Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
22 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 

แด่..สยาม..เพื่อนเก่าที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เปิดโรง



โรงภาพยนตร์สยามกับหนังรอบปฐมทัศน์ รถถังประจัญบาน


ตอนโรงหนังสยามสร้างขึ้นหนแรก ปี 2509 กระมัง นับเป็นโรงหนังที่ล้ำที่สุดแล้วในยุคนั้น (สยามสแควร์ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลย) โครงสร้างดูทันสมัยหรูหรา มีบันไดเลื่อนเก๋ไก๋เป็นแห่งแรก เพราะสมัยก่อนเอเพ็กซ์มีแต่ศาลาเฉลิมไทย ซึ่งเป็นโรงละครมาก่อนในอาคารทรงอาร์ตเดคโค (น่าเสียดายทุบทำไมก็ไม่รุ) ซึ่ง decoration ด้านในคลาสสิคมาก

จำได้ว่าคุณพ่อพาทุกคนในครอบครัวมาชมหนังรอบปฐมทัศน์เรื่อง รถถังประจัญบาน (Battle of the Bulge) ที่สยามนี้แหละ คุณพ่อเป็นนักดูหนังที่ไม่เคยพลาดหนังเบิกโรงใหม่ทุกแห่ง เปิดโรงใหม่ที่ไหนต้องลากเราไปดู ที่สยามนี่ก็เช่นกัน เป็นโรงแรกที่ไม่มีเวที ดีไซน์ดูเดิ้นมากในยุคนั้น และผนังทั้งหมดก็เป็นม่านหลืบคลุมไปตลอดมองไม่เห็นลำโพงข้าง ซึ่งในยุคนั้นไม่มีโรงไหนดีไซน์แบบนี้





ระบบการฉายในยุคนั้นที่เฟื่องฟู นอกจาก Super Panavision 70 mm. ก็คือ ซีเนราม่า (Cinerama) ระบบเสียงสเตอริโอ 7 แทร็ก สมัยแรกที่ระบบซีเนราม่าเปิดตัวนั้น จำได้ว่าได้ดูต้นแบบจากโรงหนังเฉลิมไทยนะ เรื่อง How the west was won ซึ่งฉายด้วยเครื่องฉาย 3 เครื่องพร้อมกันไขว้ไปมาบนจอโค้งขนาดยักษ์ มุมภาพจะกว้างกว่าปรกติดูอลังการงานสร้างมาก แต่หลังๆ โสหุ้ยในการสร้างหนังซีเนราม่า 3 กล้องนั้นคงสูงมาก เลยดัดแปลงมาเป็น ซีเนราม่าเลนส์เดี่ยวบนฟิล์ม 70 มม.ขึ้นมา ถึงแม้มุมภาพจะไม่ถึง 146 องศาเหมือนต้นแบบ แต่ก็ได้อารมณ์อลังการทีเดียว ซึ่ง Battle of the Bulge หนังเปิดโรงของสยาม ก็เป็นระบบนี้แหละ



จำได้ว่าตอนนั้น เฮนรี่ ฟอนดา เล่นกับโรเบิร์ต ชอว์ (ดาวร้ายจากหนังเจมส์ บอนด์ Goldfinger ที่กำลังดัง) หนังรบกันโลกแตก ยิงกันกระหน่ำ เรายังเด็กๆ ก็เครียด ไม่ปลึ้มเท่าไร แต่ก็ต้องยอมรับว่าระบบภาพและเสียงนั้นล้ำมาก เพราะฟิล์มต้นแบบส่งมาจากสหรัฐโดยตรง สีสันแจ่มแจ๋ว ไม่คอนทราสจัดดำปื๋อเหมือนหนังสมัยนี้ (ให้นึกถึงตอนดูโรงดิจิทัลก็แล้วกัน)

หลังจากนั้นเราก็เติบโตมากับการดูหนังที่สยามนี้เป็นประจำ เพราะหนังใหญ่ๆ ในระบบซีเนราม่า จะมาลงโรงที่นี่ทั้งนั้น โดยเฉพาะ 2001 A space odyssey หนังขึ้นหิ้งของสแตนลี่ย์ คูบริค คนดูกันแน่นเต็มโรง ทั้งๆ หนังเซอร์โคดๆ แสดงว่าคนไทยยุคนั้นรสนิยมวิไลกันจริงๆ แต่ปรากฏว่ารอบแรกๆ กลายเป็นความผิดหวังอย่างมหันต์ เพราะหนังถูกตัดเอามายำใหม่จนเละให้ลงตัวในสองชั่วโมง!! กลายเป็นหนังใหม่อีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาเลย หนังจริงนั้นยาวมาก กลายเป็นข้อครหาด่าทอกันไปทั่วกรุงในยุคนั้น จนในที่สุดต้องนำเวอร์ชั่นสมบูรณ์แบบมาฉายอีกครั้ง และเราก็ต้องยอมจ่ายกะตังค์สองรอบ เวรกรรมจริงๆ...



นอกนั้นก็มีหนังเพลงดีๆ อีกหลายเรื่องโดยเฉพาะของป้าบาร์บรา สไตรแซนด์ อย่างเช่น Funny Girl หรือ Hello Dolly รวมทั้งหนังผจญภัยพันลึกภูเขาไฟระเบิดระเบ้ออย่าง Krakatua, East of Java ในระบบซีเนราม่า ซึ่งล้วนเป็นหนังอยู่ในความทรงจำทั้งนั้น

ถึงแม้ยุคหลังๆ สยามจะกลายสภาพไปฉายหนังสารพัดสารพันสัพเพเหระ ทุกครั้งที่ไปดู ก็รู้สึกเหมือนได้ไปพบเพื่อนเก่า พนักงานดูแลที่มีอัธยาศัยเหมือนเดิม และได้ดูหนังในโรงที่ให้ความรู้สึกของความเป็นโรงภาพยนตร์อย่างแท้จริง ไม่ใช่มินิเธียเตอร์อย่างที่เจอกันในโรงมัลติเพลกซ์ทุกวันนี้

ทราบข่าวด้วยความใจหาย.. เหมือนเพื่อนเก่าที่จากไปยังไม่ทันสั่งลา




 

Create Date : 22 พฤษภาคม 2553
3 comments
Last Update : 24 พฤษภาคม 2553 8:32:08 น.
Counter : 1614 Pageviews.

 

สวัสดียามเช้าครับพี่หมี

คนกรุงเทพผูกพันกับที่นี่มากเลยนะครับ
เห็นเขียนบล็อกรำลึกกันเยอะมากเลยครับ







 

โดย: กะว่าก๋า 23 พฤษภาคม 2553 7:08:22 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่หมี

เมื่อวานเห็นภาพคนกรุงเทพร่วมใจกันออกมาทำความสะอาดเมือง
เป็นภาพที่สวยงามมากเลยนะครับพี่






 

โดย: กะว่าก๋า 24 พฤษภาคม 2553 7:42:08 น.  

 

ก็หวังว่าอะไรร้ายๆมันจะจบลงซะทีนะครับพี่

 

โดย: กะว่าก๋า 24 พฤษภาคม 2553 13:01:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Bkkbear
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




งานเขียนบทความ บทหนัง เรื่องสั้น และนวนิยายในบล็อกนี้สงวนลิขสิทธิ์โดย Bkkbear (หมีบางกอก) ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามมิให้ดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

Friends' blogs
[Add Bkkbear's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.