Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
28 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
บินเดี่ยวกับ 2 คอนเสิร์ตใน 1 วันกับ FM One Gift Fair และ Chill ลุยสวน เหงาได้อีก

หลังจากห่างหายกับการไปเปรี้ยวฟรีคอนเสิร์ตอินดี้ ๆ มาร่วม 2 เดือนเพราะป่วยที่คิดว่าส่วนนึงมันมาจากการที่เราไปแ๊ด๊นซ์กลางฝนกับคอนเสิร์ต Paradox หน้าลาน CTW ในงาน Melody Of Life Music Festival ครั้งที่ 5 ที่เล่าความมันส์ลืมตายในบล็อคโน้น

พอพักจนหายป่วยก็เริ่มคิดอยากไปแด๊นซ์ใหม่อีกรอบ
เพราะถ้าฟังวิทยุจริง ๆ แล้ว เกือบทุกคลื่นจะมีฟรีคอนเสิร์ตเดือนละครั้งกันอยู่แล้ว





เมื่อวันศุกร์
อ่านจาก facebook ของแสตมป์ที่ขึ้นว่า flure/scrubb/slot/stamp/25hours jj mall เย็นนี้ครับ ( วันศุกร์ )
ต่อมอยากดูคอนเสิร์ตถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง
เพราะไม่ได้ดู flure นานมากแล้ว จำได้ครั้งสุดท้ายคืองานคริสมาสอีฟที่เอแบคหลายปีมาแล้ว ยังไปบ่นไว้ในบล็อคครั้งกะโน้น
แล้วก็อยากไปโดดกับพี่บอล พี่เมื่อย เพราะไปโดดที่งาน Melody Of Life Music Festival แล้วมันส์สุดยอด ได้ใจสุด ๆ

เรารู้สึกว่า Scrubb เนี่ย เพลงมันเนิบ ๆ แต่โดดได้ทุกเพลงเลยนะ
บางครั้งฟังทางวิทยุ เพราะมันดูเหมือนช้า ๆ ดูจะโดดไม่ได้
แต่พอไปฟังหน้าคอนเสิร์ตเนี่ย ไม่มีใครไม่โดดนะ
ขนาด Paradox เพลงเร็วเยอะ ยังมันส์น้อยกว่า Scrubb เลยสำหรับเรา
งานที่ stamp บอก
มีแต่ slot machine ที่ยังไม่เคยไปดู แต่ก็น่าจะได้โดดในเพลงจันทร์เจ้าเหมือนกัน

ลองหาข้อมูลเอาในวันนั้น
รู้แค่ว่าชื่องาน San Miguel Music Fest.14
แต่ไม่ได้ข้อมูลเลยว่าเค้าขายบัตรรึเปล่า ไปซื้อหน้างานได้รึเปล่า
หรือเป็นของคลื่น fat ที่ต้องโทรเล่นเกมหน้าไมค์แล้วบัตรแจกหมดแล้วหรืออย่างไร
ก็เลยไม่ได้ไป
แถมมารู้ทีหลังว่าซื้อได้หน้างาน บัตรแค่ร้อยเดียว!!!!!

แล้วก็เพิ่งรู้ว่าไอ้ซานมิเกลมันคือชื่อเบียร์ ไม่ใช่ชื่อคอนเสิร์ต!!!!

ยิ่งมาดูรูปใน facebook ที่ทางคลื่น fat อัพโหลดให้ดูบรรยากาศกันสด ๆ
เปิดรูปมา Scrubb กำลังโชว์พอดี
เห็นคน เห็นพี่เมื่อย เห็นบรรยากศ
โอ้ว
พลาดแล้วกู
งานแบบนี้ต้องรออีกทีเมื่อไหร่วะเนี่ย








มาดูรูปสวย ๆ ชัด ๆ จากกล้องพี่ตู่ มหัสนัย ลิ่วเฉลิมวงศ์ กันบ้าง
สามารถตามไปดูงานคอนเสิร์ตและอีเว้นต์ที่เค้าจ้างพี่ตู่ไปถ่ายกันได้ที่ facebook พี่เค้าเลยที่
facebook.com/mahassanai.lewchalermwongse

