Group Blog
 
<<
มีนาคม 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
3 มีนาคม 2556
 
All Blogs
 
น้องเค้าต้องเป็นเจ้ากรรมนายเวรเราแน่เลย ถึงทำให้เราลุ่มหลงไม่เลิกขนาดนี้

ตอนแรกซีรี่ย์(หลงรักหนุ่มลูกครึ่ง)เกาหลีที่แต่งงานแล้วของเราจะหยุดแค่ 3 ตอนข้างล่างแล้วนะ

ไม่ชอบเลยกับการไปปิ๊งหนุ่ม หมดเปลืองพลังงาน แถมหนุ่มน้อยฝรั่งที่ว่า ดั๊นแต่งงานแล้ว
กับ
ปีนี้มีหนุ่มมาเวียนเทียนด้วย แถมหนุ่มที่ว่า เพิ่งเจอกันบนรถใต้ดินแล้วชวนไปก็ไปซะด้วย

และ
เราคงไม่ต้องการรอยยิ้มในมือถือก่อนจากกันไปตลอดกาลแล้วล่ะ เพราะรอยยิ้มของเค้าก็ติดอยู่ในใจเราไปเรียบร้อยแล้ว



แต่จนถึงวันนี้
4 วันผ่านไป
หน้าของน้องยังแจ่มชัดทั้งยามหลับและยามตื่น (เยอะนะเนี่ย)
วันแรก ๆ ก็เข้าใจนะว่าแผลยังสด โครตคิดถึงน้องเค้าเลย
คงเพราะได้มีโอกาสคุยกันในวันสุดท้าย
แต่เค้าก็เป็นเหมือนเจ้าลูกแก้วหิมะของเราที่มันไม่มีอยู่จริง
ทำไมถึงเรียกว่า snow globe ไปอ่านได้ในตอนที่ 3 นะจ๊ะ





แต่นี่มันวันที่ 4 แล้ว
มันควรจะโอเคขึ้น
หน้าน้องควรจะหายไปบ้าง
แต่ทำไมถึงยังแจ่มชัด

หรืออาจเป็นเพราะ
เราได้รูปน้องเค้ามาแล้ว อิอิ
คือไม่ได้ขอน้องเค้าถ่ายรูปอะไรเลยนะ
แต่พอดีคิดถึงน้องเค้ามากมาย
เข้า facebook น้องเค้ากับภรรยาเค้า เค้าก็ล็อคหมดทุกรูปเลย
แถมรูป profile ก็เล็กและถ่ายย้อนแสงมืดซ้า
เราก็เลยลองเข้าไปดู friend of friend ของเค้า
โห่
พวกฝรั่งนี่
มันเซ็ท private ทุกรูปเลยทุกคนเลยอ่า
แล้วมีฝรั่งอยู่คนนึง
มีบางรูปเค้าไม่ได้ล็อค

ดูไปดูมา
เฮ้ยยยยยย
มีรูปนึง
เป็นรูปที่ฝรั่งคนนี้ซึ่งเป็นเพื่อนน้องเค้าไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานแต่งน้องเค้า
แล้วเป็นรูปที่น้องเค้าถ่ายรูปมองกล้องแถมยิ้มด้วย
โอ๊ยยยยยย
ฟิน....
5555
น้องน่ารักม๊วก ใส่ชุดเจ้าบ่าว หล่อมากกก กรี๊ดด...
ดีนะรูปนั้นไม่มีรูปเจ้าสาว ฮา ๆ



ณ จุดนั้นจนถึงวันนี้
เราเอารูปนั้นในมือถือขึ้นมาดูไม่รู้กี่สิบ กี่ร้อยครั้ง
ไม่กล้าบอกให้ใครรู้เลยอ่ะ ไม่กล้าให้ใครดูรูปด้วย
กลัวโดนด่าว่าเป็น stalker
แต่เราก็เป็นจริง ๆ นั่นแหละ
แหม ก็คิดถึง อยากได้รูปนี่นา
แถมเจอด้วยยิ่งรู้สึกว่าการ stalking ของเรายิ่งประสบความสำเร็จ






เรากำลังสงสัยว่า
การที่เราชอบคนที่แต่งงานแล้ว แต่เค้าไม่รู้ตัว แล้วเค้าก็บินกลับประเทศเค้าไปแล้วเนี่ย
มันบาปหรือมันผิดศีลข้อ 3 รึเปล่าหว่า
search ไป search มา
ได้คำตอบประมาณว่า
ถ้ามันทำให้ใจเราไม่ปกติ เป็นทุกข์ คำตอบมันก็คงอยู่ตรงนี้





