ซวยจัง แทนที่จะไปโรงพักกลับเกือบโดนรุมกลางดึกมั้ยเนี่ยชั้น วันหลังไม่ช้อปปิ้งดึก ๆ คนเดียวแล้ว
ไม่ได้มาอัพบล็อกนานมั่ก ๆ เพราะว่าต้องทำตัวเลขให้ตรง เครียดมากมาย มีเรื่องต่าง ๆ เกิดขึ้นเยอะเหมือนกันระหว่างที่ทำงาน
เอาเรื่องแรกเลยดีกว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมาเกือบเดือนแล้ว พอดีนาฬิกาหายจากงานหนังสือ เพราะข้อต่อนาฬิกามันไม่ดี เลยไปเดินหน้าบิ๊กซีบางนาที่มันเป็นซุ้ม ๆ ขายของต่าง ๆ แล้วมาเลือกร้านนาฬิกาแผงลอย เป็นนาฬิกาแฟชั่นก๊อปผู้หญิง ๆ ดูเก๋ ทันสมัยดี ตรงแผงลอยมันค่อนข้างกว้างเลยนะ เค้าวางนาฬิกาข้อมือหลายสิบอันระเกะระกะให้เห็นทั่ว ๆ ราคาก็มีตั้งแต่ 300 ถึงพันกว่าถ้าก๊อปเนียน ๆ
เราก็เลือกดูอยู่นานเหมือนกันนะ ตั้งแต่ 3 ทุ่มได้ ลองอันโน้นอันนี้ ถูกใจหลายอัน เลือกไม่ถูกเหมือนกัน ระหว่างเืลือก เราก็ใส่อันนึง แล้ววางอันนึง จะเือื้อมไปหยิบอันไกลมาลอง คนขายบอกว่า นาฬิกาที่เราวางเมื่อกี้มันไปโดนหน้าปัดของเรือนข้างล่างแตก เค้าก็เอาใส่ถุงบอกว่า 500 บาท จ่ายมาก่อนเพราะอันนั้นมันเสียหายไปแล้วขายไม่ได้แล้วต้องชดใช้ แล้วเดี๋ยวค่อยเลือกอันต่อไปก็ได้ เราก็ยืนอึ้งอยู่ กำลังคิดว่าหน้าปัดนาฬิกามันแตกได้ง่ายขนาดว่าวางทับแล้วมันแตกเลยเหรอ แล้วมันใกล้กับทางเรามากเลยนะ แผงก็ใหญ่ เค้าเห็นได้ยังไง แล้วมันแตกเพราะเราทำจริงเหรอ เพราะเราก็ไ่ม่ได้สังเกตนาฬิกาเรือนนั้นเลยเพราะมันติดกับเรามาก มัวแต่ดูเรือนอื่นที่มันไกลตา ความคิดมากมายแล่นอยู่ในหัว เลยเหมือนสติหลุด ยืนนิ่งอึ้งไป
ระหว่างที่อึ้งก็ได้ยินเค้าตะคอกอยู่ตลอดนะว่า ต้องจ่ายนะ ไม่งั้นก็ไปคุยกันบนโรงพัก ก็คิดอีกเหมือนกันว่าตำรวจจะช่วยอะไรชั้นได้มั้ยเนี่ย หรือว่าจะเป็นแก๊งค์เดียวกันรึเปล่า คิดไปสารพัด
เค้าคงคิดว่าเราไม่จ่ายมั้งเพราะเห็นยืนนิ่งอึ้งไปหลายวิ เลยตะคอกว่าไม่จ่ายเหรอ ดีงั้นไปโรงพักกัน เราก็ยังเงียบอึ้งอยู่ แต่ในใจคิดอีกทีว่าก็ดีเหมือนกัน เกิดมาไม่เคยขึ้นโรงพักเลย ขอขึ้นดูซักทีเหอะวะ อยากรู้เหมือนกันว่าตำรวจจะว่ายังไง
แล้วแม่ค้าที่อายุประมาณเรา แต่สูงกว่าเราเยอะก็เอื้อมมือมากระชากข้อมือเราจูงออกไปจากที่ขายของตรงนั้น เราก็เดินตามไปอย่างว่าง่ายโดยไม่ได้พูดอะไร พาเดินไปซักพักนึง รู้สึกอีกทีว่าตรงนี้มันค่อนข้างเปลี่ยวแล้วล่ะ เค้าก็พูดว่า 500 แค่นี้ไม่มีปัญญาจ่ายเหรอ ไหนเอากระเป๋ามาดูหน่อยว่ามีเงินเท่าไหร่ เราก็ยังอึ้งสติหลุดอยู่ มันก็เลยเอามือมาจะกระชากกระเป๋าถือเราไปดู แต่เราก็ได้สติบอกว่าไหนบอกว่าจะไปโรงพักไง พูดแบบหงอย ๆ กลัวมันสุดชีวิต มันบอกว่าไม่ปง ไม่ไปมันแล้วโรงพักอ่ะ ไม่จ่ายใช่มั้ย ดีเลย งั้นเดี๋ยวมันเรียกแฟนกับพวกมันมา ให้มันรู้ไปว่าจะจ่ายหรือไม่จ่าย
ฟังตอนนั้นก็เริ่มกลัวแล้ว เพราะตอนนั้นประมาณ 3 ทุ่มครึ่งแล้ว แล้วเราไปคนเดียวด้วย แถมมันจะเรียกพวกมันมาอีก เราก็เลยบอกว่าเดี๋ยวเราไปกดตังแล้วกัน เพราะมีเงินไม่พอจ่าย แต่จริง ๆ เรามีแบงค์พัน กลัวว่าถ้าให้มันแล้วมันไม่ทอนก็คงจะซวยซ้ำซ้อนกว่านี้ มันก็เลยลากเราไปที่ตู้ ATM แล้วยืนรอเรากดตังอยู่ตรงนั้น
เฮ้อ ซวยจริง ๆ เลย ตอนนั้นรู้เลยว่าไม่มีสติเลย มันตะคอก มันขู่ มันลากจูงไปไหนก็ไปตามมันตลอดเลยอ่ะ แบบว่าใจนึงก็กลัว อีกใจนึงก็มัวแต่คิดว่าเราำทำจริง ๆ เหรอ นี่เราต้องจ่ายมันจริง ๆ เหรอ แบบว่าเสียดายตังจังเลยแทบไม่ได้พูดอะไรกับมันเลย มันคงได้ใจ ตะคอกเอา ๆ จนเรานี่กลัวไปหมด ต่อมน้ำตาจะแตกเอา แล้วมันดึกแล้วด้วย คิดอะไรไม่ออกเลย มาคิดออกว่ายอมให้ ๆ มันไปดีกว่า ดีกว่าตอนที่มันเรียกพวกมันมา อาจจะไม่ได้เสียแค่เงิน กลัวสุด ๆ ไปเลย
พอกดตังแล้วรีบโทรเล่าให้เพื่อนฟังเลย เล่าไปก็น้ำตาไหลไป กลัวสุด ๆ แต่เรื่องนี้ไม่กล้าเล่าให้ป๊า กับ ม้าฟังหรอกนะ เพราะเล่าไปก็ไม่มีประโยชน์ ยิ่งจะทำให้เค้าเป็นห่วงเปล่า ๆ
แต่ตอนนี้ก็หลอนไปแล้วล่ะ ไม่กล้าช้อปปิ้งตอนกลางคืนอีกเลย เข็ดจริง ๆ
Create Date : 19 พฤศจิกายน 2550 |
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2550 14:04:56 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1741 Pageviews. |
|
|
|