Unseen เมืองชล พลาดไม่ได้จริงๆ เป็นมิชชั่นที่ต้องทำให้ได้!

เชื่อแล้วค่ะว่า
ไม่ใช่สักแต่ว่าตั้งให้คล้องจอง
ชื่อดีล้วนมีที่มา
แต่ละชื่อเพราะ ๆ ทั้งนั้น

จะแวะมาท่องอาขยานใหม่นะ
มีสอบมั้ยคะเนี่ย

คนเมืองชลเหมือนกันจ้า เข้ามาดู
ไม่น่าเชื่อนะว่าจะมีชื่ออยเพราะๆอย่างนี้เยอะเลย มิเคยสังเกตุเลยอ่า
ชอบตรงที่บอกว่ายึดพื้นที่หน้ามอเตอร์ไซค์เป็นตุ๊กตาหน้าแป้น เหมือนเราตอนเด็กๆเลย

สวัสดีครับรักแรกคลิก


ดีจังที่เอาชื่อถนนมาเรียงร้อยให้ฟัง
อยากรู้เพิ่ม...ว่าใครนะเป็นคนตั้งชือ
หรือว่าผมอ่านไม่ละเอียดนะ
เดี๋ยวย้อนไปดูใหม่ว่าบอกไว้หรือยัง ?

ขอคุยที่จังหวัดนครสวรรค์หน่อยนึง
เพราะช่วงตอนเป็นหนุ่มเคยเรียนหนังสือที่นั่น
ชื่อโรงหนังที่นั่น มีดังนี้

ศรีไกรลาส
อโนดาต
ประชาบดี

พาเพื่อนมาทักทายคะ ทั้ง 2ทีมนึ้มาเดินสายหากไม่ง่วงก็แวะเชียร์กัน แต่หากนอนดึกไม่ไหวไม่เป็นไรขอแรงเชียร์ส่งแรงใจไปลุ้นก็แล้วกัน คะ

ทั้ง 2 ทีมฝากบอกว่าอ่านภาษาไทยได้คะ แต่ว่าชื่อมันหรูมากๆเลย ไม่เข้าใจคำแปลของชื่อป้ายคะ อันไหนง่ายๆก็พอเข้าใจ เช่นตัวที่อยู่ในวงเล็บนะคะ

อือ ชอบไอเดียนี้
ทุกที่เลยนะชื่อบ้านนามเมือง ถนน ซอกซอย
เขาจะตั้งคล้องจองกัน ประสาคนเจ้าบทและเจ้ากลอน
ซึ่งคนสมัยนี้ไม่เก็ท กลอน
เพราะดันไปใช้ลูกบิดและรีโมทประตูเสียแล้ว
555

แต่ละชื่อ สุดยอดจริงๆๆ

เคยไปเรียนที่เมืองชลอยู่หลายปี แต่ไม่เคยสังเกตุเลยว่าชื่อซอยมันคล้องจองกันแบบนี้ Unseen จริงๆ ครับ

สวัสดียามเช้าครับคุณน้ำอ้อย

เก๋นะครับ
ชื่อคล้องจองกันด้วย

ตอนนี้เชียงใหม่มีสี่แยกเกิดใหม่เพียบเลยครับ
แล้วก็ได้เห็นการตั้งชื่อแบบครีเอทปนแปลกๆครับ 5555

เชื่อว่าชาวเมืองชลฯอีกหลายคน โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่คงไม่ทันสังเกตุว่าชื่อซอยในถนนสายล่างเมืองชลฯมันคล้องจองกัน

ชอบความละเมียดของคนสมัยก่อนค่ะ เขาประณีตกับทุกสิ่งแม้แต่การตั้งชื่อ

ถ้ามีเวลา ชอบซอกแซกไปตามตรอกซอกซอย มักจะเห็นวิถีเก่าๆ และแง่มุมดีๆในชุมชนชาวบ้าน สนุกดีค่ะ

รู้สึกว่าทุกๆที่เป็นพิพิธภัณฑ์ เราไม่ต้องตีตั๋ว หรือกังวลกับป้าย ...ห้ามจับ... ขอแค่เปิดใจกว้าง และสนุกกับการเที่ยวสไตล์น้ำแข็งไส ( เนิบช้ากว่าแบบหวานเย็น แต่เร้าใจกว่า)

สนุกจังเลย..สร้างสรรค์มากนะคะ
ป้ายก็คลาสสิคมากเลย..

