รอยยิ้มในดวงหน้า สวนดอกไม้ป่าในดวงใจ
ทุกครั้งที่ฉันอยู่แวดล้อมกับเด็กๆ หรือมีโอกาสไปทำกิจกรรมเพื่อเด็กๆ ความสดใสของพวกเขาเหมือนแสงแดด สายฝน และดอกไม้ผลิ ที่เป็นรางวัลแก่ฉันในคราวเดียวกัน
ความสุขที่ไม่มีฤดูกาล และไม่ต้องมีกรอบใดๆบังคับความเสรี
ตัวแทนบริษัทฯและฉันไปเยี่ยม และทำพิธีส่งมอบโครงการโรงเรียนอุปถัมภ์ให้แก่สองโรงเรียนเล็กๆในชุมชนอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง

สามนางอายบนม้านั่งยาว

โปรดสังเกตท่าพอยท์เท้าราวนางแบบมืออาชีพของน้องคนหน้า
เราไปปรับปรุงห้องสมุด บูรณะสนามเด็กเล่น เพิ่มอุปกรณ์การเรียนโดยเฉพาะหนังสือเสริมทักษะต่างๆให้น้องๆ
 คู่หู คู่ซน
 บ้านเด็กนี่มันเยี่ยมจริงๆเลยจอร์จ
ไม่น่าเชื่อว่าตัวโรงเรียนอยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองมากนัก แต่ความเจริญและระบบการเรียนการศึกษาของเด็กนักเรียนที่นี่ เทียบกับเด็กในตัวเมืองต่างกันลิบจนน่าใจหาย ฉันแอบเดินเข้าห้องสมุดเพื่อสำรวจสภาพทั่วไป
จะว่าไป ฉันทำแบบนี้ทุกครั้งเวลาไปเยี่ยมโรงเรียนไหนๆ คือต้องหาโอกาสเดินเข้าห้องสมุดของโรงเรียน เพราะฉันรู้สึกว่าสภาพห้องรับรองในห้องครูใหญ่ หรือห้องเรียนที่คณะครูนำไปชมสามารถเนรมิตให้ดูดีได้เสมอ แต่สภาพในห้องสมุดมักถูกละเลย และมักเป็นตัวชี้วัดระบบการบริหารในโรงเรียนนั้นๆได้อย่างจริงใจที่สุด
 กองสารานุกรมไทยซุกอยู่ริมหน้าต่าง ประหน้าปกงดงามด้วยฝุ่นหนาเตอะ
 สันหนังสือบนชั้น ดูค่อนข้างสับสนราวกับค้นหาตัวตนยังไม่เจอ
 ชั้นวางรองเท้าหน้าห้อง... อยากเอายาขัดรองเท้ามาฝากน้องจัง
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร รอยยิ้มของเด็กๆ ที่สองโรงรียนเล็กๆในชุมชนก็ใสปิ๊ง และฉันรู้สึกราวกับว่าทุกครั้งที่มีเด็กคนหนึ่งยิ้ม คงต้องมีดอกไม้สักดอก ในที่ไหนสักที่กำลังบานอยู่ด้วย
 เหมือนสวนดอกไม้ป่าที่ไม่ต้องตัดแต่งกิ่ง หรือพรมน้ำทุกชั่วโมง

แต่สวยสดงดงาม โดยธรรมชาติของเขาเอง
Create Date : 02 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 2 ตุลาคม 2552 9:49:34 น. |
|
5 comments
|
Counter : 2526 Pageviews. |
 |
|
|
อ่านแล้วสดชื่น
ชอบทุกภาพที่มีรอยยิ้มของดอกไม้ป่าในดวงใจ เพราะเป็นดอกไม้ป่าซึ่งเป็นอนาคตของชาติ
ดูภาพพ้อยท์เท้าจิกแอ๊กท่าของเธอสิ น่ารักจัง สู้กล้องซะด้วย
เด็กหนอเด็กทำอะไรก็ดูน่ารัก เป็นธรรมชาติไปซะหมด
เห็นรองเท้าเจ้าหนูทั้งหลายแล้วขำ ๆ มอมดีจัง เมื่อเล็ก ๆ เราเคยถูกแม่เคี่ยวเข็ญให้ขัดรองเท้ามันวับไปโรงเรียนทุกวัน แต่พอมาเป็นลูกศิษย์ของแม่ แม่กลับไม่บังคับ เพราะอย่าว่าแต่จะหากีวี่มาขัดเลย รองเท้ายังไม่มีจะใส่ทำให้เราอดย้อนนึกถึงโรงเรียนเก่าของแม่เราไม่ได้น่ะ จ๊นจน จนนี่จนจริง ๆ เวลามีทุนการศึกษาให้นักเรียน แม่เรายังให้ซาวเสียงกันเลยว่า พวกเราจะให้ใคร คือแต่ละคนก็รู้ว่าตัวเองจนและกว่านั้นก็รู้อีกว่าใครจนกว่าตัวเอง น้ำใจนี่นะ..สร้างกันได้ตั้งแต่ตาดำ ๆ ใส ๆ อย่างนี้นี่แหละ
ครั้นมาถึงอาหารกลางวัน บางคนก็ไม่มี บางคนก็มีแต่ข้าวเหนียวเปล่า ๆ แม่ไปเยี่ยมบ้านนักเรียนลูกศิษย์ ก็ไม่สามารถจะเรียกว่าบ้านได้ น่าสงสารมากน่ะ ส่วนใหญ่เรียนจบป.6 แล้ว ก็ต้องออกไปช่วยแม่ทำมาหากิน แม่เคยเล่าว่าเด็กที่เรียนดี ๆ ของแม่น่ะ เก็บขยะขาย ผ่านหน้าโรงเรียนเพื่อดักรอและเก็บหนังสือมาฝากครู(แม่เรา) เพราะรู้ว่าครูชอบอ่านหนังสือ และแม่เราก็เป็นคนดูแลห้องสมุด(ห้องหนังสือ) ให้โรงเรียนด้วย นึกภาพเอาละกันว่า จะมีหนังสืออะไรบ้าง แต่เราก็ได้อ่านหนังสือดี ๆ หลายอย่างจากโรงเรียนจน ๆ ของแม่เช่นกันค่ะ เด็กที่ได้ดีมีบ้างไม่มากนัก
ตั้งแต่แม่เราเกษียณออกมา ก็ยังได้ไปช่วยผอ.ที่โรงเรียนเดิมบ้าง ทุกอย่างดีขึ้น แต่ห้องสมุดก็ยังไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร อาจจะมีส่วนในเรื่องการจัดการบรหารแบบที่คุณว่าก็ได้ สำหรับโรงเรียนที่มีความพร้อมในด้านอื่น ๆ แล้ว
ไม่รู้สิ สิ่งหนึ่งที่เราอยากให้ทุกรัฐบาลมีและทำให้เป็นรูปธรรมจริง ๆ คือเรื่องการให้โอกาสในการศึกษานี่แหละ ลุ้นมาทุกนัด ดอกไม้จะได้เติบโต เบ่งบาน สะพรึ่บสะพรั่ง สว่างไสวหลากสีสันบนโลกนี้ซะที
ว๊า..บ่นมากจัง คนแก่คนนี้นี่ อัดอั้นไม่ได้มาบล็อกสองวัน
ไม่ทำลายบรรยากาศสวยงามของที่นี่หรอกเนาะ
(เข้าข้างตัวเองสุดฤทธิ์)
คิดถึง ๆ อยากเขียน อยากคุยด้วยค่ะ
คุณสบายดีนะคะ :)