Bloggang.com : หนูลีลี : จะเม้าให้ฟังเรื่องที่คุยกับสาวสิงคโปร์ที่ทำงานในคาสิโน

จะเม้าให้ฟังเรื่องที่คุยกับสาวสิงคโปร์ที่ทำงานในคาสิโน

ไปเจอหนุ่มสิงคโปร์มาอีกละ
แต่คนนี้ไม่โสดนะ มากับแฟน
รู้ตั้งแต่คุยวันแรกแล้วว่าไม่โสด
แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร หาเพื่อนคุย หาเรื่องมาเม้าเรื่อยเปื่อย ฮา ๆ
หนุ่มคนนี้ประทับจิตประทับใจตั้งแต่คุยกันครั้งแรกเลย
แค่รูปก็น่ารักแล้ว
คือเป็นรูปหอมแก้มอาม่าทุกรูปเลยใน tinder
แล้วตอนคุยเนี่ย เราก็แค่ทักไปว่าน่ารักดีเนอะแล้วก็คุยอีก 3-4 ประโยค
ไม่ได้ say hi แล้วจบไง
แล้วฮีตอบกลับมานะ ยาวมากกกกกกกก
ยาวแบบว่า 10-20 ประโยคเลยแล้วก็ถามกลับ
คือจริงใจน่ะ พูดง่าย ๆ
เพราะส่วนใหญ่คุยก็แค่ประโยค 2 ประโยค
ถ้าเราถามไป เค้าตอบมาคำ 2 คำแล้วไม่ถามกลับ การคุยมันดำเนินต่อไปไม่ได้น่ะ
แต่คนนี้เขียนยาวมากจริง ๆ ประทับใจ
ก็คุยกันเรื่อยมา
เล่าเรื่องที่บ้านให้ฟัง บ่นพี่สาวมั่ง น้องชายมั่ง แฟนมั่ง แม่มั่งนิดหน่อย
คุยไปคุยมาก็ครึ่งปีแล้วนะ
แล้วสุดท้าย เค้าก็จะมาเมืองไทยกับแฟนเค้าเป็นครั้งแรก
เค้าก็เลยตื่นเต้นมาก ทำแผนล่วงหน้ามาอย่างดี มีถามเรามั่งนิด ๆ หน่อย ๆ
แต่ก็แปลกดี
แผนเค้าจะไปวัดพระให้ครบ 9 วัดใน 1 ทริป
แล้วไม่ใช่แค่วัดในกรุงเทพฯ นะจ๊ะ
จะไปไหว้ที่อยุธยา 3 วัด หลวงพ่อโสธรที่ฉะเชิงเทรา 1 วัด
แล้วก็ในกทม.อีก 5 วัด
แล้วก็ชอบพระเครื่องด้วยจ้า แต่เก็บไปงั้นนะ เค้าบอกว่าดูลึกลับดี

แล้วก่อนมาซัก 3 วันนะ
เค้าก็ถามเราว่า
ทำไมยูเช็ค whatsapp แค่วันละครั้งเหรอ
เห็นยูตอบไอเวลาประมาณนี้รอบเดียวทุกวันเลย ฮา ๆ
เราก็บอกว่า อืม จะอ่านแล้วตอบรวดเดียว เพราะพี่แกถามเยอะมาก มันก็ต้องไปหาข้อมูลมาตอบน่ะนะ
กลัวว่าอ่านแล้วตอบ ๆ จะไม่จบไม่สิ้น ฮา ๆ
หลังจากนั้นก็เลยอ่านแล้วตอบทันที ทุกคำถาม
เพราะก็เข้าใจนะ คนทำแพลนน่ะ คงมีคำถามเยอะว่าขึ้นรถตรงไหน ขึ้นรถอะไร ต่อรถยังไง จากนี้ไปอีกที่ไปยังไง ฯลฯ
แล้วก็นะ
อุตส่าห์มีเพื่อนเป็นคนไทยแล้ว อะไรก็ง่ายขึ้นแหละ สำหรับคนไม่เคยมากรุงเทพเลย
แล้วเค้าก็นัดเนอะว่าจะเจอเราที่ไหนดี ก็เลยนัดมันตอนบ่าย ๆ วันมาฆบูชา กินข้าวแล้วค่อยไปเวียนเทียนกัน
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ละ กรูฝากซื้อขนมเลยแล้วกัน
เป็นขนมยุโรปที่สิงคโปร์เค้านำเข้า
ฝากซื้อซัก 2-3 ห่อ เดี๋ยวจ่ายเงินให้

