27 ก.ย.2556 ครบรอบ 2 เดือนเต็ม เหตุท่อส่งน้ำมันดิบ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) รั่วไหลกลางทะเล จ.ระยอง จนกระทั่ง กระแสน้ำพัดพาคราบน้ำมันดิบบางส่วนที่รั่วไหลเข้าสู่ชายฝั่งอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ทำให้หาดทรายและน้ำทะเลบริเวณอ่าวพร้าวกลายเป็นสีดำ จากคราบน้ำมันดิบที่ปกคลุมพื้นที่อ่าวพร้าวจนเกือบเต็ม 100% ...
"ทะเลสีฟ้าครามใส และ หาดทรายสีขาวนวล กลายเป็นสีดำ"
กระแสน้ำและกระแสลม พัดพาคราบน้ำมันดิบที่รั่วไหลเข้าปกคลุมพื้นที่อ่าวพร้าวจนเกือบเต็ม 100% ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้นคือกลิ่นเหม็นของน้ำมันดิบส่งกลิ่นเหม็นจนทำให้นักท่องเที่ยวต้องเก็บผ้าใส่กระเป๋าเช็กเอาต์กลับก่อนกำหนด
ท่าทีของ PTTGC และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ต่อการแก้ไขปัญหาหลังเกิดเหตุท่อส่งน้ำมันดิบรั่ว ทำให้ภาคประชาชนและภาคสังคมออกมาเคลื่อนไหว เพื่อทวงถามความจริงใจในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เริ่มจากปรากฏการณ์รวมตัวของกลุ่มนักอนุรักษ์ที่ได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียว หลังจากนายแพทย์รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าของรางวัลลูกโลกสีเขียว ปี 2550 ประกาศคืนถ้วยพร้อมเงินรางวัล 1 แสนบาท ให้กับ ปตท. โดยระบุชัดเจนว่าไม่สามารถยอมรับพฤติกรรมความไม่จริงใจของกลุ่ม ปตท. ได้อีกต่อไป จนนำมาซึ่งการรวมตัวของนักอนุรักษ์ที่ได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียว รวม 14 ราย นำถ้วยและเงินรางวัลลูกโลกสีเขียว คืนให้กับ ปตท.
ในขณะที่เครือข่ายภาคประชาชน ภายใต้ชื่อ กลุ่มติดตามน้ำมัน ปตท.รั่ว รณรงค์ประชาชนร่วมลงชื่อผ่าน Change.org ยื่นเสนอต่อรัฐบาล เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาตรวจสอบกรณีน้ำมันปตท.รั่ว จนได้รายชื่อทั้งสิ้น 32,000 รายชื่อยื่นเสนอต่อรัฐบาลแต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบในเรื่องดังกล่าว!!!
โดย น.ส.สุภาภรณ์ มาลัยลอย ตัวแทนกลุ่มติดตามน้ำมัน ปตท.รั่ว กล่าวว่า จากการเพิกเฉยของรัฐบาลแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลขาดความจริงใจในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และทางกลุ่มฯ จะเดินหน้ากดดันให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้จนถึงที่สุด เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่มีความชัดเจน และมีมาตรการควบคุมตรวจสอบไม่ให้เหตุนี้เกิดซ้ำอีกในอนาคต!!!
