Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
31 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 

. . . 1 ส.ค.เริ่มใช้ 6 มาตรการ 6 เดือน -- ดีเซลลดลง 50 สตางค์ -- เลื่อนพิจารณาราคาสินค้า. . .

. . .


6 มาตรการ 6 เดือน เริ่มแล้ววันแรกทั้งรถเมล์-รถไฟเชิงสังคม และลดค่าน้ำ-ค่าไฟ


วันที่ 1 สิงหาคมนี้ เป็นวันแรกที่จะใช้ครบทั้ง 6 มาตรการเป็นเวลา 6 เดือน หลังจากที่มาตรการแรก คือ มาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ และน้ำมันดีเซล มีผลบังคับใช้ไปแล้วเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา มาตรการดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ต่ำกว่าราคาเบนซิน 91 และ 95 ลิตรละ 8-9 บาท ทำให้ราคาขณะนี้แก๊สโซฮอล์อยู่ที่ลิตรละ 29-30 บาท ขณะที่เบนซิน 91 และ 95 อยู่ที่ลิตรละ 37-40 บาท
ส่วนราคาน้ำมันดีเซลวันนี้ปรับลดลงอีกลิตรละ 50 สตางค์ มาอยู่ที่ 37.44 บาท

มาตรการที่สอง คือ การชะลอการปรับราคาก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือนหรือก๊าซหุงต้มไป 6 เดือน ส่วนการปรับราคาก๊าซแอลพีจีของภาคขนส่งและอุตสาหกรรม คณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) จะพิจารณาในเดือนสิงหาคมนี้โดยมีข่าวว่าจะปรับเพิ่มประมาณลิตรละ 5-10 บาท

สำหรับการลดค่าใช้จ่ายน้ำประปาให้กับภาคครัวเรือนที่ใช้น้ำไม่เกิน 50 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน จะเริ่มในรอบบิลของเดือนสิงหาคมนี้ โดยในใบแจ้งหนี้จะแสดงรายการตามปกติ และระบุว่า “รัฐบาลรับภาระ” ซึ่งประชาชนที่ได้รับสิทธิ์นี้ไม่ต้องนำใบแจ้งหนี้ไปชำระเงิน

ส่วนนิติบุคคลหรือผู้ประกอบการให้เช่าอาคารชุด หรือห้องเช่าที่มีค่าเช่าไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อเดือน ที่มีค่าใช้จ่ายน้ำประปาต่อห้องไม่เกิน 50 ลูกบาศก์เมตรต่อห้องต่อเดือน ให้นำสัญญาเช่าเป็นหลักฐานลงทะเบียนกับการประปานครหลวง (กปน.) และการประปาส่วนภูมิภาค(กปภ.) โดยให้ลงทะเบียนภายใน 15 สิงหาคมนี้ และเริ่มมีผลในรอบจัดเก็บเดือนกันยายน 51

สำหรับการลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของภาคครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 80 หน่วย/เดือน ใบแจ้งหนี้จะระบุว่า “รัฐบาลรับภาระ” สำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้า 80-150 หน่วยต่อเดือน จะระบุว่า “รัฐบาลจะรับภาระครึ่งหนึ่ง” แต่เพื่อให้ครอบคลุมผู้มีรายได้น้อยมากขึ้น จึงให้ผู้ประกอบการอาคารชุด หรือห้องเช่าที่มีอัตราเช่าไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อเดือน และมีการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยต่อห้องไม่เกิน 150 หน่วยต่อห้องต่อเดือน ให้นำหลักฐานสัญญาเช่ามาขึ้นทะเบียนกับ กฟน.และ กฟภ. ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 51 เช่นกัน