คือน้องคนนี้เนี่ย
ดูในรูปเหมือนตัวเตี้ยนะ เพราะหน้าเค้าสั้น
แต่พอเจอตัวจริง
โห สูง 180 ได้มั้ง หรือสูงกว่านั้น
แล้วในรูปนี่ผอมเชียว ตอนนี้ไปสูบลมมารึ ฮา ๆ
ก็นั่งกินข้าวกันไป คุยกันไป อยู่ 2-3 ชั่วโมงมั้งแล้วค่อยไปเวียนเทียน
เรื่องที่คุยก็น่าสนใจ
เพราะเราก็รู้มาบ้างว่าแฟนสาวของเค้าทำงานคาสิโน
ก็เลยถามเรื่องในคาสิโนมา
เค้าบอกว่าสิงคโปร์มีคาสิโน 2 ที่
ที่ ๆ น้องคนนี้ทำงานอยู่เกาะเซ็นโตซ่าเลย
ถ้าต่างชาติ เข้าฟรี
แต่ถ้าเป็นคนสิงคโปร์ เสียค่าเข้า 100 เหรียญ เข้าได้ 24 ชั่วโมง
หรือ 2000 เหรียญต่อปี
คือเค้าก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่อยากให้คนสิงคโปร์เข้าไปเล่นน่ะนะ
แต่ในนั้นก็มีคนสิงคโปร์อยู่เกินครึ่ง
แหม่ ของอย่างนี้มันห้ามไม่ได้หรอกเนอะ

เหตุที่เค้าสร้างคาสิโนในสิงคโปร์ เค้าก็เคลมว่าคนสิงคโปร์ไปเล่นที่มาเลเซียเยอะ
เงินไหลออกนอกประเทศเยอะ
ไหนจะเรืออีก
หืม....เรือ
เรือแล่นไปไหน
เค้าก็บอกว่าไม่ได้แล่นไปไหน รู้สึกว่าจะเป็นเรือของฮ่องกงมั้ง
จอดแช่ถาวรอย่างนั้นแหละ รองรับคนสิงคโปร์เดินเข้าไปเล่น ฮา ๆ

คาสิโนส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเศร้า
ก็อย่างว่าแหละ
การพนันไม่เคยทำให้ใครรวยได้จริง ๆ หรอก
น้องผู้ชายก็เล่าให้ฟังว่า
ตอนน้องเค้าเคยทำงานอยู่ที่คาสิโนนะ
อ้อ น้องเค้าเจอแฟนที่นั่น แล้วไม่นานเค้าก็ออกมาเป็นสจ๊วตสิงคโปร์แอร์ไลน์ แล้วตอนนี้ทำแผงขายอาหารของครอบครัว
อ่ะ ต่อ
เค้าก็บอกว่ามีอยู่ครั้งนึง ผู้หญิงเค้ามาเล่น แล้วเล่นทั้งวันทั้งคืนเลย
แล้วตอนเช้า สามีของเธออุตส่าห์เสียเงิน 100 เหรียญเข้ามาตามภรรยาให้กลับบ้าน
แต่เธอไม่ยอมกลับ แล้วสามีก็เอาเงินก้อนมาก้อนนึง
บอกว่าเป็นก้อนสุดท้ายของครอบครัว เป็นค่าเทอมของลูก
ถ้าไม่กลับบ้านไปด้วยกันก็เอาเงินนี่ไปเล่นแล้วไม่ต้องกลับมาเลย
แล้วสุดท้ายเป็นยังไง
เค้าก็ไม่สามารถบอกได้ เพราะลูกค้าเรียกพอดี
แต่เป็นเรื่องที่เศร้ามาก

เห็นเค้าบอกว่าอาเสี่ยคนนึงทำธุรกิจรวยมาก
มาแรก ๆ ก็ควงสาวไทยเข้าบ่อน 2 คนเลย
ลงทีนึงเป็นหมื่น
หลัง ๆ เข้ามาก็ควงสาวไทยมาแค่คนเดียว
ลงทีละหลายพัน
จนสุดท้ายไม่มีสาวเข้ามาด้วย ลงคนเดียวไม่ได้
ลงขอแชร์ลงกับคนอื่น เพราะเงินที่ลงน้อยเกินกว่าจะลงคนเดียวได้
แต่เค้าก็ยังเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ
รู้ว่าเล่นแล้วล่มจม แต่ก็ยังเข้ามาอ่านะ

