BlogGang.com : : loykratong : เงินเฟ้อก.ย.6.0%-ปตท.คาดน้ำมันดิบแกว่งตัว 90-100 USD/Barrel. . .

เงินเฟ้อก.ย.6.0%-ปตท.คาดน้ำมันดิบแกว่งตัว 90-100 USD/Barrel. . .

. . .

เงินเฟ้อเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 6.0% ส่วนเงินเฟ้อรอบ 9 เดือนแรกของปีสูงขึ้น 6.5%

นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (อัตราเงินเฟ้อทั่วไป) เดือนกันยายน 2551 และ 9 เดือนแรกของปี ว่า ในเดือนกันยายน เทียบกับสิงหาคม 2551 เงินเฟ้อสูงขึ้นร้อยละ 0.2 แต่หากเทียบช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สูงขึ้นร้อยละ 6.0 ส่งผลให้เงินเฟ้อเฉลี่ย 9 เดือนแรกของปี เทียบกับปีที่ผ่านมา สูงขึ้นร้อยละ 6.5 สาเหตุเนื่องจากราคาอาหารสดประเภทผักและผลไม้สูงขึ้น เพราะพื้นที่เพาะปลูกได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม และเป็นช่วงปลายฤดูกาล แม้ราคาน้ำมันจะลดลงตามราคาตลาดโลกก็ตาม

ประมาณการอัตราเงินเฟ้อปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 6.5-6.9 แต่ทั้งนี้ต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกว่าจะมีความผันผวนปรับเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ และทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนว่าจะมีการอ่อนค่าลงหรือไม่

. . .

ปตท. คาดราคาน้ำมันผันผวนถึงสิ้นปีนี้ โดยราคาน้ำมันดิบจะอยู่ประมาณ 90-100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกมีความผันผวนจากกระแสข่าวปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐ ซึ่งเมื่อสภาคองเกรสไม่ผ่านแผนฟื้นฟู ราคาน้ำมันก็ปรับตัวลดลง แต่มีข่าวว่าประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช จะเสนอแผนกลับไป ก็ทำให้ราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนวันที่ 30 ก.ย.ปรับตัวขึ้นอีก

นายประเสริฐประเมินว่าราคาน้ำมันน่าจะแกว่งตัวจนถึงปลายปี โดยราคาน้ำมันดิบจะอยู่ประมาณ 90-100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ 110-120 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศก็จะขึ้นลงตามราคาตลาดสิงคโปร์เป็นหลัก

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ปตท.ได้ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันทุกประเภทลงอีก 60 สตางค์ต่อลิตร ทำให้ค่าการตลาดราคาน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 1.50 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นระดับที่พอจะรับได้ โดยปตท.ยืนยันว่า เมื่อราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลง ผู้ค้าน้ำมันได้ปรับลดราคาขายปลีกในประเทศลง เพื่อบรรเทาภาระของประชาชน ขณะที่เมื่อราคาน้ำมันตลาดโลกปรับขึ้น ก็ทยอยปรับขึ้นเช่นกัน

. . .

ธปท.สำรวจความคิดเห็นนักธุรกิจ พบดัชนีความเชื่อมั่นลดลงต่อเนื่อง

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำรวจความเชื่อมั่นของนักธุรกิจ ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และในอนาคต 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน ส.ค. ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 40.7 จาก 41.5 ในเดือนกรกฎาคม นักธุรกิจส่วนใหญ่มีความเป็นห่วงว่าคำสั่งซื้อในอนาคตจะปรับตัวลดลง และมีการแข่งขันกันขายสินค้าที่รุนแรงขึ้นของประเทศคู่แข่ง ขณะที่มองว่าความต้องการซื้อตลาดในประเทศเริ่มต่ำลง

นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการลงทุนใหม่จะยังไม่เกิดขึ้น รวมทั้งเป็นห่วงการจ้างงานในอนาคตจะลดลง และเมื่อแบ่งเป็นรายภาคพบว่า ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมเป็นภาคที่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจลดลงมากที่สุด ตามมาด้วยภาคบริการ และภาคการขนส่ง

ส่วนผลสำรวจความคิดเห็นผู้ประกอบการในเรื่องค่าจ้างแรงงาน พบว่าจำนวนผู้ประกอบการที่คาดการณ์ว่า จะมีการปรับขึ้นเงินเดือนค่าจ้างให้กับลูกจ้างใน 12 เดือนข้างหน้าลดลงจากเดือนก่อน 3.4%
โดยผู้ประกอบการจำนวน 15.3% ระบุว่า จะไม่มีการเพิ่มค่าจ้างแรงงานให้กับลูกจ้างใน 12 เดือนข้างหน้า
ขณะที่ผู้ประกอบการ 30.8% ระบุว่า จะปรับขึ้นเงินค่าจ้างให้กับลูกจ้าง 4-6%
และผู้ประกอบการ 12.7% มองว่าจะปรับขึ้นค่าจ้างให้มากกว่า 6%

ส่วนการคาดการณ์เงินเฟ้อ และต้นทุนการผลิตสินค้าในอนาคต 12 เดือน ผู้ประกอบการคาดว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในปีนี้จะอยู่ระหว่าง 4-7% และมีแนวโน้มลดลง จากราคาน้ำมันที่ลดลงต่ำลง

ส่วนค่าเงินบาท ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มองว่า มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าสภาพคล่อง และอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้ และใน 3 เดือนข้างหน้าจะทรงตัวในระดับปัจจุบัน

. . .

