BlogGang.com : : loykratong : ...ซื้อกองทุนรวมรับของแถม?...

...ซื้อกองทุนรวมรับของแถม?...

ซื้อกองทุนรวมรับของแถม?
ซื้อของแถมรับหน่วยลงทุน(ฮา)

ใกล้สิ้นปีเข้าไปทุกที บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมหลายแห่งเร่งโฆษณาประชาสัมพันธ์การขายหน่วยลงทุนกันอย่างคึกคัก มีทั้งที่ออกขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมใหม่ๆ และส่งเสริมการขายกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ Retirement Mutual Fund หรือ RMF และกองทุนรวมหุ้นทุนระยะยาว Long Term Equity Fund หรือ LTF เพื่อกระตุ้นนักลงทุนที่ต้องการประหยัดภาษีด้วยการแบ่งเงินมาลงทุนใน RMF และ LTF
เงินลงทุนใน RMF และ LTF สามารถนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้ โดยสามารถนำมาลดหย่อนได้สูงสุดจำนวน 15% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 600,000 บาท (กองทุนละ 300,000 บาท) โดยมีเงื่อนไขหลักๆ คือ ต้องเป็นการลงทุนระยะยาวไม่ต่ำกว่า 5 ปี
การส่งเสริมการขายกองทุนประเภท RMF และ LTF ที่เด่นชัดในช่วงนี้ก็คือ การให้ของแถม แก่ผู้ซื้อหน่วยลงทุนเมื่อถึงตามจำนวนที่กำหนด ก็จะได้รับของแถมตามที่กำหนดไว้ ซึ่งที่แตกต่างกันไปตามตาราง

บริษัทจัดการกองทุน ของกำนัล
บลจ.เอ็มเอฟซี ฉลากออมสิน
บลจ.ไอเอ็นจี บัตรกำนัล
บลจ.อยุธยา วิทยุนาฬิกาปลุก, วิทยุCD, เครื่องเล่น DVD พกพา
บลจ.พรีมาเวสท์ คะแนนสะสมบัตรเครดิต หรือไมล์สะสม Royal Orchid Plus
บลจ.ไทยพาณิชย์ กระเป๋า, เก้าอี้สนาม
บลจ.อเบอร์ดีน บัตรกำนัล caltex
บลจ.ทิสโก้ เครื่องดูดฝุ่นคีย์บอร์ด, กระเป๋าเก็บความร้อนความเย็น, เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์
บลจ.ทหารไทย บัตรคอนเสิร์ต Jazz Royale
บลจ.บีที เตาอบ, เตารีดไอน้ำ, หม้อสุกี้, กระเป๋า Cooler Bag, ตุ๊กตาหมี
บลจ.กรุงไทย แก้วสแตนเลส, กระเป๋าเดินทาง, ประกันอุบัติเหตุ
บลจ.กสิกรไทย กระเป๋า Cooler Bag, กระติกน้ำร้อนน้ำเย็น
บลจ.บัวหลวง กระเป๋าลาก, พัดลม

