|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Cloverfield Witch Project ขออนุญาตสปอยล์เละพอท้วมๆ

แรกเริ่มเดิมที ตั้งใจว่าจะไปดูหนังฝั่งตรงกันข้าม.. Across The Universe แต่รอบหนังไม่เป็นใจ ก็เลยย้ายมาอีกโรงใหญ่..สยามภาวลัย
แต่หลังจากดูหนังอสูรกาย..เอ่อ จำชื่อไม่ได้เนี่ย จนจบ ..น่าจะไปฉายในทีวีคงเข้าท่ากว่านิ
ไม่ต้องมาฉายโรงใหญ่จอยักษ์ให้เปลืองค่าไฟ.. ด้วยเหตุที่ทั้งเรื่องประหนึ่งถ่ายด้วยโฮมวิดิโอ (จริงๆ ก็ถ่ายด้วยวิดิโอนั่นแหละ หากแต่เป็นกล้องไฮเดฟ)
ใครที่ชมเจสัน บอร์นภาคหลังๆ แล้วเวียนเฮดกับมุมกล้องแฮนด์เฮลด์ที่ชวนหัวทิ่มตลอดเรื่อง
Cloverfield สามารถทำให้ท่านลืมเรื่องนั้นไปได้สนิทสนม...

คนสร้างเขาตั้งชื่อเป็นปริศนาไม่ให้รู้เรื่องว่าอะไรเป็นอะไร เพราะอยากให้คนดูกระเหี้ยนกระหือรือติดตามกันเอง
แต่คนไทยดั๊นนนไม่เก็ต ตั้งชื่อราวกับภาคต่อของก๊อตซิลล่า ก็เลยจบข่าว... ความลึกลึบชวนพิศวงของแคมเปญโปรโมตก็เลยกลายเป็นซีโร่ ..ตามประสาสติปัญญาบริษัทโฆษณาแบบไทยๆ
ตอนดูจบ..พ่อหนุ่มที่นั่งข้างๆ อุทานออกมาว่า..เหมือน Blair Witch เรยฟระ!! ก็เลยบรรลุ ณ บัดเดี๋ยวนั้น...
(หมายเหตุ Blair Witch Project คือหนังทุนต่ำถ่ายด้วยวิดิโอมือถือ โยกเยกเอยน้ำท่วมเมฆทั้งเรื่อง แต่เซอร์ไพรส์คนดูด้วยลีลาสยองขวัญแปลกใหม่ หนังก็ดังได้..แต่ข้าพเจ้าขอสารภาพว่าดูไม่จบ ด้วยเหตุที่สงสาร(ลูกกะ)ตาตัวเองเป็นอันมั่ก)
และเป็นที่มหัศจรรย์..ที่ข้าพเจ้าสามารถชม Cloverfield Witch Project บนจอใหญ่ยักษ์ได้จนจบโดยไม่อ้วกไปซะก่อน...

ขอให้ทำใจไว้ว่า นี่คือหนึ่งในหนังก๊อตซิลล่าที่เปลี่ยนมุมมองจากบุคคลที่สาม (คนดู) มาเป็นบุคคลที่หนึ่ง (หรือสอง?)ในฐานะผู้ร่วมเหตุการณ์โดยมองผ่านกล้องวิดิโอที่กระเตงกันไปทั่วเรื่อง....
แต่แรก..ไอเดียในการไม่ให้มองเห็นสัตว์ประหลาดบุกเมืองชัดเจน ถือว่าเวิร์คมากทีเดียว เพราะเป็นการสร้างความตื่นเต้นระทึกขวัญในแนวฮิทชค็อกได้อย่างมีชั้นเชิง
และคนสร้างก็ไม่แคร์ที่จะไม่สนใจที่มาที่ไปของไอ้เจ้าตัวประหลาดนี้ โดยใช้กลวิธีของหนังเบี่ยงเบนจุดสนใจของเรื่องไปอยู่ที่ชะตากรรมของเหยื่อไม่กี่คนแทน โดยอาศัยสไตล์ของการถ่ายทำที่แทนสายตาผู้ชมผ่านกล้องโฮมวิดิโอ ดึงคนดูเข้าไปร่วมเหตุการณ์ด้วย..ซึ่งก็ยอมรับว่าทำได้ดีไม่น้อย
หากแต่ความทนทานของสายตาข้าพเจ้ากับสไตล์วิดิโอหัวทิ่มหัวตำแบบนี้ มักจะทนอยู่ได้ไม่เกินสิบนาที ทำให้ต้องคอยหลับตาสงบสติอารมณ์เป็นพักๆ ใครที่ตั้งใจไปชมหนังที่ถ่ายทำอย่างประณีต เอ็ฟเฟ็คอลังการ ก็ขอให้คิดทบทวนอีกครั้ง
จริงๆ ก็ต้องชมว่า CG ในเรื่องก็ทำได้เนียนเข้ากับสไตล์กล้องวิดิโอสุดสวิงนี้ ดูกลมกลืนและน่าลุ้นดีทีเดียวเจียว ฝรั่งมันเก่งตรงสไตล์นี่แหละ แต่งได้บรรยากาศสมจริงจนเราอดสยองไปด้วยไม่ได้ โดยเฉพาะฉากที่เดินไปในความมืดของอุโมงค์รถใต้ดิน แล้วไปจ๊ะกะ....บรื๊อวววว
แรงจูงใจของบทในการที่จะลากตัวละครให้ไปทำอะไรเสี่ยงๆ เกินเหตุเนี่ย จริงๆ มันก็เป็นสูตรสำเร็จแหละ หากแต่คนเขียนจะทำให้คนดูเชื่อตามได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งในเรื่องนี้จะเป็นประเด็นสำคัญ เพราะจะเป็นฟากที่ทำให้หนังดูมีอะไรๆ นอกจากสัตว์ประหลาดถล่มเมือง... ซึ่งดูเป็นพล็อตรองไปซะ
Cloverfield จะดูมีสีสันและดึงดูดคนดูให้ติดตามได้ก็ด้วยประเด็นนี้แหละ (นอกจากความเวียนหัวของมุมกล้องสุดสวิงริงโก้)

