|
|
|
- อาทิตย์ จันทร์ เมฆา และวายุ...
- ... กินเจปี’52 ฯ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ...
- ... ขนมไหว้พระจันทร์ปีนี้ ยอดขายดีกว่าปีก่อน...โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย...
- ... สภาพคล่องในงบดุลของธนาคารพาณิชย์ไทย ส.ค. 52 … เพิ่มขึ้น โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย....
- ... กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ... ผลกระทบต่อธุรกิจกองทุนรวม ...
- บริการคงสิทธิเลขหมาย…กระทบผู้ให้บริการ หลังเปิดใช้ 3G โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- ภาวะเงินเฟ้อติดลบใกล้สิ้นสุด ...
- ... ส่งออกรถยนต์ไทยครึ่งหลัง 2552 มีสัญญาณดีขึ้น โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ...
- . . . Digital Content Industry . . .โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 : ผลกระทบต่อหลากธุรกิจ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- ... . ตลาดหนังสือปี’52 : อัตราขยายตัวชะลอลง...สำนักพิมพ์ต้องเร่งปรับตัว โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย.
- ...พันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง ... ผลต่อสภาพคล่องและดอกเบี้ยแบงก์ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย...
- ... ยางธรรมชาติครึ่งหลังปี 52 โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย...
- การจัดสรรเงินออม...ภายใต้ปัจจัยเสี่ยงในช่วงครึ่งหลังของปี’52 โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- ... แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลัง 2552 ... โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- ... แนวโน้มเงินบาทครึ่งหลังปี 2552 ...
- ... กรมธนารักษ์เปิดจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่ครบทุกชนิดราคา ...
- ... ท่องเที่ยวครึ่งหลังปี 2552...มีโอกาสฟื้นตัวปลายปี....
- ตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือนพฤษภาคม 2552
- ธนาคารกรุงไทยจัด 2 โปรโมชั่นกระตุ้นการใช้จ่าย
- ...วิกฤตการณ์ทางการเงินของโลก : เงินทุนต่างชาติชะลอตัว... ผลต่ออสังหาริมทรัพย์ไทย...
- ... ส่งออก-ลงทุน-ท่องเที่ยว ไทย-จีน : มีทิศทางปรับดีขึ้น โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ...
- ... ตัวเลขว่างงานเดือนเมษายน 2552 พุ่งขึ้น 49.7% ...
- คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยน่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.25%
- การส่งออกไม่รวมทองคำในเดือนพฤษภาคมหดตัว 27.3%
- ...เศรษฐกิจไทยมีโอกาสฟื้นตัวเพิ่มมากขึ้น... แต่...
- กฎหมายกู้เงินฉุกเฉิน 4 แสนล้านบาท … เปิดทางกระตุ้นเศรษฐกิจ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- .... ทำไม ต้องทำประกัน???.... (ด้วยคะ)........
- ราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรระยะยาว : ความท้าทายของเศรษฐกิจไทย
- การนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมาใช้
- การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์: ฟื้นตัวแล้ว?
- เงินบาทแข็งค่าสูงสุดในรอบ 8 เดือน
- . . . .กระแสรักสวย-รักงาม...ยังคงทำให้ธุรกิจขยายตัว . . . .
- เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2/2552 อาจยังคงหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
- เศรษฐกิจไทยอาจฟื้นตัวชัดเจนขึ้นในครึ่งปีหลัง … แต่ยังมีปัจจัยที่ต้องระวัง
- . . .ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นลิตรละ 80 สตางค์ ส่วนดีเซลเพิ่มขึ้นลิตรละ 60 สตางค์ วันที่ 21 พ.ค.นี้
- ตัวเลขว่างงานเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ... ลดลงเพราะผลจากฤดูกาล
- . ตลาดหุ้นไทยร่วง 26 จุด - บุหรี่ในขึ้น 10-13 บาท บุหรี่นอก 15-17 บาท
- ผู้บริโภคร้องเรียนร้านค้ากักตุนบุหรี่กว่า 200 ราย
- . . . กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอ ครม. ตัดสินขึ้นภาษีที่ดิน . . .
- . . . ข่าวดี ที่เกิดขึ้น ก่อนวันพระ หนึ่งวัน . . .
- . . .ขึ้นภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย . . .
- ครม.ไฟเขียวให้ลูกจ้าง-นายจ้างลดส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมเหลือ 3% จาก 5%
- . . .อัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายน52 ...ติดลบเป็นเดือนที่ 4 . . .
- ขึ้นน้ำมันทุกชนิดลิตรละ 1.55 บาท ยกเว้นอี 85 มีผลวันที่ 1 ก.พ.นี้
- ครม.มีมติเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันทั้งเบนซิน-ดีเซล มีผลวันที่ 1 ก.พ. นี้
- คลังเตรียมพิจารณากฎหมายเพื่อเก็บภาษีที่ดิน-สิ่งปลูกสร้าง รวมถึงภาษีมรดก
- เตือนภัยหญิงไทยที่ติดต่อชาวต่างชาติผ่านทางระบบ Internet ระวังถูกหลอกให้เสียเงินจากการรับสินค้า
- 7 มาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ-- ปิดปั๊มหลังเที่ยงคืน 31 ม.ค.ก่อนขึ้นราคาน้ำมัน
- กรมสรรพากรชี้แจงเงื่อนไขหักลดหย่อนภาษีเบี้ยประกันชีวิต สำหรับกรมธรรม์ที่ทำหลังวันที่ 1 ม.ค.52
- ราคาก๊าซรถยนต์(แอลพีจี)อาจเพิ่มขึ้น 2 บาทต่อกก.-กระทรวงแรงงานจัดงาน “ตลาดนัดแรงงาน” ทุกวันเสาร์. . .
- กนง. ลดดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 เหลือร้อยละ 2.00 -- รมว.แรงงานแจงช่วยค่าครองชีพจ่าย 2,000 บาท ครั้งเดียว
- ครม.อนุมติงบกลางปี 1.15 แสนล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจ 18 โครงการ
- ต่ออายุ 6 มาตรการฝ่าวิกฤติ - นัดพบแรงงานทุกวันเสาร์ - อนุมัติงบช่วยเหลือผู้ว่างงาน
- ขึ้นราคาน้ำมันลิตรละ 60 สตางค์ 7 ม.ค.นี้
- เงินเฟ้อปี 51 - 5.5% --- หุ้นวันแรกบวก 28 จุด -- ตรึงราคาก๊าซแอลพีจี และเอ็นจีวี. . .
- ราคาน้ำมันปีหน้า มีแนวโน้มทรงตัว แต่ค่าไฟฟ้าช่วงครึ่งปีแรกจะปรับขึ้น
- นายกเตรียมปรับลดใช้น้ำฟรีเหลือ 30 หน่วยต่อเดือน - สายด่วนประกันภัย 1186
- ราคาน้ำมันลดลงลิตรละ 60 สตางค์ 26 ธ.ค.นี้
- ราคาที่ดินลาดพร้าวปรับเพิ่ม 65% -- รัฐเตรียมช่วยคนซื้อบ้านใหม่ปีหน้า -- ค่าไฟฟ้าขึ้นหน่วย 14 สตางค์
- ตัวเลขการส่งออกเดือนพ.ย. หดตัวสูงถึง 18.6%
- รถไฟฟ้าบีทีเอสขยายเวลาเปิดให้บริการคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ถึง 02.00 น.
