พุทธวิธีแก้ความหวาดกลัว
พระพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน เมืองสาวัตถี พราหมณ์ชาณุโสณี ได้เข้าไปเฝ้าและทูลถามปัญหาว่า ภิกษุอยู่ในที่สงบสงัดในป่า หรือ ป่าเปลี่ยวและโดดเดี่ยว ยากที่จะอยู่ได้ หรือ ยากที่จะทำจิตให้เป็นสมาธิได้
พระพุทธเจ้าทรงเล่าความหลังของพระองค์ ครั้งเป็นพระโพธิสัตว์ก่อนที่จะได้ตรัสรู้ว่า ทรงเคยอยู่ในป่าและป่าเปลี่ยวมาแล้ว แต่เพราะทรงมีกาย วาจา และใจ สะอาดสุจริต มีราคะและนิวรณ์ ๕ สงบระงับแล้ว จึงไม่มีความหวาดกลัวแล้ว หรือเกิดความหวาดกลัว เมื่ออยู่ในป่าหรือป่าเปลี่ยวเช่นกัน
ในตอนท้ายสูตร พระพุทธองค์ทรงเล่าเป็นเชิงแนะการแก้ความหวาดกลัวว่า
ถ้าความหวาดกลัวเกิดขึ้นในขณะที่กำลังเดินอยู่ จะไม่ทรงยืน ไม่ทรงนั่ง และไม่ทรงนอนเลย จะทรงเดินจนกว่าความหวาดกลัวจะหายไป
ถ้าความหวาดกลัวเกิดขึ้นในขณะที่กำลังยืนอยู่ จะไม่ทรงเดิน ไม่ทรงนั่ง และไม่ทรงนอนเลย จะทรงยืนจนกว่าความหวาดกลัวจะหายไป
ถ้าความหวาดกลัวเกิดขึ้นในขณะที่กำลังนั่งอยู่ จะไม่ทรงนอน ไม่ทรงยืน และไม่ทรงเดินเลย จะทรงนั่งอยู่จนกว่าความหวาดกลัวจะหายไป
ถ้าความหวาดกลัวเกิดขึ้นในขณะที่กำลังนอนอยู่ จะไม่ทรงนั่ง ไม่ทรงยืน และไม่ทรงเดินเลย จะทรงนอนอยู่จนกว่าความหวาดกลัวจะหายไป
ภยเภรวสูตร ๑๒/๒๖-๓๒
พระสูตรนี้ ทรงแสดงว่าผู้ที่ไม่มีความบริสุทธิ์ทาง กาย วาจา และใจ เป็นผู้ทุศีล มีความปรารถนาลามก หวังลาภยศชื่อเสียง แล้วหลบเข้าไปอยู่ในป่าหรือป่าเปลี่ยว เพื่อหวังความนิยมเป็นคนขลัง หรือเพื่อเรียกร้องศรัทธา
บุคคลประเภทนี้ ย่อมเรียกร้องความหวาดกลัว หรือภัยอันเกิดจากป่าและป่าเปลี่ยวได้ร้อยแปด
ส่วนผู้ที่มีจิตใจเสียสละ ลาภ ยศ สรรเสริญ ได้อย่างแท้จริงแล้ว ย่อมจะไม่มีความหวาดกลัวสิ่งใด ๆ เลย แม้จะเกิดขึ้นบ้างบางครั้ง เพราะจิตยังไม่หลุดพ้น ก็สามารถจะระงับและข่มความหวาดกลัวได้ โดยอาศัยบารมีธรรมช่วย ที่ตนได้ประพฤติมาดีแล้ว เป็นต้น
การระงับความกลัว ด้วยวิธีหนามยอกเอาหนามบ่งคือ เมื่อเกิดความหวาดกลัวขึ้นในอิริยาบถใด ๆ ก็ให้อยู่ในอิริยาบถนั้น ๆ จนกว่าจะหายหวาดกลัว จึงค่อยเปลี่ยนไปอิริยาบถอื่น ถ้าไม่หายก็ไม่เปลี่ยน ผู้ที่มีความกลัวน่าจะลองเอาไปปฏิบัติดู
อันความกลัวใด ๆ ของมนุษย์ในโลกนี้ ที่จะยิ่งไปกว่าความตายเป็นไม่มีแล้ว เมื่อคนเราสามารถปลงภาระในความตายของตนได้แล้ว ความกลัวในสิ่งอื่นย่อมจะหมดไปเอง เพราะสิ่งใด ๆ ในโลกล้วนแต่สิ้นสุดลงที่ความตายทั้งสิ้น
ดังนั้น การเจริญมรณัสสติ คือการระลึกถึงความตาย จึงเป็นอุบายหนึ่งในหลายอย่าง ที่จะช่วยบรรเทาความหวาดกลัวได้อย่างดี ข้อสำคัญคือจะต้องทำให้จริงจัง และทำอยู่สม่ำเสมอ
เมื่อเรากำจัดความกลัวตายลงได้เพียงอย่างเดียว ความกลัวสายอื่น ๆ ก็กลายเป็นเรื่องเล็กไปหมด เพราะความตายมันเป็นความสิ้นหวังของทุกสิ่งในโลก
ภิกษุอยู่รูปเดียว เป็นเหมือนพรหม อยู่สองรูป เป็นเหมือนเทวดา อยู่ด้วยกันมากกว่าสามรูปขึ้นไป เป็นเหมือนชาวบ้าน ย่อมมีแต่ความโกลาหล มากขึ้น ฉะนั้น ภิกษุจึงควรอยู่แต่ผู้เดียว
ยถา พฺรหฺมา ตถา เอโก ยถา เทโว ตถา ทุเว ยถา คาโม ตถา ตโย โกลาหลํ ตตุตฺตรํ ยโสชเถรคาถา ๒๖/๓๐๐
จาก พระไตรปิฏกฉบับ ดับทุกข์ โดย ธรรมรักษา ที่มา : //phrarattanatrai.com/files/tripidok/TPD020.htm ภาพจาก : //www.dharmathai.com
Create Date : 16 มกราคม 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 16 มกราคม 2553 21:34:18 น. |
Counter : 1496 Pageviews. |
|
|
|