พี่แกอัพแต่ละงานไวปานวอก
























คือเห็นคนแล้วรู้เลยว่างานนี้มีโดดอย่างเมามันส์แน่ ๆ

เพราะบางงานไป คิดว่ามีโดดชัวร์
อย่างงานของ Chill ครั้งที่แล้วของTatoo Colour
นี่ก็กะว่าทุกคนโดดกันแน่นอนเพราะจัดใน Route 66 ด้วย
เป็นที่ปิด มืด ๆ โดดกันสนั่นหวั่นไหวแน่นอน















แต่ปรากฎว่า
ไม่มีใครโดดเลยซักคน
ยืนดูกันนิ่งเหมือนเคารพธงชาติกันเลย
น้องดิมก็บอกว่าโยกได้บ้างก็ได้นะครับ
แต่ก็ไม่เห็นมีใครโยกกันเลย

ไอ้เราวันนั้นก็ไปคนเดียวก็เขิน ไม่กล้าปล่อยของ
แต่พอมา 2 เพลงสุดท้ายที่เป็นเพลงเร็วก็เลิกอาย เลิกแอ๊บ
โดดเด้งมันเมามันส์ลืมอายอยู่คนเดียวข้างหลังหน้าห้องน้ำ
ไม่อย่างนั้นก็คงมาเสียเที่ยว





หลังจากพลากงานซานมิเกลวันศุกร์ไปแล้ว
ก็ขอไม่พลาดงาน FM One Gift Fair ของคลื่น FM one 103.5 วันเสาร์แล้วกัน
ดูไปดูมา
มันชนกับงาน Music Chill out ตอน Chill ลุยสวนของคลื่น Chill 89 เลยนี่หว่า
อยากดูทั้ง 2 งานเลย
งาน FM One ก็อยากไปดู Potato
งาน Chill ก็อยากไปดูวงมายด์

แต่คราวนี้ขอไม่ไปคนเดียวแล้วกัน
คราวก่อนนู้น ที่ไปคนเดียวบ้ามากเลย ไปมัน 3 คอนเสิร์ตใน 1 วันที่เล่าไปในบล็อคก่อนหน้านั้นกับการก้าวข้ามอีก 1 ข้อจำกัดด้วยการพาตัวเองไปดูคอนเสิร์ตคนเดียว 3 งานรวดในวันเดียว

เลยโทรไปชวนไอ้เปาให้ไปด้วย
เพราะโทรชวนคนอื่นก็ไม่ฟังเพลงอินดี้ ไม่อัพเดทเพลง
ไปด้วยก็ร้องไม่ได้ ก็ไม่สนุก ไปด้วยเพราะเกรงใจสู้ไปคนเดียวดีกว่า
มีเพื่อนไม่กี่คนหรอกที่จะโทรชวนไปดูคอนเสิร์ตได้
ไม่สิ
ต้องเรียกว่ารุ่นน้องเลยดีกว่า
เพราะรุ่นเรามันไม่ฟังเพลงใหม่ ๆ กันแล้วมั้ง
มีแต่เรา ฟังวิทยุอัพเดทเพลงมันได้ทุกวัน

ตกลงกับน้องเปาซะดิบดีว่าเจอกันวันเสาร์
เอ็งมีเรียนถึง 4 โมงใช่มั้ย ดีเลยเพราะ 2 งานมันเริ่มหลัง 4 โมงเย็น
ให้เอ็งเลือกเลยว่าจะไปงานไหน
มันบอกว่าอยากไป FM One มากกว่า
อ่ะ จัดปาย เพราะตูก็อยากไปโดดกับ Potato เหมือนกัน

ไปกะแก ๆ ช่วยถือถุงผ้าด้วย
ชั้นจะได้โดดอย่างไม่ต้องพะวงและไม่หนัก
แถมแกจะกันผู้คนให้ชั้นด้วย
เพราะอย่างที่บอก
อีนี่แด๊นซ์เมามันส์ ไม่แคร์สื่อ และไม่สนใจคนรอบข้างด้วยว่าจะไปเหยียบตรีนใคร
แถมใช้พื้นที่เยอะอีกต่างหาก แค่ประมาณ 1 ช่วงเหวี่ยงมือ 2 ข้างจนชาวบ้านเค้าแหวกให้เป็นวงเท่านั้นเอ๊ง 555

