Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
2 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
สนามบินสุวรรณภูมิเปิดรับส่งสินค้าทางอากาศได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.

. . .

สนามบินสุวรรณภูมิเปิดรับส่งสินค้าทางอากาศได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า จากการที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศยุติการชุมนุมเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ธ.ค.นี้ การดำเนินการในส่วนของท่าอากาศสุวรรณภูมิจะต้องดำเนินการเหมือนการเปิดใช้สนามบินใหม่ คือ การเข้าตรวจสอบพื้นที่ทั้งในอาคารผู้โดยสาร และพื้นที่ในรันเวย์ และทดสอบการใช้งานของระบบต่างๆ

หลังจากนั้นจะให้กรมการขนส่งทางอากาศ กระทรวงคมนาคม เข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง ก่อนให้การรับรองมาตรฐานว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้มาตรฐานตามหลักการสากล จึงสามารถเปิดให้บริการการบินได้ตามปกติ

ก่อนหน้านี้ นายเสรีรัตน์ได้ประกาศขยายเวลาการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในส่วนของการให้บริการผู้โดยสารทั่วไปอีก โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. เวลา 09.00 น. จนถึงวันที่ 15 ธ.ค.นี้ เวลา 18.00 น.

แต่สำหรับเครื่องบินขนส่งสินค้าได้เปิดให้บริการแล้ว ตั้งแต่เวลา 09.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. ผู้ให้บริการขนส่งทางอากาศสามารถนำอากาศยานมาทำการบินขึ้น-ลง เพื่อขนถ่ายสินค้า และนำเครื่องที่ตกค้างบินออกไปยังสนามบินต่างๆ เพื่อเป็นการลดมูลค่าการสูญเสียรายได้ทางเศรษฐกิจของประเทศ
ในระหว่างนี้ก็ได้มีการจัดตั้งศูนย์เช็คอินผู้โดยสารที่ศูนย์การประชุมไบเทค บางนา เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่ตกค้างอยู่ ตั้งแต่เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารระหว่างประเทศมาใช้บริการรวม 1,300 คน จากจำนวนเที่ยวบิน 17 เที่ยวบิน ในวันที่ 2 ธ.ค. มีอีก 27 เที่ยวบิน

ทั้งนี้ ผู้โดยสารควรไปเช็คอินล่วงหน้าประมาณ 7 ชั่วโมง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทรฯ 02-749-3974, 02-749-3982 ศูนย์ให้ข้อมูลการบินไทย ไบเทค บางนา 02-545- 3133

นายเสรีรัตน์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต้องปิดให้บริการท่าอากาศยานตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.จนถึงวันที่ 1 ธ.ค.51 รวม 7 วันทำให้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิต้องสูญเสียรายได้ไปกว่า 350 ล้านบาท ซึ่งการสูญเสียนี้ยังไม่รวมความเสียหายของผู้ประกอบการการขนส่งสินค้าทางอากาศที่ไม่สามารถส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศได้อีกประมาณกว่า 25,000 ล้านบาท และยังไม่รวมความเสียหายของสายการบินต่างๆ


เบอร์โทรศัพท์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

สอบถามข้อมูลการเช็คอินที่ไบเทค โทร 02-749-3974, 02-749-3982
ศูนย์ให้ข้อมูลการบินไทย ไบเทค บางนา 02-545- 3133

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โทร 0-2132-1888 และ0-2132-1882
สายการบิน การบินไทย โทร 0-2356-1111 หรือเว็บไซต์ //www.thaiairways.co.th
สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย โทร 0-2515-9999 หรือเว็บไซต์ //www.airasia.com
สายการบิน บางกอกแอร์เวย์ส โทร 1771 หรือ 0-2265-8777 หรือเว็บไซต์ //www.bangkokair.com
สายการบิน นกแอร์ โทร 0-2900-9920
สายการบิน พีบีแอร์ โทร 0-2261-0222

. . .




S&P ปรับลดแนวโน้มของระดับเครดิตของประเทศไทย

กระทรวงการคลังโดยนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้แถลงข่าวการปรับลดแนวโน้มของระดับเครดิตของประเทศไทย โดยบริษัท Standard & Poor’s เมื่อวันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม 2551 เวลาประมาณ 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

โดย S&P’s ได้ปรับลดแนวโน้มของระดับเครดิตของประเทศไทยจากระดับที่มีเสถียรภาพ (Stable Outlook) เป็นระดับที่เป็นลบ (Negative Outlook)
โดยยืนยันระดับเครดิตตราสารหนี้ระยะยาว และระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศ (Long-term/Short-term Foreign Currency Rating) ที่ระดับ BBB+/A-2 และระดับเครดิตตราสารหนี้ระยะยาวและระยะสั้นสกุลเงินบาท (Long – term/Short-term Local Currency Rating) ที่ระดับ A/A-1

