หน่วยงานรัฐสหรัฐปิดทำการ
หน่วยงานรัฐสหรัฐปิดทำการ
เศรษฐกิจติดดิน ธนาคารไทยพาณิชย์
หน่วยงานภาครัฐของสหรัฐ ต้องปิดทำการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังจากสภาคอง เกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในเรื่องงบประมาณสำหรับปีการคลัง 2557 ซึ่งพรรครีพับลิกันพยายามจะเชื่อมโยงกับการเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายประกันสุขภาพ (Obamacare)
โดยสหรัฐปิดการดำเนินงานของส่วนงานที่ไม่ได้มีความสำคัญเร่งด่วน ซึ่งส่วนงานดังกล่าวคิดเป็น 1 ใน 3 ของรัฐบาลสหรัฐ และจะส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐในส่วนงานดังกล่าวประมาณ 800,000 คน (0.5% ของกำลังแรงงานสหรัฐ) ต้องหยุดงานโดยไม่ได้รับเงินเดือน หน่วยงานที่จะถูกพักงานจะครอบคลุมตั้งแต่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศไปจนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับนโยบายเศรษฐกิจในกรุงวอชิงตัน
ประเด็นที่สำคัญคือผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจรายจ่ายของภาครัฐที่ลดลงอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของภาคเอกชนทั้งการใช้จ่ายอุปโภคบริโภคและการตัดสินใจลงทุนของภาคธุรกิจดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นแล้วในการเจรจาเรื่องหน้าผาการคลัง (Fiscalcliff) ในช่วงปลายปี 2555
โดยในครั้งนี้ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นอาจสูงกว่าครั้งที่ผ่านมา หากนักลงทุนประเมินว่าการปิดทำการทำงานของหน่วยงานรัฐในครั้งนี้จะหมายถึงความยากลำบากในการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะ (DebtCeiling) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
ทั้งนี้ความไม่แน่นอนในการเจรจาเรื่องงบประมาณและเพดานหนี้สาธารณะดังกล่าวเพิ่มความเป็นไปได้ให้ธนาคารกลางสหรัฐ ตัดสินใจเลื่อนการปรับลดขนาดมาตรการคิวอีไปจนถึงช่วงต้นปี 2557
สำนักวิจัยต่างประเทศประมาณการว่าการที่หน่วยงานภาครัฐปิดทำการ 2-3 วันจะทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ในไตรมาส 4 ลดลงเพียงประมาณ 0.1% หากหน่วยงานรัฐต้องหยุดทำการเป็นเวลา 1 สัปดาห์อาจทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจลดลง 0.2-0.3% จากที่ประมาณการว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวได้ประมาณ 2.5% ในไตรมาส 4
ส่วนการส่งออกของไทยจะแทบไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากสินค้าหลักของไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐ อยู่ในกลุ่มสินค้าคงทน เช่น อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า การปิดทำการเพียงชั่วคราวไม่น่าจะกระทบต่อการตัดสินใจของ ผู้บริโภคในการซื้อสินค้าดังกล่าว
Create Date : 05 ตุลาคม 2556 |
Last Update : 5 ตุลาคม 2556 6:15:03 น. |
|
0 comments
|
Counter : 840 Pageviews. |
|
|
|
|
|