Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
15 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
ทรงให้พระราหุลทำใจเหมือนดินน้ำลมไฟ



พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน เมืองสารถี
ได้ตรัสสอน พระราหุล ถึง การพิจารณาธาตุ ๕ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และอากาศ โดยแยกออกเป็นส่วน ๆ
ตอนท้าย ได้ตรัสให้ พระราหุล ทำใจเหมือน ดิน น้ำ ไฟ ลม และอากาศ พอสรุปเป็นใจความได้ดังนี้

★ ๑. ราหุล! เธอจงทำจิตให้เหมือนแผ่นดินเถิด
เพราะเมื่อเธอทำจิตให้เหมือนแผ่นดินเป็นประจำอยู่เสมอแล้ว เมื่อกระทบอารมณ์ ที่ชอบใจหรือไม่ชอบใจก็ดี
อารมณ์เหล่านั้นจะไม่สามารถทำให้จิตใจหวั่นไหวได้

ราหุล! เปรียบเหมือนคนทั้งหลาย ทิ้งสิ่งของที่สะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง ถ่ายอุจจาระรดบ้าง ถ่ายปัสสาวะรดบ้าง
บ้วนน้ำลายรดบ้าง เทสิ่งของสกปรกอื่นลงบ้าง ลงที่แผ่นดิน
แต่แผ่นดินจะอึดอัดระอา หรือรังเกียจด้วยสิ่งของนั้น ๆ ก็หาไม่ ฉันใด?

ราหุล! เธอจงทำจิตให้เสมอแผ่นดินฉันนั้นแล เพราะเมื่อเธอทำจิตให้เหมือนแผ่นดินอยู่
เมื่อมีการกระทบ กับอารมณ์เกิดขึ้น ความรักหรือความชัง ก็จะไม่สามารถครอบงำจิตได้ฉันนั้น


★ ๒. ราหุล! เธอจงทำจิตให้เหมือนน้ำเถิด
เมื่อเธอทำจิตให้เหมือนน้ำแล้ว จะไม่เกิดความชอบหรือความชัง ครอบงำจิตใจได้

ราหุล! เปรียบเหมือนคนทั้งหลาย ล้างของหรือทิ้งของที่สะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้างลงในน้ำ
น้ำจะอึดอัดระอาหรือรังเกียจด้วยของนั้น ๆ ก็หาไม่ ฉันใด?

ราหุล! เธอจงทำจิตให้เสมอด้วยน้ำฉันนั้นแล
เมื่อกระทบอารมณ์แล้ว ความชอบและความชัง จะไม่สามารถครอบงำจิตเธอได้ฉันนั้น


★ ๓. ราหุล! เธอจงทำจิตให้เหมือนไฟเถิด
เพราะไฟนั้น เมื่อมีผู้ทิ้งของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง ทิ้งอุจจาระ ปัสสาวะบ้างฯ
ไฟจะรู้สึกอึดอัดระอาหรือรังเกียจด้วยสิ่งนั้น ๆ ก็หาไม่ ฉันใด?

ราหุล! เมื่อเธอทำจิตให้เหมือนด้วยไฟอยู่
การกระทบกับสิ่งที่ชอบและชังก็ย่อมจะไม่ปรุงแต่งให้จิตแปรปรวนได้ ฉันนั้น


★ ๔. ราหุล! เธอจงทำจิตให้เหมือนลมเถิด
เพราะลมนั้นย่อมพัดไปถูกต้องของสะอาดบ้างไม่สะอาดบ้าง พัดถูกอุจจาระ ปัสสาวะบ้าง
ลมจะรู้สึกอึดอันระอาหรือรังเกียจต่อสิ่งเหล่านั้นก็หาไม่ ฉันใด?

ราหุล! เมื่อเธอทำจิตให้เหมือนด้วยลมอยู่
การกระทบกับสิ่งที่ชอบและชังย่อมจะไม่ปรุงแต่งให้จิตของเธอแปรปรวน ได้ฉันนั้น


★ ๕. ราหุล! เธอจงทำจิตให้เหมือนอากาศเถิด เพราะอากาศนั้นไม่ตั้งอยู่ในที่ไหน ฉันใด?

ราหุล! เมื่อเธอทำจิตให้เหมือนด้วยอากาศอยู่ตลอดเวลาแล้ว
เมื่อกระทบกับอารมณ์ย่อมจะไม่เกิดความชอบและความชังขึ้นได้ ฉันนั้น”

มหาราหุโลวาทสูตร ๑๓/๑๒๖


ผู้ที่มีทิฐิ มานะ อัตตา และโทสะจริต น่าจะลองนำเอาคำสอน ในพระสูตรนี้ ไปใช้เป็นประจำ
เพื่อลดความโทมนัส น้อยใจหรือขัดเคืองใจ
เมื่อเห็นว่าผู้อื่นล่วงเกินแล้ว ทำให้เกิดความไม่สบายใจ หงุดหงิดหรือรำคาญใจ

แม้ทำไม่ได้เด็ดขาดตามพระสูตรนี้ ถ้าเราได้หัดทำอยู่เสมอ ๆ มีสติสัมปชัญญะระวังจิต
ไม่ปล่อยไปตามอารมณ์ที่มากระทบ จิตของเราก็จะสงบ
นั่นก็คือจุดหมายปลายทางของความสุขที่ทุกคนปรารถนา แม้ได้รับเพียงครั้งคราว ก็นับว่าประเสริฐสุดแล้ว

การทำบุญช่วยให้ได้ที่พึ่ง
จิตเข้าถึงสวรรค์ทันตาเห็น
ยอดบุญแท้ถึงได้แล้วใจเย็น
ดับทุกข์เข็ญเป็นสุขทุกคืนวัน



พระไตรปิฏกฉบับ ดับทุกข์
โดย ธรรมรักษา

ที่มา : //phrarattanatrai.com
ภาพจาก : //www.dhammajak.net


Create Date : 15 มกราคม 2553
Last Update : 15 มกราคม 2553 21:08:50 น. 2 comments
Counter : 1221 Pageviews.

 
อนุโมทนาค่ะ จุฬาภินันท์เรียนรู้ได้มากเลยค่ะ


โดย: Chulapinan วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:0:37:52 น.  

 
ขอบคุณค่ะ


โดย: บนเส้นทางกลับบ้าน IP: 118.175.86.113 วันที่: 23 มกราคม 2553 เวลา:13:47:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.