เพราะตั้งแต่ทำงานมา
เราไม่เคยลุ่มหลงหรือปิ๊งใครหนัก ๆ ขนาดนี้มาก่อนเลย (มั้ง)
ปิ๊งเล่น ๆ กรี๊ด ๆ เนี่ย มีบ้าง แต่ไม่ได้สนใจ
มีแบบเจอแว๊ป ๆ เอามาคุยขำ ๆ ดีลงานแป๊บเดียวเค้าก็กลับประเทศก็ไม่ได้สนใจอะไร

แต่พ่อหนุ่มน้อยคนนี้กลับผิดกัน
เจอครั้งแรก แบบว่ามันเหมือนมีพลังดึงดูดอะไรบางอย่าง
ที่ทำให้เราตกหลุมลึก ปีนขึ้นมาไม่ได้ตั้งแต่เห็นหน้าน้องเค้าครั้งแรก
แล้วก็อยากเห็นหน้าตลอดเวลา
พอเอาสติมาจับดูที่จิต
รู้สึกเลยว่าจิตมันร้อนรน กระสับกระส่าย อยากเจอหน้าน้องเค้า again and again
ทั้ง ๆ ที่วันแรกที่เราเจอกันนั้น สายสืบฝรั่งที่สนิทก็บอกมาแล้วว่าน้องเค้าแต่งงานแล้ว






เราว่าศีลข้อที่เราถือได้มั่นคงที่สุดคือศีลข้อ 3 กับข้อ 5 นะ
เพราะข้อ 2 ลักขโมยเนี่ย เรายังซื้อหนังที่เค้าโหลดบิดหรือโหลด mp3 มาอยู่เลย
ซึ่งพวกนี้เป็นลิขสิทธิ์ทางปัญญา เราโหลดมาก็เหมือนขโมยมาเหมือนกัน
แถมเรายังตบยุง ฆ่ามดอีกต่างหาก
ส่วนข้อ 4 เนี่ย ไม่ต้องถึงกับโกหกหรอก
แค่การพูดเล่น เลอะเทอะ เพ้อเจ้อนี่ก็ถือว่าผิดศีลข้อ 4 แล้วนะ

จริง ๆ เราเป็นคนที่ไม่ชอบไปยุ่งกับคนที่มีแฟนหรือแต่งงานแล้วเลยนะ
ไม่ใช่นิสัยเลย
กลัวบาปด้วย
แต่ทำไมกับน้องคนนี้
จิตเราถึงลุ่มหลงน้องเค้าได้มากมายขนาดนี้
ทั้งตอนนี้เค้ายังทำงานอยู่แถวออฟฟิศ
หรือตอนนี้ที่น้องเค้าบินกลับประเทศไปแล้ว ๆ เราคิดว่าคงจะไม่มีโอกาสที่จะได้เจอกันตลอดชีวิตก็ตาม




มันต้องมีกรรมบางอย่างผลักดันเราแน่นอน
เพราะขนาดน้องเค้ากลับประเทศไปแล้ว
เราก็ยังคิดถึงไม่เลิก ไม่รา
นั่งสมาธิ เพ่งจิตไปแป๊บเดียว หน้าน้องก็ผุดขึ้นมาตลอด 1 ชั่วโมงของการนั่ง เหมือนนั่งปวดขาฟรีโดยไม่ได้ปัญญาเลย
ก่อนนอนกว่าจะหลับ หน้าและอากัปกิริยาที่คุยกันก็ยังชัดเจน
แถมหนักกว่านั้นคือตอนตื่น
พอจิตตื่นปุ๊บ สติจับได้เลยว่าภาพที่เห็นตอนเป็นภาพแรกตอนจิตตื่นก็คือ
หน้าของน้องเค้า
โอ๊ย ประสาทจะกิน

ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากเอาตัวเราออกจากโมหะหรือความลุ่มหลงตัวนี้นะ
ถามว่ารู้มั้ย รู้
แล้วเราก็พยายามละ
ทุกคืนที่เรานั่งกรรมฐาน
เวลาเพ่งจิตแล้วหน้าน้องและจินตนาการเกี่ยวกับน้องเค้าผุดขึ้นมา
เราก็พยายามวางอุเบกขา รู้แล้ววางเฉย
แล้วดึงสติกลับมาให้เร็วที่สุด
แต่มันก็ช้าตลอด
ก็ตามดูน้องเค้าตลอด อยากพูด อยากคุยกับน้องเค้าตลอด ๆ





