ม็อบ"รถจดประกอบ"ล้อมกรมสรรพสามิตขอจดทะเบียน

วันนี้ (30 เม.ย.) ที่กรมสรรพสามิต ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต ชมรมรถจดประกอบแห่งประเทศไทย ประมาณ 200 คน ขับรถมารวมตัวชุมนุมหน้ากรมสรรพสามิต เพื่อฟังคำตอบ กรณียื่นหนังสือขอเสียภาษี และจดทะเบียนให้ถูกต้อง ก่อนที่กฎหมายห้ามนำเข้าโครงรถของกระทรวงพาณิชย์ มีผลบังคับใช้สัปดาห์ที่ผ่านมา

นายสุทิน เหมราช หนึ่งในแกนนำชมรมรถจดประกอบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีรถจดประกอบที่รอการจดทะเบียนค้างอยู่มากกว่า 1,000 คัน ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.54 ได้ยื่นขอชำระภาษี และจดทะเบียนไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการจดทะเบียน ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะตั้งแต่ครม.มีมติดังกล่าว ทำให้ขายรถไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่ในส่วนของผู้ประกอบการนี้ได้นำเข้า และเสียภาษีอย่างถูกต้องตามราคาหน้าโรงงานมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา แต่กลับถูกสังคมตัดสินไปแล้วว่าเป็นรถเลี่ยงภาษี เราจึงมาขอความเป็นธรรม และพร้อมจะเสียภาษีให้ถูกต้อง

"พวกเราทนสภาวะขาดทุนไม่ไหว จึงมาขอความเป็นธรรม และบรรเทาทุกข์ เพราะสังคมหาว่าเราเป็นรถเลี่ยงภาษี เราจึงมาขอเสียภาษีให้ถูกต้องในอัตราภาษีที่เคยชำระไปแล้วด้วย ก่อนหน้านี้ได้ไปพบกรมการขนส่งทางบกแล้ว ได้รับแจ้งว่าหากเสียภาษีแล้วก็ใช้งานได้ตามปกติ แต่กรมสรรพสามิตกลับไม่ให้คำตอบว่าเราจะจดทะเบียนได้หรือไม่ และไม่กำหนดระยะเวลา ไม่ตอบคำถามใดๆ ที่ชัดเจนด้วย ดังนั้นพวกเราจึงจะรอจนกว่าจะได้รับคำตอบ"แกนนำผู้ชุมนุม ย้ำ

นายสุทิน กล่าวด้วยว่า โครงรถเก่าที่นำเข้ามานั้น ได้ชำระภาษี 80% บวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เครื่องยนต์เก่าเสียภาษี 10 % บวกแวต 7% พร้อมทั้งมีหลักฐานการชำระภาษีทั้ง ใบขนสินค้า ใบเสร็จการเสียภาษี ไม่มีทางเป็นไปได้ที่ผู้นำเข้าจะเลี่ยงภาษี ด้านชิ้นส่วนอื่นที่ซื้อในประเทศก็มีใบเสร็จรับเงินอะไหล่ทุกชิ้น และกรมสรรพสามิตเป็นผู้เห็นชอบราคาหน้าโรงงาน ย่อมไม่ใช่การเลี่ยงภาษีแต่อย่างใด

“ผู้ประกอบการเพียงแค่ขอระบายรถจดประกอบที่ค้างอยู่ในสต็อกก่อนเท่านั้น เพื่อที่จะได้ทำการค้าขายต่อไปได้ หากรัฐบาลให้จดทะเบียน เชื่อว่ากว่า 1,000 คันที่ค้างอยู่นั้นจะจดทะเบียนได้ทันไม่เกิน 30 วันตามที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ส่วนอนาคตจะดำเนินธุรกิจรถจดประกอบได้หรือไม่นั้น ค่อยหาทางแก้ไขกันภายหลังต่อไป ยอมรับว่าทำให้ธุรกิจเสียหายมากกว่าหลักพันล้านบาท ขณะที่กรมสรรพสามิตก็ขาดรายได้ส่วนนี้ไปด้วย”

ต่อมาเวลา 14.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยกระดับการชุมนุม หลังไม่มีท่าทีการเจรจาจากกรมสรรพสามิต โดยขับรถยนต์จดประกอบปิดประตูทางเข้าออก บางส่วนขับรถมาปิดถนนนครไชยศรี ด้านหน้ากรมสรรพสามิต เป็นเหตุให้ประชาชนที่สัญจรไปมา รวมไปถึงประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว ได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยัง รวมตัวหน้าประตูทางเข้าออก ทำให้รปภ.กรมสรรพสามิตต้องปิดประตูทางเข้าออก ส่งผลให้พนักงานที่อยู่ภายในตัวอาคารไม่สามารถเดินทางออกมาด้านนอกได้

กระทั่งเวลา 16.00 น.พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รองผบช.น.มาเจรจาผู้ชุมนุม ด้วยการขึ้นไปพูดบนรถขยายเสียง ร้องขอให้เปิดทาง แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอม พล.ต.ต.วิชัย เลยใช้ไม้แข็ง สั่งการให้สน.ดุสิต จับกุมผู้กีดขวางการจราจรทันที โดยจับผู้ชุมนุมได้ 3 คนแล้วนำไปสอบสวนที่โรงพัก ทำให้ผู้ชุมนุมต้องเปิดทางให้ประชาชนสัญจรตามปกติ และเป็นการสลายการชุมนุมไปโดยปริยาย

รายงานข่าวจากกรมสรรพสามิต แจ้งว่า กรมฯ พร้อมรับจดทะเบียนให้แก่ผู้ประกอบการที่มาเรียกร้องดังกล่าว แต่ต้องเป็นอัตราภาษีตามที่กรมฯ ได้ประกาศเอาไว้ ติดตามอัตราภาษีของรถแต่ละประเภทขนาดเครื่องยนต์ได้ที่กรมฯ และเว็บไซด์ของกรมฯ แต่กลุ่มผู้ประกอบการกลับไม่ยอมจะเสียภาษีตามที่กำหนด อ้างว่าสูงเกินไป และต้องการให้ปรับลดภาษีลงมา พร้อมให้ถือว่าเป็นการปล่อยผีเพื่อให้รถที่ค้างสต๊อกอยู่ได้รับการจดทะเบียนให้ถูกต้อง ทั้งนี้ ยืนยันว่า กรมฯ คงดำเนินการให้ไม่ได้ เนื่องจากต้องดูแลทุกภาคส่วน ทั้งรถนำเข้าทั้งคัน รถที่บริษัทภาคเอกชนต่างชาติเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย ซึ่งจะมีอัตราภาษีแต่ละประเภทแบ่งแยกไว้ชัดเจนแล้ว หากยอมให้แก่ผู้ประกอบการรถจดประกอบเหล่านี้ ก็จะตอบคำถามกับภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ไม่ได้ รวมทั้งจะไม่เป็นธรรมแก่บริษัทต่างๆ ที่ลงทุน และดำเนินการอย่างถูกกฎหมายมาโดยตลอด.