แล้วก็มีเรื่องความเชื่อเนอะ
แหม ความเชื่อกับคนจีนเป็นเรื่องคู่กัน
ก็จะมีเศรษฐีจีนมาเล่นที่นั่นเยอะมาก
แล้วรวยจริง อะไรจริง
รวยขนาดเล่นห้องส่วนตัว
ลงทีนึงเป็นหมื่นเหรียญ
ก็สามารถเลือกพนักงานได้เลย
เช่น ถ้าไม่สวย เปลี่ยน
เกิดปีอะไร ถ้าไม่ถูกโฉลก เปลี่ยน
คนนี้อ้วนไป เปลี่ยน
คนนี้ไม่ถูกชะตา เปลี่ยน
เปลี่ยนจนกว่าจะถูกใจ ถูกชะตา ดวงต้องกัน ทำให้เค้าเล่นแล้วได้น่ะ ฮา ๆ

แล้วมีอยู่อีกเคสนึง
เป็นคนจีนจากจีนเนี่ยแหละ
เล่นแล้วเสียหนัก อารมณ์เสีย
ไม่พอใจอะไรพนักงานก็ไม่รู้ เอาที่เขี่ยบุหรี่หรืออะไรไม่รู้เขวี้ยงใส่น้องผู้หญิงคนนั้นเลย
จริง ๆ ตำรวจต้องมาจับนะ
แต่ด้วยความที่ว่าอาเสี่ยเค้ารวย
เลยเสียค่าทำขวัญน้องคนน้องแสนเหรียญจ้ะ เพื่อให้เรื่องเงียบ
ดีกว่าไปนั่งเล่นในคุกที่สิงคโปร์นะ

แล้วก็มีความเชื่อบางอันนะ
ที่เค้าจะชกกันเลย
คือประมาณว่า ให้จั่วไพ่หยุดเป็นเลขคู่หรือเลขคี่เนี่ยแหละ
แต่พออีกคนจะจั่วก็ไม่ให้จั่ว พอเค้าจั่ว เจ้ามือหงายไพ่ กินเรียบ
เค้าก็โมโห ชกคนที่จั่วไพ่ไปเลยไรเงี้ย

แล้วพี่ไทยก็ใช่ย่อย
น้องเล่าให้ฟังว่ามีคนไทยรวย ๆ ไปเล่นเยอะเหมือนกัน
รู้เลยว่าเป็นคนไทย
เพราะพระเครื่องมาเต็มจ้ะ
หน้าตัว มีสารพัดพระที่ขนมาช่วยเรื่องเสริมโชคลาภ
พระท่านคงจะช่วยหรอกนะ

แล้วเราก็ถามน้องผู้หญิงว่าทำงานในนั้น เจอลวนลามมั่งมั้ย
น้องบอกว่าไม่มีหรอก ปลอดภัย
เค้าติดกล้องไว้ทุกซอก ทุกมุมเลย
ถ้าโดนปุ๊บ ยังไม่ต้องร้องขอความช่วยเหลือเลย การ์ดจะมาหิ้วไปส่งตำรวจให้เลย รวดเร็วมาก

น้องเค้าบอกเลยว่า
เจอหน้าลูกค้ามากกว่าเจอหน้าพ่อแม่หรือแฟนอีก
คือเค้าก็ทำงานเป็นกะอ่ะนะ
พอเลิกงานกลับบ้าน อาบน้ำ นอน กลับมาทำงานใหม่
หลายครั้งเลยที่เจอลูกค้าคนเดิม ใส่ชุดเดิม นั่งอยู่ตรงที่เดิมตั้งแต่เมื่อวานก่อนเค้าออกกะ
เพราะคาสิโนมันเปิด 24 ชั่วโมงน่ะ
คนมันติด จะให้มันทำยังไงเนอะ

ถ้าเป็นต่างชาติก็ไม่ว่านะ
ก็อาจจะดูดเงินต่างชาติตอนเค้ามาเที่ยว
แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นคนชาติเค้านั่นแหละ
บางคนก็ทำงานออฟฟิศนะ
แต่ไม่มีกะจิตกะใจทำงานหรอก
คือตอนบ่ายมานี่เห็นมาเล่นละ
บอกที่ออฟฟิศว่ามาหาลูกค้า แล้วก็เข้ามานั่งเล่นในคาสิโนจนมืดค่ำทุกวัน

แต่น้องบอกว่าคนจีนนี่รวยจริง ๆ นะ
รวยจริงจังมาก มีเงินมาเล่นทีละเยอะ ๆ ตลอด
ไม่รู้ไปเอาเงินมาจากไหน เหอะ ๆ

ไอ้ที่เจอแจ็คพ็อตก็มีนะ
น้องเล่าให้ฟังว่ามีลูกค้าคนนึงเป็นผู้หญิงฟิลิปินส์
มาฉลองวันเกิดครบ 21 ปี
แล้วมาโยกสล็อตแมทชีน
โยกครั้งแรกแล้วเสีย
โยกอีกครั้งนึง ได้ไปเบา ๆ 5 แสนเหรียญ
สุดยอดไปเลย
ดวงใคร ดวงมัน โชคของใครก็เป็นของคนนั้นเนอะ

แล้วเราก็เปลี่ยนเรื่องมาคุยเรื่องทั่วไป
แล้วเราก็เพิ่งรู้นะว่า
เกาะบาตัม (Batam) อินโดเนี่ย เป็นสถานที่สำหรับชายแก่สิงคโปร์หาเมียเด็ก
เกาะนี้มันติดกับสิงคโปร์เลย นั่งเรือประมาณชั่วโมงนึงก็ถึงแล้ว

มาคุยเรื่องประสบการณ์การเป็นสจ๊วตของน้องผู้ชายกันบ้าง
เค้าบอกว่าก็สนุกดีนะ
ได้ทำงานสายการบินแห่งชาติ เส้นทางบินก็หรู ๆ ทั้งนั้น
ทั้งยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
น้องเค้าบอกเลยว่านิวซีแลนด์นี่น่าไปสุด ๆ
อากาศดี ธรรมชาติสวย ผู้คนก็เป็นมิตร ดีทุกอย่างเลย
น้องบอกว่าสวิสก็สวยมาก ๆ
แต่ทุกอย่างแพงไปหมดเลย เลยไม่ได้ไปเที่ยวไหน ฮา ๆ

ผิดกับอังกฤษ น้องไม่ชอบอังกฤษเลย
อากาศไม่ดี หนาว ฝนตก แดดแทบไม่มี คนก็ไม่เป็นมิตร (แต่เราชอบสำเนียงอังกฤษจุง อิอิ)
ถ้าบินอังกฤษนะ ไปที่เดียวคือซุปเปอร์มาเก็ต ไปซื้อของกินมาตุนแล้วนั่งเล่น นอนเล่นมันอยู่ในโรงแรมนั่นแหละ
ซิดนี่ย์กับเมลเบิร์นก็เหมือนกัน เป็นเมืองน่าเบื่อ ไม่มีอะไร บินบ่อยมาก เลยไปซื้อของมาตุนกินในโรงแรมเหมือนกัน

แล้วเราก็ไปเวียนเทียนกันหลังจากเม้ามอยกันมา 2-3 ชั่วโมง
เราก็จะจ่ายเงินค่าขนม แต่เค้าไม่ยอมท่าเดียว
เราก็เลยจะจ่ายค่าอาหาร น้องเค้าก็ดึงไปไม่ให้จ่ายอีก
น่ารักจริง ๆ คู่นี้
เราชอบคู่นะ ตลอดเวลาคุยกัน 2-3 ชั่วโมงเนี่ย
ไม่มีจับโทรศัพท์ให้เห็นเลยนะ
ผิดกับอีกลุ่ม 3 คนนั่น
คือเราคุยกับคนนึง อีก 2 คนนั่งก้มจิ้มมือถือตลอด

เรารู้สึกว่ามันเสียมารยาทนะ
แต่ทำไงได้ มันเป็นธรรมดาของผู้คนสมัยนี้ไปแล้ว
เราว่าไม่มีกลุ่มเพื่อนกลุ่มไหนที่นัดกันเกิน 3 คนแล้วไม่มีคนใดคนหนึ่งก้มดูมือถือหรอก
แต่เราไม่จับนะ ไม่ว่าจะนัดเจอเพื่อนกลุ่มไหน แม้กระทั่งกินข้าวกลางวันกับคนในออฟฟิศ
มีแต่บางกลุ่มนั่นแหละที่เริ่มมีคนจับ แล้วสุดท้ายนะก็ก้มหน้ากันหมด รวมถึงเราด้วย เพราะเราไม่มีเพื่อนคุย

แต่ก็ต้องยอมรับนะ ถ้าเค้าจะก้มจิ้มมือถือจริง ๆ
เพราะเราก็เจอเค้าจากการจิ้มมือถือมา แล้วก็ติดต่อคุยกันจากการที่ต้องก้มพิมพ์ในมือถือ
มันก็ไม่แปลกที่เค้าจะจิ้ม
แต่เราจิ้มเมื่อเราอยู่คนเดียวนะ ไม่ได้นั่งเป็นกลุ่มคุยกับเพื่อน
ก็ได้แต่ทำใจกับคนสมัยนี้ ที่ไม่เห็นความสำคัญกับคนตรงหน้า

ตอนไปเวียนเทียนก็เจอช็อตหวาน
จริง ๆ มันก็หวานตั้งแต่เดินไปวัดแล้วล่ะ
คือเค้าก็เดินจับมือกันไปตลอดทางเลย ทั้ง ๆ ที่เค้าคบกันมาหลายปีมากแล้ว
แล้วคิดดูสิ ผู้ชายสูง 180 กับผู้หญิงที่สูงประมาณ 155
เป็นคู่ที่น่ารักมากอ่ะ

แล้วมันทำให้อิเจ้ตาร้อนตอนใส่รองเท้าเนี่ยแหละ
คือน้องผู้หญิงใส่รองเท้าผ้าใบหุ้มข้อมา
ซึ่งเวลาถอดเข้าไปไหว้พระแล้วกลับมาใส่มันใส่ยาก
น้องผู้ชายก็ก้มลงไปใส่ให้เลยจ้า
กรี๊ดสลบ อิจฉาอย่างแรงงงงง
อิจฉาในวัดเป็นบาปมั้ยค้าาาาา

นั่นแหละ
แล้วเราก็แยกจากกัน แต่ไฟในตาเจ้ยังร้อนผ่าว ๆ อยู่เลย

อ่ะ
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ละ
มีแถมมาอีก 1 คน
อาทิตย์ที่แล้วไปเจออีก 1 หนุ่มอายุ 28 มากับเพื่อนอีกคน
ก็นัดกินข้าวกัน
น้องแม่งก็ต้องออกไปสูบบุหรี่
แต่อิ 2 ตัวนี้แม่งไม่ไหวอ่ะ เด็กเกิ๊น
มาเที่ยวกรุงเทพนี่ นอกจากแหล่งช้อปปิ้งแล้วเนี่ย หาแต่แหล่งเที่ยวกลางคืน
มาถึงก็ไปซอยคาวบอยเลยจ้า ต่อด้วยรูท 66 แล้วก็แถวทองหล่อ
บ้านมึงไม่มีให้เที่ยวกันใช่มั้ย
อ่อ มีแต่สาวคงไม่สวยและแรง แถมมีให้เลือกเยอะเท่าที่นี่
แล้ววันที่นั่งกินข้าวกันนะ
โอ้โห สาวไทยแม่งกระหน่ำไลน์มากันใหญ่
ตอบกันไม่หวาด ไม่ไหวเลยทีเดียว
แต่ก็ไม่แปลกนะ
เพราะน้องหน้าตาดีจ้ะ
เป็นตี๋ที่จมูกโด่ง ตาโต ผอมแห้ง น่ารัก สไตล์เจ้ชอบ
แต่ไม่ไหวนะ มาแต่เที่ยวกลางคืน
ชวนไปดูวัดก็ไม่เอา ไม่ไป แบบนี้ เจ้รับไม่ได้ ฮาๆ

แล้วน้องคนนี้เป็นลูกครึ่งไทยจ้ะ
แต่พูดไทยแทบไม่ได้ อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ พูดได้เป็นคำ ๆ
ซึ่งถ้านับว่าเป็นลูกครึ่งแล้ว ขอไม่นับซะยังดีกว่า
เพราะแม่เป็นคนไทย แต่ไม่ได้พูดไทยด้วยตั้งแต่เด็ก
ที่บ้านพูดจีนกลางกับแต้จิ๋ว
สาวไม่รู้ใช่มั้ยว่ามีลูก 5 ขวบแล้ว แต่หย่ามาแล้ว
เอ๊ะ
อายุ 28 ลูก 5 ขวบ
นี่น้องมีลูกตั้งแต่อายุเท่าไหร่จ๊ะ ฮา ๆ
แต่ก็ดีแล้วแหละ เพิ่มประชาการเด็กเกิดใหม่ในสิงคโปร์มั่ง
ถึงแม้ว่าจะมีแล้วอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็เหอะ