ล่าสุด กลุ่มติดตามน้ำมัน ปตท.รั่ว เตรียมลงพื้นที่ จ.ระยอง ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ เพื่อร่วมกับประชาชนในพื้นที่ จัดงาน วิกฤติน้ำมันรั่ว : 2 เดือนผ่านไป การฟื้นฟูเสม็ดสำเร็จแล้วจริงหรือ โดยชาวบ้านจะร่วมกันจัดกิจกรรมทำความสะอาดทะเล ด้วยการเก็บก้อนน้ำมันทาร์บอล กระดองหมึก และซากสัตว์น้ำ ที่ถูกน้ำทะเลพัดขึ้นมาบนชายหาด แสดงถึงผลกระทบของเหตุการณ์น้ำมันรั่วว่ายังคงมีอยู่ รวมทั้งจัดเวทีสาธารณะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างนักวิชาการและชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่ว
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา PTTGC ออกแถลงการณ์แจ้ง ไทยรัฐออนไลน์ กรณีการนำเสนอข่าวเหตุท่อส่งน้ำมันดิบ PTTGC รั่วไหลกลางทะเล จ.ระยอง โดยระบุว่า รายงานการชี้แจงมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวของ PTTGC ในช่วงที่ผ่านมาอาจยังไม่ครอบคลุมเรื่องค่าใช้จ่ายในการดำเนินการขจัดคราบน้ำมันที่ต้องชดเชย ให้กับหน่วยงานอื่น ๆ เช่น กองทัพเรือ หรือกรมเจ้าท่า เป็นต้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในระยะยาว แต่การดำเนินการที่ผ่านมาของ PTTGC น่าจะเพียงพอ ที่จะทำให้เห็นถึงความพยายามของ PTTGC ในการเยียวยาและฟื้นฟูผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุดังกล่าวในระยะยาวต่อไป
ด้านนายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการ กปน. และประธานคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและประเมินค่าความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมอันเนื่องมาจากน้ำมัน (กปน.) ให้สัมภาษณ์ ไทยรัฐออนไลน์ ถึงความคืบหน้า ของการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การคิดค่าใช้จ่าย และค่่าความเสียหายของผู้ได้รับผลกระทบ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเล บริเวณทุ่นรับน้ำมันของ PTTGC ว่า ขณะนี้มีบางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยื่นสรุปค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งหมดเสนอต่อ กปน.แล้ว เช่นหน่วยงานกองทัพบกและกองทัพเรือ แต่ในส่วนค่าใช้จ่ายของทางจังหวัดระยองยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากขณะนี้คณะกรรมการเยียวยาฯ จ.ระยอง ยังไม่สามารถสรุปผลการเจรจาเยียวยากับผู้ได้รับผลกระทบบางกลุ่มได้ ส่งผลให้การดำเนินงานในขั้นตอนของการรวบรวมค่าใช้จ่ายเพื่อยื่นเสนอขอเบิกจ่ายงบต่อ PTTGC ยังไม่สามารถดำเนินการได้
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามเรื่องแผนฟื้นฟูระยะยาว ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ กปน.ดำเนินการร่วมกับ ก.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วางแผนงานฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาในระยะยาว ขณะนี้ กปน.ได้ดำเนินการจัดประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในบางส่วนเป็นการภายในแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยคาดว่าจะจัดประชุมขึ้นอีกครั้งในเดือน ต.ค.นี้ หลังจากจัดประชุมครั้งล่าสุดต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เลขาธิการคณะกรรมการ กปน. ยังให้ข้อคิดด้วยว่า การยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย หรือการชดเชยเยียวยาต่อกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ จะต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบด้วยว่าได้รับผลกระทบจริงหรือไม่ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย และเท่าที่ผ่านมา ปตท.ก็จ่ายเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบจริง แต่ผู้ได้รับผลกระทบบางรายที่ยื่นขอเยียวยาได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วจริงหรือไม่ แม้จะตรวจสอบพบในภายหลังว่ามีการสวมสิทธิ์รับเงินเยียวยา และบางรายพบว่าไม่ได้รับผลกระทบจริงแต่ก็ฉวยโอกาสยื่นขอรับเงินเยียวยาด้วย เมื่อมีการพิสูจน์ทราบหลังจากจ่ายเงินเยียวยาไปแล้ว ปตท.ก็ไม่ได้เรียกเงินดังกล่าวคืนกลับมาแต่อย่างใด!!!
เลขาธิการคณะกรรมการ กปน. ยังกล่าวถึงกรณีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก PTTGC โดยยืนยันว่าการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก PTTGC จะเกิดขึ้น เมื่อ PTTGC ไม่ทำตามเงื่อนไขในการจ่ายเยียวยาชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าว แต่นับจากวันที่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ยังไม่มีมูลเหตุใด ๆ ที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก PTTGC อีกทั้งผลการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลในทะเล ที่มีคุณหญิงทองทิพ รัตนะรัต ผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมี เป็นประธานกรรมการ รายงานผลการตรวจสอบชัดเจนว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ ไม่ใช่กรณีการประมาทเลินเล่อ จึงไม่มีเหตุที่จะต้องยื่นฟ้อง
ขณะนี้ประเทศชาติเสียหายพอหรือยัง ปตท.เองก็ยินดีดูแลตั้งแต่มาบตาพูดอยู่แล้ว ที่ เกาะเสม็ด เค้าก็รับปากว่าจะดูแลในระยะยาว ปตท.รับที่จะดูแลทั้งหมด สมควรที่จะไปฟ้องร้องอะไรอีก จะฟ้องให้ล้มละลายเลยหรือไม่จึงจะพอใจ
เลขาธิการคณะกรรมการ กปน. ให้คำตอบสำหรับคำถามสุดท้ายของ ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ก่อนสิ้นสุดการสนทนา.