เราว่านะ
น้องเค้าเนี่ย
ถ้าไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรเรา
เค้าคงต้องเป็นคู่รักเราในอดีตแน่เลย
จากการที่เราไปอ่านมาหลาย ๆ ที่น่ะนะ

วิบากกรรมจากความเจ็บปวดทรมานใจจากการรักเขาข้างเดียว

สาเหตุของกรรมมาจาก
ในอดีตชาติ เคยเเอบเคียดเเค้นพยาบาท หรือลบหลู่ผู้ที่เราเเอบรักทางใจ โดยที่ผู้นั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลย
ชาตินี้จึงส่งผลทำให้เราเจ็บปวดทรมานใจอยู่ข้างเดียวโดยคนผู้นั้นก็ยังคงไม่รู้เรื่องและไม่รับรู้อะไรเลย

เนื่องจากวัฎสงสารยาวไกลจนหาจุดเริ่มต้นและที่สุดไม่ได้
หญิงชายแต่ละคนจึงมีเนื้อคู่มากมายเป็นแสนคน
แต่ละชาติที่เกิดมาก็อาจได้พบเจอเนื้อคู่ได้หลาย ๆ คนพร้อมกัน
หรืออาจไม่ได้เจอเนื้อคู่เลยสักคนก็เป็นได้




กรณีที่ไม่เจอเนื้อคู่เลยนั้น
หญิงชายนั้นก็อาจมีคู่ได้กับบุคคลใกล้ชิดที่ได้เกื้อหนุนกันในปัจจุบัน
ซึ่งเมื่อได้เป็นคู่กันในปัจจุบันแล้วหญิงชายนั้นก็จะได้เป็นเนื้อคู่กันต่อไป

แม้จะมีเนื้อคู่จำนวนมากมาย
แต่จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เมื่ออยู่ร่วมกันแล้วมีความสุขที่สุด
เมื่อพบหน้ากันแล้วไม่อาจตัดใจรักให้ขาดจากกันได้
บุคคลนี้คือเนื้อคู่ที่ได้อยู่ร่วมกันมามากที่สุดเป็นแสนเป็นล้านชาติ
เป็นเนื้อคู่ลำดับที่ ๑
กฎแห่งกรรมจะจัดสรรการมีคู่ไว้ให้เราเรียบร้อย คือ
หากเรามีเนื้อคู่เกิดมาพร้อมกัน ใจเราจะเป็นผู้เลือกเนื้อคู่ลำดับต้นเสมอ
เมื่อเลือกแล้วคู่ลำดับอื่นเขาจะหลีกทางและไปหาคู่ของเขาต่อไป





แต่กฎแห่งกรรมอีกเช่นกัน
ที่บางชาติ
กลับทำให้คู่ลำดับต้น ๆ ได้มาพบกันทีหลังหลังจากที่อีกฝ่ายได้เลือกคู่ครองไปแล้ว
ซึ่งแม้จะได้พบกันทีหลัง
แต่เพราะเป็นคู่ลำดับต้น
จิตใจของทั้งคู่ก็จะร้อนรนทนไม่ไหว
จึงต้องรักกันอีกครั้งซึ่งความรักครั้งนี้ต้องหัก ต้องบังคับฝืนใจกันอย่างเต็มกำลัง

เหตุที่เนื้อคู่ลำดับต้นมาเกิดในชาติภพเดียวกัน แต่กลับไม่สมกันนั้น
มีเหตุเดียว คือ กรรมพลัดพรากได้มาส่งผลเป็นวิบากแก่ทั้งคู่อย่างร้ายแรง
หากกรรมนั้นใกล้จะหมดผลเขาทั้งสองก็อาจได้เป็นคู่ครองกันในชาตินั้น
แต่หากกรรมนั้นยังรุนแรงอยู่
ทั้งสองก็ต้องทนทุกข์ทรมานชดใช้กรรมนั้นให้หมด
แล้วจึงจะได้มีวาสนาอยู่ร่วมกันในชาติต่อ ๆ ไป





อ่านแล้วก็ปลง
เราเชื่อสุดจิตสุดใจเลยว่าเป็นเรื่องของกรรม
เมื่อให้สิ่งใดย่อมไม่สูญเปล่า ต้องมีการสะท้อนตอบเป็นการได้รับสิ่งนั้นคืนมาเสมอ


