Bloggang.com : หนูลีลี : ได้มีโอกาสไปส่งเสด็จวันที่ 14 ตุลา ข้างสนามหลวง

ได้มีโอกาสไปส่งเสด็จวันที่ 14 ตุลา ข้างสนามหลวง

เราทุกคนก็มีความรู้สึกเดียวกันหลังจากรู้ข่าวการเสด็จสวรรคตของในหลวงเมื่อวันที่ 13
วันที่ 14 มีการประกาศให้เป็นวันหยุด เราก็ไปทำงาน พอเค้าประกาศ
เราก็รีบไปสนามหลวงไปเฝ้าส่งเสด็จทันที
เราเลิกเที่ยง นัดเจอเพื่อนที่ BTS สะพานตากสิน เพื่อจะไปขึ้นเรือไปแถวสนามหลวง
พอออกจาก BTS เท่านั้นแหละ จะเป็นลม
ไม้ได้รู้เรื่องเล้ย ว่าคิดรอขึ้นเรือยาวเหยียดขดเป็นงูเลื้อยไปถึงหน้าโรบินสัน
ซึ่งคิดดูสิ โรบินสันบางรักถึงท่าเรือ มันไกลมาเลยนะ
แต่ทุกคนต้องต่อแถวขดเป็นงูเลื้อยหลายชั้นกว่าจะเลื้อยออกมาถึงหน้าถนน
เอาไงดี ๆ เดินวนไปวนมาระหว่างพออิเพื่อน ซึ่งกะไปกันแค่ 2 คนนั่นแหละ
คนน้อย เคลื่อนตัวสะดวก

อิเพื่อนก็มาแท็กซี่ รถมาทาง BTS ก็ติ๊ด ติด
เลยเดินวนไป วนมา หาทางที่จะเร็วกว่านี้
พอดีเดินผ่าน คนกลุ่มนึงที่เค้ากำลังถามเจ้าหน้าที่แถวนั้นว่ามีทางอื่นที่เร็วกว่านี้มั้ย
เพราะตอนแรกข่าวบอกว่าจะเคลื่อนขบวนบ่ายโมง
แล้วเปลี่ยนเป็นบ่าย 3 โมง ซึ่งตอนนั้นประมาณเที่ยงครึ่งแล้ว
ต่อแถวเกรงว่าบ่าย 3 ก็คงไม่ทัน
เจ้าหน้าที่ก็เลยบอกว่า ให้นั่งแท็กซี่ไปลงท่าวัดราชสิงขร หรือ เอเชียทีค
เพราะเป็นท่าเรือต้นสาย
เพราะถ้ารอต่อคิวตรงนี้ ทุ่มนึงก็ยังไม่ได้ไป
ได้ยินดังนั้น รีบไปรออิเพื่อนที่กำลังนั่งแท็กซี่มาพอดี

โชคดีมาก เราไปถึงถนน อิเพื่อนกำลังลงแท็กซี่พอดีโดยมิได้โทรหากัน
เลยข้ามถนนกลับไปขึ้นแท็กซี่อีกฝั่งนึง
โชคดีที่รถไม่ค่อยติด แล้วมีแท็กซี่มาเรื่อย ๆ
โดนตัดหน้านิดหน่อย แต่ก็โอเค เพราะทุกคนที่มาตรงนี้ก็จุดหมายเดียวกัน
ก็เลยนั่งแท็กซี่ไปวัดราชสิงขร
รถไม่ค่อยติดนะฝั่งไปวัด แต่ก็ไปได้ไม่เร็วนัก
แต่อีกฝั่งนึงที่ไปสะพานตาสิน รถติดแทบไม่ขยับเลย
ไปถึงวัด
ทุกคนมุ่งหน้าเข้าวัดไปทางท่าเรือ
ทำใจไว้ระดับนึงว่าคงต้องต่อคิวยาวอย่างน้อยก็ชั่วโมงนึงแน่ ๆ
เพราะที่สะพานตากสินประมาณ 3-4 ชั่วโมง

แต่พอไปถึงจริง ๆ
ขึ้นเรือได้เลย!!!!!!!!!!!!
ตกใจมาก ถึง มากที่สุด!!!!!!!!
ท่านี้ไม่ต้องรอเรือเลย
แล้วเรือมีเยอะมาก
คือมีหลายลำต่อกัน
เค้าก็เรียกทุกคนที่เดินกันมาไม่ขาดสายให้ขึ้นเรือเลย
พอเต็มก็ออกเลย แล้วไปถึงท่ามหาราชท่าเดียว ไม่มีแวะท่าไหนเลย
เร็วมากกกกกกกกกกกกก

