BOYFRIEND : ฟุยูมิ โซเรียว
“คนที่มีบาดแผลอยู่ที่ไหนสักแห่ง จะร้องครวญคราง ถ้าถูกสะกิดแผลที่มีบาดแผลเหมือนกับฉัน” -คานาโกะ-
B O Y F R I E N D ฟุ ยู มิ โ ซ เ รี ย ว
มาซากิ ทาคาโต้ และ คานาโกะ ยูกิ หนุ่มสาวสองคนที่ดูไม่น่าจะมาสนิทกันได้ แต่ทั้งคู่รับรู้ได้ว่าต่างคนเป็นอีกครึ่งชีวิตที่เฝ้ารอ
มาซากิ ได้ช่วยเหลือ คานาโกะ ที่กำลังถูกคุกคามในขบวนรถไฟในเช้าวันหนึ่ง หลังจากวันนั้นคานาโกะก็พยายามที่จะสนิทกับมาซากิจนถูกฝ่ายชายหาว่าจุ้นจ้าน เพราะเขาขึ้นชื่อว่าพวกไม่สนโลก เป็นคนแรงๆ ไม่แคร์ใคร และยังเคยปฏิเสธสาวที่มาบอกชอบอย่างไม่ใยดีมาแล้วด้วย แต่คานาโกะคนนี้กลับมีอิทธิพลต่อใจของมาซากิ จนเขายอมมาเข้าชมรมบาสและจริงจังกับมันอีกครั้งหนึ่ง และเหมือนโลกกลม ที่โค้ชคนใหม่ของชมรมคือ นากาซึงาวะ โซ อดีตแฟนพี่สาวของคานาโกะที่เสียชีวิตไป พอความรักเริ่มออกสตาร์ท เพื่อนสาวที่ชื่อ มามิ ก็เข้ามาสารภาพรักกับมาซากิ นางคือคนที่คิดไวทำไวกว่าคานาโกะก้าวหนึ่งตลอด ถ้าในยุคโซเชียลต้องมีคนกดเกลียดแน่นอน 55 แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนใจมาซากิไปจากคานาโกะได้หรอกนะ แต่ๆๆ มันมีตรงที่ว่า เพราะความที่มาซากิไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับมามินี่แหละ ทำให้ในบางครั้งคานาโกะแอบอิจฉามามิที่ได้สัมผัสมุมขี้เล่น หยอกล้อแบบที่ไม่เคยปฏิบัติกับเธอมาก่อน เพราะมาซากิมัวแต่ทะนุถนอมของรักของหวง(คือคานาโกะ)มากเกินไป จนฝ่ายหญิงเข้าใจว่าไม่เทคแคร์ ตอนอ่านมาถึงแถวนี้อารมณ์ก็ขึ้นเหมือนกันนะ แต่อีกแป๊บมันมีช็อตที่คานาโกะกับมาซากิมาเคลียร์ใจกันน่ะ โหย หรืออาจารย์มีตาทิพย์เดาใจนักอ่านได้
มามิจัง แต่นี่ยังว่าเบาะๆ นะ พอตัวละคร อากิระ คู่แข่งตัวจริงของมาซากิออกโรงมา โมเมนตั้มของเรื่องก็จะเหวี่ยงขึ้นกว่านี้อีกมาก ความสัมพันธ์ก็สั่นคลอน บางทีถึงขั้นเซ็งมาซากิ อยากหยุมหัวคานาโกะ และยังปมฝังใจในอดีต และยังจะโรคประจำตัวที่มีผลต่อชีวิตคานาโกะอีก…
อากิระ
"คนที่ทำให้รู้สึกว่าเรามองเห็นคุณค่าของตัวเองนั้นคือคนสำคัญยิ่งนัก"