อ่านแล้วก็ทำให้เราอยากรู้ว่า
เรากับน้องเค้ามีกรรมต่อกันอย่างไรในอดีตชาติ
ซึ่งมันทำให้เราฮึดสู้ หมั่นเพียรเจริญภาวนาเพ่งจิตเผากิเลสตามหลักเตโชวิปัสนากรรมฐาน ที่เราได้ไปปฏิบัติมาในบล็อคด้านล่างนี้

8 วันสำหรับความเจ็บปวดอันคุ้มค่า กับการไปปฏิบัติเตโชวิปัสนาของคนหนักไม่เอา เบาไม่สู้และรักสบายอย่างเรา แฮ่

เพราะการนั่งกรรมฐาน เราสามารถเห็นอดีตชาติของเราได้
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เห็น
เราคงต้องเพียรปฏิบัติ มีขันติและสติให้มากขึ้น





ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องของเหตุปัจจัย
มีเหตุให้มีมันก็มี มีเหตุให้ไม่มีมันก็ไม่มี
ถ้าได้เห็นเหตุ เราก็จะได้เข้าใจผลมากขึ้น
ว่าอะไรทำให้เรามาเจอน้องและจิตไปลุ่มหลงน้องเค้าได้มากมายขนาดนี้

อาการที่ถูกต้องของการถอนพิษรักนั้น
ไม่ใช่ความพยายาม ‘ตัดใจ’
เพราะใจเป็นสิ่งที่ไม่มีคมมีดชนิดไหนๆ ตัดได้ขาด
พฤติกรรมทางจิตที่ถูกต้องคือ ‘สละออก’
ซึ่งเป็นอาการที่มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคย
เนื่องจากเคยชินที่จะ ‘เอาเข้าตัว’ กันทั้งนั้น
ซึ่งนั่นแหละคือการเพาะชำนิสัยหวงทุกข์

(วาทะดังตฤณ ฉบับชวนคิด เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว ๒๘ เม.ย. ๔๘)

รักแท้น่ะมีจริง แต่ที่จริงกว่าคือ กิเลส





พี่ที่ออฟฟิศที่เคยไปปฏิบัติธรรมร่วมกันมาปลอบใจว่า
ถ้าหาคนที่มีธรรมเสมอกันไม่ได้ อยู่คนเดียวดีกว่านะ

เคยทำบุญร่วมกันมาก็เรื่องหนึ่ง
ลักษณะกระแสจิตคล้ายกันก็เรื่องหนึ่ง
เจอกันแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้างก็เรื่องหนึ่ง
มีโอกาสใช้เวลาในชีวิตด้วยกันนานช้าแค่ไหนก็อีกเรื่องหนึ่ง

น้องเค้าฝรั่งจ๋า กินเหล้าเป็นน้ำขนาดนั้น น้องเค้าไม่เหมาะกับเราหรอก
ต่อให้วันข้างหน้าเค้าจะหย่า เค้าก็คงไม่เวียนว่ายมาแต่งกับเราหรอก
โอ้ นี่เป็นคำปลอบใจใช่มั้ย

ยัง ๆ ยังไม่จบ ต่ออีกซักตอนเป็นตอนสุดท้ายเป็นไง


มีดบาด...ไกลหัวใจ แต่ทำไมมันเจ็บไปถึงหัวใจ T-T



Create Date : 03 มีนาคม 2556
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2557 9:08:42 น. 2 comments
Counter : 5427 Pageviews.

 
คุณ ลีลี สู้ๆนะคะ

ดังตฤณ ได้ยินมานานแล้ว เป็นคนที่พูดหรือเขียนเกี่ยวกับธรรมมะใช่ไหมคะ :)


โดย: แฟนlinKinPark วันที่: 7 มีนาคม 2556 เวลา:1:06:53 น.  

 
ลีลี ทำเอาซะโนบุ นึกอยากจะเห็นหน้าหนุ่มคนนั้นขึ้นมาจริงๆซะแล้น

ขอดูได้ไหม ^^

แฮ่..(มากไปเนอะ)
สู้ๆนะคะ เค้าคงเป็นอะไรที่สเปคลีลีจริงๆล่ะ
ตัวเองถึงได้คิดถึงขนาดนี้


โดย: nobuta wo produce วันที่: 9 มีนาคม 2556 เวลา:0:10:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.