พอไปถึง
ออกจากท่าเรือมา เค้าก็มีแจกพระบรมฉายาลักษณ์ให้คนละ 1 ใบ
แต่เราไม่ได้รับ เพราะไม่รู้ว่าจะเก็บพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่านได้ดีรึเปล่า
แล้วเราก็เดินผ่านธรรมศาสตร์ ศิลปากร ไปสนามหลวง ตอนยังไม่ถึงบ่าย 2
ก็ขอแทรก ๆ เค้าได้เข้าไปก็ค่อนข้างหน้าเหมือนกัน
ยังไม่ต้องถึงกับนั่งในสนามหลวง
ที่แทรกได้ เพราะทุกคนยืน ๆ นั่ง ๆ กันหลวม ๆ
เราไปกัน 2 คน
ยังพอมีที่ให้ยืนด้านหน้า ๆ พอสมควร
เพราะบางคนที่มาจับจองที่นั่ง เค้าก็ไม่ได้นั่งหน้า ๆ ก็มี
บางคนก็นั่งในสนามหลวง ไม่ได้นั่งริมฟุตบาทที่ติดกับถนนก็มี
เออ ตอนแรกเรานึกว่า คนที่มาจับจองที่นั่งกันแต่เมื่อคืนหรือตอนเช้าจะมานั่งหน้าสุด
แต่พอมาจริง ๆ มีหลายกลุ่มมาก ที่นั่งอยู่ในสนามหลวงซึ่งไกลจากถนนที่รถพระที่นั่งจะผ่านพอสมควรเลย

แล้วก็นั่งพื้นรอกันตั้งแต่บ่ายสองได้
ตอนแรก ๆ เราก็ยืนกันเยอะ เพราะยังไม่มีอะไร
แต่พอเริ่มมีทหารม้ามาตั้งแถวตอนซัก บ่าย 2 ครึ่งหรือบ่าย 3 เนี่ยแหละ
คนด้านหลังด้านในสนามหลวงก็ตะโกนให้คนข้างหน้านั่งลงแล้วก็หุบร่มด้วย
แล้วก็ปรบมือ เพื่อกดดันให้ทำตาม
เราก็เข้าใจนะ เพราะร่มกับการยืนทำให้คนด้านหลังไกล ๆ มองไม่เห็น
แต่ก็เข้าใจคนที่นั่งพื้นไม่ได้เหมือนกัน
เพราะเราก็นั่งพื้นได้ไม่นานเลย นั่งแล้วเหน็บกิน ปวดไปหมด แต่ก็ทนนั่ง เพราะเกรงใจคนข้างหลัง
แล้วก็นั่งหันหลังให้พระอาทิตย์ ไม่เอาเท้าชี้ไปด้านวัดพระแก้ว
แต่เพื่อนเราตัวใหญ่ ก็นั่งพื้นได้แค่ 10-20 นาทีก็ต้องยืน เพราะมันปวด ทนไม่ไหวจริง ๆ
แต่ก็หยวน ๆ กับ เพราะด้านหน้า ๆ ก็มียืนกันนิดหน่อย สำหรับคนที่นั่งพื้นนาน ๆ ไม่ไหว

แต่กลุ่มคุณป้าที่มาจากต่างจังหวัด แกคงนั่งพื้นกันจนชิน
ปูเสื่อนั่งกันตั้งแต่ก่อนเรามาซะอีก แล้วก็นั่งพื้นกันตลอด ไม่มีทีท่าว่าเหน็บจะกิน ปวดก้นเหมือนเราและอีกหลายคนเลย
ส่วนผู้หญิงอีกคนข้าง ๆ เราก็มาคนเดียว
ไปส่งลูกเสร็จก็มาจากแถว RCA นั่งมอร์ไซค์มา 180
แล้วก็มีกลุ่มหนุ่มสาวออฟฟิศ ซึ่งบางคนก็นั่งพื้นนานไม่ได้เหมือนเพื่อนเรา
ก็ต้องลุก ๆ นั่ง ๆ เหมือนกัน
จะมาบางช่วงที่แดดแรงมาก แล้วบางช่วงที่มีเมฆมาบังแดดให้ด้วยบารมีพระองค์ท่าน
เห็นเพื่อนที่เป็นช่างภาพ ถ่ายพระอาทิตย์ทรงกลดมาได้ด้วย
แต่งานบารมีสูง ๆ แบบนี้ ต้องมีอยู่แล้วล่ะ ทั้งพระอาทิตย์และพระจันทร์ทรงกลด เราเชื่อนะ

จนบ่าย 4 โมงที่เพื่อนที่รอศิริราชบอกว่าเริ่มเคลื่อนขบวนแล้ว
ทุกคนถึงจะหุบร่ม และนั่งกับพื้นกันอย่างสงบเรียบร้อย
โชคดีที่กลุ่มคุณป้า สามารถดูถ่ายทอดสดได้
เรานั่งข้าง ๆ เลยได้เห็นขบวนพิธีไปด้วยว่าขบวนเคลื่อนไปถึงตรงไหนแล้ว
พอขบวนพระบรมศพเคลื่อนผ่านเรา
ความรู้สึกเราคือ ทุกอย่างเร็วมาก แต่ก็เงียบมากเช่นกัน
จะได้ยินก็แต่เสียงสะอื้นบาง ๆ และการเอาทิชชู่ขึ้นมาเช็ดน้ำตา รวมถึงตัวเราด้วย
จากนั้นไม่นาน ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ด้วยความชุ่มชื่นหัวใจที่มีโอกาสได้มาส่งเสด็จพระบรมศพของพระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้าย