แต่ก็ยังดีนะ ที่เวลาเราคุยกับน้องแล้วน้องไปจับโทรศัพท์
แต่ก็มีจับบ้าง
เวลาพูดถึงเรื่องคำศัพท์ไทยที่นึกไม่ออก
น้องจะ search หาข้อมูลมาคุยต่อ
แล้วแหม ๆ
เราก็นั่งติดกับน้องเนอะ
ก็จะเห็นหน้าจอเวลาน้องเปิดเข้า google น่ะ
ไลน์สาวไทยขึ้นมาพรึ่บ แถมมี whatsapp สาวไทยส่งรูปมาพร้อมว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอีก
กำลังคิดว่า
เออว่ะ กรูคุยกะหนุ่ม กรูไม่เคยส่งรูปตัวเองให้หนุ่มเลยวุ้ย
ส่งแต่กิจกรรมที่ทำ หรือสถานที่ ๆ ไป แต่ไม่เคยติดตัวเองอยู่ในรูปเลย เขิน ฮา ๆ
แต่ดูสาวไทยคุยกะน้องสิ
แหม่
อยู่สิงคโปร์ น้องคงดูหน้าตาบ้าน ๆ
แต่มาเมืองไทยป๊อปเลย

มีการเอาไลน์ที่สาวไทยแชทมาให้ดูด้วยนะ เพราะสาวพิมพ์คาราโอเกะน่ะ
ประมาณว่า yoo nai lor? Tam rai yoo ka? แล้วน้องอ่านแล้วไม่เข้าใจจ้า ฮา ๆ
แล้วมึงจะคุยกันรู้เรื่องมั้ย
ไม่ก็ใช้ google แปลภาษามาเลยจ้า
ลำบากมั้ยนั่น คุยกะเจ้เป็น proper English ดีกว่ามั้ยน้อง ฮา ๆ
แล้วมึงจะจริงจังอะไรกับผู้หญิงที่เจอในผับว้า คุยกันยังไม่รู้เรื่องเลยเนี่ย
สรุปเดี๋ยวมันมาใหม่อีกรอบเดือนมิถุนา จะแต่งกับสาวไทยที่รู้จักกันในผับก่อนมาเจอเจ้นี่เจ้ฮาไม่ออกเลยนะน้อง

แล้วเจ้เบื่ออิเพื่อนมึงมาก
นั่งในร้านอาหารคุยกัน อิเพื่อนเอาแต่นั่งหน้าเบื่อ ก้มหน้าจิ้มมือถือตลอด 2-3 ชั่วโมงที่คุยกันเลยจ้า
เออ กูไม่ใช่เพื่อนมึงที่มึงอยากมาเจอ แต่ให้เกียรติกูหน่อยได้มั้ย ห่านี่ (อุ๊บส์....)
แหม แล้วมีการไม่เข้าใจว่าสาวไทยพิมพ์อะไรมา
ให้ช่วยแปลให้หน่อย เล่นไลน์ก็ไม่เป็น เพิ่งโหลดมา
เพราะสิงคโปร์เค้าใช้ whatsapp กันไง ไม่ได้ใช้ไลน์
แหม ทีจะให้กูแปลให้เนี่ย เงยหน้ามามองหน้ากูได้นะ (อุ๊บส์....)
ใครโฉดมา ชั้นโฉดกลับนะแจ๊ะ แหะ ๆ

ระหว่างที่เราคุย

สิ่งนึงที่เราสังเกตได้จากผู้ชายสิงคโปร์นะ
คือ แม่ง สูบบุหรี่กันทุกคน ทุ้กกกกกกกกกคนจริง ๆ มึงจะเครียดอะไรกันนักกันหนาวะ
เอะอะก็เอาละ ขอตัวไปสูบบุหรี่ กินข้าวเสร็จ ออกมานอกร้านก็ต้องสูบบุหรี่
แล้วก็กินเบียร์ด้วย มึงจะกินอะไรกันนักกันหนาวะ
แล้วก็ติดมือถือมาก แชทตลอดเวลา มึงจะติดอะไรกันนักกันหนาวะ
เออ ทำให้รู้ว่ากลุ่มเพื่อนผู้ชายไทยที่เรามีแม่งดูดีไปเลย ฮา ๆ

Create Date : 06 มีนาคม 2559

Last Update : 15 เมษายน 2560 20:37:51 น.

0 comments

Counter : 4731 Pageviews.