น่าเสียดายที่ความคลุมเครือลึกลับของตัวประหลาดถูกเผยเยอะไปพอสมควรในกลางเรื่อง (คงเพราะอยากขาย CG มั่งฮี แหม ..หนังจอใหญ่นะจ๊ะ ไม่ใช่ฉายทีวี) ก็เลยทำให้เสน่ห์แห่งความชวนพิศวงของเรื่องมันหายไปไม่น้อย
ทำให้ภาพช่วงจบที่เผยตัวเต็มๆ ของตัวประหลาดเลยไม่เซอร์ไพรส์เท่าที่ควร ประกอบกับชะตากรรมของตัวละครที่แสนจะบังเอิญมาจ๊ะกัน..(เหอๆ เมโลดราม่าไม่ใช่มีแต่ในหนังไทยนิ) ก็เลยดูจงใจจะบีบเค้นอารมณ์คนดูไปหน่อย
และตัวละครที่ตกเป็นเหยื่ออีกรายที่ออกจะน่าสงสารเป็นอันมั่ก..คือ เทพีเสรีภาพ เหอๆๆ ไม่ว่าเรื่องไหนก็เรื่องนั้น โดนทุกที เรื่องนี้ดันเผยมาตั้งแต่ตัวอย่าง..หัวกระเด็นเข้ามากลางเมือง (แหม เป็นเราไม่เอาช็อทนี้มาเล่นให้เสียของ..เก็บไว้เซอร์ไพรส์คนดูในเรื่องเต็มดีฝ่า)
หนังไทยน่าจะดูเป็นอุทาหรณ์ว่า ความตั้งใจในการถ่ายทำแบบมั่วๆ ซั่วๆ ดูไม่เนียน ก็กลายเป็นสไตล์หนึ่งที่ขายได้ หากแต่ CG เอ็ฟเฟ็คที่เห็นนั้น มันคงไม่ง่ายตามไปด้วย มนุษย์เราก็ช่างเก่งกาจในการคิดค้น Software ที่มาสร้างภาพพิศดารสั่นๆ ไหวๆ ให้กลมกลืนกับสไตล์เรื่องประหลาดๆ นี้ได้
สะท้อนให้เห็นว่าสไตล์และกึ๋นในการเล่าเรื่องเป็นสิ่งสำคัญ...

แปลกดี..ในความงุนงงของสมองที่กำลังปรับตัว หลังจากเดินออกมาจากโรงสักพัก...
เสียง..ครืดดด ดังมาจากด้านหลัง ....
อะจ๊ากสส..(นึกว่าก๊อตซิลล่าบุกพารากอน)
ธ่อ..ที่แท้พนักงานเขากำลังเลื่อนโต๊ะ...
เหอะๆ ดูซิ บรรยากาศมันตามมาหลอนเราถึงนอกโรง..เวรแท้ๆ
Create Date : 19 มกราคม 2551 |
Last Update : 19 มกราคม 2551 17:16:04 น. |
|
4 comments
|
Counter : 2334 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: nologo วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:1:42:31 น. |
|
|
|
โดย: mixzypat IP: 210.203.176.104 วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:18:10:34 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]

|
งานเขียนบทความ บทหนัง เรื่องสั้น และนวนิยายในบล็อกนี้สงวนลิขสิทธิ์โดย Bkkbear (หมีบางกอก) ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามมิให้ดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
|
|
|
|
|
|
|
ดูแล้วอ้วกทุกที ภูมิต้านทานการถ่ายทำแบบนี้ต่ำมาก
เห็นโฆษณาในหนังสือพิมพ์นี้มันราวกับหนังอลังการมาก