วิธีดูแลสุขภาพประจำวันของสาวออฟฟิศขี้โรค ทั้งปวดหลัง ปวดสะโพก ปวดก้น ปวดฝ่าเท้า
English version on how to stretch piriformis syndrome, buttocks, hip pain, groin pain?
Please visit the below link:
Best Stretching Exercises for piriformis syndrome, buttocks, hip pain, groin pain
หลังจากผ่านปีใหม่เริ่มปีชงมานี่ เจ็บหลายที่เหลือเกิน ซึ่งทุกอาการตั้งแต่ต้นปีก็ได้เล่าไปหมดแล้วในบล็อคก่อน ๆ
ทั้งท่อน้ำตาที่ตอนนี้ก็ยังอุดตันอยู่ แต่ก็ดีขึ้นเยอะ ไม่มีหนองหรือใครมองว่าเป็นขี้ตาออกมาแล้ว แต่น้ำตาออกมาก็ยังขังอยู่ที่ตาเพราะรูดูดกลับมันตัน แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้น คือถ้าอยู่บ้านไม่ไปที่สกปรก น้ำตาก็ไม่ผลิตออกมา ใครอยากรู้ว่าอาการเป็นยังไง อ่านละเอียดได้ที่บล็อคก่อนหน้านี้ของเรา
เอาตาไปให้หมอเอาเข็มแทง กับโรคท่อน้ำตาอุดตัน เอาตาไปให้หมอเอาเข็มแทง กับท่อน้ำตาอุดตัน
ส่วนที่ปวดก้น หรือ ปวดสะโพกหรือเรียกว่า Piriformis Syndrome ก็ดีขึ้น แบบว่านั่งได้นาน 2-3 ชั่วโมงได้แล้ว ก่อนหน้านี้นั่งไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะเจ็บจี๊ด เพราะกล้ามเนื้อสะโพกมันเกร็งตัวจนไปบีบเส้นประสาท
อยากรู้ละเอียดก็อ่านได้ที่บล็อคก่อน ๆ ของเรานะ
ปวดสะโพก+ก้น ไปหามา 3 รพ.ทั้งกิน ทั้งฉีดก็ไม่หาย สุดท้ายเพิ่งมารู้ว่าตัวเองรักษาผิดวิธีมาตลอด
และ
เอาสะโพกไปให้หมอฉีดยาเข้าเส้นเอ็นมา ออฟฟิศซินโดรม สาเหตุและวิธีหลีกเลี่ยง
แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้น นั่งได้นานขึ้น แต่ตอนนั่งก็มีปวด ๆ เหมือนกันนะ แต่ปวดแบบพอทนได้ เหมือนคนนั่งหน้าคอมนาน ๆ แล้วปวดบ่า ไหล่ คอ นั่นแหละ แบบว่าปวดแบบทนได้
แล้วปวดข้อพับที่ขาตอนไปเชงเม้ง ลงบันไดไม่ได้ไปอาทิตย์นึง อ่านความทรมานได้ที่บล็อคก่อนหน้านี้
สะโพกเริ่มหายเจ็บ ตาเริ่มหายมัว แต่ขาดันมาเจ็บ ปีชงของจริงสินะ
ตอนนี้ก็หายแล้ว ไม่เจ็บแล้ว แต่เวลากายภาพ นอนดึงเข่ามาชิดอก ทำข้างขวาที่เป็นจะเจ็บกว่าข้างซ้ายอยู่นะ
แล้วอาการใหม่ล่าสุด คือเวลาตื่นนอนแล้วลุกขึ้นยืน มันจะเจ็บจี๊ดที่ส้นเท้าทั้ง 2 ข้าง รู้เลยว่าเป็นรองช้ำ หรือ เส้นฝ่าเท้าอักเสบ อันเนื่องมาจากยืนนาน มันก็เป็นโรคต่อเนื่องมาจากปวดก้นเรานั่นแหละ
พอเราปวดก้นมาก ๆ นั่งไม่ได้ เราก็ต้องยืนทำงานหน้าคอม ก็ต่อกล่องแล้วก็ดันจอขึ้นมาให้สูงสุด ในออฟฟิศก็ดูตลกน่ะนะ แต่ก็อธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่าตอนนี้เราปวดก้นมาก นั่งไม่ได้ เลยต้องยืนทำงาน
แล้วทีนี้มันยืนเพลิน แถมรองเท้าที่ใส่ยืนก็รองเท้าแตะแบน ๆ ไม่ได้รองรับน้ำหนักเราเหมือนรองเท้าส้นหนาเหมือน fitflop
ยืนจนเมื่อยกว่าจะลองนั่ง แต่นั่งไม่ถึงครึ่งชั่วโมงยังไม่ได้หายเมื่อยก็ต้องยืนใหม่ เพราะมันปวดก้นอีก ทำอย่างนี้เป็นเดือน เอ็นฝ่าเท้ามันเลยอักเสบ
แล้วไม่อยากจะบอกว่าตอนที่ไม่รู้ว่าปวดก้นเนี่ยมันเป็น piriformis syndrome ที่มันต้องกายภาพถึงจะหาย ก็หลงไปกินยาคลายกล้ามเนื้อตั้งหลายยี่ห้อ กัดกระเพาะจนเป็นโรคกระเพาะอยู่ช่วงนึงด้วย
อ้อ แล้วก็ปวดหลังด้วย เพราะหมอบอกว่าให้นั่งเอนหลังไปหน่อย อย่าปรับหลังตรงเป๊ะ เพราะกล้ามเนื้อ piriformis มันต้องทำงานหนักให้การพยุงตัวเรามาข้างหลังจากการนั่งหลังตรง
แล้วเวลาอยู่หน้าคอม ธรรมชาติคนเราจะโน้มตัวมาข้างหน้าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะจับเม้าหรือนั่งพิมพ์ เราก็เลยทำตามที่หมอบอก ปรับเก้าอี้ให้เอนมาข้างหลังหน่อย ปรากฏว่า ตอนนี้ปวดหลัง แถมปวดข้างเดียวด้วยคือข้างขวาที่จับเม้า การไม่ให้กล้ามเนื้อส่วนนึงทำงานหนัก มันเลยเหมือนบังคับให้กล้ามเนื้ออีกส่วนทำงานหนักแทน ตูล่ะกลุ้ม
เออ เมนส์ไม่มาเดือนนึงด้วยเพราะเครียดกับโรค (ไม่ได้ท้อง!!)
ดูสิ เป็นโรคนึง (ปวดก้น+ปวดสะโพก) แต่แก้โรคนึงกลับได้อีก 3 โรคตามมา - โรคกระเพาะเพราะกินยา - โรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบเพราะยืนนาน - โรคปวดหลังเพราะเอนเก้าอี้ทำงาน
แถมอีกโรคที่เป็นอยู่แล้วคือภูมิแพ้อากาศ
หมอตรวจจมูกบอกว่าหายใจได้แค่ 50% เอง เพราะจมูกบวม แต่เราชินเลยรู้สึกว่ามันไม่เป็นอะไร แต่หมอก็ให้ออกกำลังกายแบบแอโรบิกให้หัวใจเต้นแรงนานติดต่อกัน 20 นาที ซึ่งทวิสเอว หมอไม่นับว่าเป็นการออกกำลังกายด้วย ต้องวิ่ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน กระโดดเชือก หรือเต้นแอโรบิกติดต่อกัน 20 นาทีขึ้นไป จมูกก็จะโล่งขึ้น หายใจได้มากขึ้น ถ้าปล่อยทิ้งไว้ อาจจะเป็นโรคข้างเคียงคือ ริดสีดวงจมูกหรือไซนัส ซึ่งหมอขี้เกียจผ่า
ตอนนี้กลับจากทำงานเลยต้องดูแลตัวเองเยอะเลยล่ะ จะเล่าให้ฟัง (ใครอยากฟังเธอเหรอ) เปล่า ชั้นคันมือ คันปาก อยากเล่าเองแหละ ฮา ๆ
พอทำงานเสร็จก็เดินไปเล่นฟิตเนสในออฟฟิศ วิ่งกับไอ้เครื่องนี่ ปรับเลเวลให้มันฝืน ๆ หน่อยแล้วก็วิ่งให้ heart rate มันอยู่ประมาณ 130-150 ครั้งต่อนาที (ถ้าไม่จำไม่ผิดนะ เพราะวิ่งแต่ละที ไม่เคยได้ดูเลย เอาวิ่งเท่าที่วิ่งได้ตลอด)
พยายามอย่างมากให้มันครบ 20 นาที พัก 1 รอบ บางวันเหนื่อยมากก็พัก 2 รอบกินน้ำครึ่งขวด แล้วก็วิ่งต่อให้ครบ 20 นาที (แทบขาดใจมาก ขอบอก ใครบอกว่าพอมันอยู่ตัวให้เพิ่ม แต่เรานี่ 20 นาที 2 กิโล ขาดตัว) แล้วก็อาบน้ำกลับบ้าน
ถึงบ้าน เราก็จะไปล้างเครื่องสำอาง แล้วพอกหน้าด้วยผงสมุนไพร
ระหว่างพอก เราก็เปิดโยคะ เล่นตามท่าที่มันยืดกล้ามเนื้อที่เราเป็น คือมันยาว 2-3 ชั่วโมง ท่าก็มีทั้งยากและง่าย เราก็เลยเลือกเฉพาะท่าแก้ส่วนที่เราเจ็บ (แค่นี้ก็เป็นชั่วโมงแล้ว) เราก็เล่นท่ายืดคอ บ่า ไหล่ หลัง สะโพก ก้น ขา ก็เกือบหมดทั้งร่างกายนั่นแหละ จะว่าไป
