กสอ. ฟุ้ง SMEs ใช้ไอทีทำธุรกิจฟันกำไร 200 ล้าน/ปี
กสอ. ฟุ้ง SMEs ใช้ไอทีทำธุรกิจฟันกำไร 200 ล้าน/ปี กสอ.ดัน SMEs ใช้โซเชียลยกระดับการแข่งขัน ฟุ้งสามารถลดต้นทุนและเพิ่มกำไรโดยรวมได้ไม่น้อยกว่า 200 ล้าน/ปี คาดปีนี้มีผู้ประกอบการสนใจเพิ่มจากปีที่แล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 แน่ เมื่อ วันที่ 7 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโสภณ ผลประสิทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เล็งเห็นความสำคัญด้านการใช้ไอทีในปัจจุบัน สามารถนำมาเป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการบริหารจัดการใน ภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อมได้เป็นอย่างดี ตลอดจนสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ ด้วยต้นทุนค่อนข้างต่ำ ทำให้ธุรกิจอยู่รอดและมีผลกำไรมากขึ้นได้ จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยด้วย เทคโนโลยีสารสนเทศ (Enhancing SMEs Competitiveness Through IT: ECIT) หรือโครงการอีซี่ไอทีขึ้น "โครงการอีซี่ไอทีเป็นหนึ่งในนโยบายด้าน การส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมด้วยระบบไอทีของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ก่อนการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 โดยเป็นโครงการที่ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน SMEs ให้ได้รับการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ส่งเสริมให้ SMEs ใช้ระบบไอทีในธุรกิจอุตสาหกรรม ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 แนวทาง คือ มุ่งเน้นซอฟต์แวร์การบริหารงานครบวงจรและซอฟต์แวร์เฉพาะด้านผ่านระบบเครือ ข่ายอินเทอร์เน็ต ด้วยเทคโนโลยี Cloud Computing รวมถึงการส่งเสริมให้ใช้ Mobile Application ที่ใช้งานง่ายเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มผลิตภาพของกิจการ, การพัฒนาบุคลากร SMEs ด้านไอที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานผ่านหลักสูตรการอบรมอย่างการสร้างโอกาส ธุรกิจด้วย CRM และ KM การใช้ Social Network เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาด โดยกำหนดเป้าหมายอบรม 1,500 รายทั่วประเทศ, ส่งเสริมระบบ e-Marketplace และ e-Supply Chain เพื่อสร้างร้านค้าออนไลน์ให้กับธุรกิจอุตสาหกรรม ซึ่งหากมีการรวมกันของกลุ่มประเทศอาเซียนจะยิ่งทำให้โอกาสค้าขายทางออนไลน์ เปิดกว้างมากขึ้น และขยายโอกาสเข้าสู่คนมากกว่า 600 ล้านคน ซึ่งช่องทางออนไลน์ รวมถึงโซเชียลมีเดีย ถือเป็นช่องทางเดียวที่มีศักยภาพ สามารถลดต้นทุน และเพิ่มยอดขายได้ในเวลาเดียวกัน และส่งเสริม SMEs โดยใช้ Green IT ด้วยระบบ Dead Stock Management เพื่อลดต้นทุนในการเก็บสต๊อกสินค้าและเพิ่มมูลค่าของสต๊อกสินค้าเพิ่มขึ้น" นายโสภณ กล่าว ขณะที่ นายวาที พีระวรานุพงศ์ ผู้อำนวยการส่วนบริการสารสนเทศ สำนักบริหารยุทธศาสตร์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันมี SMEs ที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ปี 2552 2555 ทั้งหมด 360 กิจการ ในหลายภาคอุตสาหกรรม ทั้งภาคการค้า ภาคการผลิต ภาคการบริการ ที่มีการใช้ระบบไอทีเป็นเครื่องมือในการบริหารงานและพัฒนาคุณภาพสินค้าและ บริการ ทั้งในเรื่องของการวางแผนการผลิต การสต๊อกวัตถุดิบ การติดตามการส่งของตามคำสั่งซื้อ ตลอดจนการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ ซึ่งส่งผลในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สามารถลดต้นทุนและเพิ่มกำไรโดยรวมได้ไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท ต่อปี โดยคาดว่าในปี 2556 นี้ จะมี SMEs ที่ให้ความสนใจในเรื่องของการบริหารกิจการด้วยระบบไอทีเป็นจำนวนมากขึ้น ซึ่งน่าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมากว่าร้อยละ 20 เนื่องจากผู้ประกอบการเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมด้วย โซเชียลมีเดียมากขึ้น"
Create Date : 08 เมษายน 2556 |
Last Update : 8 เมษายน 2556 3:26:00 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1321 Pageviews. |
|
|