รมว.พาณิชย์ ประกาศขายข้าวในสต็อคกว่า 5 ล้านตัน มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท พร้อมประกาศเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวนาปี 2551/2552

นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศขายข้าวในสต็อกของรัฐบาลผ่านทางสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยไปแล้ว ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถยื่นซองเสนอราคามายังองค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้ทันที โดยจะมีคณะกรรมการพิจารณาราคาขาย ซึ่งจะต้องเป็นราคาที่เหมาะสม ไม่ทำให้รัฐบาลขาดทุน และต้องส่งออกต่างประเทศทั้งหมด เพื่อไม่ให้กระทบราคาขายข้าวในประเทศ

โดยสต็อกข้าวของรัฐบาลขณะนี้ เป็นข้าวเก่า จำนวน 2.1 ล้านตัน และเป็นข้าวเปลือกที่รับจำนำใหม่ จำนวน 3.9 ล้านตัน หากระบายข้าวออกได้ทั้งหมดรัฐบาลจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท

นายไชยากล่าวว่า นอกจากการขายให้กับผู้ส่งออกแล้ว จะมีการเสนอขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ตามคำสั่งซื้อเดิม และหากเป็นไปได้จะมีการเสนอขายแบบล็อตใหญ่

สำหรับโครงการรับจำนำข้าวนาปีฤดูกาลผลิตปี 2551/2552 ที่จะเปิดรับจำนำวันที่ 16 ต.ค.นี้ นายไชยา กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีต่อไป โดยราคาในการเปิดรับจำนำจะไม่ต่ำกว่าราคาการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2551 ที่ตันละ 14,000 บาท โดยภายใน 1-2 วันนี้ ตนจะเข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อขอความชัดเจน หลังจากมีข่าวจากทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ออกมาว่า จะล้มโครงการรับจำนำดังกล่าว เพราะไม่มีงบประมาณ

สำหรับราคาการรับจำนำข้าวเปลือกในเบื้องต้น ข้าวเปลือกเจ้า จะอยู่ที่ราคาตันละ 14,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 16,000 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ราคาตันละ 9,000-10,000 บาท

. . .

ตัวแทนผู้ค้าหวยออนไลน์เร่งกระทรวงการคลังเดินหน้าโครงการหวยบนดิน

นายธวัช สถิตวิทยา นายกสมาคมผู้ค้าสลากเลขท้าย ได้ยื่นหนังสือถึงกระทรวงการคลัง เพื่อเร่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาออกหวยบนดิน หลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกาทำหนังสือตอบกลับให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลออกหวยบนดินได้ โดยเสนอให้นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำกับดูแลสำนักงานสลากด้วยตนเอง เพราะไม่ติดคดีหวยบนดิน และเป็นนโยบายหลักของพรรคพลังประชาชน (พปช.) ที่หาเสียงไว้ โดยเสนอให้เปิดจำหน่ายภายในเดือน พ.ย.นี้

ตัวแทนผู้ค้าสลากได้ขอให้เร่งแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคา โดยเสนอให้แบ่งโควตาสัดส่วนจัดสรรให้ผู้แทน และคนเดินโพยที่มีฐานข้อมูลรายชื่อไว้แล้ว 15,000 ราย ให้นำสลากไปจำหน่ายจนกว่าราคาสลากจะลดลง หากทางการไม่รับข้อเสนอ ผู้ค้าและคนเดินโพยเตรียมนัดชุมนุมใหญ่ในวันอังคารที่ 7 ต.ค.นี้ โดยจะนำเครื่องขายหวยออนไลน์มาทุบหน้าที่ประชุม ครม. สนามบินดอนเมือง

นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการหวยออนไลน์แบบ 2 ตัว 3 ตัว ว่า ขณะนี้ทางกระทรวงการคลังยังไม่ได้พิจารณาถึงความคืบหน้าใดๆ ที่เกี่ยวกับการเดินหน้าหวยออนไลน์ เพราะยังต้องดูรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกฎหมายให้รอบคอบ

นายวันชัย สุระกุล รักษาการ ผผู้อำนวยการ (ผอ.) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ภายหลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ทำหนังสือตอบกลับให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลออกหวยบนดินได้ ทางคณะกรรมการสำนักงานสลากฯ จะประชุมในวันที่ 8 ต.ค.นี้ เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

นายวันชัย กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ มีความพร้อมที่จะเดินหน้าโครงการต่อไป หากไม่ขัดกฎหมาย เพราะได้รับสมัครคนเดินโพยไปแล้ว

. . .

Create Date : 01 ตุลาคม 2551

Last Update : 1 ตุลาคม 2551 19:35:30 น.

0 comments

Counter : 714 Pageviews.