ขนาดไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว รู้ว่าเค้าจะแต่งงานก็รู้สึกโหวงขึ้นมาทันใด
พอดีเคยสนิทกันสมัยเรียนสมัยเกือบ 10 ปีมาแล้วมั้ง
สมัยยังไม่มี facebook
แล้วตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย
พอดีว่าเมื่อหลายปีก่อนมี facebook
เค้าก็ add มา
แต่เราไม่รับ add ปล่อยค้างเอาไว้อย่างนั้นแหละ
แล้วร่วมปีมาแล้วที่เราไม่ค่อยได้เข้า facebook เลย
พูดตรง ๆ ว่าเพราะเราไม่อยากฟุ้งซ่าน
ฟุ้งซ่านกับความสุขอันล้นทะลักของเพื่อนที่ไม่สนิทแต่เรายังเห็นเค้าอยู่ใน news feed เรา
จะลบไปก็ดูไม่ใช่เรื่อง
จะ hide ก็คงต้อง hide เกือบร้อยคนนั้น
ทำไมทุกคนดูมีความสุขจังเลย
ได้ไปดูงานเมืองนอก ได้ไปเที่ยวเมืองนอกกับแฟน กำลังจะแต่งงาน ได้แต่งงาน ได้ฮันนีมูน ได้มีลูก ฯลฯ
แล้วตูล่ะ
ยังโสดเหมือนเดิม
แล้วที่ตลกมากก็คือ
บทจะมี ๆ ก็รู้สึกว่าไม่อยากมี อยากโสด
แต่พอโสด บางความรู้สึกก็อยากมีเป็นบางช่วงเวลา
แต่ส่วนใหญ่ก็คิดว่า ดีแล้วที่โสด มีเวลาทำสิ่งที่อยากทำเยอะ อิสระ นู่น นั่น นี่
แต่พอเจอเพื่อนแต่งงาน 1 คน ความรู้สึกที่อยากจะมีก็กลับมาวนอีกแล้ว
บอกตรง ๆ ว่าบางครั้งเราก็รับมือกับความสุขอันท่วมท้นของคนเป็นร้อยในคราวเดียวกันได้ยาก
ทั้งที่ก็รู้นะว่ารูปที่โชว์ ๆ กันน่ะ
คือรูปของด้านที่ขัดเงาแล้วของทุกคน
คงไม่มีใครเอารูปนั่งร้องไห้ตาบวมเพราะอกหักมาลงหรอก
แต่เวลาเห็นคนอื่นแล้วอดเปรียบเทียบกับตัวเองไม่ได้
พอทำแล้วมันก็จะรู้สึกแย่กับตัวเอง
ทำไมเราไม่มี ไม่เป็นเหมือนคนอื่นเค้าบ้าง (ธรรมะไม่ได้ช่วยอะไรเล้ย เวลาเข้า facebook สติหลุดไปกับอารมณ์ที่มากระทบทางตาตลอด ๆ)
ดังนั้น
เพื่อเป็นการทำให้ตัวเองฟุ้งซ่านน้อยลง
เราก็ควรจะไม่เอาตัวเองเข้าไปเห็น เข้าไปดู เข้าไปรู้เรื่องคนอื่น
เราเลยเข้า facebook น้อยมาก ๆ
แล้วก็ไม่ได้อัพเดทอะไรเลยมาร่วมปีแล้ว
ส่วนใหญ่เข้าไปก็จะพยายามไม่มอง news feed นะ
จะรีบคลิ๊กเข้าไปหมวดของนักเขียนที่เราสร้าง list เอาไว้
เพื่ออ่านอัพเดทสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรา
ไม่ได้เข้าไปเสพย์สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกแย่ลงไปกว่าเดิม
ปีนี้
เราเข้า facebook โดยเฉลี่ยนเดือนละ 2-3 ครั้งเท่านั้น
แล้วทุกครั้งที่เข้า ก็จะมีเรื่องให้เข้าเพื่อเข้าไป message ขอข้อมูลเกี่ยวกับงานกับเพื่อนบางคนที่อยู่ในสายงานนั้นบ้าง
บางครั้ง เราสะดวกใจ message มากกว่าโทรคุย เพราะข้อมูลมันเยอะ เค้าก็ต้องพิมพ์เป็นเมลหรือต้องส่งลิงค์มาอยู่ดี
แล้ววันนี้
เข้า facebook เพื่อจะขอข้อมูลจากเพื่อนเหมือนเดิม
แต่มันไม่เหมือนเดิมตรงที่
เจ้า facebook มันเด้งหน้า friend request เพื่อนที่ add friend เราแล้วเรายังไม่ตอบรับขึ้นมาประมาณเกือบ 10 คนเต็มจอเรา
ไม่ได้ขึ้นเป็น notification เล็ก ๆ ตรงมุมซ้ายบนเหมือนเดิม
คนแรกใน list ก็คือเค้าคนนั้นที่เราพยายามจะลืมเค้ามาหลายปี
แล้วรู้สึกว่าลืมเค้าไปแล้วกลับเด้งขึ้นมาคนแรก
แล้วรูป profile คือภาพ pre-wedding T-T
เฮ้อ
โหวงเลยทีเดียว
ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่ได้ติดต่อเค้าคนนั้นมาหลายปีแล้ว
แล้วก็ไม่อยากรับรู้ความเป็นไปของเค้า
เราเลยไม่ได้รับ add เค้าไว้ตั้งแต่แรก
แล้วมือเจ้ากรรมดันไปกดเข้าไปดูที่หน้า page เค้า
มีรูป pre wedding อยู่หลายรูป
ยิ่งดู ก็ยิ่งโหวง ไม่รู้ทำไม
มันก็มีปุ่มให้ response นะว่าจะ confirm หรือ delete
แต่ก็ทำให้ delete ไม่ได้เหมือนกัน
(ภาพจาก google นะ ไม่ใช่รูปจากเพจเค้าจริง ๆ)
ก็เหมือนเบอร์ในมือถือแหละ
บางคน
เรามีเบอร์เค้าไว้ แต่เราไม่เคยคิดจะโทร
จะลบก็ไม่กล้า แต่ถามว่าจะโทรมั้ย ก็คงไม่
ปล่อยมันคาราคาซังแบบนั้น
วันนี้ทั้งวันเลยทำงานแบบใจลอย ๆ โหวง ๆ ทั้งวันเลย
เราเข้าใจเลยนะว่าทำไมมันถึงมีอาการ Facebook envy เกิดขึ้น
เพราะเราคือ 1 ในคนเหล่านั้น
Facebook envy คืออะไร
เอานิยามภาษาอังกฤษไปแล้วกัน
The feeling you get when you come across an old friend on Facebook and realize that their life turned out way better and is more interesting than yours.
| Create Date : 14 พฤศจิกายน 2555 |
| Last Update : 14 พฤศจิกายน 2555 16:40:04 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 2786 Pageviews. |
 |
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [
