Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
23 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
วิธีป้องกัน ฆ่าตัวตาย

วิธีป้องกัน ฆ่าตัวตาย

ผลการสำรวจออกมาแล้ว คนไทยในวันนี้เครียดจัดเข้าขั้นเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายร่วมล้านคน!

อ่านดีๆนะครับ ผลสำรวจที่ว่านี้ไม่ใช่ ‘คนไทยเครียด’ ร่วมล้านคน
แต่เป็น ‘คนไทยเครียดเข้าขั้นเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายแล้ว’ ร่วมล้านคน!
ฟ้า กำลังอึมครึมขนาดไหนก็ลองนึกดู ทุก ๖๐ คนคิดจะฆ่าตัวตาย ๑ คน คุณรู้จักคนถึง ๖๐ คนไหม?
ถ้าใช่ก็อาจแปลว่าหนึ่งในนั้นกำลังชั่งใจอยู่ว่าจะตัดช่องน้อยแต่พอตัวที่ไหนเมื่อไหร่ดี!

ถ้ามีใครประดิษฐ์เครื่องฉาย ‘โลกหลังการฆ่าตัวตาย’ ให้ชมได้ ก็คงไม่มีใครยอมฆ่าตัวตาย
เพราะ ใครๆก็รักตัวและกลัวความทุกข์ ที่อยากตายก็เพราะนึกว่าจะหนีทุกข์ได้พ้นนั่นเอง
แต่ถ้าทราบชัดๆว่าปลิดชีวิตตนเองทิ้งแล้วยิ่งทุกข์หนักกว่าเดิม ใครมันจะไปอยากทำ?

เพื่อให้เห็นภาพ ง่ายที่สุด เราจะพูดว่าพวกที่คิดฆ่าตัวตายนั้น
จิตเศร้าหมองมืดมนจนไม่เหลือปัจจัยในฝ่ายนามให้ดำรงชีวิตอยู่ต่อ แม้จะยังคงเต็มไปด้วยปัจจัยในฝ่ายรูป
เช่น อาหารการกิน อุณหภูมิที่เหมาะสม ตลอดจนสัมผัสหล่อเลี้ยงกายให้คงสภาพอยู่ได้ทั้งหลายแหล่
อย่างไรก็ต้องตาย ทนอยู่ไม่ได้ ทำนองเดียวกับขาดอาหาร น้ำ และอากาศนั่นเอง

ดังนั้น เพื่อไม่ต้องพบกับสภาพที่แย่กว่ามนุษย์ คุณต้องไม่ปล่อยให้จิตมืดแบบดิ่งลงเหว
เมื่อรู้สึกตัวว่า เริ่มมืดต้องหาทางทำให้สว่าง หรือแม้เมื่อรู้ตัวว่ามืดลงจนแทบสายเกินกว่าจะหาทางแก้
ก็ต้องเพิ่มความสว่างขึ้นให้จงได้ สักนิดก็ยังดี เพราะมันหมายถึงการต่อชีวิต ต่อโอกาสได้รับแสงสว่างยิ่งๆขึ้นไป

ความสว่างมีหลายแบบ ใช้ในหลายสถานการณ์ เช่น

๑) สว่างแบบที่สามารถลดแรงกดดันให้อยากตาย
ความสว่างแบบนี้ได้จากการฟังความจริง ต้องฟังให้เข้าใจอย่างเป็นเหตุเป็นผลตามจริง คือ
จิตที่เศร้าหมองก่อนตายย่อมเป็นเหตุให้ไปสู่อบายอย่างแน่นอน
คิดง่ายๆว่าถ้าตายตอนนี้ ตอนที่จิตยังเศร้า ยังอยากคลุ้มคลั่ง มันก็ต้องเศร้าหรือคลุ้มคลั่งต่อ
ไม่ต่างจากคนสติแตกอาละวาดจนหลับ เพราะเหนื่อยที่ย่อมฝันร้ายต่อเป็นแน่แท้
โดยไม่มีสิทธิ์ทำอะไรให้ดีขึ้นจนกว่าฝันร้ายจะหมดกำลัง
การพิจารณาตามจริงย่อมทำให้ยั้งคิด อย่างน้อยก็รู้สึกว่าถ้ายังเป็นมนุษย์ คงมีสิทธิ์ทำจิตให้ดีขึ้นได้บ้าง

๒) สว่างแบบที่สามารถลดความเศร้าหมอง
ความสว่างแบบนี้ได้จากการรู้จักคิด รู้จักพูด และรู้จักทำเหตุแห่งความสุขทางใจ เช่น
สวดมนต์หลายๆรอบจนกว่าใจจะรู้สึกเลื่อมใสเสียงสวดของตัวเอง
หรือริเริ่มกวาดตาหาคนที่ลำบากกว่าคุณแล้วรี่ไปช่วยเหลือให้เต็มที่
หรือเดินเล่นพักผ่อนในสวนสาธารณะกว้างๆเพื่อมองน้ำมองหญ้าอย่างมีสติ
หรือออกกำลังกายในแบบที่ร่างกายและจิตใจจะสดชื่นขึ้น ฯลฯ
ความเคลื่อนไหวดีๆอันใดก็ตาม ขออย่างเดียวสามารถถอนใจไม่ให้แช่จมอยู่กับความเครียด
ความหดหู่ ความสิ้นหวังได้ นับว่าใช้ได้หมด

๓) สว่างแบบที่สามารถป้องกันความ เศร้าหมอง
ความสว่างแบบนี้ได้จากการมีสติให้เป็น! ถ้าเศร้าแล้วแช่แปลว่าขาดสติ เหมือนจมน้ำลึกแล้วว่ายขึ้นฝั่งยาก
แต่ถ้าเริ่มเศร้าแล้วรู้สึกตัวว่าเศร้า แปลว่าสติยังดีอยู่ เหมือนเริ่มลุยน้ำตื้นพอรู้ว่าเปียกก็ถอนเท้ากลับขึ้นฝั่งได้ง่าย

นอก จากการมีสติให้เป็นแล้ว ไม่มีทางลัด ไม่มีอุบาย ไม่มีโวหารอื่นใดช่วยคุณได้จริงเลย
ต่อให้อ่านวิธีเอาชนะความทุกข์สักสิบเล่ม ก็ยังได้ประโยชน์น้อยกว่าลงมือทำจริงง่ายๆ เช่น
ตื่นนอนตอนเช้าแล้วสั่งตนเองให้รู้ทัน ว่าความเศร้าครั้งแรกของวันเกิดขึ้นในใจคุณเมื่อใด!

ผู้เขียน ดังตฤณ


Create Date : 23 กรกฎาคม 2552
Last Update : 23 กรกฎาคม 2552 19:33:48 น. 0 comments
Counter : 1555 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.