Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
9 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
. . . ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ทางเลือกใหม่สร้างความมั่นคงเกษตรกร . . .

ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ทางเลือกใหม่สร้างความมั่นคงเกษตรกร

ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าจัดตั้งขึ้น ตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ.2542 เปิดให้บริการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า 3 รายการคือ ข้าว ยางพารา และมันสำปะหลัง

ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าจัดตั้งขึ้นเพื่อ ให้เกษตรกรสามารถใช้เป็นเครื่องมือ ในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา ตลอดจนใช้เป็นเครื่องชี้แนวโน้ม ของราคาสินค้าเกษตรในอนาคต

ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย มีการซื้อขายสินค้าเกษตร 3 ชนิด คือ ข้าวขาว 5% แบบ Both Option (BWR5) เริ่มซื้อขาย เมื่อ 2 เม.ย. 2550 ยางแผ่นรมควันชั้น 3 (RSS3) เริ่มซื้อขาย 28 พ.ค. 2547 และมันสำปะหลังเส้น (TC) เริ่มซื้อขาย 18 ส.ค.2549 ในอนาคตจะเพิ่มเติมสัญญาซื้อขายพืชที่ผลิตพลังงานทดแทนเข้ามาเพิ่มเติม

โดยมีสำนักหักบัญชีดูแลความมั่นคงและกระบวนการป้องกันการบิดพลิ้วของสัญญา และมีคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) เป็นหน่วยงานกำกับ

ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า จะบอกราคาล่วงหน้าถึง 6 เดือน ทำให้เกษตรกรเข้าไปขายผลผลิตไว้ล่วงหน้า เท่ากับเป็นการล็อกราคาหรือประกันราคาไว้ก่อนได้ เกษตรกรสามารถขายสินค้าในราคาที่พอใจ และช่วยลดความเสี่ยง ไม่ต้องเจอกับปัญหาสินค้าราคาตกต่ำ ขายไม่ได้ราคาอีก

อีกทั้ง โอกาสในการรู้ราคาสินค้าเกษตรล่วงหน้าถึง 6 เดือน ยัง ช่วยให้เกษตรกรวางแผนการผลิตได้ เพราะเมื่อใดที่รู้ว่าในอนาคตราคาสินค้าเกษตรใดจะตกต่ำ ก็สามารถหลีกเลี่ยงไปปลูกพืชอย่างอื่นที่มีราคาดีหรือให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าได้

ผู้ที่เข้ามาซื้อขายในตลาดนี้จะเป็นผู้ส่งออก โรงสี ผู้ค้า ท้องถิ่นและสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ที่เข้ามาทดสอบราคายางพารา

นอกจากนี้ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้ายังเปิดรับผู้ที่ไม่ใช่เกษตรกร แต่เป็นนักลงทุนหรือนักเก็งกำไร ที่เล็งเห็นช่องทางการลงทุน และอยากเข้ามาเก็งกำไรจากการซื้อมาและขายไป ในรูปแบบคล้ายๆ กับการเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์

ถ้าเก็งถูกก็ได้กำไรไป แต่หากเก็งผิดก็มีโอกาสขาดทุน ทำให้ความเสี่ยงของราคาสินค้าเกษตรถูกถ่ายโอนและกระจายไปยังกลุ่มนี้

นับตั้งแต่เปิดตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้ามา 4 ปี มีสัดส่วนของ นักลงทุนหรือนักเก็งกำไร ที่เป็นรายย่อย และคนทั่วไปเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์เพื่อเข้ามาซื้อขายในตลาดนี้ถึง 40%

การลงทุนในตลาดนี้ ทั้งคนขายและคนซื้อต่างสามารถล็อกราคาซื้อขายไว้ล่วงหน้าได้ จึงสามารถซื้อขายได้ในราคาที่แน่นอน ไม่เปลี่ยนแปลง

เมื่อเปรียบเทียบกับการเล่นหุ้น ที่ต้องเริ่มต้น โดยการเข้าไปซื้อหุ้นเอาไว้ก่อน เมื่อมีหุ้นในมือแล้วจึงจะขายได้ แต่การซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า จะซื้อก่อนก็ได้หรือขายก่อนก็ได้

อีกประการหนึ่ง เวลาซื้อหุ้นจะต้องจ่ายเงินเต็มมูลค่าหุ้น เช่น หุ้นละ 100 บาท ถ้าซื้อ 200 หุ้น ก็ต้องจ่าย 20,000 บาท ถ้าราคาหุ้นสูงขึ้น 1 บาทต่อหุ้น เมื่อขายทำกำไรจะได้กำไร 200 บาท จากผลของการลงทุนไป 20,000 บาท

ส่วนการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า สมมติสินค้าเกษตรชนิดหนึ่ง ราคา กก.ละ 100 บาท ถ้าซื้อล่วงหน้า 200 กก. มูลค่าที่ซื้อเท่ากับ 20,000 บาท แต่จะจ่ายเพียงเงินประกัน 10% คือ แค่ 2,000 บาท ยังไม่ต้องจ่ายค่าสินค้าทั้งหมด ถ้าสินค้าราคาสูงขึ้น กก.ละ 1 บาท เมื่อขายทำกำไรจะได้กำไร 200 บาท จากการลงทุนเพียง 2,000 บาท

เท่ากับว่าลงทุนน้อยกว่าหุ้นแต่ได้กำไรเท่ากัน

สำหรับนายหน้าหรือโบรกเกอร์ในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าในปัจจุบันมี 9 ราย คือ 1. บริษัท เจเอสพี. ฟิวเจอร์ส จำกัด (JSP) 2. บริษัท ธนเกษตร จำกัด (TAA) 3.บริษัท ฟิวเจอร์ อกริ เทรด จำกัด (FAT) 4.บริษัท แอ็กโกร์ว เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด (AGE)

5.บริษัท เอ.เอ็น.ที. (ไทยแลนด์) จำกัด (ANT) 6.บริษัท หงต้า ฟิวเจอร์ส จำกัด (HOT) 7.บริษัท พัฒนาเกษตรล่วงหน้า จำกัด PAF) 8. บริษัท แอโกรเวลท์ จำกัด (AGR) 9. บริษัท ดีเอส ฟิวเจอร์ส จำกัด (DSF)

************

สรุปย่อ จาก นสพ.ไทยรัฐ 9 มิ.ย.2551





Create Date : 09 มิถุนายน 2551
Last Update : 9 มิถุนายน 2551 13:10:42 น. 0 comments
Counter : 557 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

loykratong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






ไม่มีอะไรขึ้นตลอด
ไม่มีอะไรลงตลอด
...ไม่มี the end of the world ...

Web Site Hit Counters

ราคาทองคำ
 

ราคาทองคำต่างประเทศ



Friends' blogs
[Add loykratong's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.