- ธปท.เตือนประชาชนระวังธนบัตรปลอมระบาด--รฟท. เพิ่มขบวนรถไฟ 18 ขบวน
- ปตท.เตรียมขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีจาก 8.50 บาท เป็น 11 บาท มีผล 1 ม.ค.52--ลดค่าโดยสารขสมก.-บขส.
- ลดราคาดีเซลลิตรละ 0.50 บาท - เก็บเงินเบนซิน 95 เข้ากองทุนน้ำมันลิตรละ 3 บาท - รัฐบาลใหม่
- คาดเฟดลดดอกเบี้ย 0.5% - โอเปกประชุม 17 ธ.ค.นี้ - ราคายางตกต่ำสุดในรอบ 10 ปี
- บขส-รถร่วมเตรียมลดค่าโดยสาร--แบงก์ออมสินลดดอกเบี้ย--ปีใหม่ แบงก์หยุด 5 วัน. . .
- อีก 5 ปี . . . ประชาชนจะกลายเป็นมนุษย์ไฮเทค . . .
- แนวโน้มยอดขายรถยนต์ในประเทศ : ชะลอลงต่อเนื่องถึงปีหน้า
- น้ำมันลดลง 60-80 สตางค์ต่อลิตร--ปีหน้าว่างงาน 9 แสนคน--เบียร์ช้างชะลอเข้าตลาดหุ้น--คลังหนุนปรับภาษี
- เงินบาทแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 22 เดือน ที่ 35.83 / หุ้นปิดที่ 392 แนวต้าน 400 แนวรับ 380
- สุวรรณภูมิพร้อมเปิดเต็นรูปแบบ 5 ธ.ค.นี้ 11.00--บขส.เปิดจองตั๋วล่วงหน้าช่วงปีใหม่-น้ำมันลด 40-60 สต.
- เปิดใช้สนามบินดอนเมือง 4 ธ.ค.-สุวรรณภูมิ 5 ธ.ค.--กนง.ลดดอกเบี้ย 1%--น้ำมันถั่วเหลืองลดราคา 3.50 บาท
- สนามบินสุวรรณภูมิเปิดรับส่งสินค้าทางอากาศได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.
- น้ำมันลดลงลิตรละ 0.40 บาท-- เงินเฟ้อเดือนพ.ย.2.2% ต่ำสุดรอบ 14 เดือน--สนามบินยังปิดอยู่...
- ผลกระทบการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ
- ..วิกฤติเศรษฐกิจโลก-วิกฤติเศรษฐกิจไทยปี 2552 - ท่องเที่ยว-โรงแรมยอดขายลด 10-15% -- หุ้นบวก 5.73 จุด.
- ราคาน้ำมันลดลงอีก 60-80 สตางค์ต่อลิตร มีผลวันที่ 25 พ.ย.นี้
- ค่าบาทอ่อน - ตลาดหุ้นแนวโน้มทดสอบ 384 - น้ำมันลด 60-0 สตางค์ -ทองคำพุ่ง 400 บาท -คนตกงานกว่า 4 แสนคน
- ผลการประชุม กรอ.- กระทรวงคลังเตรียมปรับลดภาษี
- จีเอ็มลดคนงาน-คำสั่งซื้อยานยนต์ลดลง-ธกส.พร้อมจ่ายเงินรับจำนำข้าว-หุ้นปิดที่ 408.51 ลดลง 11.46 จุด
- เสนอครม.ลดภาษีนิติบุคคลลง 5% - ขึ้นภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย - ปรับเกณฑ์ซีลลิ่ง-ฟลอร์หุ้นใหม่ 2 ธ.ค.นี้
- ราคาน้ำมันลดลงลิตรละ 40-80 สตางค์-ซิตีกรุ๊ปประกาศปลดคนงาน 53,000 คนทั่วโลก
- ก.แรงงานรับวิกฤติคนตกงาน-รถติดตั้งแก๊สลดฮวบ ตามราคาน้ำมัน-เผยแพร่ทีโออาร์เช่ารถเมล์ผ่านเว็ป
- เงินบาทอ่อนค่าลง ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงทั้งสัปดาห์
- ขึ้นราคาก๊าซก.ก.ละ 6 บาท-เตือนธุรกิจเกษตร, ส่งออก, เอสเอ็มอีรับผลกระทบปีหน้า
- ลอยกระทงกันดีกว่า เมี๊ยวๆ...
- ราคาน้ำมันเบนซินลด 80 สตางค์--กกร.เสนอลดภาษี--แนวโน้มตกงานเพิ่ม--การใช้พืชพลังงานลดลง
- โอบามา-ผลกระทบต่อไทย
- แก๊สโซฮอล์-เบนซนลด 60-80 สตางค์-
- เงินเฟ้อต.ค.3.9%ต่ำสุดรอบ 10 เดือน--รัฐกู้เงินรับจำนำข้าว--หุ้นฟื้น 32 จุด--จดทะเบียนแรงงานต่างด้าว
- เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 19 เดือน-ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.ย.ส่งสัญญาณชะลอตัว
- เฟดลดดอกเบี้ย 0.5%-- หุ้นขึ้นพ้น 400 --เว้นเกณฑ์ silent period--กองทุนยางพารา
- น้ำมันดีเซลลง 60 สตางค์--หุ้นตก 13 จุด--หม่อมอุ๋ยแนะเอาเงินฝากแบงก์เล่นหุ้น--SMEควบบสย.
- ขยายเวลาค้ำเงินฝาก 3 ปี-จำนำข้าวโพด-มันสำปะหลัง--TDRI--สศค.
- เซอร์กิตเบรกเกอร์ (circuit breaker)หยุดซื้อขายหุ้นครั้งที่ 3 -ดัชนี 387 ต่ำสุดรอบ 5 ปี-ยอกตกงาน 6แสน
- งดขายทองคำแท่งเสาร์-อาทิตย์--โอเปคลดการผลิต--หุ้นต่ำสุดรอบ 5 ปี--คาดเฟดลดดอกเบี้ยอีก
- ข้าวแกงลดราคา -- กบง.เก็บเงินเพิ่มเข้ากองทุนน้ำมัน -- เบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้น -- รถไฟฟ้ารอเข้าครม.
