Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
6 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
พระพุทธเจ้าสอนเรื่องโทษของการเป็นชู้

พระพุทธเจ้าสอนเรื่องโทษของการเป็นชู้

วันหนึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงช้างเผือกเสด็จเลียบพระนคร
ได้ทอดพระเนตรเห็นหญิงงามนางหนึ่งยืนอยู่ชั้นบนของปราสาท 7 ชั้น ทรงมีพระทัยเสน่หาในนางขึ้นมาทันที
พระองค์ได้ทรงพยายามหาวิธีการที่จะได้นางมาเป็นบาทบริจาริกา เมื่อทรงทราบว่านางเป็นหญิงมีสามีแล้ว
ก็ได้มีพระบัญชานำชายผู้เป็นสามีของนางมาเป็นคนใช้อยู่ในพระราชวัง
ต่อมาพระองค์ได้รับสั่งชายให้คนนี้เดินทางไปทำงานอย่างหนึ่งอันเป็นงานที่ ไม่มีทางจะทำได้สำเร็จได้
โดยรับสั่งให้เดินทางไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างไกลถึง 12 ไมล์ แล้วให้ไปนำดอกโกมุท ดอกอุบล
และดินสีอรุณจากนาคพิภพกลับมาถวายพระองค์ที่กรุงสาวัตถีในเย็นวันเดียวกัน
ให้ทันเวลาสรงสนานของพระองค์
ทั้งนี้โดยพระองค์มีพระราชประสงค์จะสังหารชายผู้นี้หากเขากลับมาไม่ทันเวลา
แล้วริบเอาภรรยาของเขามาเป็นบาทบริจาริกาของพระองค์

ชายผู้เป็นสามีรีบไปนำกล่องอาหารจากภรรยา แล้วออกเดินทางไปแสวงหาสิ่งที่พระราชาทรงต้องการ ในทันที
ในระหว่างทางเขาได้แบ่งอาหารให้แก่เพื่อนร่วมทาง และเขาก็ยังแบ่งข้าวจำนวนหนึ่งโยนลงไปเลี้ยงปลาในน้ำ
แล้วร้องตะโกนขึ้นว่า “ข้าแต่เทพยาและนาคทั้งหลายผู้สถิตอยู่ในแม่น้ำแห่งนี้
พระราชาปเสนทิโกศลมีพระราชบัญชาให้ข้าพเจ้าไปนำดอกโกมุท กอกอุบล และดินสีอรุณกลับไปถวายพระองค์
วันนี้ข้าพเจ้าได้แบ่งปันอาหารให้แก่เพื่อนร่วมทางของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ยังได้นำอาหารเลี้ยงปลาในแม่น้ำ
แล้วด้วย บัดนี้ข้าพเจ้าขอแบ่งส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่พวกท่านทั้งหลาย
ขอท่านทั้งหลายจงได้เมตตาไปนำดอกโกมุท ดอกอุบล และดินสีอรุณมาให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด”
พระยานาคเมื่อได้ยินคำประกาศของชายผู้นั้นแล้ว ก็ได้แปลงร่างเป็นชายชราไปนำดอกโกมุท ดอกอุบล
และดินสีอรุณมาให้ชายผู้นั้น

ใน เย็นวันนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงเกรงว่าชายหนุ่มอาจจะกลับมาทันเวลา
จึงได้มีรับสั่งให้ปิดประตูเมืองก่อนกำหนด เมื่อชายหนุ่มเดินทางมาถึงและพบว่าประตูเมืองปิดเช่นนั้น
ก็ได้โยนดินอรุณไว้บนกำแพงเมืองและแขวนดอกโกมุทและดอกอุบลไว้บนธรณีประตู
จากนั้นเขาได้ตะโกนประกาศออกมาดังๆว่า “ชาวเมืองผู้เจริญทั้งหลาย ขอท่านทั้งหลาบจงรับทราบเถิดว่า
ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากพระราชาสำเร็จลุล่วงแล้ว
พระราชาทรงมีแผนที่จะฆ่าข้าพเจ้าด้วยเหตุไม่สมควร”
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เดินทางจากประตูวังไปที่วัดพระเชตวันเพื่อจะลี้ภัย
และก็พบว่าบรรยากาศในวัดมีความสงบร่มรื่นดียิ่งนัก

ขณะเดียวกัน ข้างพระเจ้าปเสนทิโกศล มีความกระสันด้วยแรงกามราคะ จนไม่สามารถหลับพระเนตรลงได้
ทรงครุ่นคิดหาวิธีที่จะสังหารชายหนุ่มในตอนเช้าแล้วยึดภรรยาของเขามาเป็นบาทบิจาริกาของพระองค์

เมื่อถึงเที่ยงคืนพระองค์ก็ได้สดับเสียงประหลาดว่า ทุ. ส. น. โส. ซึ่งความจริงแล้วเป็นเสียงของพวกเปรต 4 ตน
ที่เสวยทุกข์ทรมานอยู่ในนรกชั้นโลหกุมภี เมื่อได้ทรงสดับเสียงประหลาดนี้แล้วก็ทรงมีพระทัยหวาดหวั่น
เมื่อรุ่งอรุณของวันใหม่พระองค์ได้ทรงสอบถามปุโรหิตถึงเรื่องนี้
ปุโรหิตได้ทูลว่าจะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตแก่พระองค์ จะต้องหาทางแก้ด้วยการบูชายัญ
แต่ต่อมาพระองค์ได้เสด็จไปเข้าเฝ้าพระศาสดา โดยคำกราบทูลของพระนางมัลลิการาช เทวี
เมื่อพระศาสดาสดับเรื่องเสียงประหลาดเหล่านั้นแล้ว ทรงอธิบายแก่พระราชาว่าเป็นเสียงของเปรต 4 ตนที่เกิด
อยู่ในโลหกุมภีนรก เปรต 4 ตนเหล่านี้เคยเกิดเป็นชายหนุ่มลูกเศรษฐีในสมัยพระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ
และได้ตกนรกชั้นโลหกุมภีเพราะประกอบกรรมชั่วเป็นชู้สู่สมกับภรรยาของชายอื่น