เนี่ยแหละน้า...ความเก๋ไก๋แบบไทย ที่หาไม่ได้ง่าย ๆ นะคะ

หุหุหุ

บางทีหมิงหมิงอาจจะบอกนะครับว่า "นายก...ออกไป" 55555





ผมสู้อยู่แล้วครับคุณน้ำอ้อย
ไม่รอการช่วยเหลือจการัฐบาลหรอกครับ
ผมก็สู้ของผมเองมาตลอดครับ

ขอบคุณผู้ที่จัดทำป้ายนะคะ ที่ทำป้ายได้หน้าตาเหมือนกันหมด
ตัวหนังสือแบบเดียวกันเป๊ะ ยออดเยี่ยมจริงๆ ค่ะ

สำหรับตัวนางแบบที่นั่งหน้ารถ(เมื่อเยาว์วัย)
คิดว่าลูกสาว คงจะเป้นอย่างนี้ทุกคน
สมัยที่คุณพ่อย้ายไปอยู่จังหวัดน่าน เมื่อตอนที่ป้าแอ๊ดอยู่ชั้น ป.3
สมัยนั้นมีเพียงรถจักรยานยี่ห้อดังๆ เท่านั้นที่พอเป็นพาหนะที่คุณพ่อจะใช้ไปทำงานที่ศาลากลางจังหวัด
ซึ่งก็ไม่ไกลจากบ้านพักข้าราชการเท่าไหร่นัก
และใกล้ๆ กันนั้นก็เป็น "สโมสรข้าราชการ" ซึ่งทุกคนมานั่งเล่น นั่งกิน ฯลฯ กันที่นี่จนดึกดื่น
พอสัก 2 ทุ่ม ป้าแอ๊ดก็เดินไปตามคุณพ่อกลับบ้านค่ะ (ตามคำสั่งคุณแม่)
คุณแม่ใช้ไปเพราะเป็นลูกสาวคนสุดท้อง และเป็นลูกสาวคนเดียว คุณพ่อเกรงใจ กลัวลูกจะนอนดึก ...
คุณพ่อก็อุ้มขึ้นไปนั่งบน"แฮนด์" รถจักรยาน นั่งหันหน้าเข้าหาคุณพ่อ จับแขนท่านไว้
จากนั้นคุณพ่อก็ปั่นจักรยานกลับบ้านกันสองคนเป็นอย่างนี้เกือบทุกวันค่ะ
ป้าแอ๊ดจะไปนั่งดูคุณพ่อเล่นบิลเลียด ดูการเล่นไพ่บริดจ์ จนเกือบจะเล่นได้อยู่แล้ว
วันไหนคุณพ่อไม่ขึ้นสโมสร ก็จะไปเล่นเทนนิสกับคุณแม่ ที่สนามในตอนเย็นๆ
เราลูกๆ ก็ไปวุ่นวายอยู่ข้างๆ สนามค่ะ ช่วงนั้นมีความสุขมาก

555 ชีวิตลูกสาวข้าราชการต่างจังหวัดก็อย่างนี้แหละค่ะ

ไม่น่าเชื่อเนอะ
ป้ายก็ทำสวยด้วย

เพราะจริง ท่านได้แต่ใดมา

ชื่อซอยหรูมากมาย ใครนะช่างคิดจริง ^^

เห็นชื่อซอยแรก แล้วแอบนึกว่าอยุ่ใกล้ หรือเป็นญาติกับถนนหน้าที่ทำงานเรารึเปล่าน้า (ถนนราชวิถีจ้ะ )

ชื่อซอยเพราะ แถมป้ายสวยดูคลาสสิคด้วยนะ อ่านเพลินจัง
ตอนเราเด็กๆ อาม้าเราก็ชอบอ่านป้ายเหมือนกันจ้ะ จำได้ว่านั่งรถผ่านป้ายไหน ต้องมีเสียงอาม้าอ่านออกเสียงชื่อป้ายเสมอๆ จนตอนนี้เราก็ติดนิสัยชอบอ่านป้ายต่างๆ เหมือนกัน อ่อ นอกจากป้ายแล้วเรายังชอบอ่านถุงกระดาษด้วย สมัยก่อนเวลาไปซื้อลูกชิ้นปิ้งหรือขนมต่างๆ เค้าจะใส่ถุงกระดาษซึ่งพับมาจากหนังสือพิมพ์บ้าง กระดาษคำตอบข้อสอบบ้าง ยังเคยนึกเลยว่า เราจะได้กินลูกชิ้นปิ้งในถุงกระดาษข้อสอบของตัวเองบ้างรึเปล่า ว่าแต่เอามาพับถุงแบบนี้จะเรียกว่าข้อสอบรั่วรึเปล่าน้า...