4 โมงจะโทรไปถามว่ามันเลิกเรียนโทยัง
มันดันบอกว่าเย็นนี้ผมไปดูบอดี้สแลมมมมมม
เมิงมาบอกอะไรเอาป่านนี้
แล้วเมิงตกลงกะกรูทะม้ายยยยย
ไม่งั้นกรูจะได้ชวนคนอื่น
คราวนี้ชวนคนอื่นก็ไม่ทันแล้ว
(แต่จริง ๆ ก็มีแต่มันเนี่ยแหละที่ไปดูคอนเสิร์ตด้วยได้)

ไปดูคนเสิร์ตคนเดียวอีกแล้วเหรอเนี่ย!!!!!!
แถมไปดูอย่างไม่ได้เตรียมใจด้วย
เพราะโทรหามันตอนจะถึงแดนเนรมิตแล้ว

โหย
ยิ่งไม่อยากดูคนเดียว ยิ่งได้ดู
กะว่าการไปดู 3 คอนเสิร์ตในวันเดียวของเราจะเป็นการดูคนเดียวครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเรานะเนี่ย
แต่อย่างว่า
มีครั้งที่ 1 แล้วเดี๋ยวมันก็มีครั้งที่ 2 และ 3 ตามมา
โอ๊ย
เหงาได้อีก




ไปถึงงาน
ผู้คนมากมาย
มาเป็นคู่กันทั้งนั้นเลย
ร้านของขวัญ ของทำมือเยอะดีเหมือนกันนะ
มีร้านของกินน้อยไปหน่อย มีเจ้าเดียวที่เป็นข้าวคือข้าวไข่เจียวของพี่เปิ้ล Get Diva
คิวก็เลยยาว
นอกนั้นเป็นยำ ๆ ของกินเล่น ลูกชิ้น น้ำปั่นซะหมด

มาอย่างไม่รู้คิวศิลปินเลย
เค้าก็ไม่บอกหรอก
มารู้ในงานเลยว่าใครเล่นตอนกี่โมง
เราก็ดูตั้งแต่ The Emotions, โรส, แล้ว Potato เล่นตอน 6 โมงกว่า
โชคดีจริง ๆ ที่เค้าเล่นเร็ว

เวทีที่นี่เตี้ยมาก
ไม่เรียกว่าเวทีจะดีกว่า
ความสูงของเวลายังสูงไม่เท่าขั้นบันไดหนึ่งขั้นเลย
ดูเหมือนจะใกล้ชิดกับคนดู

แต่ทว่า

แล้วไอ้ข้างหลังที่มามุงกันเป็นร้อยล่ะคะ
ไอ้แถวหน้าก็สบายสิ
ไอ้ตั้งแต่แถวที่ 3-4 เป็นต้นไปก็มองไม่เห็นกันเลย





ทั้งชะเง้อก็แล้ว หารูส่องก็แล้วก็ยังมองไม่เห็นศิลปิน
แถมไอ้ข้างหลังก็เบียดกันเข้ามา
เมิงคิดว่ากรูที่ยืนอยู่กลาง ๆ จะเห็นหรอวะ
กรูก็ไม่เห็นเหมือนกันโว้ย จะเบียดชะเง้อเข้ามาหาอะไร
ที่กรูโยก กรูร้องเพราะกรูอยากมันส์ส่วนตัวโว้ย
ไม่ใช่เพราะกรูเห็นพี่ปั๊บโว้ย อย่าดันนนนนน!!!!

อย่ากระนั้นเลย
อยู่ตรงนี้ไม่เห็น
สลัดความอายที่มาดูคนเดียว
แล้วไปยืนฟังพี่ปั๊บข้างหลังที่คนโล่ง ๆ ดีกว่าจะได้แด๊นซ์ได้ด้วย
เพราะยืนตรงนี้
เบียดก็เบียด มองก็ไม่เห็นเหมือนกัน

ออกมายืนหลัง ๆ
โยกไปโยกมา
โอ๊ะ
มีน้องที่โยกเหมือนกันอยู่ข้าง ๆ ด้วย
เหมือนพวกที่โยกเหมือนกันจะมีเคมีเดียวกัน
จะดึงดูดเข้ามาหากันเอง
อาจะเป็นเพราะว่า
ถ้าต่างคนต่างโยกอยู่คนเดียวมันจะดูเขินไป
อย่ากระนั้นเลย
มาโยกติดกันเสมือนว่ามาด้วยกันดีกว่า จะได้อายน้อยลง

