ก็หมวยนี่คะ
แมนดี้- - เพื่อนรักคนหนึ่งของฉันคนหนึ่งส่งอีเมล์ข้ามประเทศมาบอกว่าเธอกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ เพื่อนคนนี้เป็นชาวฮ่องกง ประกอบอาชีพสุดเท่เป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์ แม้เธอจะเป็นสาวห้าว แต่บางทีก็แอบมีมุมหวานๆให้พวกเรากิ๊วก๊าวเล่นอยู่เหมือนกัน
 หนึ่งในฝีมือออกแบบสุดฮิปของแมนดี้ ออกแบบสมัยเรียน แต่บริษัทหนึ่งรับไปผลิตและวางขายจริง
ฉันเคยเขียนบันทึกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกันเพื่อนคนนี้ และเพื่อนสนิทอีกคนที่เป็นชาวไต้หวัน เราสามคนถึงจะเรียนคนละสาขาวิชา และถึงจะต่างภาษา ต่างที่มา แต่มีความเหมือนบางอย่างที่เชื่อมโยงเราสามคนไว้ให้มิตรภาพมีโอกาสเติบโต อย่างน้อยๆก็จำนวนองศาของดวงตาอย่างหนึ่งล่ะ ที่คล้ายกัน
เรียกแบบชาวบ้าน เขาว่า สาวตาตี่ แต่ถ้าเรียกแบบวัยรุ่น เขาว่า สาวดวงตาอินเทรนด์...
 ตัวการ์ตูน Pucca สัญลักษณ์แทนพวกเรา และอาหมวยเทรนดี้ทั่วโลก
จนปัจจุบัน แม้ต่างคนต่างแยกย้ายไปคนละทิศละทาง แต่เรายังส่งข่าวถึงกันเสมอ
ฉันอมยิ้มเมื่อนึกถึงเพื่อนในชุดเจ้าสาวแสนสวย เพราะภาพเจนตาที่เคยเห็นเพื่อน คือสาวนุ่งยีนส์ เสื้อแจกเกต รองเท้าผ้าใบเป็นยูนิฟอร์มประจำตัว และชอบเอามือทำท่าเช็ดปลายจมูกแบบจิ๊กกี๋เป็นนิจ
มิตรภาพสวยงามเสมอ ฉันอ่านเรื่องที่เคยเขียนถึงเธอทั้งสองแล้วอดยิ้มไม่ได้ แต่ต้องเอามือถ่างตาเอาไว้ กลัวมันจะตี่ไปกว่านี้
( เรื่องต่อไปนี้ ฉบับภาคภาษาไทยเคยได้ลงตีพิมพ์ในต่วยตูน พอกเกตบุค ฉบับไหนไม่รู้ พี่ชายส่งไปที่สนพ. ขณะฉันยังเรียนหนังสือ เมื่อได้ลงพี่จึงอีเมล์มาบอก
พอฉันนำความไปบอกเพื่อนสองสาวที่เป็นนางเอกของเรื่อง พวกเธอตื่นเต้นกันมาก และบอกว่า ตายแล้ว ถ้าฮอลลีวูดมาขอเอาไปทำหนังจะว่าอย่างไร ฉันไม่กล้าบอกพวกเธอเลยจริงๆว่า มันแค่เรื่องสั้น ไม่ใช่นิยายร้อยล้านสักหน่อย : )
ก็หมวยนี่คะ

แมนดี้และซูซานเป็นเพื่อนที่ฉันรู้จักสมัยเรียนภาษา แม้ฉันจะใช้เวลาระยะสั้นในการเรียนภาษาเพื่อปรับตัว และแม้ว่าเราต่างต้องแยกย้ายไปเรียนสาขาของตัวเอง แต่มิตรภาพระหว่างเราสามคนมั่นคงและยาวนาน
แมนดี้มาจากฮ่องกงพูดภาษาจีนกวางตุ้ง ส่วนซูซานมาจากไต้หวันพูดจีนกลาง เราสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษเพราะภาษาจีนที่ฉันรู้มางูๆปลาๆกลับเป็นจีนแต้จิ๋วเสียนี่ เรียบร้อยโรงเรียนจีนเลยครับท่าน