(แต่ถ้าวันไหนออกกำลังกายที่ออฟฟิศมาแล้วก็จะไม่โยคะนะ มันเหนื่อยเกิ๊น)
เสร็จแล้วก็ไปล้างหน้าที่พอกจนแห้งติดหน้าออก แล้วมาเปิด youtube แล้วบิดเอวกับทวิสเอาซักครึ่งชั่วโมง เพราะตัวก็สั้น เอวก็หาย บิด ๆ ๆ
บิดวันแรก ตอนอาบน้ำตกใจเลย ตรงหน้าอกเป็นรอยช้ำเลือดตรงสายเสื้อใน เพราะเวลาบิดแต่ละทีมันไปเสียดสีกับสายเสื้อใน
ตอนนี้ทำอะไรก็ไม่เจ็บแล้วทั้งยืน เดิน นั่งหรือลงบันได แต่เวลานวดก่อนนอนก็ยังเจ็บเส้นตรงข้อพับอยู่ ก็กะจะนวดจนกว่าจะหายเจ็บ แล้วตอนนี้ตื่นนอนมาลุกขึ้นยืนแล้วเจ็บส้นเท้า ไป search ดูเค้าบอกว่าน่าจะมาจากรองช้ำหรือเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ
ตอนนี้ก็เลยต้องกายภาพเท้าตามรูป แต่เราทำอย่างเดียวเอง แหะ ๆ ก็จะกลิ้งฝ่าเท้ากับที่กลิ้ง แล้วก็แช่เท้าด้วยน้ำอุ่นจัด แช่ไปก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ไป 15 นาที ก็ทำมาเป็นเดือนแล้วนะ แต่ก็ยังไม่หาย ตื่นมาก็พยายามยืดขาก่อนจะลุกขึ้นยืนนะ แต่มันก็ยังเจ็บส้นอยู่ เราก็ต้องพยายามทำต่อไปจนกว่าจะหาย
เพิ่งจะเข้าใจความเสื่อมของร่างกายก็ปี 2 ปีมานี้เอง ตอนนี้เราก็ใส่ใจกับร่างกายเรามากขึ้นเยอะเลย
เสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำ ทาครีม นวดหน้าให้ครีมมันซึมเข้าผิวเยอะ ๆ
เพราะแก่แล้ว การผลัดเซลผิวมันก็ไม่ดีเหมือนเด็ก ๆ
แล้วก็เขียนไดอารี่
เสร็จแล้วก็มากายภาพสะโพกและก้นหรือ piriformis
แล้วก็กายภาพฝ่าเท้าบนที่นอนนั่นแหละ
แล้วก็ได้เวลาล้างมือ สวดมนต์นอน ไม่อยากจะบอกว่าทำทุกอย่างให้เสร็จก่อน 3 ทุ่มนะ เพราะนอนไม่เกิน 3 ทุ่ม ถ้าทำทุกอย่างเสร็จก่อน 3 ทุ่มก็จะนอนอ่านหนังสือยกขาสูงให้เลือดมันไม่กองที่เท้า เพราะมันกองมาตั้งแต่เราตื่นลุกจากที่นอนมาเป็น 15 ชั่วโมงแล้ว
เราเป็นคนต้องนอนเยอะ เพราะเป็นภูมิแพ้ด้วย ถ้านอนไม่พอ ภูมิแพ้จะขึ้นจมูกและตา อีกวันไม่เป็นอันทำงานเลยคราวนี้
ด้วยความที่นอนเร็ว เลยไม่เคยได้ดูละครอะไรกับเค้ามาเป็น 10 ปีแล้ว คุยอะไรกับใครก็ไม่รู้เรื่อง แถมเสาร์ อาทิตย์ก็ดูแต่หนังอินดี้ญี่ปุ่น คุยกับคนทั่วไปที่ดูหนังรักกุ๊กกิ๊กหรือหนังตลกก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน
นอนดึกผิวแย่นะจ๊ะ ฮอร์โมนก็จะผิดปกติด้วย
ก็พยายามจะมีวินัยกับสุขภาพตัวเอง ไปสะเดาะเคราะห์ปีชงหลาย ๆ ที่ ซึ่งพี่บางคนบอกว่าอาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรมาทำให้เราปวดเป็นแพ็จเก็จ และหวังว่าทั้งตา หลัง สะโพก ก้น และฝ่าเท้าจะหายในเร็ววัน
Create Date : 21 เมษายน 2555 |
|
1 comments |
Last Update : 16 กรกฎาคม 2560 16:54:37 น. |
Counter : 7376 Pageviews. |
|
|
|