ก็พูดจริง ๆ ว่า
ทุกครั้งที่มีการรวมตัวเฉลิมฉลอง เราไม่เคยได้มาชุมนุมกับเค้าเลย
ดูทีวีอยู่บ้านตลอด
วันนี้ คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จะได้ทำ เราเลยไม่รีรอเลยที่จะมา แม้รู้ว่าคนจะเยอะขนาดไหน
แต่ไม่ทันได้ตั้งตัวกับแถวรอเรือที่สะพานตากสินจริง ๆ แต่ก็โชคดดีมากที่ไปท่าวัดราชสิงขรแทนแล้วได้ขึ้นเรือเลย
แต่ตอนขากลับ
ไม่สามารถหนีไปไหนได้เลย
ตอนแรกว่าจะขึ้นท่าพระจันทร์
แต่เห็นคนต่อแล้วแล้วถอดใจ
เลยกลับไปท่ามหาราช
เห็นคนแล้วก็ถอดใจเหมือนกัน
แต่ก็ต้องต่อแถวไป
แล้วด้วยความไม่รู้ว่าท่ามหาราชมี 2 ท่าเรือ
คือท่าเรือกลับสาทร กับท่าเรือข้ามฟาก
เราไปถึงท่าเรือข้ามฟากก่อนก็นึกว่าอันนี้แหละที่กลับสาทร
เลยไหลไปขึ้นเรือกับฝูงคน
แต่หารู้ไม่ อ้าว นี่มันท่าเรือข้ามฟากไปฝั่งศิริราชนี่หว่า
ออกจากท่าวังหลัง

โอ้ว แม่เจ้า!!!!!!!!!
หนีท่าพระจันทร์ หนีท่ามหาราช มาเจอท่าศิริราช!!!!!!!!!!!
คลื่นมหาชนรอขึ้นเรือไปสาทรและนนฯ นี่มันอัลไลลลลลลลลลลล
คนมากมายมหาศาล ไม่รู้จะหนีไปไหน
แต่ด้วยความโชคดีอีกแล้ว
พอดีตอนเราออกจากท่าเรือข้ามฟาก
มันจะมีแถวที่ต่อไปท่าสาทร ซึ่งยาวประมาณนึง แล้วต่อประมาณ 3 แถวหน้ากระดาน
แต่เจ้าหน้าที่ตรงนั้นบอกว่า
ให้ไปต่อทางหลักก็ได้ ให้ออกไปก่อน
พอออกไปเท่านั้นแหละ
รีบกลับไปต่อด้านในท่าเรือแทบไม่ทัน
เพราะมันหน้า รพ ศิริราช ต่อกันประมาณ 8 แถวหน้ากระดานยาวไปสุดลูกหูลูกตาได้
เราก็เลยมองหน้ากันกับเพื่อน ต่างคนต่างรู้ว่าเราควรจะกลับไปต่อไอ้ 3 แถวหน้ากระดานด้านในท่าเรือที่เราผ่านมาเมื่อกี๊ดีกว่า
ซึ่งทั้ง 2 แถวก็วนมาที่ท่าเรือเหมือนกัน แต่แถวตรงนี้สั้นกว่า
เลยรู้สึกว่าตัวเองและเพื่อนโชคดีมากที่ต่อแถวเรือทั้งไป ทั้งกลับใช้เวลาน้อยกว่าอีกหลายร้อย หลายพันคนที่มาร่วมพิธีนี้

ตอนกลับมาบ้าน
ตรงรอยขอบเสื้อใน กกนใน แดง คัน ผื่นขึ้น
เพราะด้วยความที่ร้อน แล้วเหงื่อออก เสียดสีน่ะ เลยเป็นเป็นผื่นคันขึ้นมา
แต่ก็รู้สึกปิติที่ชีวิตนี้ได้มีโอกาสนี้

เอาเป็นว่า ใครที่จะไปสนามหลวงแล้วท่าสะพานตากสินคนเยอะมาก
ก็ให้ลองนั่งแท็กซี่ไปขึ้นเรือที่ท่าวัดราชสิงขรดูนะ
ขนาดวันนั้นเป็นวันแรก เรายังไม่ต้องต่อแถวเลย
อนุโมทนาสาธุกับทุกดวงกุศลจิตมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

Create Date : 22 ตุลาคม 2559

Last Update : 22 ตุลาคม 2559 18:00:22 น.

0 comments

Counter : 1841 Pageviews.