เวลาไปคนเดียวก็จะเจอน้องประเภทนี้ทุกครั้งนะ
อย่างตอนไปงานที่แล้วก็เจอน้องอีกคนที่โยกเหมือนกันเวลาเพลงช้า
หันมามองสบตากันก็รู้ใจกัน
ประมาณว่าถ้าเพลงเร็วก็เกาะกลุ่มก็โดดอยู่ตรงนี้เลยนะ ตูจะได้อายน้อยลง อิอิ





งาน FM One ทุกคนก็ยืนนิ่งเหมือนเคารพธงชาติกันอีกแล้ว
เดี๋ยวนี้ไปดูคอนเสิร์ตน่าเบื่อมากกับไอ้วิวกล้องและมือถือที่ชูกันขึ้นมาค้างไว้
เสมือนว่า ณ เวลานี้กรูขอยืนนิ่ง ๆ
แล้วพอกรูถ่ายคลิปเสร็จค่อยเอาไปเปิดโดด เปิดแด๊นซ์ที่บ้านเอง
ไอ้พวกชอบของแห้ง
แต่เราเป็นพวกชอบของสด
สนุกกับบรรยากาศตรงหน้า
เก็บไว้ในความทรงจำ
ไม่ต้องเผื่อแผ่คนอื่นดู
ถ้าอยากดู คราวหน้าก็มาโดด มาดู มาโยกด้วยกัน

ไม่เคยมีรูปและคลิปกลับไปให้ใคร
นอกจากเล่าบรรยากาศให้ฟังเหมือนที่เล่าในบล็อคแบบนี้แหละ

หลังจากจบ Potato ตอนเกือบทุ่มนึงปุ๊บ
ก็รีบต่อใต้ดินบึ่งไปสวนเบญฯ ตรงคลองเตยทันที
ไปถึงทุ่มครึ่ง งานจะจบแล้ว
ดีนะวงมายด์ขึ้นเป็นวงสุดท้าย
มาทันมายด์พอดี
ท่าทางเพิ่งเล่นไปได้แค่เพลง สองเพลงเองมั้ง

ไม่มีบัตรกะเค้า
เพราะไม่ได้โทรไปเล่นเกมหน้าไมค์ชิงบัตรกะเค้า
เลยอาศัยนั่งข้างหลังเวทีข้างบ่อน้ำเอา
สนุกเหมือนกันแม้จะได้เห็นแต่ตูดศิลปิน 555

วงมายด์เล่นมุขได้ซ้ำมากทุกคอนเสิร์ต
เพราะ 2 เดือนก่อนก็เพิ่งไปดูเค้าเล่นมากับคลื่น cool แล้วก็เล่าไปในบล็อคกะโน้น

เอ๊ะ
รู้สึกว่าบล็อคนี้เราเริ่มลิงค์คอนเสิร์ตหลายคอนเสิร์ตที่เล่าไปให้บล็อคเก่า ๆ หลายบล็อค
นี่แสดงว่าเราก็ดูคอนเสิร์ตเยอะเหมือนกันนะเนี่ย
โดยเฉพาะฟรีคอนเสิร์ตที่จัดตามคลื่นวิทยุ 555


แต่อย่างว่า
คงไม่มีใครตามวงมายด์ไปทุกคอนเสิร์ตได้หรอก
แต่พวกแฟนคลับที่ตามคงเบื่อมุขพวกเค้านะ
ขนาดเรานี่แค่รอบ 2 ยังรู้สึกว่าเบื่อมุขซ้ำเลย
ไอ้ที่เต้นเลียนแบบเกาหลีก็ซ้ำ
แต่อย่างว่า
เค้าลงทุนซ้อมกันมาหลายรอบ
ก็ให้เค้าใช้ให้คุ้มกับหลายคอนเสิร์ตหน่อยเนอะ






คอนเสิร์ตนี้ Chill สมชื่อเลย
ไม่มีใครโยกเลย
ไอ้แด๊นซ์คงไม่มีหรอก
เพราะวงมายด์มีแต่เพลงช้า
มีหวานเย็นเพลงเดียวที่เร็ว
แต่วันนี้เราไม่ได้ฟังนะ หรือว่าเค้าร้องไปแล้วก็ไม่รู้