- กระทรวงการคลังเสนอแนวคิดขยายเวลาค้ำเงินฝากทั้งจำนวนอีก 3 ปี - กดค่าบาทให้อ่อนลงอีก 5% อุ้มส่งออก
- แนวโน้มอุตสาหกรรมไทยท่ามกลางมรสุมเศรษฐกิจโลก
- น้ำมันลดลง 10%--ค่าโดยสารรถ-เรือเตรียมปรับลงตาม--ยางพาราราคาตก 43%
- ราคายางลดลงเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ : สาเหตุ ผลกระทบ และทางออก
- วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ - วิกฤติการเงินไทยปี 2540 - ผลกระทบที่แตกต่าง - 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
- ราคาน้ำมันดีเซล-เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ลดลงลิตรละ 1 บาท 15 ต.ค.นี้
- ผู้ค้าน้ำมันประกาศลดราคาเบนซิน 40 สต.-ดีเซล 80 สต.พรุ่งนี้
- ไอซ์แลนด์ยึดแบงก์โคปทิง--สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ยืนยันฐานะมั่นคง--ธ.กลางทั่วโลกลดดอกเบี้ย...หุ้นฟื้น 1%
- ทำไมเราต้องดูจิต, วิธีการ "ดูจิต", วงจรกระแสจิต, อานิสงส์ของการแผ่เมตตา, วิธีแผ่เมตตา...
- ลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 60 สตางค์ --หุ้นหลุด 500
- ภาคเอกชนเป็นห่วงสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทุกภาคส่วน
- ราคาน้ำมันทุกประเภทลดลง 20-80 สตางค์---หุ้นตกต่ำสุดรอบ 5 ปี--กกร.เสนอ 7 มาตรการเร่งด่วน. . .
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด กนง. คงอัตราดอกเบี้ย 3.75%
- รอลุ้นแผนกูวิกฤติการเงินสหรัฐฯ
- ธุรกิจสถานีบริการก๊าซ LPG ปี51--เงินเฟ้อเดือนก.ย.แนวโน้มชะลอลง
- เงินเฟ้อก.ย.6.0%-ปตท.คาดน้ำมันดิบแกว่งตัว 90-100 USD/Barrel. . .
- กินน้อยตายยาก กินมากตายง่าย
- เศรษฐกิจเดือนส.ค.สะท้อนสัญญาณชะลอตัว
- Emergency Economic Stabilization Act of 2008 (link to full and summary in pdf file)
- โครงการที่น่าติดตามภายใต้รัฐบาลสมชาย 1
- วิกฤตการเงินในสหรัฐฯ ... ผลกระทบต่อภาคการเงินไทย
- ความเชื่อมั่นธุรกิจประกันภัยในประเทศไทย--กรุงไทยขายกรมธรรม์ประกันภัยรูปแบบใหม่. . .
- เชลล์ขึ้นราคาน้ำมัน 60 สตางค์--คลัง แบงก์ชาติ คปภ มั่นใจสภาพคล่องการเงิน--รายชื่อครม.สมชาย1. . .
- มาตรการกู้วิกฤติการเงินสหรัฐวงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์
- กระทรวงพาณิชย์อาจนำทองคำเป็นสินค้าควบคุม--กินเจ 29 ก.ย.- 7 ต.ค.ผักแพง--พันธบัตรคลังปี 52. . .
- นักวิชาการเตือนรับมือวิกฤติเลห์แมน--เก็บเงินกองทุนน้ำมันเพิ่ม--ยอดขายรถยนต์ลด--ธอส.ลดดอกเบี้ย. . .
- Resolution Trust Corporations (RTC) โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- ---ผักแพง-ทองขึ้น-ค่าไฟฟ้า-วิเคราะห์วิกฤติเลห์แมน--กินเจปีนี้---
- . . . น้ำมันลด 60 สตางค์-ทองพุ่ง 13,550 บาท--หุ้นผันผวน--รถไฟหยุดวิ่งน้ำท่วม . .
- . . . เฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 2.00 และให้ความช่วยเหลือด้านเงินกู้แก่ AIG . . .
- . . . วิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ ... อาจยังไม่ยุติ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย . . .
- . . . น้ำมันลง 50 สตางค์--
- . . . หุ้นตก-เลห์แมนฯล้มละลาย--แนะซื้อทองต่ำกว่า 13,000.--จำนำข้าว . . .
- . . . คาดเฟดคงดอกเบี้ย 2.00%--รถไฟเปิดให้บริการ 240 ขบวน--ราคาทองกระเตื้องเล็กน้อย. . .
- . . . ทองแท่งเหลือบาทละ 12,650 บาท--ดีเซลลดอีก 60 สตางค์--ดอกเบี้ยพันธบัตร3ปี 4.65% . . .
- ธอส. เชิญชวนเล่านิทานลงเทปหรือแผ่นซีดีมอบให้มูลนิธิช่วยคนตาบอดฯ
- . . . ครม.แต่งตั้งปลัด-อนุมัติ 3 G -งบจัดซื้ออาวุธ-สร้างรัฐสภาใหม่. . .
- . . . แนวโน้มธุรกิจค้าปลีกครึ่งปีหลังชะลอตัว . . .
- . . . อาหารสัตว์เลี้ยง : เติบโตต่อเนื่อง...หลากปัจจัยหนุน . . .
- . . . แนะคลายเครียด เสพข่าวการเมือง . . .
- . . . ข่าววันที่ 4 ก.ย.51 . . .
- ราคาน้ำมันดีเซลลดลงลิตรละ 60 สตางค์ วันที่ 4 ก.ย.
- . . . อนุมัตินมกล่อง-น้ำมันถั่วเหลืองขึ้นราคา--เลื่อนหวยบนดิน--หุ้นตก--บาทอ่อน. . .
- Bangkok under state of emergency
- . . . เงินเฟ้อเดือน ส.ค.ลดลงเหลือ 6.4% จาก 9.2% ในเดือนก.ค. . . .
- --- ทิศทางตลาดหุ้นไทย...ยังเผชิญแรงกดดันจากหลายปัจจัย ---
- --- ภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกรกฎาคม 2551 ---
- ---กนง.ขึ้นดอกเบี้ยเป็น 3.75%--ธอส.ให้กู้ซื้อบ้าน 1.5 ล้านบาท--บสย.--ไทยแอร์เอเซีย . . .
- . . . ถึงเพื่อนที่มีพันธะ ต่อกัน... ถึง พันธมิตร . . . จาก พรรคพลังไข่. . .
- . . . หุ้นไทยร่วง 2% หลังเปิดตลาดในภาคเช้า . . .
- . . . สภาพัฒน์ฯ คาดเศรษฐกิจปีนี้โต 5.2-5.7% . . .
- . . . พรบ.ผู้บริโภค เริ่มใช้ 25 ส.ค.51--กกร.ประชุมเรื่องราคาสินค้า---บขส.เปิดเส้นทางกทม.-สมุย. .
- . . .ธปท.-คลังน้อมรับกระแสพระราชดำรัส--ส่งออก 7 เดือนโต 26% . . .
- . . . 23 สิงหานี้ บังคับใช้กฎหมายจัดเก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ --- คาดการณ์เศรษฐกิจไตรมาส 2 โต 5.8% . . .
- . . . น้ำมันจะลดลงอีก--ค่าบาทอ่อนสุดรอบ 9 เดือน . . .
