เช็กเรตติ้ง"โค้ก-เป๊ปซี่-เอส" "18เดือน"ศึกน้ำดำ-กับ"บอลโลก"
เช็กเรตติ้ง"โค้ก-เป๊ปซี่-เอส" "18เดือน"ศึกน้ำดำ-กับ"บอลโลก"
รายงานพิเศษ
ข้อมูลจากวงการโฆษณาที่วัดจากการบริโภคจริงระบุว่า ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกปีนี้คาดการณ์ว่า น่าจะช่วยดันให้ยอดขายเครื่องดื่มโตขึ้น 5-10% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,800 ล้านบาท
ตลาดใหญ่ของเครื่องดื่มไทยและทั่วโลก คือ "น้ำอัดลม" โดยเฉพาะน้ำดำ ทำให้ปีนี้ถือเป็นปีทองเพราะนอกจากอากาศจะร้อนกว่าหลายๆ ปีแล้ว ยังมีมหกรรมฟุตบอลโลกมาช่วยกระตุ้นตลาดอีกทางหนึ่ง
ทำให้ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่คือ "โค้ก" และ "เป๊ปซี่" เปิดศึกด้านการตลาดกันในทุกประเทศทั่วโลก ที่ต่อสู้กันมาอย่างยาวนานนับร้อยๆ ปีจนกลายเป็นมหากาพย์สงครามน้ำดำ ทะลุจุดเดือดทุกครั้งในปีที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลกหรือมหกรรมกีฬาใหญ่ๆ
แต่สำหรับเมืองไทยถือว่าพิเศษกว่าประเทศอื่นๆ เนื่องจากมีถึง 3 ค่ายใหญ่คือ นอกจากโค้ก และเป๊ปซี่แล้ว ยังมี "เอส" จากเสริมสุข ที่เข้ามาทำตลาดได้เกือบๆ 2 ปี
"เอส โคล่า" ถือกำเนิดขึ้นมาจากปัญหาไม่ลงตัวของสัญญาใหม่ระหว่างเสริมสุขที่เติบใหญ่และปั้นแบรนด์เป๊ปซี่จนโด่งดังในเมืองไทย กับบริษัทแม่ของเป๊ปซี่
จนในที่สุดเป๊ปซี่ตัดสินใจเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยเอง
ส่วนเสริมสุขเปิดตัว "เอส โคล่า" ภายใต้ร่มเงาของเสี่ย เจริญ สิริวัฒนภักดี นายทุนเงินหนาในนามไทยเบฟเข้ามา ถือหุ้น พร้อมทำตลาดอย่างหนักช่วงปลายปี 2555
เสริมสุขอาศัยเครือข่ายสายส่งและสัมพันธ์อันดีกับร้านค้าทั่วประเทศ บวกกับขุมกำลังอย่างไทยเบฟ
ขณะเดียวกันเป๊ปซี่มีข้อจำกัดเรื่องไม่มี "ขวดแก้ว" ซึ่งเป็นที่นิยมของคนไทย ตามร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ
2 เงื่อนไขดังกล่าวทำให้ก้าวแรกที่เป๊ปซี่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยเต็มตัว จึงเพลี่ยงพล้ำ จากอันดับ 1 ตกมาเป็นที่ 3
ขณะที่ "โค้ก" ถือว่าสบายใจเฉิบ เพราะคู่แข่งเตะสกัดกันเองทำให้ก้าวพรวดขึ้นเป็นผู้นำตลาด โดยมี "เอส" ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยสัดส่วนถึง 20%
แต่เมื่อเวลาผ่านไปราว 18 เดือน จึงเริ่มมีความเปลี่ยน แปลงขึ้น
เป๊ปซี่ จัดกระบวนทัพอยู่ราว 1 ปีกว่าจะเริ่มตอบโต้กลับ กระทั่งล่าสุดตัวเลขสิ้นไตรมาสแรกของปีนี้ตลาดเครื่องดื่ม น้ำอัดลมของไทยมูลค่า 44,000 ล้านบาท เป็นตลาดน้ำสี 12,000 ล้านบาท และน้ำดำ 32,000 ล้านบาท
โค้กมีส่วนแบ่งการตลาด 52% รองลงมาเป็นเป๊ปซี่ 29% และเอส 12%