ชื่อเพราะต่อกันเป็นกลอน นี่ไม่แนวจริงคิดไม่ได้นะเนี่ย
ชื่อซอยเพราะ
ฟังก็เสนาะหู
ใครแค่ผ่านก็ไม่ได้ดู
เลยไม่เคยรู้ ว่ามัน Unseen

เราก็เป็นคนเมืองชลเหมือนกันนะ
เคยอยู่ซอยชาติเดชามาก่อนด้วยแหละ

มีข้อมูลเพิ่มเติมหน่อยนะ คือว่า ป้ายซอยเค้าเพิ่งมาทำใหม่เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง น่าจะประมาณ 2-3 ปีนะ

ยังไม่ครบนะครับผมคนชลบุรีเหมือนกันยังมีช่วงหลังจากตรงนี้คล้องจองต่อจากซอยปฐมวัยแต่ผมจำไม่ค่อยได้
เดี๋ยวหามาฝากนะ แถว ๆ บ้านโขดบางทรายก็ต่อไปยกตัวอย่างเช่น ซอยราชประสิทธิ์
ซอยจิตประสงค์
ซอยจงประสาน
ซอยเทศบางสมมติ เป็นต้น
มีต่อไปอีกเป็นสิบซอย อันนี้ยังไม่ครบครับ

ชอบจริงๆ ครับ ผมเคยอยู่ซอยเสริมสันติ(สะพานหลวง)และซอยคูกำพล(สะพานแดง) ตั้งแต่สมัยเด็กๆ และท่องชื่อซอยได้ตั้งแต่เด็กๆ เพราะนั่งอยู่หน้ารถเวสป้าของพ่อเหมือนกัน แล้วพ่อก็ท่องให้ฟังเหมือนกัน และก็เคยคิดจะถ่ายรูปรวบรวมไว้เหมือนกัน พออ่านแล้วเลยทำให้นึกถึงวันเก่าๆเลย สงสัยเราจะแก่แล้ว แต่ขอเพิ่มเติมนิดนึงว่า ซอยพิทย์สถานน่ะ บางครั้งชาวบ้านแถวนั้นก็ว่าเรียกว่าซอย ทิพย์สถานครับไม่ทราบเหมือนกันที่มาเป็นอันไหนแน่ และที่ทราบคือ ผู้ที่แต่งชื่อซอยเหล่านี้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ณ.ขณะนั้น แต่ไม่ทราบว่าใคร

ผู้ที่ตั้งชื่อซอย คือนายจำนงค์ จันทถิระ นายกเทศมนตรีเมืองชลบุรี คนที่ ๓ (ดำรงตำแหน่ง ๑๕ พ.ค.๒๔๘๓-๒๙มิ.ย.๒๔๗๘) นอกจากชื่อซอย ๓๔ ซอยนี้แล้ว ในเขตเทศบาลเมืองชลบุรี ยังมีชื่อถนนที่มีที่มาน่าสนใจด้วย เช่น ถนนอัคนิวาต คือ ถนนหน้าโรงไฟฟ้า(เดิม) อัคนิวาต มาจากชื่อศรของพระรามที่แผลงออกไปเป็นไฟ... ติดตามได้จากวารสารเทศบาลเมืองชลบุรีที่กำลังจะออกเล่มหน้าค่ะ

คิดถึงบ้านเลยครับ...เด็กพานหลวง

ภาพซอยยังไม่ครบ ต่อด้วย ไกรเรียงยุค สุขนิรันดร์ เสริมสันติ อดิเรก เอกวุฒิ อุทยาน ธารนที ปรีดารมย์ ชมสำราญ ย่านโพทอง ครองสังเขป
เทพประสาท ราชฎร์ประสิทธิ์ จิตประสงค์
จงประสาน และ เทศบาลสมมุติค่ะ