- Rose Rose i love you
- . . . นั่งรถไฟฟรี เชียงใหม่, อุบลฯ, หนองคาย, และสุไหงโกลก----ทองคำขาดตลาด . .
- ...ปลากัดเตือน...
- . . . รถใช้ก๊าซต้องแจ้งตรวจสภาพ--สมัครคนเดินโพยหวยบนดินวันแรก-กราฟราคาทอง. . .
- . . . เพิ่มเงินสมทบกองทุนน้ำมัน--สมัครคนเดินโพย 18 ส.ค.--ราคาทองคำลด--บาทอ่อน . . .
- . . . Storm surge มหันตภัยร้ายแห่งท้องทะเล . . .
- . . . ธุรกิจเดลิเวอรี่สินค้าอาหาร เติบโต 15% . . .
- . . . ตรึงราคาสินค้าถึงสิ้นปี--น้ำมันลดราคา--ทองคำต่ำสุดรอบ 7 เดือน. . .
- . . . เตรียมประกาศห้ามใช้สารตะกั่วเชื่อมต่อหม้อก๋วยเตี๋ยวเป็นการถาวร . . .
- . . . รถติดก๊าซ NGV ต้องมีใบรับรองเติมก๊าซ--ราคาน้ำมันลดลงอีก 60-80 สตางค์. . .
- . . . เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง . . .
- . . . นมกล่อง จะขึ้นราคา อีก 1-2 บาท . . .
- . . . ม.หอการค้าคาดเศรษฐกิจปีนี้ โต 5.5-6.0%---สศช.ระบุสัดส่วนผู้สูงอายุจะเพิ่มเป็น 25%ในอีก 20 ปี .
- . . . ลดราคาดีเซลลิตรละ 1 บาท - เบนซินลิตรละ 50 สตางค์ ---
- . . . ครม.อนุมัติขึ้นภาษีเหล้า-บุหรี่--โครงข่ายโทรศัพท์ 3 จี---กรมศุลการกร เปิดประมูลรถยึด. . .
- . . . หวยออนไลน์ 1 ต.ค.51 . . .
- . . . ลดราคาดีเซลลิตรละ 60 สตางค์ พรุ่งนี้-- คาด FED คงดอกเบี้ย 2.00% . . .
- . . . เงินเฟ้อดือน ก.ค.9.2%--ทีมเศรษฐกิจใหม่--รถเมล์ รถไฟ ฟรี . . .
- . . . 1 ส.ค.เริ่มใช้ 6 มาตรการ 6 เดือน -- ดีเซลลดลง 50 สตางค์ -- เลื่อนพิจารณาราคาสินค้า. . .
- . . . พรบ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก -- กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ - Sovereign Wealth Fund (SWF) . . .
- . . . สรุปผลการสัมมนาทางวิชาการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 5/2551 . . .
- . . . ลดราคาน้ำมันเบนซิน 91 และแก๊สโซฮอล์พรุ่งนี้(30 ก.ค.) . . .
- . . . ปตท.-เชลล์ ปรับลดราคาดีเซลอีกลิตรละ 80 สตางค์ . . .
- . . . ราคาน้ำมันลดลงลิตรละ 3.50-4.70 บาท --- ทางด่วนขึ้น 5 บาท ---- น้ำมันพืชขึ้นอีก 5 บาท . . .
- . . . ปรับโครงสร้างราคาก๊าซแอลพีจี ( LPG ) ควรลอยตัว หรือแบ่ง 2 ราคา . . .
- . . . ตัวเลขการส่งออก มิ.ย.51 ขยายตัว 27.4% . . .คาดทั้งปี 15% . . .
- . . . 11 ส.ค. 51 เริ่มใช้ พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก . . .
- . . . ลดราคาน้ำมันเบนซินลิตรละ 1 บาท และดีเซลลิตรละ 80 สตางค์ . . .
- . . . ตลาดรถจักรยานยนต์ครึ่งปีแรกขยายตัว 3% . . .
- . . . ทิศทางค่าเงิน และ ตลาดหุ้น สัปดาห์นี้ (21-25 ก.ค.) . . .
- . . . กลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ . . .ประกาศหยุดยิง . . .
- . . . ปตท.ลดราคาน้ำมัน ลิตรละ 60 สตางค์ . . .
- . . . กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ตามคาด . . .
- . . . 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤติค่าครองชีพสูง . . .
- . . . รัฐบาลเตรียมแถลงมาตรการช่วยเหลือประชาชน หลังการประชุม ครม. วันที่ 15 ก.ค.นี้ . . .
- . . . กรมสรรพากรเตือนประชาชนระวังถูกมิจฉาชีพหลอก เรื่องคืนภาษีและขอรับบริจาค . . .
- . . . ลดราคาเบนซิน พรุ่งนี้ . . .
- . . . ปตท.ลดราคาเบนซินลิตรละ 60 สตางค์ . . .
- . . . เล่นเกมส์ sudoku กันดีกว่า . . .
- . . . ส่งเสริม E85 เป็นวาระแห่งชาติ . . . /. . . นำเข้า LPG เดือนนี้อีก 1 แสนตัน . . .
- . . . เอ็นจีวี ( NGV ) หรือ แอลพีจี( LPG ) . . .ที่รัฐควรส่งเสริม . . .
- . . . แท็กซี่ยังขึ้นราคาค่าโดยสารไม่ได้ . . .
- . . . เงินเฟ้อ 7.6 ---> 8.9 ---> 9.0 ----> 10 . . .ทั้งปี 2551 เฉลี่ย 8%??...
- . . . เงินเฟ้อเดือน มิ..ย. ... 8.9% . . .
- . . . เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาว . . .(อาการภูมิแพ้)
- . . . ลอยตัวราคาก๊าซ LPG วันที่ 1 ก.ค.นี้ . . .
- . . . บางจาก-คาลเท็กซ์-ระยองเพียว ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมัน . . .
- . . . หุ้นไทยภาคเช้าดิ่งลงกว่า 20 จุด . . .
- . . .หวั่นการเมืองรุนแรง ตลาดหุ้นร่วง1.04% . . .
- . . . ตลาดหุ้นร่วง กังวลข่าว รัฐประหาร . . .
- . . . หุ้นไทยมีแนวโน้มปรับตัวผันผวน . . .
- . . . อียูเตรียมลดภาษีมูลค่าเพิ่ม ช่วยผู้มีรายได้น้อยจากภาวะน้ำมันแพง. . .
- . . . ชวนคนมีฝีมือ ส่งผลงาน ประกวดออกแบบสลากออมสิน . . .
- . . . เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 5 เดือน . . .
- . . . ธ.ก.ส.เผยยอดซื้อสลากทวีสินเดือนเดียว เฉียด 2 หมื่นล้าน . . .
- . . . ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ทางเลือกใหม่สร้างความมั่นคงเกษตรกร . . .
- . . . เงินบาทอ่อนค่าหลุดแนวรับ 33.00 แตะระดับต่ำสุดรอบกว่า 4 เดือน . . .
- . . . ธนาคารกรุงไทยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก-เงินกู้ร้อยละ 0.375-1.25 . . .
- . . . มาเลเซียประกาศลอยตัวราคาน้ำมันเชื้อเพลิง-ยกเลิกห้ามขายน้ำมันให้ต่างชาติ . . .
- . . . จับ กระเทียม . . .
- . . . NGV ปีหน้าราคาอาจจะขึ้นเป็น 12 บาท . . .
- . . . ธนาคารกรุงไทย เตรียมขึ้นค่าธรรมเนียมกด ATM ต่างแบงก์ . . .
- . . .ธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัวใหญ่ ซีพี แนะใช้ทฤษฎี 2 สูง . . .
- . . . เงินเฟ้อเดือน พ.ค. ... พุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี . . .
- เงินบาทสัปดาห์นี้ยังมีโอกาสอ่อนค่าลงได้อีก
- ...o...
- ... แนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2551 ...
- ... แนะนำงาน Money X-pro ...
- ...อยู่รอดให้ได้...ภายใต้ภาวะผันผวน...
- ...Value Averaging...
- ...ซื้อกองทุนรวมรับของแถม?...
- ...ลงทุนทุกเดือนสม่ำเสมอ...
|
|
|
|
|
. . . กรมสรรพากรเตือนประชาชนระวังถูกมิจฉาชีพหลอก เรื่องคืนภาษีและขอรับบริจาค . . .
. . .
กรมสรรพากรเตือนประชาชนระวังถูกมิจฉาชีพหลอกเรื่องคืนภาษีและขอรับบริจาค
ด้วยมีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างใช้ชื่อกรมสรรพากรหรือแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรม ฯ หลอกลวงผู้ประกอบการ ผู้เสียภาษีและประชาชนทั่วไปให้หลงเชื่อด้วยวิธีการต่าง ๆ ได้แก่
1. แอบอ้างเรื่องคืนภาษี โดยใช้โทรศัพท์หมายเลข 13 หลัก หรือโทรศัพท์ไม่แสดงเลขหมายเป็นระบบอัตโนมัติ รวมทั้งอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมฯ แจ้งให้ไปรับเช็คคืนภาษี พร้อมขอข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ หรือหลอกให้เหยี่อไปที่ตู้ ATM และใช้อุบายหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีของมิจฉาชีพโดยไม่รู้ตัว หรือนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้เพื่อทำการทุจริตในทางอื่นต่อไป
2. แอบอ้างชื่อกรมสรรพากรเพื่อขอรับบริจาคเงินไถ่ชีวิตโค - กระบือ หรือบริจาคเพื่อช่วย สาธารณกุศลในรูปแบบต่าง ๆ มีการทำหนังสือและใบโฆษณาชวนเชื่อให้ไปร่วมพิธี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้เหยื่อหลงเชื่อมอบเงินบริจาคให้โดยง่าย
กรมสรรพากร ขอเรียนว่า กรมฯไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียภาษีเพิ่มเติมอีก เนื่องจากกรมฯ มีข้อมูลของผู้เสียภาษีอยู่ในฐานข้อมูลอยู่แล้ว โดยเฉพาะการคืนภาษีนั้น กรมฯ จะคืนให้เป็นเช็คธนาคาร โดยระบุชื่อ-สกุลของผู้ขอคืน และส่งไปให้ทางไปรษณีย์ตามภูมิลำเนาที่ผู้ขอคืนแจ้งไว้เท่านั้น
สำหรับเรื่องการขอรับบริจาคเงินเพื่อการกุศลต่าง ๆ นั้น ขอเรียนว่า กรมฯ ไม่เคยมีหนังสือขอเรี่ยไรเงินบริจาคเผยแพร่กับสาธารณชนเพื่อการดังกล่าว ชื่อ สกุล ตามที่ระบุไว้ในหนังสือที่แอบอ้างและในบัญชีธนาคารที่เปิดไว้ ก็ตรวจสอบแล้ว พบว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของกรมฯ แต่อย่างใด จึงขอเตือนผู้ประกอบการ นักธุรกิจและประชาชน ผู้เสียภาษีโปรดระมัดระวังอย่าได้หลงเชื่อการแอบอ้างใดๆในลักษณะดังกล่าว หากพบเห็นการกระทำในลักษณะนี้หรือในทำนองเดียวกัน โปรดแจ้งได้ที่
1. ศูนย์บริการข้อมูลสรรพากร ( RD Call Center ) โทร. 0-2272-8000
2. สำนักงานสรรพากรพื้นที่ หรือพื้นที่สาขาใกล้บ้านท่าน
ทั้งนี้ หากท่านพบเห็นกลุ่มบุคคลดำเนินพฤติกรรมดังกล่าว โปรดแจ้งกรมสรรพากรโดยตรง หรือประสานความร่วมมือกับหน่วยงานสรรพากรในพื้นที่ เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการตามกฎหมายได้ทันทีเช่นกัน
ในขณะนี้ กรมสรรพากรทราบกลุ่มบุคคลที่กระทำการดังกล่าวแล้วและกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพที่แอบอ้างดังกล่าวร่วมกับสำนักงานตำรวจและกรมสืบสวนคดีพิเศษอย่างเต็มที่เพื่อขจัดภัยร้ายออกจากสังคมต่อไป
. . .
นายกรัฐมนตรีเตรียมนำเข้าน้ำมันดีเซลจากรัสเซีย เพราะราคาถูกกว่าในไทยถึงลิตรละ 8 บาท
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ สนทนาประสาสมัคร ว่า รัฐบาลกำลังเจรจาซื้อน้ำมันดีเซลจากประเทศรัสเซีย ซึ่งแม้จะมีสเปคต่ำว่าน้ำมันดีเซลในเมืองไทยเล็กน้อย โดยมีคุณภาพเดียวกับน้ำมันดีเซลที่ใช้ในประเทศไทยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่มีราคาถูกกว่าถึงลิตรละ 8 บาท (หรือประมาณลิตรละ 36 บาท จากราคาดีเซลปัจจุบันลิตรละ 44.24 บาท )
นายสมัครกล่าวว่า จะสามารถนำเข้าน้ำมันล็อตแรกได้ภายใน 60 วัน โดยจะมีการนำเข้าต่อเนื่อง เดือนละ 300,000 ตัน หรือร้อยละ 25 ของการใช้ในประเทศ ซึ่งผู้ที่จะใช้น้ำมันในส่วนนี้ต้องเป็นสมาชิกของสหกรณ์เท่านั้นซึ่งคาดว่า จะสามารถรองรับการใช้น้ำมันของผู้ประกอบการรถบรรทุกได้ พร้อมทั้งย้ำว่าการนำเข้าน้ำมันดังกล่าวจะไม่กระทบธุรกิจน้ำมันในภาพรวม
นายสมัคร กล่าวยืนยันว่า ตนเองไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในการนำเข้าน้ำมันดีเซลในครั้งนี้ เพราะให้บริษัทเอกชนดำเนินการ โดยทำสัญญาแบบปีต่อปี
สำหรับการแก้ปัญหาน้ำมันเบนซินมีราคาแพง รัฐบาลได้แก้ปัญหาโดยการส่งเสริมการใช้ E 85 โดยดูต้นแบบจากบราซิล และจะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 15 กรกฎาคมนี้
สำหรับรถยนต์ที่ใช้ E85 สามารถนำเข้าได้จากอเมริกา และยุโรป ส่วนญี่ปุ่น สามารถนำเข้าได้อีกประมาณ 1 ปีครึ่ง
นายสมัครกล่าวว่า ราคาน้ำมัน E 85 น่าจะอยู่ที่ 27- 28 บาทต่อลิตร โดยมั่นใจว่าจะมีเอทานอลเพียงพอในการผลิต E 85 เพราะมีบริษัทที่จะผลิตเอทานอลยื่นขออนุญาตมาแล้วกว่า 42 บริษัท และขณะนี้สามารถผลิตได้แล้ว 12 บริษัท
รัฐบาลจะเสนอเอทานอลเป็นวาระแห่งชาติ โดยจะสนับสนุนการปลูกอ้อย มันสำปะหลัง เพื่อใช้ในการผลิตเอทานอล ซึ่งขณะนี้เกษตรกรสามารถผลิตได้ 20 - 25 ตันต่อไร่
. . .
ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นจากสาเหตุความวิตกปัญหาอิหร่านทดลองขีปนาวุธนิวเคลียร์
ตลาดคาดราคาน้ำมันอาจแตะ 200-300 ดอลลาร์สหรัฐ หากปัญหาอิหร่านรุนแรง และทำให้สัปดาห์หน้าคนไทยไม่มีโอกาสเห็นราคาน้ำมันลดลง หลังจากราคาน้ำมันสิงคโปร์พุ่งแรงกว่า 6 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
ปัญหาอิหร่านทดลองขีปนาวุธนิวเคลียร์ ทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแรงโดยราคาน้ำมันดิบที่สหรัฐ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาขึ้นไปถึง 145.98 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล และปิดที่ 145.19 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปรับขึ้น 6.25 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ปิดที่ 139.05 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับขึ้น 6.55 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ปิดที่145.31 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล และ ดีเซลเพิ่มขึ้น 6.43 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ปิดที่ 176.36 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายกลยุทธ์ และพัฒนาองค์กร ปตท. กล่าวว่า ทั่วโลกหวั่นเกรงว่าความตึงเครียดของสถานการณ์อิหร่าน หากรุนแรงขึ้น อาจทำให้การขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางผ่านช่องแคบเฮอร์มุสลดลง 20-30% จนส่งผลให้ทั่วโลกขาดแคลนน้ำมัน และส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดโลกพุ่งขึ้น โดยอาจจะขึ้นไปสูงกว่า 200-300 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ซ้ำเติมปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม จากภาวะราคาน้ำมันสูงในขณะนี้ หากไม่มีการเก็งกำไรราคาน้ำมันดิบน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 70-80 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
สำหรับโครงสร้างการใช้พลังงานของโลกในขณะนี้ ซึ่งมาจากแหล่งพลังงาน 3 ชนิด คือ น้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติ, และถ่านหิน โดยในส่วนของน้ำมันพบว่า ความต้องการใช้น้ำมันของโลก เติบโตปีละ 3 % โดยประเทศจีนถือเป็นประเทศที่มีการขยายตัวของความต้องการใช้ในแต่ละปีสูงถึง 7% ขณะที่ปริมาณน้ำมันสำรองทั่วโลก ปี 2550 อยู่ที่ 1.24 ล้านๆ บาร์เรล โดย 2 ใน 3 อยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยปริมาณดังกล่าวจะคงเหลือใช้ได้อีก 41.6 ปี
ส่วนพลังงานจากก๊าซธรรมชาติ ความต้องการยังสูงขึ้นทุกปี โดยปัจจุบันปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติทั่วโลกสูงขึ้นปีละ 2.3 % หรือเฉลี่ยวันละเกือบ 300,000 ล้านลูกบาศก์ฟุต ในขณะที่ปริมาณการสำรองก๊าซธรรมชาติทั่วโลกอยู่ที่ 6,263 ล้านๆ ลูกบาศก์ฟุต ยังคงเหลือใช้ไปได้อีก 60.3 ปี
. . .
กรมการขนส่งทางบกคุมเข้มรถติดตั้งก๊าซต้องตรวจสภาพ และแจ้งเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงภายใน 15 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้
กรมการขนส่งทางบก ออกกฎคุมเข้ม รถติดตั้งก๊าซต้องตรวจสภาพ และแจ้งเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงภายใน 15 วัน มีผลวันที่ 1 ส.ค.51 นี้ เผยตัวเลขจดทะเบียนรถแอลพีจีมีเพียง 2.56 แสนคัน ทั้งที่ตัวเลขจริงสูงกว่า 1 ล้านคัน
นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีเจ้าของรถจำนวนมากที่นำรถไปติดตั้งอุปกรณ์เพื่อใช้ก๊าซซีเอ็นจี(หรือเอ็นจีวี) และก๊าซแอลพีจี แทนน้ำมัน โดยไม่ได้มาแจ้งเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงกับกรมการขนส่งทางบก ทำให้ทางราชการไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้อง และควบคุมดูแลความปลอดภัยได้อย่างทั่วถึง
ปัจจุบันความต้องการใช้ก๊าซในรถยนต์มีเพิ่มขึ้นมาก จึงอาจทำให้การติดตั้งก๊าซโดยเฉพาะอย่างยิ่งก๊าซแอลพีจีของศูนย์บริการบางแห่งไม่ได้มาตรฐาน กรมการขนส่งทางบกจึงออกประกาศนายทะเบียนให้เจ้าของรถที่เปลี่ยนมาใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมัน ต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ และแจ้งเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ผ่านการตรวจและทดสอบ โดยจะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2551 นี้เป็นต้นไป
ภายหลังจากประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ เจ้าของรถจะต้องนำรถ สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมเอกสารการติดตั้ง การตรวจและทดสอบจากผู้ตรวจและทดสอบที่กรมการขนส่งทางบกให้ความเห็นชอบไปตรวจสภาพ และแจ้งเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงยังสำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียนไว้ภายใน 15 วัน หลังจากวันตรวจและทดสอบ โดยมีค่าดำเนินการ 105 บาท หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 36 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการติดตั้ง การตรวจ และทดสอบอุปกรณ์ หรือต้องการทราบรายชื่อผู้ติดตั้งและผู้ตรวจและทดสอบที่กรมการขนส่งทางบกให้ความเห็นชอบ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์ส่งเสริมสนับสนุนการใช้เอ็นจีวีหมายเลขโทรศัพท์ 0 -2272 -5751 -2 หรือ //www.dlt.go.th หรือ Call Center 1584
นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ปัจจุบันสถิติจำนวนรถที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงทั่วประเทศ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551 มีจำนวน 309,064 คัน เป็นรถที่ใช้ก๊าซแอลพีจีจำนวน 256,083 คัน และใช้ก๊าซซีเอ็นจี(หรือเอ็นจีวี)จำนวน 52,981 คัน
จากการตรวจสอบข้อมูลจากผู้ติดตั้ง และรายงานการตรวจและทดสอบอุปกรณ์ พบว่ามีปริมาณสูงกว่าจำนวนผู้มาแจ้งเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิง ซึ่งตามกระแสข่าวมีกว่า 1 ล้านคัน
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลยุทธ์และพัฒนาองค์กร บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสถานการณ์การใช้เชื้อเพลิงในประเทศขณะนี้ ว่าท่ามกลางภาวะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังพุ่งทะยานไม่หยุด คนส่วนใหญ่เปลี่ยนใช้พลังงานเชื้อเพลิง จากน้ำมันไปสู่ก๊าซธรรมชาติเป็นจำนวนมาก เช่น แอลพีจี มีมากกว่า 1 ล้านคัน และเอ็นจีวีก็เพิ่มขึ้น
แต่ปริมาณการใช้น้ำมันลดลงไม่มากนัก โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากความไม่พร้อมของพลังงานทางเลือก เช่น เอ็นจีวี ที่ไม่พร้อมในเรื่องของสถานีบริการ รวมทั้งความไม่พร้อมของระบบขนส่งมวลชนในประเทศ โดยหากมีการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้า ตามนโยนบายของรัฐบาล ก็จะทำให้ประชาชนยอมลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว หันมาใช้ระบบขนส่งมวลชน
. . .