แต่ที่น่าทึ่งคือเวลาแมนดี้และซูซานพูดกันไม่รู้เรื่อง สองสาวจะเอากระดาษมาเขียนภาษาจีน อธิบายเสียงช้งเช้ง และอีกสามวินาทีต่อมา ฉันมักเห็นสองสาวพยักหน้าหงึกหงัก เป็นอันเข้าใจกันด้วยตัวหนังสือภาษาจีนนั่นแหละ ส่วนฉันนั้นหรือ ได้แต่นั่งตาปริบๆเป็นตัวละครงิ้วตอนหิวข้าวต้ม
ฉันค่อนข้างสนิทกับซูซานเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะเราชอบอะไรคล้ายกัน เช่นชอบชมแกลลอรี่ศิลปะซึ่งเพื่อนส่วนมากมักส่ายหัวไม่อยากไปด้วย ซูซานรักฉันมากเพราะฉันเคยช่วยนั่งทำการบ้านถึงดึกดื่นที่ห้องสมุดหลายครั้ง แถมแบ่งขนมให้กินด้วย ลูกศิษย์หิวหรือเปล่าไม่รู้ แต่คุณครูหิว
ทุกครั้งที่เจอซูซาน ฉันจะพยายามเพิ่มศัพท์ให้ทีละคำสองคำ บางครั้งซูซานจะมีศัพท์แปลกๆให้ฉันอมยิ้มเสมอ เช่นฉันเคยชวนซูซานกินไอศกรีม แต่เธอส่ายหัวบอกว่ากินไม่ได้ ช่วงนี้เธอกำลังเป็น Ladys promise of the month
กิจกรรมยอดฮิตของสามสาวคือเรื่องกิน เราสามคนมักชวนกันไปทำกับข้าวกินที่บ้านแต่ละคนเวียนกันไป สองสาวนี้แหละที่ตั้งฉายาเมนูต้มยำของฉันว่า Tony Jah soup ( ช่วงนั้นภาพยนตร์เรื่อง ต้มยำกุ้ง ที่นำแสดงโดยจา พนมโด่งดังมากในฮ่องกง พอฉันแนะนำเมนูอาหารไทยล่าสุดให้เธอทั้งสอง จึงได้ชื่อเมนูใหม่มาโดยปริยาย)
 รูปภาพของพวกเรา ถ้าไม่อยู่ในร้านอาหาร ก็อยู่ในครัว แมนดี้เคยบอกว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อตาตี่ แต่เราเกิดมาเพื่อกิน
ฉันทึ่งจนตะเกียบตกพื้นมาแล้วเมื่อเห็นความสามารถในการกินของแมนดี้และซูซาน มันไม่ใช่แค่งานอดิเรกเล่นๆ แต่มันคือมหกรรมเลยทีเดียว หลังๆเวลาฉันทำอาหารจึงต้องกะปริมาณให้มากกว่าปกติ และแต่ละครั้งก็ไม่ต้องกลุ้มใจเรื่องอาหารเหลือเลย
 สปาคีรี - - ภูเขาสปาเกตตีที่ผ่านแลปทดลองในกระเพาะพวกเรามาแล้ว
 นี่แค่เรียกน้ำย่อย
แมนดี้เรียนจบก่อนใครเพราะหลักสูตรของเธอเป็นหลักสูตรปีเดียว เรานัดหมายกันไปปฏิบัติกิจกรรมบริหารน้ำย่อยเลี้ยงส่งจิกกี๋สาวก่อนบินกลับเกาะฮ่องกง เราเลือกร้านแบบบุฟเฟ่ท์เพราะไม่ต้องกังวลว่าสั่งแค่นี้จะพอไหม
หลังจากมหกรรมสิ้นสุด ฉันค้นพบว่าความทุกข์ในความสุขนั้นเป็นอย่างนี้นี่เอง แม้ฉันจะกินน้อยที่สุดในกลุ่ม แต่รู้สึกว่าสามารถนั่งเฉยๆโดยไม่กินอะไรไปได้อีกสามวัน
เราจำเป็นต้องเดินเล่นย่อยอาหารในเมืองสักพัก ระหว่างเดินอยู่นั้น เราพบร้านขายเครื่องประดับโอปอลทำเหมืองจำลองแสดงกรรมวิธีขุดหาโอปอลใต้ดิน แมนดี้บอกว่า it looks like ANT.
