ไดรฟ์ ทู ซีโร่...
องค์กรที่ฉันทำงานด้วยปัจจุบัน ปลูกฝังด้านจิตสำนึกด้านความปลอดภัยแก่พนักงานอย่างเข้มข้น จนคนซุ่มซ่ามอย่างฉันเริ่มซึมซาบมันเข้าไปในจิตใจโดยไม่รู้ตัวแล้ว
ตอนเข้ามาทำงานที่นี่แรกๆ ฉันมึนงงกับข้อจำกัดยิบย่อยเรื่องความปลอดภัยมากมาย
ฉันเป็นสาวไฮเปอร์ บ่อยครั้งมักวิ่งขึ้นบันไดทีละสองขั้น ก็จะโดนรุ่นพี่ดุว่า ที่นี่ห้ามวิ่งในที่ทำงานเด็ดขาด เวลาเดินขึ้นบันไดต้องจับราว ห้ามวิ่ง และห้ามหยุดสนทนากันบนบันไดเด็ดขาด ( โปรดสังเกตคำว่าเด็ดขาด ที่ต่อท้ายทุกประโยค)
ฉันชอบกินผลไม้ จึงมักเอาผลไม้สดมาปอกกินที่ทำงาน ฉันเกรงใจแม่บ้าน เลยลุกไปปอกผลไม้เสิร์ฟตัวเองทุกครั้ง
ช่วงแรกๆ แม่บ้านรุ่นเดอะประจำออฟฟิศ เดินวนไปวนมา สังเกตการปอกผลไม้ฉันอยู่ใกล้ชิด จนสุดท้ายก็โพล่งออกมาว่า คุณน้ำอ้อยปอกดีๆนะคะ อย่าให้บาดมือ แล้วพอปอกเสร็จแล้วส่งมีดมาให้พี่ พี่จะล้างแล้วเก็บใส่ปลอกมีดทันทีค่ะ...
หลังๆ เวลาฉันเดินไปทำธุรกรรมที่ต้องใช้มีดในห้องชงกาแฟ ฉันมักพูดติดตลกว่า ทีหลังจะเอาถุงมือหนังแบบแม่ค้าปอกทุเรียนมาด้วย จะได้ไม่ต้องกลัวมีดบาด
ตู้เก็บเครื่องเขียนที่นี่ไม่มีมีดคัตเตอร์ให้เบิก และที่นี่ไม่อนุญาตให้พนักงานให้มีดคัตเตอร์ เวลาน้องๆฝึกงานต้องใช้คัตเตอร์จัดบอร์ดหรือทำงานธุรการต่างๆ ต้องลักลอบใช้มีดคัตเตอร์กันเหมือนกำลังทำอาชญากรรมร้ายแรง
ฉันเคยโม้แบบโจ๊กใส่ไข่หมดแผงให้พ่อฟังถึงขนาดว่า
พ่อรู้ไหม มดที่สำนักงาน ถ้ามันชักแถวเดินตามกันมา มันห้ามเอาหัวชนกันนะ
แล้วถ้าเผื่อหนูมันหลงทางเข้ามาในออฟฟิศ ก็ห้ามวิ่งจู๊ดไปจู๊ดมา ต้องเดินช้าๆ เพื่อความปลอดภัยสุงสุด
ขนาดนั้น...
ที่สำนักงานเรา จะมีสติกเกอร์รณรงค์เรื่องความปลอดภัยติดอยู่ทุกที่ คลับคล้ายช่วงหนึ่งที่มีสติกเกอร์สีแดงพร้อมวลีสั้นๆว่า 'ยุบสภา' ติดตามที่ต่างๆทั่วเมือง
Drive to Zero - อุบัติเหตุต้องเป็นศูนย์ คำว่า Recommit แปลแบบขาโจ๋ได้ความประมาณ - - สัญญาอย่างร่ำไร ยังเต็มใจจะยืนยัน
ครั้งหนึ่ง เคยมีประชุมพนักงานใหม่ และช่วงท้ายรายการมีการถกประเด็นเรื่อง จิตสำนึกด้านความปลอดภัยในองค์กร
ถึงช่วงสรุป ผู้บริหารที่มาบรรยาย ชูโลโก้ Drive to Zero และถามในหมู่พวกเราว่า เห็นโลโก้นี้แล้วนึกถึงอะไร
แต่ละคนก็งัดเอาปรัชญา วิสัยทัศน์ จิตวิญญาณลำดับที่ 1 ถึง 18ครึ่ง มาบอกเล่าความเห็นเรื่องโลโก้ Drive to Zero และแนวคิดเรื่องความปลอดภัยกันอย่างไม่ให้เสียเชิง
พอถึงตาฉัน ฉันบอกด้วยสัตย์จริงว่า ฉันเห็นโลโก้นี้ครั้งแรกฉันนึกถึงคำว่า สุญญตา
ภาษาพุทธ คือ ความว่าง ภาษาเซ็น คือ ภาวะของการไม่มีอะไร (nothingness)
บางคนไม่รู้จักคำนี้ จึงอึ้งเหมือนลอยเท้งเต้งในสุญญากาศ ขณะที่หลายคนหัวเราะและคิดว่าฉันเล่นมุกตลกร้าย ฉันเลยพลอยปนเสียงหัวเราะผสมผเสไปกับเขาด้วย
แต่ตรงปลายเสียงหัวเราะ ที่ออกมาจากลมหายใจตัวเอง ฉันรู้ว่ามันไม่ขำ
วัฒนธรรมองค์กรพื้นฐานเกี่ยวกับการทำงาน พนักงานมักถูกหล่อหลอมให้กดดันตัวเอง และก้าวฝ่าขีดจำกัดของตัวเองไปเรื่อยๆ โดยเชื่อว่า (หรือถูกผลักดันให้เชื่อว่า) มันคือ การพัฒนาและความก้าวหน้าในอาชีพ
ฉันเองก็อยู่ในกระแสธารอันเชี่ยวกรากนี้ ไม่ต่างอะไรจากมนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย
โลโก้ Drive to Zero ที่ติดอยู่ทั่วไปในสำนักงาน เป็นเครื่องเตือนใจให้ฉันได้เป็นอย่างดี ทั้งยังปลอบประโลมให้ฉันหยุดทบทวนตนเองในบางครั้ง
และบางที ก็พาฉันกลับไปสู่ความว่าง
Create Date : 24 มิถุนายน 2553 |
|
25 comments |
Last Update : 24 มิถุนายน 2553 9:20:05 น. |
Counter : 3118 Pageviews. |
|
|
|
อ่านแล้วได้คิดอะไรหลายอย่างเลยค่ะ