รมว.คลัง เป็นห่วงเกิดปัญหาเงินเฟ้อควบคู่กับเงินฝืด
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นห่วงเกิดปัญหาเงินเฟ้อควบคู่เงินฝืด ส่งสัญญาณ กนง.คิดรอบคอบก่อนตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปัญหาราคาน้ำมันแพง และราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น รัฐบาลไม่อยากเห็น ภาระเงินฝืดเกิดขึ้นควบคู่ไปกับภาวะเงินเฟ้อ เพราะจะทำให้มาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจทำได้ยากยิ่งขึ้น
กรณีที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะมีปัญหาสภาพคล่องการเงินในระบบตึงตัวนั้น หากรัฐบาลสามารถรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อได้ เชื่อมั่นว่าสภาพคล่องจะดีขึ้น ธนาคารก็พยายามดูแลปัญหาสภาพคล่อง และมีเครื่องมือทางการเงินสำหรับระดมเงินฝากประเภทต่างๆ มากขึ้น จึงไม่น่ามีปัญหาต่อระบบมากเกินไป
ส่วนกรณีที่ตลาดคาดว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ก็มีความเห็นหลากหลาย ทั้งต้องการให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยแก้ปัญหาอัตราเงินเฟ้อ อีกฝ่ายไม่ต้องการให้ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่ง กนง.คงต้องรับฟังความคิดเห็นจากหลายฝ่ายเพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรณีที่มีความเป็นห่วงว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีปัญหาสภาพคล่องเงินในระบบ จนนำไปสู่การลดระยะเวลาชำระหนี้การค้าในการซื้อสินค้า เช่น จาก 6 เดือน ลดเหลือ 1-3 เดือน หรืออาจต้องจ่ายเงินสด ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยอยู่ไม่ได้นั้น อาจเป็นเพียงปัญหาระยะสั้น หรือเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมบางรายเท่านั้น แต่คาดว่าคงไม่ถึงกับเป็นปัญหาทั้งระบบจนได้รับผลกระทบมากจนเกินไป เพราะขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ได้พัฒนาด้านต่างๆ ทั้งระบบการกู้ การป้องกันความเสี่ยง การระดมเงินฝากประเภทต่างๆ จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าห่วง เพราะขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณในการดูดซับสภาพคล่องจากภาครัฐแต่อย่างใด
สำหรับการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินที่หวั่นเกรงว่าจะชะลอตัวในครึ่งปีหลัง อาจจะลดลงไปบ้างแต่ก็ยังเติบโตมากกว่าปีก่อน เพราะภาคเอกชนยังมีการขยายการลงทุน
. . .
กระทรวงการคลังเดินหน้าโครงการแจกคูปองช่วยค่าครองชีพ
น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงแนวทางการออกคูปองช่วยเหลือประชาชนว่า เป็นการออกคูปองเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ เบื้องต้นกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาว่า จะจัดสรรให้กับครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า 6,000 บาทต่อครัวเรือนๆ ละ 1 คูปอง เพื่อนำไปใช้บริการซื้อสินค้าที่จำเป็น เช่น สบู่ น้ำปลา อาหารที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกับรัฐบาล รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพื่อเป็นการช่วยเยียวยาให้บรรเทาจากค่าครองชีพสูง จากปัญหาอัตราเงินเฟ้อ ราคาสินค้าแพง ส่วนประชาชนที่รายได้สูงกว่า และไม่ได้รับการช่วยเหลือคงไม่ต้องน้อยใจ เพราะกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจหนักมากที่สุดจนไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้
กระทรวงการคลัง ยืนยันว่า โครงการการช่วยเหลือนี้ จะเป็นโครงการระยะสั้น เพราะไม่อยากให้เป็นภาระต่องบประมาณมากนัก สำหรับจำนวนผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือ ขณะนี้ได้รับข้อมูลจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน เพื่อนำมาพิจารณาให้ความช่วยเหลือแล้ว
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านระบุว่า เป็นการดำเนินการหวังผลคะแนนทางการเมืองนั้น แม้จะถูกมองไปในทางดังกล่าว ก็ต้องดำเนินการ เพราะการช่วยเหลือคนจนที่ได้รับผลกระทบหนักให้ผ่านพ้นในช่วงนี้ไปได้ ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ก็มีมาตรการในลักษณะดังกล่าวเหมือนกันหมด เพราะเมื่อประคองชีวิตผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ ก็จะหารายได้เสริม หรือมีอาชีพฟื้นตัวได้ในอนาคต
อนึ่ง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้กำหนดหลักเกณฑ์ และจำนวนคนยากจน สำหรับโครงการแจกคูปองคนจนเพื่อช่วยเหลือภาวะค่าครองชีพ โดยจะมีคนยากจนรวม 4 ล้านครัวเรือนที่เข้าข่ายได้รับความช่วยเหลือ โดยพิจารณาจากครอบครัวที่มีรายได้ต่อปีต่ำกว่า 6,000 บาท โดยครอบครัวที่อยู่ในต่างจังหวัดจะได้รับการช่วยเหลือเดือนละ 400 กว่าบาท ขณะที่ครอบครัวในกรุงเทพฯ จะได้รับความช่วยเหลือเดือนละ 300 กว่าบาท
. . .