ส่วนรถเมล์ ขสมก.ฟรี เป็นรถโดยสารธรรมดา(รถร้อน) จำนวน 800 คันให้บริการ 73 เส้นทาง ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ให้บริการด้วยการติดป้ายด้านหน้ารถ และด้านข้างว่า “รถเมล์ฟรีเพื่อประชาชน” โดยจะมีพนักงานประจำรถเมล์เพื่อดูแลผู้โดยสาร และจำกัดจำนวนผู้โดยสารไม่เกิน 120 คน ในชั่วโมงเร่งด่วน และ 80 คนในชั่วโมงปกติ

ส่วนรายได้ของพนักงาน รัฐบาลจะชดเชยส่วนแบ่งค่าตั๋วโดยสาร และค่าเบี้ยเลี้ยง ให้พนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสาร วันละ 8,500 บาทต่อคัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 6 เดือน

มาตรการบริการรถไฟชั้น 3 ฟรี ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดเตรียมรถโดยสารจำนวน 164 ขบวน เป็นรถไฟชั้น 3 ให้บริการเชิงสังคม คือ รถไฟชานเมือง, ขบวนรถธรรมดา, และขบวนรถท้องถิ่น เป็นต้น โดยจะติดป้ายที่ข้างรถ และที่ชานชาลาอย่างชัดเจนเพื่อให้ประชาชนได้ทราบ โดยการบริการดังกล่าวไม่รวมถึงรถไฟชั้น 3 ที่รวมอยู่ในขบวนรถไฟเชิงพาณิชย์ เช่น รถด่วนขบวนพิเศษ รถด่วนและรถเร็ว ซึ่งจะมีการเรียกเก็บค่าโดยสารในอัตราตามปกติ

สำหรับประชาชนที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือร้องเรียนสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนของแต่ละหน่วยงาน ดังนี้

สายด่วน รัฐบาล 1111
สายด่วน ขสมก. 184
สายด่วน รฟท. 1690
สายด่วน กฟน. 1130
สายด่วน กฟภ. 1129
สายด่วน กปน. 1125
สายด่วน กปภ. 0-2551-8576

. . .



ผู้ค้าน้ำมันประกาศลดราคาดีเซลลิตรละ 50 สตางค์ มีผลวันที่ 1 ส.ค.

ผู้ค้าน้ำมันหลายราย อาทิ ปตท. บางจากปิโตรเลียมและเชลล์ ประกาศปรับลดราคาน้ำมันกลุ่ม ดีเซลลงลิตรละ 50 สตางค์ มีผลวันนี้ (1 ส.ค.) ทำให้ราคาน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะเป็นดังนี้

ดีเซล 37.44 บาทต่อลิตร,
ดีเซล B5 ลิตรละ 36.94 บาท,
แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 30.49 บาท,
แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 29.69 บาท,
เบนซิน 91 ลิตรละ 37.99 บาท
เบนซิน 95 ลิตรละ 39.39 บาท

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คาดว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกคงอยู่ในระดับใกล้เคียง 120 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และราคาคงจะไม่ต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล อย่างแน่นอน

ภายหลังเดือนมกราคม 2552 ซึ่งหมดช่วงเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันแล้ว หากราคาน้ำมันไม่เพิ่มสูงขึ้นไปมากนัก คาดว่าราคาน้ำมันขายปลีกของไทยจะอยู่ที่ประมาณไม่ต่ำกว่า 35 บาท/ลิตร นับว่ายังอยู่ในเกณฑ์สูง ซึ่งประชาชนจะต้องบริหารการใช้พลังงาน โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพ ประหยัด และใช้พลังงานทางเลือกที่เหมาะสม

. . .



กรมการค้าภายใน เลื่อนประชุมพิจารณาโครงสร้างราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อรอความชัดเจนการปรับ ครม. คาดนัดประชุมอีกครั้งสัปดาห์หน้า


นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้มีการเลื่อนประชุมหารือกับผู้ประกอบการในกลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภคออกไปก่อน จากเดิมที่มีการนัดหารือในวันที่ 31 ก.ค. เพื่อพิจารณาโครงสร้างราคาสินค้า ภายหลังจากมีการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันแล้ว

สาเหตุที่เลื่อนการประชุมเพื่อรอความชัดเจนในการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีโผในส่วนของกระทรวงพาณิชย์รวมอยู่ด้วย เพราะในบางเรื่องต้องทำความเข้าใจในระดับนโยบายก่อนที่จะมีการตัดสินใจ คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนมากขึ้น และสามารถเรียกประชุมผู้ประกอบการได้

. . .