กลับบ้านอย่างไม่เสียดาย
แต่แอบเหงาเล็กน้อยถึงปานกลาง
เพราะสำหรับเราเนี่ย
กินข้าวคนเดียว ดูหนังคนเดียว ช้อปปิ้งคนเดียวหรือแม้กระทั่งเที่ยวเมืองนอกคนเดียว
เราก็ทำมาหมดแล้ว
แล้วก็คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดานะ
แต่การไปดูคอนเสิร์ตคนเดียวมันไม่ธรรมดาสำหรับเรา
ยิ่งไปแล้วโดด ไปแล้วแด๊นซ์มันไม่มีเพื่อนร่วมแชร์มันเขินมากเลยนะ

ขนาดเคยทำไปแล้วรอบนึง
ที่ครั้งนั้นตัดสินใจไปดู 3 คอนเสิร์ตใน 1 วันคนเดียวเพราะต้องการความคล่องตัว
และอยากเก็บให้หมดทุกวงที่อยากดู
ถึงได้ดูหมดทุกศิลปินตามความที่ตั้งใจที่ไปดูคนเดียว
แต่ก็ไม่วายเหงาและเขินนะ
เพราะถ้าเราใส่ใจมองไปรอบ ๆ ตรงคนดู
จะเห็นว่าไม่มีใครมาคนเดียวเลย ไม่มากันเป็นคู่ ก็มากันเป็นกลุ่มกันหมด
แล้วครั้งก่อนกับครั้งนี้ที่ไปดูคนเดียวแล้วน้องผู้หญิงที่มายืนใกล้ ๆ ก็จะถามว่า
มาดูคนเดียวเหรอคะ
พอเราตอบว่าใช่ค่ะ
น้องเค้าก็ทำหน้าเหวอ ๆ แล้วบอกว่าพี่เก่งจัง พี่กล้าดีจัง อะไรประมาณนี้ตลอด

ดูคอนเสิร์ต มันสนุกตรงที่ได้ร่วมร้อง ร่วมเต้นไปกับเพื่อน ๆ เนี่ยแหละเนอะ

กำลังคิดว่าถ้าน้องเปาโทรมาแคนเซิลตั้งแต่เช้า
เราก็คงคิดว่าอาจจะไม่ไปเพราะไม่อยากไปดูคอนเสิร์ตคนเดียว
ก็ขอบคุณเปาที่ไม่ได้โทรตั้งแต่เช้า
ให้รู้มันตอนที่เราจะถึงนั่นแหละ
เราจะได้ทำ The show must go on
ออกจากบ้านจะถึงแล้ว ไม่ไปก็แปลกละ



แล้วการดูคอนเสิร์ตคนเดียวก็อิสระดี
ทุกการตัดสินใจเป็นของเราคนเดียว
อยากดูอันนี้ ไม่อยากดูต่อก็ไปอีกคอนเสิร์ตนึงอย่างไม่ต้องเกรงใจใคร
กำลังคิดว่าถ้าดูกับเปาก็คงดูที่เดียวเพราะเปาก็คงไม่ขับรถถ่อไปคลองเตยหรอก

ทำอะไรคนเดียวมันก็ได้อย่าง เสียอย่างแบบนี้แหละเนอะ
ถ้าเลือกได้ ขอทำอะไรเป็นคู่บ้างได้มั้ย

แต่ถ้ารอใครคนนั้นที่จะทำอะไรเป็นคู่
การทำทุกสิ่ง ทุกอย่างบนโลกใบนี้คนเดียวดูจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า




Create Date : 28 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2553 17:36:08 น. 1 comments
Counter : 2200 Pageviews.

 
กว่าจะหาคนมาเข้าคู่ที่ทำให้รู้สึกอยากแชร์ด้วย...มันคงจะยาก
เพราะว่าชอบอะไรแบบไม่ต้องสนใจใคร...ถึงได้เสพติดชีวิตแบบลำพังไงหล่ะ...
เจ๋งนะเนี่ย...ไปดูคอนเสิร์ตคนเดียว...แต่กลับบ่นเหงา


โดย: greenvases วันที่: 28 พฤศจิกายน 2553 เวลา:2:42:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.