Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
28 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 

--- ภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกรกฎาคม 2551 ---

. . .

รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกรกฎาคม 2551


นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้แถลงข่าวรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกรกฎาคม 2551 ว่า เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ดี โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากอุปสงค์จากต่างประเทศด้านการส่งออกที่ขยายตัวได้ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศจากการบริโภคและการลงทุนที่ขยายตัวดีขึ้นเช่นกัน สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี แม้ว่าเสถียรภาพภายในประเทศยังคงมีความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่คาดว่าแนวโน้มเงินเฟ้อน่าจะปรับตัวลดลงในช่วงที่เหลือของปี อันเป็นผลจาก 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤตเพื่อคนไทยทุกคน และทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงโดยมีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้

1. การบริโภคภาคเอกชนในเดือนกรกฎาคม 2551 ขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยเครื่องชี้การบริโภคด้านสินค้าคงทนจากยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 ปี ที่ร้อยละ 16.3 ต่อปี เนื่องจากรายได้ประชาชนในเขตภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นตามรายได้เกษตรกรที่สูงขึ้นจากราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกันกับปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งที่ขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 27.5 ต่อปีในเดือนกรกฎาคม ขณะที่เครื่องชี้การบริโภคจากปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่ยังคงขยายตัวได้ดีถึงร้อยละ 40.7 ต่อปี สอดคล้องกับเครื่องชี้การบริโภคจากภาษีมูลค่าเพิ่ม (ณ ราคาคงที่) ขยายตัวถึงร้อยละ 23.3 ต่อปี เร่งตัวขึ้นมากจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ร้อยละ 7.6 ต่อปี โดยมีสาเหตุหลักมาจากปริมาณการนำเข้าที่อยู่ในระดับสูงมาก

สำหรับเครื่องชี้แนวโน้มการบริโภคในอนาคตอันได้แก่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนกรกฎาคมปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน โดยอยู่ที่ระดับ 71.8 จุด จากระดับ 70.8 จุดในเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจาก 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤตเพื่อคนไทยทุกคน ประกอบกับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศโดยเฉพาะน้ำมันเบนซินและก๊าซโซฮอลที่เริ่มปรับลดลงในช่วงครึ่งหลังของเดือนกรกฎาคม 2551

2. การลงทุนภาคเอกชนในเดือนกรกฎาคม 2551 เริ่มมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้การลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนที่เร่งตัวขึ้นที่ถึงร้อยละ 28.4 ต่อปี ในเดือนกรกฎาคม เร่งตัวขึ้นจากที่ขยายตัวร้อยละ 8.4 ต่อปี ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งปริมาณการนำเข้าที่เร่งตัวขึ้นมากส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการนำเข้าสินค้าทุนสูงเป็นพิเศษในหมวดแท่นเจาะและสิ่งก่อสร้างลอยน้ำ

ในขณะที่เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนด้านการก่อสร้างมีการปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน โดยภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์เร่งตัวขึ้นถึงร้อยละ 43.0 ต่อปีในเดือนกรกฎาคม อันเป็นผลจากมาตรการลดหย่อนภาษีอสังหาริมทรัพย์เพื่อสนับสนุนธุรกรรมในภาคอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม เครื่องชี้การลงทุนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือนกรกฎาคมหดตัวที่ร้อยละ -29.3 ต่อปี โดยเป็นการหดตัวของรถบรรทุกและรถปิคอัพเป็นหลัก

3. เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจด้านการคลังในเดือนกรกฎาคม 2551 พบว่ารายได้จัดเก็บของรัฐบาลสุทธิอยู่ที่ 105.5 พันล้านบาท หรือขยายตัวในอัตราร้อยละ 22.1 ต่อปี เนื่องจากปัจจัยฐานต่ำในเดือนเดียวกันของปีก่อนที่มีการโอนจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 6.9 พันล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมการโอนภาษีดังกล่าว รายได้สุทธิของรัฐบาลในเดือนกรกฎาคมจะขยายตัวที่ร้อยละ 9.8 ต่อปี

ขณะที่รายได้ภาษีจาก 3 กรมจัดเก็บขยายตัวได้ดีที่ร้อยละ 14.4 ต่อปี สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่องและระดับราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรขาเข้าขยายตัวได้ในระดับสูง ทั้งนี้ ภาษีฐานรายได้ในเดือนกรกฎาคมขยายตัวร้อยละ 8.6 ต่อปี ตามรายได้ของนิติบุคคลที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ภาษีฐานการบริโภคขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 33.3 ต่อปี ตามมูลค่าการนำเข้าขยายตัวในระดับสูง

สำหรับรายจ่ายงบประมาณในเดือนกรกฎาคม 2551 สามารถเบิกจ่ายได้รวมทั้งสิ้น 134.5 พันล้านบาท หดตัวจากฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ร้อยละ -5.8 ต่อปี โดยรายจ่ายประจำสามารถเบิกจ่ายได้จำนวน 115.9 พันล้านบาท หดตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ -3.0 ต่อปี ในขณะที่รายจ่ายลงทุนสามารถเบิกจ่ายได้จำนวน 18.6 พันล้านบาท หดตัวที่ร้อยละ -20.2 ต่อปี เนื่องมาจากปัจจัยฐานที่สูงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่มีการโอนงบลงทุนให้แก่ส่วนราชการและ อปท. ในจำนวนที่สูง

ทั้งนี้ รายจ่ายงบประมาณในช่วง 10 เดือนแรกสามารถเบิกจ่ายไปได้แล้ว 1,359 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.4 ต่อปี ทั้งนี้ อัตราการเบิกจ่ายของรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2551 คิดเป็นร้อยละ 76.4 ของกรอบวงเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2551 (1,660 พันล้านบาท) โดยคาดว่า การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2551 จะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่ร้อยละ 94.0 ของกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2551

4. มูลค่าการส่งออกในเดือนกรกฎาคม 2551 ขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 43.9 ต่อปี เร่งจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 27.4 ต่อปี ด้วยมูลค่าที่สูงสุดที่ 17.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการขยายตัวด้านปริมาณการส่งออกที่ร้อยละ 24.2 ต่อปี และราคาสินค้าส่งออกที่ร้อยละ 15.9 ต่อปี ซึ่งการส่งออกที่ขยายตัวสูงนี้มาจากเกือบทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเชื้อเพลิง สินค้าเกษตร และอัญมณี

ส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและยานยนต์ ยังขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ขณะที่เมื่อพิจารณาจากมิติด้านตลาดคู่ค้า พบว่าเป็นการขยายตัวดีในทุกตลาด โดยเฉพาะตลาดส่งออกใหม่ เช่น ทวีปออสเตรเลีย และเวียดนาม เป็นต้น

สำหรับการนำเข้าในเดือนกรกฎาคม 2551 ปรับตัวขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน โดยขยายตัวร้อยละ 55.1 ต่อปี เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 30.7 ต่อปี โดยมีมูลค่า 18.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการขยายตัวด้านปริมาณนำเข้าที่ร้อยละ 30.2 ต่อปี และราคาการนำเข้าที่ร้อยละ 19.1 ต่อปี ซึ่งการนำเข้าที่ขยายตัวในระดับสูงนี้เป็นการขยายตัวที่เร่งขึ้นในทุกหมวดสินค้าเช่นกัน ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง อุปโภคบริโภค เครื่องมือเครื่องจักร และวัตถุดิบ ซึ่งการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบที่เร่งตัวขึ้นมากนี้ บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของไทยน่าจะสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องในอนาคต ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าที่สูงกว่ามูลค่าการส่งออกนั้น ทำให้ดุลการค้าในเดือนกรกฎาคมขาดดุลที่ -1.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

5. สำหรับเครื่องชี้ในด้านอุปทานในเดือนกรกฎาคม 2551 พบว่า ผลผลิตภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรมยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง แต่ภาคบริการจากการท่องเที่ยวขยายตัวชะลอลงจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมพบว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เบื้องต้น) ในเดือนกรกฎาคมขยายตัวได้ดีที่ร้อยละ 9.8 ต่อปี เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวที่ร้อยละ 8.8 ต่อปี โดยได้รับแรงสนับสนุนหลักจากอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อส่งออก เช่น อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ และเครื่องแต่งกาย ที่ขยายตัวดีขึ้น

สำหรับเครื่องชี้ภาคการเกษตรยังคงขยายตัวได้ดี โดยดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรเดือนกรกฎาคมยังคงขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 11.7 ต่อปี จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตการเกษตรสำคัญเช่น ข้าวนาปรัง ยางพาราและมันสำปะหลัง เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูง ทำให้เกษตรกรเร่งเก็บเกี่ยวมากขึ้น

สำหรับภาคบริการจากการท่องเที่ยวขยายตัวชะลอลง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยในเดือนกรกฎาคมยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 1.3 ล้านคน ขยายตัวที่ร้อยละ 9.3 ต่อปี ชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 11.7 ต่อปี โดยสาเหตุหลักน่าจะมาจากปัญหาราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น ทำให้สายการบินส่วนใหญ่มีการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมัน และค่าโดยสารเครื่องบิน ส่งผลกระทบให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทาง


6. เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยในด้านเสถียรภาพภายนอกนั้น ทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2551 อยู่ที่ 104.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอยู่ในระดับสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นเกินกว่า 4 เท่า ในขณะที่เสถียรภาพในประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ร้อยละ 9.2 ต่อปี ปรับตัวสูงขึ้นจากร้อยละ 8.9 ต่อปี ในเดือนก่อนหน้าเนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูง และราคาสินค้าในหมวดอาหารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม คาดว่า 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤตเพื่อคนไทยทุกคนของรัฐบาลที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมและราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงในเดือนสิงหาคมจะทำให้แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในอนาคตอาจปรับตัวลดลง

นอกจากนี้อัตราการว่างงานในเดือนมิถุนายน 2551 อยู่ที่ระดับต่ำที่ร้อยละ 1.2 ของกำลังแรงงานรวม สำหรับสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ณ เดือนมิถุนายน 2551 อยู่ที่ร้อยละ 35.8 ซึ่งยังคงต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกินร้อยละ 50.0 ค่อนข้างมาก

----------------------------------------



กระทรวงพลังงาน เตรียมพิจารณาปรับราคา LPG สิ้นเดือนนี้


พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวปาฐกถาในงาน “มิติใหม่ประเทศไทย พลังงานทดแทน ภูมิศาสตร์พลังงานโลก”ว่า หากประชากรโลกยังใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือยต่อไป ในอนาคตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจะหมดลงในอีก 40 – 60 ปีข้างหน้า ดังนั้นหลายประเทศทั่วโลกควรเตรียมรับมือกับวิกฤตดังกล่าว ในขณะที่ประเทศไทยก็เร่งส่งเสริมและพัฒนาพลังงานทดแทนควบคู่กับการลดการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น

ส่วนการปรับโครงสร้างราคาก๊าซแอลพีจีในภาคการขนส่ง และภาคอุตสาหกรรม มั่นใจว่าจะได้ข้อสรุปราคาในสิ้นเดือนนี้แน่นอน ส่วนเรื่องการกำหนดราคาขาย น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 85 ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาความเหมาะสม แต่จะถูกกว่าน้ำมันเบนซิน 95 ประมาณร้อยละ 30

กระทรวงพลังงานจะเร่งผลักดันการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 85 โดยจะให้การใช้เอทานอลเป็นพลังงานทดแทนในประเทศเป็นวาระแห่งชาติ และในอนาคตกระทรวงพลังงานจะเร่งพัฒนา และศึกษาการใช้พลังงานทดแทนประเภทอื่นมาใช้ในประเทศให้มากขึ้น อย่างเช่นพลังงานไฮโดรเจนที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์แทนน้ำมัน

นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการรถแท็กซี่สาธารณะว่า กระทรวงพลังงาน และ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) จะให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรถแท็กซี่ที่ได้รับผลกระทบหากมีการปรับขึ้นราคาแอลพีจีในภาคการขนส่ง

ปตท.และกระทรวงพลังงานจะให้เงินช่วยเหลือในการเปลี่ยนและติดตั้งถังก๊าซเอ็นจีวีเป็นวงเงินกว่า 800 - 900 ล้านบาท แบ่งเป็น รถแท็กซี่ใหม่ ปตท.ช่วยเหลือ 28,000 บาทต่อคัน กระทรวงพลังงาน 12,000 บาทต่อคัน ส่วนรถแท็กซี่เก่า ปตท.ช่วยเหลือ 40,000 บาทต่อคัน กระทรวงพลังงาน 3,000 บาทต่อคัน ผ่านการติดตั้งของอู่ที่ได้มาตรฐานจำนวน 22 อู่ ที่สามารถติดตั้งได้เดือนละ 5,000 คัน

สำหรับรถแท็กซี่ที่สนใจสามารถติดต่อผ่านสมาคมผู้ประกอบการแท็กซี่สาธารณะได้ที่โทร.0-2287-3345 และ 0-2676-2800 เริ่มโครงการตั้งแต่เดือนกันยายนไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ รวมระยะเวลา 4 เดือน คาดมีรถแท็กซี่เข้าร่วมโครงการกว่า 20,000 คัน หรือ มีแท็กซี่เข้าร่วมโครงการประมาณ 5,000 คันต่อเดือน

. . .






 

Create Date : 28 สิงหาคม 2551
2 comments
Last Update : 28 สิงหาคม 2551 19:00:10 น.
Counter : 668 Pageviews.

 

ต๊ะเอ๋ พี่ชายคนดีที่หายสาปสูญไป มาลงอารัยย๊าวยาว ยังไม่ได้อ่านนะก๊ะ

แต่แวะมาส่งความคิดถึงนะคะพี่ชาย ^_^

 

โดย: นู๋ Beee เองค่ะ (http://beee.bloggang.com) IP: 125.24.140.135 30 สิงหาคม 2551 13:39:08 น.  

 

โอ๊ยๆๆๆ บ้านนี้อ่ะมีแต่ข่าวกระเป๋าแห้ง เต็มไปหมด
สู้ที่บ้านเค้าก็ไม่ได้ สบายใจ อิ่มพุงด้วยน่ะลูกเพ่

แฮปปี้ ฟรายเดย์ แอนด์ แซทเตอร์เดย์ เซโกะนิ
คริ คริ คริ


 

โดย: ป้าซ่าส์ 30 สิงหาคม 2551 14:50:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


loykratong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






ไม่มีอะไรขึ้นตลอด
ไม่มีอะไรลงตลอด
...ไม่มี the end of the world ...

Web Site Hit Counters

ราคาทองคำ
 

ราคาทองคำต่างประเทศ



Friends' blogs
[Add loykratong's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.