คานาโกะและมาซากิต่างก็เป็นคนๆ นั้นของกันและกัน แต่ทั้งคู่จะก้าวผ่านอุปสรรคไปสู่ปลายทางรักที่สวยงามได้หรือไม่… ภาพแรก : บรรยากาศตอนเช้าในบ้านมาซากิ ภาพสอง : คานาโกะและโซ BOYFRIEND ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1985 มีรวมเล่มในเวอร์ชั่นเล่มปกติ 10 เล่มจบ หลังจากนั้นก็จัดพิมพ์อีกหลายครั้ง สำหรับเวอร์ชั่นที่บงกชได้LC รู้สึกเป็นของรุ่นปี 1997 มารวมเป็นเล่มหนา 6 เล่มจบ ชอบ BOYFRIEND ทั้งงานภาพและพล็อตเรื่อง ชอบการวาดฉาก แบ็คกราวนด์ ที่ใช้เครื่องไม้เครื่องมือและสกรีนโทนที่ไม่ได้เป็นเทคนิคหวือหวาในยุคนั้น แต่ทำออกมาแล้วดูเรียบแต่โก้ ถ้าเลือกซีนที่ชอบ ถ้าแบบที่สุดขอเลือกฉากที่มาซากิต้องลงแข่งบาส ในขณะที่คานาโกะกำลังอยู่ในช่วงความเป็นความตาย แล้วสุดท้ายโค้ชโซให้อากิจังเพื่อนของคานาโกะเดินมาบอกมาซากิว่า… มันเป็นฉากที่ไม่มีบทสนทนาแต่วาดออกมาได้ซาบซึ้ง และอีกฉากที่มาซากิชู๊ตลูกสุดท้ายเพื่อทำแต้มแข่งกับเวลาที่นับถอยหลัง เฮ้ย คือลุ้นไปด้วยจริงๆ ยังมีอีกฉากเล็กๆ ที่ถูกใจเป็นตอนที่มาซากิปลอมเสียงเป็นคุณพ่อโทรไปง้อคุณแม่ให้กลับบ้าน เสร็จปุ๊บมาซากิรีบวางหูแล้วมือป้องปาก อันนี้ชอบเพราะนานๆ จะเห็นมุมขี้เล่นหัวเราะน้ำตาเล็ดจากคนแข็งกร้าวอย่างมาซากิ
ฉากประทับใจ หนึ่งและสอง
“คนเราต้องทำตัวให้มีประโยชน์กับคนอื่นจะได้ไม่ต้องมาเศร้าเสียใจภายหลัง” -คุณพ่อของมาซากิ-
ภาพจาก แม้ฤดูกาลผันผ่าน และก่อนจะเป็นBOYFRIEND มาซากิเคยไปปรากฏตัวในเรื่องสั้น แม้ฤดูกาลผันผ่าน (Torisugita season / 通り過ぎたseason) ซึ่งเป็นไทม์ไลน์ตอนที่เจ้าตัวอยู่ปี 1 ชมรมบาสโรงเรียนฮิงาชิโจ ก่อนที่ย้ายมาเข้าโรงเรียนวาคาบะไดและเจอกับคานาโกะนางเอกของเรื่อง ซึ่งเรื่องสั้นนี้รวมอยู่ในมังงะเรื่อง รักเธอพอๆกัน (Onaji Kurai- Ai) เล่ม1 (สยามอินเตอร์คอมิกส์ /โชกักกุคัง ) และจาก คหสต. ว่าถ้าฝ่ายโชเน็นมี อ.มิซึรุ อาดาจิ ฝ่ายโชโจสำหรับเราก็คือ อ.ฟุยูมิ โซเรียว นี่แหละ
. BOYFRIEND (1985) เวอร์ชั่น 6เล่มจบ เรื่องและภาพ อ.ฟุยูมิ โซเรียว ผู้แปล : ปนัดดา สนพ. บงกช ลิขสิทธิ์จาก โชกักกุคัง
Create Date : 14 ธันวาคม 2566 |
Last Update : 14 ธันวาคม 2566 10:26:22 น. |
|
15 comments
|
Counter : 558 Pageviews. |
|
|
ก็ได้นะคะ เพราะก็ทำอยู่ 555
คือทานไม่หมดในคราวเดียว ที่เหลือก็ใส่ตู้เย็น
เวลาทานบางทีก็อุ่นในไมโครเวฟ บางทีก็ไม่
ทานทั้งเย็น ๆ เลยค่ะ ใส่อะไรเป็นท้อปปิ้งก็ตามชอบเลยค่ะ
การ์ตูนข้างบน ไม่ได้อ่านนะคะ
โนคอมเม้นท์ แหะ ๆ