 

Create Date : 31 กรกฎาคม 2551
3 comments
Last Update : 31 กรกฎาคม 2551 18:20:32 น.
Counter : 865 Pageviews.

 

. . .


ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดเดือนมิถุนายนของธนาคารแห่งประเทศไทย ... การลงทุนยังคงชะลอตัว


ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมิถุนายน 2551 สะท้อนการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในภาพรวมโดยมีแกนหลักอยู่ที่การบริโภคภาคเอกชน และการส่งออก

 สำหรับการใช้จ่ายของภาคเอกชน แม้ว่าการบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 6.5 (YoY) ในเดือนมิ.ย. (นำโดย ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง/รถจักรยานยนต์ และการนำเข้าสินค้าเพื่อการบริโภค) จากร้อยละ 6.3 ในเดือนพ.ค. แต่การลงทุนภาคเอกชนยังคงชะลอตัวลง โดยขยายตัวเพียงร้อยละ 4.2 ในเดือนมิ.ย. (เป็นไปตามการชะลอของยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์ และการหดตัวลงของยอดขายปูนซีเมนต์) ลดลงจากร้อยละ 4.5 ในเดือนพ.ค.

 สำหรับในด้านการผลิต ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 11.2 ในเดือนมิ.ย. (โดยเฉพาะการผลิตสินค้าที่สัดส่วนการส่งออกมากกว่าร้อยละ 60 อาทิ หมวดอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และอาหาร) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9.5 ในเดือนพ.ค. ในขณะที่ ดัชนีผลผลิตการเกษตร (Farm Production) ขยายตัวร้อยละ 21.2 ในเดือนมิ.ย. ชะลอลงจากร้อยละ 32.3 ในเดือนพ.ค.

 สำหรับภาคต่างประเทศ การส่งออกขยายตัวร้อยละ 28.5 ในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 22.1 ในเดือนพ.ค. โดยเป็นผลมาจากการขยายตัวทั้งทางด้านราคาและปริมาณ ทั้งนี้ การส่งออกในหมวดสินค้าเกษตรขยายตัวสูงถึงร้อยละ 75.6 ในเดือนมิ.ย. จากร้อยละ 57.8 ในเดือนพ.ค. ในขณะที่สินค้าที่ใช้แรงงานเป็นปัจจัยการผลิตหลักขยายตัวร้อยละ 47.9 ในเดือนมิ.ย. เร่งขึ้นจากร้อยละ 39.2 ในเดือนพ.ค. โดยเฉพาะการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการส่งออกทองคำที่เพิ่มขึ้น ส่วนการนำเข้าขยายตัวร้อยละ 31.5 ในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 15.7 ในเดือนพ.ค. โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของราคานำเข้าในทุกหมวด ขณะที่ปริมาณการนำเข้าพลิกกลับมาขยายตัวอีกครั้งหลังจากที่หดตัวลงในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าในหมวดเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นขยายตัวร้อยละ 67.8 ในเดือนมิ.ย. เร่งขึ้นจากร้อยละ 5.5 ในเดือนพ.ค. ส่วนการนำเข้าในหมวดสินค้าทุนและวัตถุดิบขยายตัวร้อยละ 23.6 และร้อยละ 28.7 ในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9.8 และร้อยละ 21.4 ในเดือนพ.ค. ตามลำดับ ทั้งนี้ การนำเข้าที่เร่งตัวขึ้นมากกว่าการส่งออกส่งผลให้ดุลการค้าในเดือนมิ.ย. บันทึกยอดเกินดุลที่ 926 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากที่เกินดุล 1.27 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนพ.ค.
ตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 2/2551 สะท้อนการขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าในไตรมาส 1/2551 เล็กน้อย

 หากพิจารณาการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2/2551 จะพบว่า เครื่องชี้ส่วนใหญ่ขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าในไตรมาส 1/2551 เล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็น ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน (ขยายตัวร้อยละ 6.9 ในไตรมาส 2 เทียบกับร้อยละ 7.0 ในไตรมาส 1) ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (ขยายตัวร้อยละ 4.7 ในไตรมาส 2 ลดลงจากร้อยละ 5.9 ในไตรมาส 1) และดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (ขยายตัวร้อยละ 10.2 ในไตรมาส 2 ลดลงจากร้อยละ 12.6 ในไตรมาส 1)

 อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังคงได้รับแรงหนุนจากการส่งออกซึ่งขยายตัวเร่งขึ้นในไตรมาส 2 ทั้งนี้ การส่งออก ขยายตัวร้อยละ 26.3 ในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 22.9 ในไตรมาส 1 โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าเกษตร ส่วนด้านรายได้เกษตรกรขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้นอย่างมากที่ร้อยละ 53.2 ในไตรมาส 2 เทียบกับร้อยละ 23.0 ในไตรมาส 1 โดยดัชนีราคาพืชผลขยายตัวร้อยละ 24.6 (เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 15.0 ในไตรมาส 1) ในขณะที่ดัชนีผลผลิตพืชผลขยายตัวร้อยละ 23.0 (เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 7.0 ในไตรมาส 1)

จากตัวเลขต่าง ๆ ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นภาพเศรษฐกิจไทยที่เริ่มสะท้อนสัญญาณการชะลอตัวเล็กน้อยในไตรมาส 2/2551

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวประมาณร้อยละ 5.5-6.0 ในไตรมาส 2/2551 ซึ่งชะลอลงเล็กน้อยหลังจากที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 6.0 ในไตรมาส 1/2551 และหากประเมินภาพเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2551 จะพบว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะชะลอลงต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี โดยเป็นผลมาจากปัจจัยต่างๆ อาทิ การเปรียบเทียบกับฐานที่สูงในช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า อัตราเงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้นไปแตะระดับสูงสุดของปี 2551 ในช่วงไตรมาส 3/2551 ตลอดจนประเด็นทางการเมือง ซึ่งยังคงมีความไม่แน่นอนและอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชนในระยะถัดไป

. . .

 

โดย: loykratong 31 กรกฎาคม 2551 18:23:21 น.  

 


นำความสดชื่นหลังออกกำลังกายมาฝากค่ะ ขอบคุณอาหารสมองดีๆ นะคะ

น้ำมันลดราคาลงอย่างต่อเนื่องเลยนะคะ น่าจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจแล้วอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันลดลงล่ะคะ นี่ขนาดวันนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นนะคะ

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ วันนี้ทั้งแอโรบิคทั้ง burn & tone เหนื่อยสุดๆ หมดแรงเลยค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ



 

โดย: ทิวาจรดราตรี 31 กรกฎาคม 2551 21:45:27 น.  

 

แล้วหนูจะรู้ได้ยังไงว่าเจ้าของหอพัก ที่หนูพักอยู่ลงทะเบียนกับการประปานครหลวง (กปน.)และการประปาส่วนภูมิภาค(กปภ.)แล้วรึยังค่ะ

336/1 เจริญขวัญอพาร์เมนท์ ซ.เพิ่มสิน ถ.ประชาสงเคราะห์ 27 ดินแดง กทม. 10400

 

โดย: คน ตจว. IP: 58.8.114.16 4 สิงหาคม 2551 20:56:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


loykratong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






ไม่มีอะไรขึ้นตลอด
ไม่มีอะไรลงตลอด
...ไม่มี the end of the world ...

Web Site Hit Counters

ราคาทองคำ
 

ราคาทองคำต่างประเทศ



Friends' blogs
[Add loykratong's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.