ฉันถามว่ามดภาษากวางตุ้งเรียกว่าอย่างไร เธอบอกว่า หมาหงาย ฉันฟังแล้วหัวเราะงอหาย และจำได้ขึ้นใจโดยไม่ต้องบอกศัพท์คำนี้ซ้ำอีกตลอดอายุขัยของฉัน ซูซานเอาบ้างบอกว่าจีนกลางเรียก อาหยี ฉันบอกว่าภาษาไทยเรียก มด แมนดี้และซูซานพยายามออกเสียงเลียนตามฉัน แต่ออกเสียง ด เด็กไม่ได้ กลายเป็นคำอื่นอยู่นั่นแล้ว
ฉันจนใจ ได้แต่หัวเราะเขินๆ ส่ายหัวช้าๆและบอกว่า ไปเที่ยวเมืองไทย อย่าไปพูดคำนี้นะเพื่อนนะ เพราะคนฟังอาจจะร้องไอ้หย๋ากลับมา โอ้ อั๊วอึ่มใจ

เราถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อนแมนดี้อำลาเมืองเมลเบิร์น เราทำตัวเลียนแบบเด็กสยามรุ่นเดอะด้วยการนั่งเต๊ะท่าเรียงบนขั้นบันไดหน้าสถานีรถไฟ Flinders station
เราไปฉลองหน้าหนาวด้วยการดื่มด่ำไอศกรีมให้มันหนาวสุดขั้วเข้าไปอีกที่ร้านโปรด Trampoline ราคาต่อลูกแพงกว่าไอติมกะทิไผ่ทองบ้านเราหลายเท่า แต่เพื่อแลกกับความสุขเล็กน้อยกับเพื่อนฝูงก็คุ้มค่าที่จะทำ
บทสนทนาของเราสามคนมักมีแต่เรื่องชวนหัว ใช่ว่าพวกเราไม่มีเรื่องทุกข์ใจ แต่เมื่อเจอกันทีไร เรามักเอาความเศร้าใส่กระเป๋ารูดซิปแน่น และแลกเปลี่ยนเสียงหัวเราะกันและกัน
เราสามคนสัญญากันว่าสักวันหนึ่งเราจะเวียนกันไปเที่ยวบ้านเกิดของแต่ละคนทีละประเทศ คำมั่นสัญญาปลายตะเกียบและข้างชามก๋วยเตี๋ยวบอกเล่าเรื่องราวมากกว่าคำว่ามิตรภาพ
และแม้ว่าดวงตาของเราสามคนจะมีขนาดไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ความตั้งใจแบบอาหมวยนี่คะก็จริงจังไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าประกาศิตเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้เลยสักนิดเดียว
Of Chopsticks and Friendship
To be an oversea student, one sad thing to keep in mind is that we have to leave our beloved friends back home sooner or later. Nevertheless, friendship is a theme of life which follows us no matter where we are.
Mandy and Susan are deemed two of my close friends in Melbourne. Apart from to keep in touch, another main idea we occasionally go out together is, as simple but tempting as that, - - to eat.
Mandy came from Hong Kong while Susan from Taiwan. The first spoke Cantonese while the latter Mandarin. We communicated in English yet sometimes Mandy and Susan compromised their mutual understanding by writing Chinese characters in a paper and all was easier for both of them.
We celebrated the farewell party to Mandy with the favorite activity of our group that was to lunch out. I realized a sense of hardship in happiness after meal.
Even though I did keep in mind not to surpass a limit of over consumption, I thought I could live completely without any food or drink for a couple of days while walking out of the restaurant
We took photos at many places as a souvenir for our for-good old days in Melbourne. Including that in front of my favorite gelato shop - - Trampoline.
We had promised to visit each of our home land one by one. We are not sure when but we are certain that the day will come. A friendship once grows; we have no idea what reason that is rational enough to let it wither away.
Create Date : 11 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 15 ธันวาคม 2552 10:05:54 น. |
|
4 comments
|
Counter : 6237 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: แม่แอมเบอร์ IP: 60.236.87.73 วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:16:10:34 น. |
|
|
|
โดย: รักแรกคลิก IP: 204.136.218.8 วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:8:20:35 น. |
|
|
|
โดย: Kate Spade Outlet IP: 192.99.14.34 วันที่: 22 ธันวาคม 2557 เวลา:19:20:23 น. |
|
|
|
โดย: Timberland Outlet IP: 192.99.14.34 วันที่: 28 ธันวาคม 2557 เวลา:6:06:19 น. |
|
|
|
|
|
แล้วจะบินไปฮ่องกงไหมจ๊ะ