แนวโน้มของระดับเครดิต (Rating Outlook) ของไทยซึ่งถูกปรับลดมาอยู่ในระดับที่เป็นลบ (Negative Outlook) สะท้อนให้เห็นว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมาจะบ่อนทำลายโอกาสการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะปานกลางของประเทศไทย นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากความรุนแรงที่แผ่ขยายเป็นวงกว้างอันเนื่องจากการเข้ายึดครองสนามบินที่สำคัญทั้ง 2 แห่งของกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาล และส่งผลให้การกลับมาฟื้นตัวของเสถียรภาพทางการเมืองอย่างยั่งยืนในระยะเวลาอันใกล้มีความเป็นไปได้น้อยลง

ทั้งนี้ ระดับเครดิตของประเทศไทยจะลดต่ำลง หากสถานภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทยอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ เป็นเหตุให้ฐานะทางการคลังของรัฐบาลเสื่อมถอยลงหรือคุณภาพสินทรัพย์ของรัฐบาลย่ำแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของระดับเครดิตของประเทศไทยมีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาอยู่ที่ระดับที่มีเสถียรภาพ(Stable Outlook) หากสามารถแก้ไขปัญหาการแบ่งแยกทางการเมืองได้อย่างสันติ อันจะส่งผลให้ความเสี่ยงของประเทศเบาบางลงและการลงทุนกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

. . .



“ฟิทช์”ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลธนาคารของไทยเป็นลบ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลระยะยาวของธนาคารไทยขนาดใหญ่ 9 แห่งเป็นลบ จากแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลของธนาคารไทยในครั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่ฟิทช์ได้ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว และอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของประเทศไทยเป็นลบ จากแนวโน้มอันดับมีเสถียรภาพ

การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลของประเทศมีผลกระทบโดยตรงต่อแนวโน้มอันดับเครดิตสากลของธนาคารที่ถือหุ้นโดยรัฐบาลและธนาคารที่ถือหุ้นโดยต่างชาติ ที่อันดับเครดิตถูกจำกัดไว้ที่อันดับเครดิตของประเทศ
ในขณะเดียวกัน แนวโน้มอันดับเครดิตสากลของธนาคารเอกชนขนาดใหญ่ได้รับผลกระทบจากการคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยจะลดลงอย่างมากมาอยู่ที่ ร้อยละ 0.9 ในปี 2552 รวมถึงผลกระทบจากวิกฤติการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารเหล่านี้

สำหรับธนาคารที่มีการปรับอันดับเครดิตประกอบด้วย
1. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank)
2. ธนาคารกรุงเทพ
3. ธนาคารกรุงไทย
4. ธนาคารไทยพาณิชย์
5. ธนาคารกสิกรไทย
6.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
7.ธนาคารทหารไทย
8. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) และ
9.ธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ (ไทย)

. . .



ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ “ความเสี่ยงการเมือง” ทำให้เสถียรภาพเศรษฐกิจสั่นคลอน

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า จากกรณีสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ 2 แห่ง ได้แก่ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ หรือ เอสแอนด์พี และ ฟิทช์ เรทติงส์ ได้ประกาศปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของไทยสู่ “เชิงลบ” จากเดิม “มีเสถียรภาพ” โดยให้น้ำหนักไปที่ผลกระทบจากปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อ ซึ่งอาจกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญที่บั่นทอนพื้นฐานทางเครดิตของประเทศได้ในระยะถัดไป

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ปัจจัยทางการเมืองเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ความเสี่ยงต่อการถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของไทยในรอบนี้มีความแตกต่างไปจากวิกฤติต้มยำกุ้งในรอบก่อนหน้า เนื่องจากในรอบวิกฤติต้มยำกุ้ง สาเหตุสำคัญ คือ ปัญหาในภาคสถาบันการเงินของไทย

ซึ่งความไร้เสถียรภาพทางการเมืองอาจกลายเป็นประเด็นหลักที่ทำให้พื้นฐานทางเครดิตของประเทศถดถอยลง พร้อมกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นตามแนวโน้มความอ่อนแอของเศรษฐกิจในประเทศ และภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก

เครื่องชี้ทางเศรษฐกิจที่ต้องจับตาเป็นพิเศษในระยะถัดไป คือ ฐานะของภาคต่างประเทศ ทั้งการส่งออก, ดุลการค้า, ดุลบัญชีเดินสะพัด, ดุลการชำระเงิน, การเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ, ความแข็งแกร่งของสถาบันการเงิน, ตลอดจนฐานะทางการคลังของรัฐบาล ซึ่งอาจทำให้ความอ่อนแอของเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจเหล่านี้เริ่มปรากฏเด่นชัดมากขึ้นในระยะถัดไป

ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศที่ยืดเยื้อ ท่ามกลางแนวโน้มชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก อาจทำให้ผู้ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของไทยต้องรับมือกับโจทย์หนักจากปัจจัยภายนอกที่ยากจะควบคุม และหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างแนวโน้มการชะลอตัวของภาคส่งออก และความผันผวนของตลาดการเงิน

ขณะที่โจทย์หนักจากปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ อาจส่งผลทำให้การดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการไทยขาดประสิทธิผลที่ชัดเจน ความต่อเนื่องของนโยบายการคลังอาจต้องประสบกับภาวะชะงักงัน ทั้งการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณ หากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศยังคงไม่นิ่ง

ขณะที่กลไกการส่งผ่านผลของสภาวะที่ผ่อนคลายของนโยบายการเงินอาจไม่สามารถแผ่ขยายไปสู่ภาคเศรษฐกิจจริงเท่าที่ควร เพราะสถาบันการเงินต้องเผชิญกับข้อจำกัดจากความเสี่ยงในการปล่อยกู้ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสถาบันการเงินยังมีต้นทุนจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากแบบพิเศษ และตราสารทางการเงินเพื่อระดมสภาพคล่องในช่วงที่ผ่านมา อาจทำให้ยากที่สถาบันการเงินจะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยอื่น ๆ ตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

สถานการณ์ดังกล่าวย่อมไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทย และอาจทำให้เศรษฐกิจไทยจำต้องตกเข้าสู่ภาวะที่ซบเซายาวนาน ซึ่งนั่นก็ย่อมจะหมายถึงโจทย์ที่หนักมากยิ่งขึ้นของทางการไทยในระยะต่อไป

. . .



ครม. อนุมัติขยายเวลามาตรการภาษีกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯออกไปอีก 1 ปี แต่ยังไม่ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล และยังไม่ขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันและภาษีเบียร์

น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รักษาการรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก่อนมีคำสั่งยุบ 3 พรรคการเมือง เห็นชอบให้ขยายระยะเวลามาตรการภาษีกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ที่จะครบกำหนดในวันที่ 31 มีนาคม 2552 ออกไปอีก 1 ปี เป็นวันที่ 28 มีนาคม 2553 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งประกอบด้วย การลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะจากร้อยละ 3.3 เหลือร้อยละ 0.1 ลดค่าจดทะเบียนการโอนและจดจำนอง เหลือร้อยละ 0.01

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับมาตรการทางภาษีสนับสนุนการใช้ก๊าซธรรมชาติ(เอ็นจีวี)สำหรับรถยนต์ โดยขยายเวลาการยกเว้นอากรขาเข้าถังบรรจุก๊าซประเภทต่าง ๆ ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 เพื่อสนับสนุนแผนการใช้ก๊าซเอ็นจีวีอย่างต่อเนื่อง
และยังเห็นชอบแผนพลังงาน และการกำกับกิจการด้านพลังงาน 5 ปี (ปี 2551-2555) ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ

แต่ที่ประชุมไม่ได้มีการหารือเรื่องการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล จากร้อยละ 30 เหลือร้อยละ 25 และปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน และภาษีเบียร์ เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้เลิกประชุมก่อนที่จะมีคำตัดสินยุบพรรค จึงทำให้มีเรื่องต่างๆ ติดค้างการประชุมอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น การพิจารณาอนุมัติงบประมาณจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อนำไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ติดค้างอยู่ในประเทศไทย และนักท่องเที่ยวไทยที่ยังติดค้างอยู่ต่างประเทศ

นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าจะพยายามดำเนินการให้การประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (3 ธ.ค.) พิจารณาอนุมัติการปรับโครงสร้างภาษี ทั้งการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30% เหลือ 25% การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตเบียร์และน้ำมัน รวมทั้งการจำหน่ายสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัวด้วยเครื่องอัตโนมัติ หรือ หวยออนไลน์ หากไม่สามารถพิจารณาได้ทัน ก็จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทุกครั้งเมื่อมีการนัดประชุม

. . .


Create Date : 02 ธันวาคม 2551
Last Update : 2 ธันวาคม 2551 21:18:35 น. 2 comments
Counter : 693 Pageviews.

 


โดย: loykratong วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:21:20:52 น.  

 


โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:20:02:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

loykratong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






ไม่มีอะไรขึ้นตลอด
ไม่มีอะไรลงตลอด
...ไม่มี the end of the world ...

Web Site Hit Counters

ราคาทองคำ
 

ราคาทองคำต่างประเทศ



Friends' blogs
[Add loykratong's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.