดี ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชม
พบกันใหม่ในบล๊อกหน้า จะเป็นอาหาร หรือขนมต่าง ๆ ต้องติดตามชมค่ะ




 

Create Date : 08 ธันวาคม 2561    
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2562 16:04:25 น.
Counter : 11685 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

บ่งบ๊ง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1911 คน [?]




ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่บ้านแห่งความสุขค่ะ วันทั้งวันหมกมุ่นแต่เรื่องทำกิน ทั้งวี่ทั้งวันวุ่นวายแต่เรื่องในครัว เรื่องสังสรรค์เฮฮาพอมีประปราย

ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะมาเยือน นำพามาซึ่งความสุขและสิ่งดีงามมีสาระ มาร่วมแชร์ความคิดเห็น นำเสนอเรื่องราวการทำอาหารและขนม รวมถึงเทคนิคต่าง ๆ แบบไม่ปิดบังซ่อนเล้น มีความสุขกับการเข้าครัวในทุกวัน ซึ่งถือเป็นการคลายเครียดอีกทั้งจรรโลงโลกใบนี้ให้น่าอยู่และงดงามตราบนานเท่านาน ....



เมี่ยงคำกลีบบัว

หมี่กรอบโบราณ

น้ำจิ้มเมี่ยงคำ

เมี่ยงมะม่วง

ยำส้มโอ

ข้าวตังหน้าตั้ง

กระทงทอง

มัสมั่นไก่และเนื้อ

เนื้ออบสูตรประจำตระกูล

ปีกไก่ทอดซีอิ้ว

กล้วยเชื่อมแดง

ไก่อบเกือบจะ S&P

Filipino Chicken Adobo

ซอสเย็นตาโฟในตำนาน

น้ำจิ้มสุกี้ชาบูเลอเลิศ

น้ำพริกสะระแหน่-น้ำจิ้มลุยสวน

น้ำจิ้มชนิดต่างๆ

ซอสเทอริยากิ

ไข่ตุ๋นเนื้อเนียน

Mango Cheese Cake

Strawberry Cheese Cake

Cheese Pie

New York Cheese Cake

เค้กมะตูมสูตรอร่อย

เค้กอินทผลัม Dates Cake

ปลาทูต้มเค็ม

ไข่พะโล้-ต้มเค็มพะโล้-ก๋วยจั๊บ

ข้าวหน้าไก่สูตรเด็ด

บะหมี่หน้าไก่

อุ๊กไก่-ไก่พม่า

ซุปไก่มุสลิม

ผักดอง-Veggies Chutney

ครองแครงกรอบสูตรประจำตระกูล

กุ้งหวานบ้านฉัน

เค้กกล้วยน้ำว้า

หลนกุ้ง

กะปิคั่ว-กะปิหลน

Friends' blogs
[Add บ่งบ๊ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.