พระราชาสดับแล้วก็เกิดความสังเวชพระทัยและทรงเกิดความตระหนักถึงผลกรรมชั่วร้ายที่จะบังเกิดจากการ
เป็นชู้กับภรรยาของผู้อื่น และตัดสินพระทัยว่า “จำเดิมแต่นี้ไป เราจักไม่ผูกความพอใจในภรรยาของชายอื่น”
เพราะว่า “แค่เราได้แต่คิดว่าจะเป็นชู้กับภรรยาของคนอื่นก็มีความทุกข์ทรมานใจจนนอนไม่หลับ ตลอดทั้งคืน”

จากนั้นพระราชาได้กราบทูลพระศาสดาว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ทราบความที่ราตรียาวนานในวันนี้”

ข้างชายหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากที่นั้น ได้กราบพระศาสดาว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระราชาทรงทราบความที่ราตรียาวนานในวันนี้
ส่วนข้าพระองค์เองได้ทราบความที่หนทางแค่โยชน์เดียวไกลมากในวันวาน”

พระศาสดาทรงนำถ้อยคำของพระราชาและของชายหนุ่มนั้นมาผสมผสานกัน
แล้วตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 60 ว่า

ทีฆา ชาครโต รตฺติ
ทีฆํ สนฺตสฺส โยชนํ
ทีโฆ พาลาน สํสาโร
สทฺธมฺมํ อวิชานตํฯ


กลางคืนยาวนานมาก สำหรับคนที่นอนไม่หลับ
ระยะทางแค่โยชน์เดียวไกลมาก
สำหรับที่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าแล้ว
สังสารวัฏ (การเวียนว่ายตายเกิด) เนิ่นนานมาก
สำหรับคนพาลที่ไม่รู้สัจธรรม


เมื่อ จบพระสัทธรรมเทศนา ชายหนุ่มได้บรรลุพระโสดาปัตติผล
ชนเหล่าอื่นอีกเป็นจำนวนมาก ก็ได้บรรลุพระอริยผลทั้งหลาย มีพระโสดาปัตติผล เป็นต้น
พระสัทธรรมเทศนามีประโยชน์แก่มหาชนแล้ว.

ที่มา พลังจิต


Create Date : 06 สิงหาคม 2552
Last Update : 6 สิงหาคม 2552 10:07:17 น. 8 comments
Counter : 1482 Pageviews.

 
คนเราทำดีบางคร้ังไม่มีใครเห็นแต่ให้รู้ไว้ว่าเรารู้ด้วยตัวของเราเองจะดีชั่วเรารู้บางครั้งเราทำไม่ดีก็ทำให้เราทุกข์มากเหมือนกัน


โดย: กุ้ง IP: 114.128.182.224 วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:13:54:47 น.  

 
โอยยยย โดน


โดย: บอย IP: 125.25.170.90 วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:9:58:01 น.  

 
เหมาะสำหรับคนไม่มีความคิด คือปัญญาอ่อนประมาณนั้น. บางคนเรียนก็สูงแต่ความคิดไม่มีเลย.


โดย: pat IP: 124.122.229.26 วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:21:19:30 น.  

 
งืมม ทุกคนก็ไม่ได้รุ้ทุกสิ่ง


โดย: trust_aa_aa วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:10:52:42 น.  

 
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
ถ้าทำผิดแล้วกลับตัวกลับใจได้ก็น่าให้อภัยจริงไหม
แต่ถ้าผิดแล้วผิดอีกก็ไปให้ไกลๆ


โดย: nok IP: 125.25.196.16 วันที่: 28 ตุลาคม 2552 เวลา:18:48:06 น.  

 
มีความสุขบนความทุกข์คนอื่นมันไม่ดีแน่
รู้แล้วก็อย่าทำกันเลยนะ นรกมีไว้รอคนเลวๆ
ที่คิดไม่ได้ แล้วคุณล่ะรักษาศีลหรือเปล่า


โดย: ิbird IP: 125.25.196.16 วันที่: 28 ตุลาคม 2552 เวลา:19:17:35 น.  

 
ขอบคุณค่ะ
สำหรับธรรมะดีๆที่นำมาให้อ่าน


"ให้ธรรมเป็นการให้อันยิ่งใหญ่"

ขอให้ผลบุญจงตกอยู่กับท่านค่ะ

สาธุ


โดย: kiosk-batt วันที่: 17 ธันวาคม 2552 เวลา:1:12:35 น.  

 
ผิดพลาดไปแล้วกลับตัวได้ทันเป็นคนดีไม่ไปคบสามีคนอื่นทำให้ภรรยาเขาปวดใจก็ควรที่จะให้อภัยแต่ถ้าไม่มีจิตสำนึกความถูกผิดเราเชื่อนะว่าตลอดชีวิตของคนที่ทำผิดจะไม่มีวันมีความสุขแม้ตัวเค้าเองอาจสุขสบายทางกายวัตถุสิ่งของแต่ภายในจิตใจไม่มีวันมีความสุขแน่นอน ความสุขที่แท้จริง คือความสุขที่จิตใจ กลับตัวกลับใจได้แล้วสำหรับคนที่ชอบเป็นชู้กับสามีหรือภรรยาคนอื่น


โดย: mawe IP: 192.168.50.194, 202.142.208.13 วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:12:00:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.