พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 
9 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
เอกชนสับ 4มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐแก้ไม่ตรงจุด

เอกชนสับ 4มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐแก้ไม่ตรงจุด

ผู้ประกอบการท่องเที่ยว-ยานยนต์ ประสานเสียง 4 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แก้ปัญหาไม่ตรงจุด เหตุเห็นผลในระยะยาว...

เมื่อวันที่ 8 ส.ค. นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) เปิดเผย “ไทยรัฐออนไลน์” ถึง 4 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในครึ่งหลังของกระทรวงการคลัง ว่า มาตรการดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในภาคธุรกิจท่องเที่ยว  แม้ว่าจะมีมาตรการสนับสนุนด้านภาษี โดยให้นำค่าใช้จ่ายในการจัดสัมมนาภายในประเทศมาหักภาษีได้ 2 เท่า ในปีภาษี 2556-2557 แต่ก็ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นได้ไม่มากนัก  เพราะปัจจุบันนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เที่ยวด้วยตัวเองถึง 90% มีน้อยมากที่ใช้บริการบริษัททัวร์ หากรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังจริง ควรออกเป็นมาตรการภาษีทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา ที่สำคัญเพื่อช่วยให้ธุรกิจทัวร์ในประเทศยังสามารถดำเนินต่อไปได้ เพราะที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาเที่ยวไทยด้วยตัวเอง ทำให้ธุรกิจทัวร์ หันไปทำทัวร์ต่างประเทศมากขึ้น

เอกชนประเมินแก้ปัญหาไม่ตรงจุด

นายยุทธชัย กล่าวว่า มาตรการที่ออกมาแทบจะช่วยกระตุ้นไม่ได้ ไม่ทั่วถึง และไม่ตรงจุด ที่ผ่านมา สทน. เคยเสนอมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ผ่านสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ว่าให้ทั้งนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา ที่ท่องเที่ยวด้วยการใช้บริการทัวร์ สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ โดยในส่วนของบุคคลธรรมดา เสนอให้หักลดหย่อนภาษีได้ 30,000 บาท เพื่อจูงใจ นอกจากนี้ ยังเสนอให้แจกโบนัสเป็นคูปองเงินสด มูลค่า 10,000 บาท ให้แก่ข้าราชการใกล้เกษียณอายุ นำมาใช้ท่องเที่ยว เพราะมองว่าจำให้เกิดการใช้จ่ายเงินหมุนไปอีก 2 วงรอบ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ

ส่วนมาตรการภาษีที่ให้ผู้ประกอบการนำเงินลงทุน ซื้อหรือซ่อมแซมทรัพย์สินอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ แต่ไม่รวมถึงยานพาหนะ สามารถหักค่าเสื่อมในอัตราเร่งที่ 50% ของมูลค่าทรัพย์สินในปีแรก และส่วนที่เหลือทยอยหักในระยะเวลา 5 ปี ในการลงทุนในปีภาษี 2556 และ 2557 ไม่มีประโยชน์กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพราะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ไม่จำเป็นต้องลงทุนเครื่องจักรขนาดใหญ่ แต่จำเป็นต้องใช้รถในการพานักท่องเที่ยวทัวร์ แต่กลับไม่ได้รับการสนับสนุน

แนะรัฐลดต้นทุนเอกชน หนุนดัมพ์ราคาทัวร์

นายยุทธชัย กล่าวว่า การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว รัฐบาลควรมองถึงเรื่องต้นทุนของผู้ประกอบการ หากมาตรการทำให้ต้นทุนต่ำลงได้ ก็จะสามารถลดราคาทัวร์ได้ และที่สำคัญจะทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวไทยแข่งกับต่างประเทศได้ โดยเฉพาะเวียดนาม และเมียนมาร์ ที่กำลังจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว

ปัจจุบัน ธุรกิจท่องเที่ยว สร้างรายได้ประมาณ 20% ของจีดีพี หรือมีมูลค่า 1.2 ล้านล้านบาท ส่วนธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศปีนี้ตั้งเป้าหมาย จำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศ 137 ล้านคนครั้ง และสร้างรายได้ 7 แสนล้านบาท แต่จะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ และสถานการณ์ทางการเมือง


หนุนผลิต Eco car จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในอีก 3 ปี

ขณะที่ มาตรการการสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (Eco Car) ระยะที่ 2 เป้าหมาย 5 แสนคัน เปิดรับสมัครผู้ผลิตที่มีความสนใจและมีความพร้อมในการลงทุนรายใหม่นอกเหนือจาก 5 รายเดิม

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยกับ ไทยรัฐออนไลน์ ว่า มาตรการที่ออกมาถือเป็นมาตรการที่ดี ที่จะช่วยต่อยอดการผลิตรถยนต์ Eco Car แต่เมื่อมาตรการยังไม่มีเงื่อนไขการสนับสนุนที่ชัดเจน ผู้ประกอบการก็ยังตัดสินใจไม่ได้ ตามปกติเมื่อได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ผู้ประกอบการจะต้องใช้เวลาเตรียมตัวอีก 2-3 ปี ดังนั้นกว่าจะเริ่มกระบวนการผลิตได้ น่าจะใช้เวลาอีก 3 ปี

“ทราบว่าเฟส 2 ภาครัฐจะกำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ตามการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ หากปล่อยน้อยก็จะเสียภาษีถูก คาดว่าเฟส 2 จะอยู่ที่ 14% จากเฟสแรก 17% หากเป็นไปตามนี้ ราคารถก็จะถูกลง ก็จะทำให้มีลูกค้ากลุ่มใหม่มากขึ้น ผู้บริโภคที่มีรายได้น้อย ถึงปานกลางก็จะมีรถเป็นของตัวเองได้” นายสุรพงษ์ กล่าว

สำหรับการสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ Eco Car ระยะที่ 1 มีผู้ประกอบการยื่นลงทุน 5 ราย ได้แก่ นิสสัน ฮอนด้า มิตซูบิชิ ซูซูกิ และโตโยต้า ที่จะผลิตรถ Eco Car ออกมาในปีนี้ โดยตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน มียอดผลิตรถยนต์ Eco Car แล้วกว่า 5 แสนคัน ส่วนใหญ่กว่า 60% ผลิตเพื่อส่งออก แต่หลังจากมีมาตรการคืนเงินภาษีรถยนต์คันแรก มีความต้องการสูง จึงปรับสัดส่วนมาผลิตเพื่อขายในประเทศเป็น 60%

คาดยอดขายรถยนต์ฟื้นหลัง ก.ย.

นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ว่า กระทรวงการคลัง และ บีโอไอ คงกำลังกำหนดเงื่อนไขอยู่ จึงต้องรอดูว่าโครงการนี้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ที่ผ่านมารถยนต์ Eco Car ในประเทศเริ่มมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ยอดขายรถยนต์อยู่ในช่วงชะลอตัว ซึ่งเป็นปกติของช่วงอยู่แล้วว่า ช่วงฤดูฝนนี้จะไม่ใช่ฤดูขายรถยนต์อยู่แล้ว แต่ภาพรวมถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ดี อีกทั้งเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่หลายคนกังวล ก็ไม่มีเหตุรุนแรงอะไร มองว่า เมื่อพ้นจากช่วงนี้ไปประมาณเดือน ก.ย. คาดว่ายอดขายรถยนต์น่าจะดีขึ้นตามลำดับ.




Create Date : 09 สิงหาคม 2556
Last Update : 9 สิงหาคม 2556 5:10:14 น. 0 comments
Counter : 1440 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.