Create Date : 13 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 13 กรกฎาคม 2551 18:52:46 น. |
|
3 comments
|
Counter : 674 Pageviews. |
|
|
|
โดย: loykratong วันที่: 13 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:02:19 น. |
|
|
|
|
|
|
|
คาด กนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25
แต่เงินเฟ้ออาจจะยังคงไม่ลดลงในเวลาอันใกล้
ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2551 คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) จะมีการประชุมรอบที่ห้าของปีนี้เพื่อตัดสินใจนโยบายการเงินหรือทิศทางอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน ที่ขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 3.25 โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยมีความคิดเห็นต่อการประชุม กนง.ในรอบนี้ สรุปได้ดังนี้:-
ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทย (Headline CPI Inflation) อาจจะยืนเหนือระดับร้อยละ 9.0 ในเดือนกรกฎาคม และขึ้นไปแตะระดับร้อยละ 10.0 ในเดือนสิงหาคม ก่อนที่จะยืนระดับเหนือร้อยละ 9.00 ไปจนถึงเดือนตุลาคม 2551 ตามราคาน้ำมันตลาดโลกที่ยังมีระดับสูงต่อเนื่อง และสินค้าในประเทศอีกหลายรายการที่มีแนวโน้มจะขยับราคาขึ้น รวมทั้งผลของฐานการเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ในทิศทางที่สอดคล้องกัน อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI Inflation) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารสดและพลังงาน อาจปรับตัวเข้าหาระดับร้อยละ 4.5-5.0 ในช่วงปลายปีนี้ หลังจากที่ล่าสุดในเดือนมิถุนายน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานได้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปีที่ร้อยละ 8.9 และร้อยละ 3.6 ตามลำดับ อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานสูงเกินกรอบบนตามเป้าหมายเงินเฟ้อ (Inflation Targeting) ของ กนง.ในช่วงร้อยละ 0-3.5 ที่เริ่มใช้มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2543 ด้วย
นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในเดือนมิถุนายนยังมีระดับสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของดัชนีราคาผู้บริโภคเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงกดดันเงินเฟ้ออาจยังมีแนวโน้มจะถูกส่งผ่านจากผู้ผลิตมายังผู้บริโภคได้อีกในระยะถัดไป
ความคิดเห็นที่แตกเป็นสองฝ่าย
ท่ามกลางสถานการณ์แวดล้อมในปัจจุบันที่ภาวะเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความเสี่ยงหลายประการ ทำให้เศรษฐกิจไทยอาจมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงในระยะที่เหลือของปี หลังจากที่เติบโตร้อยละ 6.0 ในไตรมาสแรกของปีนี้
ทัศนะของนักวิเคราะห์ที่มีต่อการดำเนินนโยบายการเงินในการประชุม กนง.รอบวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ จึงแตกออกเป็นสองฝ่าย ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างก็มีเหตุผลสนับสนุน
โดยฝ่ายแรกที่สนับสนุนให้ กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย มีข้อสนับสนุนคือ กนง.ควรให้ความสำคัญกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือและเป็นการดำเนินนโยบายการเงินตามกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ รวมทั้งเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว
ในขณะที่ อีกฝ่ายหนึ่งที่สนับสนุนให้ กนง.คงอัตราดอกเบี้ยไว้นั้น ก็มีข้อสนับสนุนที่เห็นว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะยิ่งซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจซึ่งกำลังมีแนวโน้มชะลอตัวให้แย่ลงไปอีก และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันตลาดโลกเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ อาจจะกล่าวได้ว่า ฝ่ายที่สนับสนุนการคงอัตราดอกเบี้ยนั้น มองประเด็นปัญหาในทางปฏิบัติเฉพาะหน้าในด้านต้นทุนราคาสินค้าเป็นสำคัญ ในขณะที่ ฝ่ายที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย มองผลกระทบเชิงพลวัตรต่อความเชื่อมั่น และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในกรอบเวลาที่ยาวนานกว่า
กนง.เผชิญความท้าทายครั้งสำคัญ ...
ประเด็นหลักคือเรื่องความเชื่อมั่น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แม้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. คงจะไม่ทำให้ระดับราคาสินค้าในประเทศถูกลง แต่ กนง.คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องตัดสินใจดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่เข้มงวดมากขึ้น
ทั้งนี้เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจให้กับตลาดการเงินว่า กนง.ยังคงมีจุดยืนที่จะดูแลรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็เป็นการสกัดกั้นไม่ให้ระดับราคาสินค้าถีบตัวสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะหากประชาชนขาดความมั่นใจในการดำเนินนโยบายการเงินของทางการหรือการถือครองเงินไว้กับตัวแล้ว ก็จะยิ่งส่งผลซ้ำเติมภาวะเงินเฟ้อให้รุนแรงขึ้นไปอีก
กระนั้นก็ดี หาก กนง.เลือกที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ ไม่ว่าจะด้วยขนาดร้อยละ 0.25 หรือมากกว่านั้น ต้องยอมรับว่า แรงกดดันเงินเฟ้อคงจะไม่ปรับลดลงมาโดยทันทีหลังจากที่ กนง.ดำเนินการดังกล่าว เนื่องจากกว่าที่ผลของการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่เข้มงวดจะปรากฏ คงจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
ดังนั้นแล้ว การตัดสินใจนโยบายอัตราดอกเบี้ยของ กนง.ในการประชุมรอบนี้ คงจะเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก เพราะ กนง.อาจจะต้องดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งๆ ที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอาจจะไม่ปรับตัวลงมาจนกว่าจะผ่านพ้นปลายปีนี้ไปแล้ว
แต่ในทางตรงกันข้าม การไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจจะส่งผลกระทบต่อความมั่นใจที่ตลาดการเงินมีต่อการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย และอาจมีผลในวงกว้างไม่เฉพาะต่ออัตราเงินเฟ้อที่อาจเร่งตัวขึ้นไปอีกเท่านั้น แต่อาจรวมถึงค่าเงินบาทที่อาจจะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันด้วยจากการขาดความเชื่อมั่นดังกล่าว
โดยสรุปแล้ว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ภายใต้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ (Inflation Targeting) คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) คงมีทางเลือกที่จำกัด โดยเฉพาะในภาวะที่เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นอย่างในปัจจุบัน
โดยคาดว่า กนง.คงจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 3.25 มาที่ร้อยละ 3.50 ในการประชุมรอบที่ห้าของปีในวันที่ 16 กรกฎาคม 2551 นี้
ซึ่งเหตุผลสนับสนุนการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว น่าจะเป็นเรื่องของการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ตลาดเงินตลาดทุนว่า ทางการยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ดูแลเสถียรภาพของระดับราคาอยู่อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม กนง.คงจะต้องสื่อความให้แก่ตลาดการเงินและสาธารณชนเข้าใจว่า การดำเนินนโยบายการเงินดังกล่าว อาจต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าที่จะเห็นผล ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยเห็นว่า ในท้ายที่สุดแล้ว การดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมและระมัดระวัง น่าที่จะค่อยๆ นำพาให้เศรษฐกิจไทยกลับสู่ภาวะที่มีเสถียรภาพได้ในระยะถัดๆ ไป
. . .