ทั้งนี้นักลงทุนสามารถสะสมมูลค่าหน่วยลงทุนได้จนถึงสิ้นเดือนธันวาคม เพื่อขอรับของแถมแต่ละประเภท ตามวงเงินลงทุนที่แตกต่างระดับกันไป ซึ่งสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแต่ละแห่ง
ทำไมต้องแจกต้องแถม?
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จะได้ประโยชน์จากการที่ขายหน่วยลงทุนได้มากขึ้น ขนาดของกองทุนรวมเพิ่มขึ้น ค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน(NAV) ก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย
แล้วจะกระทบกับผลตอบแทนของกองทุนรวมหรือเปล่า?
จากการรวบรวมข้อมูล โดยเฉลี่ยมูลค่าของกำนัลที่ทางบลจ.ให้กับลูกค้านั้น เป็นประมาณ 0.2-0.8% ของวงเงินลงทุนในหน่วยลงทุนของลูกค้า อย่างไรก็ตามการแจ้งมูลค่าของกำนัลของทางบลจ.แต่ละแห่งก็แตกต่างกันไป ว่าของกำนัลแต่ละชิ้นมีมูลค่าเท่าไร แต่ในความเป็นจริงทางบลจ.อาจได้รับส่วนลดจากการซื้อของแถมเหล่านั้นในจำนวนมากๆ แต่ของบางอย่าง เช่น สลากออมสิน หรือบัตรกำนัลที่ใช้แทนเงินสด ก็จะมีมูลค่าใกล้เคียงที่แจ้งไว้มากที่สุด
ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้ บางแห่งก็มีนโยบายจะรับเป็นค่าใช้จ่ายของทางบลจ. บางแห่งก็จะหักจากค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุน (คงไม่มีกองทุนใดเอาเงินของกองทุนรวมทั้งกอง แล้วมาซื้อของแถมให้ผู้ถือหน่วย เพราะจะเกิดความไม่เท่าเทียมกันระหว่างผู้ถือหน่วยลงทุนที่ไมได้รับของแจก ของแถมเหล่านี้?) ซึ่งนักลงทุนก็ต้องสอบถามจากทางบลจ.ให้ชัดเจนว่ามีนโยบายอย่างไร
นอกจากนี้ การส่งมอบของแถม ของกำนัลดังกล่าว ก็จะทำหลังจากที่นักลงทุนได้ลงทุนครบตามจำนวนที่กำหนดเอาไว้ภายในสิ้นปีนี้ โดยบางแห่งก็จะส่งมอบของแถมให้ลูกค้าปลายเดือนมกราคมบ้าง มีนาคมบ้าง
ส่วนใหญ่กองทุนที่ให้ของแถมจะส่งมอบของให้ลูกค้ากองทุนประเภท LTF ประมาณปลายเดือนมกราคมปีหน้า ส่วนกองทุนประเภท RMF จะส่งมอบประมาณปลายเดือนมีนาคมปีหน้า บางแห่งก็ส่งมอบให้ 30-60 วันหลังจากมีนาคมปีหน้า ซึ่งหมายถึงกว่าผู้ลงทุนจะได้ของแถมก็ปลายเดือนเมษายน หรือพฤษภาคม ปีหน้า บลจ.บางแห่งก็ไม่ได้แยกประเภทว่าเป็น LTF หรือ RMF ก็นำส่งของแถมให้ลูกค้ารวมๆกันไปในช่วงเวลาเดียวกันเลยก็มี
สาเหตุที่ระยะเวลาส่งมอบของกำนัลถูกกำหนดให้ห่างไปอีกหลายเดือนนั้น คิดอย่างง่ายๆ ก็คือบลจ.รับจ้างบริหารจัดการกองทุนให้กับลูกค้า โดยคิดค่าธรรมเนียมประมาณปีละ 1-1.5% ในกรณีที่เป็นกองทุนหุ้นทุน แต่ค่าจ้างบริหารนี้จะตัดจากกองทุนเป็นรายเดือน ไม่ใช่ตัดปีละครั้ง
ดังนั้นจากเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนที่เข้ามาใหม่ ทางบลจ.ก็จะมีรายได้เพิ่มเข้ามาประมาณ 0.1% ต่อเดือน(ที่เป็นค่าบริหารจัดการกองทุน)
สิ้นเดือนธันวาคมได้มาแล้ว 0.1% สิ้นเดือนมกราคมได้มาอีก 0.1% พูดง่ายๆก็คือ เอาค่าบริหารจัดการหรือรายได้ที่ทางบลจ.ควรได้ในช่วงเดือนแรกๆมาซื้อของกำนัลให้ผู้ถือหน่วยนั่นเอง
แต่การลงทุนในกองทุนประเภท LTF และ RMF ผู้ถือหน่วยมีข้อผูกพัน เพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีคือต้องลงทุนในกองทุนรวมนั้น เป็นเวลาอย่างต่ำ 5 ปีปฏิทิน รายได้จากการบริหารจัดการกองทุนที่จะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องในระยะยาวต่างหากที่ทางบลจ.คาดหวัง
ส่วนกรณีที่บลจ.หลายแห่งให้นักลงทุนสะสมการลงทุนได้จากตั้งแต่ต้นปีบ้าง กลางปีบ้าง จนถึงสิ้นปีนี้ เมื่อได้ตามยอดที่กำหนดก็ได้รับของกำนัล กรณีนี้ก็เป็นลักษณะคืนกำไรให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่ลงทุนต่อเนื่องกันมา สะสมเงินลงทุนในกองทุนมาได้ช่วงเวลาหนึ่ง
ก็เป็นในลักษณะที่เรียกว่าลดค่าบริหารจัดการกองทุนให้ทางอ้อม ก็คือเอาเงินค่าบริหารจัดการมาซื้อของกำนัลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วย แต่ต้องรอก่อนนะ ปีหน้าจึงจะได้ของแถมนี้
ดังนั้นการให้ของแจก ของแถม ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลต่อผู้ถือหน่วยลงทุน เป็นเพียงกลยุทธการตลาดที่ใช้ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้น หากพิจารณาตามพฤติกรรมของผู้บริโภคในไทย ก็จะเห็นว่าหลายครั้งที่เราซื้อของเพราะแค่อยากได้ของแถม ถ้าไม่เชื่อลองย้อนไปดูข้อมูลในตาราง เชื่อว่าต้องมีของกำนัลสักชิ้นที่ท่านเห็นแล้วรู้สึกถูกใจ
แม้การให้ของแถม หรือลดราคาให้ทางอ้อมจะเป็นกลยุทธการตลาดที่จะช่วยกระตุ้นยอดขายหน่วยลงทุนในช่วงปลายปีนี้ได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นคำตอบของความสำเร็จของธุรกิจจัดการกองทุนในระยะยาว เพราะสิ่งที่ลูกค้าคาดหวัง คือผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีที่สุด(Fund Performance)
ดังนั้นบลจ.แต่ละแห่งจึงต้องแข่งขันกันในด้านการบริหารจัดการการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้ลูกค้า และนี่เป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนต้องนำมาเปรียบเทียบ ว่าจะเลือกกองทุนใด ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.แห่งใด

Create Date : 06 มกราคม 2550

Last Update : 6 มกราคม 2550 2:47:09 น.

2 comments

Counter : 547 Pageviews.

เป็นสีสันทางการตลาด มีปีหนี่งไปเดินงาน ขายกองทุนคนขายเล่นมุข ขายตู้เย็นแถมกองทุน ก็ฮาดี
แต่เชื่อม้ย ตอนนี้ถ้ากองทุนลดหย่อนภาษี ถ้าไม้แจกของ ไม่ซื้อ ถ้าเราจับจังหวะได้ ซื้อตอนไม่มีของแถม ยังได้กำไรมากกว่าเลยยยยย

โดย: หมูสีฟ้า IP: 210.203.178.196 วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:22:47:21 น.

โดย: หมูสีฟ้า IP: 210.203.178.196 วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:22:47:42 น.