โดยเป๊ปซี่ตั้งเป้ากลับมาเป็นผู้นำตลาดน้ำดำในเมืองไทยอีกครั้ง ขณะที่เอสที่เปิดตัวแรงสุดๆ ก่อนจะเริ่มแผ่วเมื่อเป๊ปซี่ตั้งตัวได้ จึงต้องโหมการตลาดหนักขึ้น
จากข้อมูลพบว่าช่วง 1 ปีแรกเอสทุ่มงบฯ ไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท ด้วยการอัดกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งแบบจัดไม่ยั้ง โดยเซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุนทีมพรีเมียร์ลีกชื่อดัง สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สัญญา 2 ปี ระหว่างปี 2556-2557
และยังหยิบมาใช้ต่อเนื่องในช่วงฟุตบอลโลก มุ่งสร้างความเป็นอินเตอร์ให้กับแบรนด์ เพื่อแข่งขันกับสองแบรนด์ยักษ์ที่ฝังรากลึกในตลาดไทยมาอย่างยาวนาน
ส่วนช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ซึ่งเอสเสียตำแหน่งที่ 2 ให้ เป๊ปซี่ จัดงบฯ อีก 300 ล้านบาททำการตลาดหนักขึ้นในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก
"ฐิติวุฒิ์ บุลสุข" กรรมการ ผู้จัดการของเสริมสุขระบุว่า เอส มีแคมเปญตลอดทั้งปีเพื่อขยายฐานแฟนประจำ และครองใจวัยรุ่น "เจนเอส" ได้มากขึ้น โดยตั้งเป้าเพิ่มยอดขาย 15% ในช่วงหน้าร้อนไปจนถึงก.ค. และเพิ่มส่วนแบ่งเป็น 15% ภายในปี 2015
"เราใช้แคม เปญล่าสุดฉลองดับเบิลแชมป์สุดขั้วให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.- 31 ก.ค.นี้ ส่งไอเทมคอลเล็กชั่นดับเบิลแชมป์เอาใจวัยรุ่นเจนเอสและสาวกทีมเรือสีฟ้าทั่วประเทศ มั่นใจว่าเจนเอสจะประทับใจกับประสบ การณ์ฟุตบอลสุดขั้วจากเอสและแมนฯ ซิตี้ ในครั้งนี้อย่างแน่นอน ถือเป็นหนึ่งกลยุทธ์การทำตลาดช่วงเวลาของฟุตบอล แม้จะไม่ใช่แคมเปญแบบเจาะตรง แต่ขอเกี่ยว กระแสไม่ตกขบวน" ฐิติวุฒิ์ บุลสุข - สมชัย เกตุชัยโกศล - นันทิวัต ธรรมหทัย
|
ฐิติวุฒิ์กล่าวและว่า พร้อมกับแคมเปญ ส่ง 2 นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ครั้งแรกในตลาดน้ำอัดลม "เอส เบิ้ม" และ "เอส ยักษ์" ชูจุดขายเหนือคู่แข่งด้วยปริมาณมากกว่าคุ้มค่ากว่า พร้อมปรับโฉม 3 บรรจุภัณฑ์ใหม่รับเทรนด์ตลาดโลก
ส่วนเป๊ปซี่ ในฐานะรองแชมป์ แต่ถือว่าเป็นผู้นำสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง โดย "สมชัย เกตุชัยโกศล" ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ทุ่ม 300 ล้านบาทในช่วงฟุตบอลโลกนำโกลบอลแคมเปญ เป๊ปซี่ ฟุตบอล 2014 มาสร้างกระแสในไทย เพื่อสะท้อนความแข็งแกร่งของแบรนด์ระดับโลกที่มีประวัติศาสตร์กับนักฟุตบอลแถวหน้าของโลกมาอย่างต่อเนื่อง
แคมเปญจะผ่าน 3 กลยุทธ์หลักคือ 1.โกลบอลพรีเซ็น เตอร์ คือ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, ดาวิด ลุยซ์, เซอร์จิโอ รามอส, เซอร์จิโอ อเกวโร่, แจ๊ก วิลเชียร์ และ ลิโอเนล เมสซี่ นักฟุตบอลชื่อดังระดับโลกมาสร้างสีสันผ่านสื่อโฆษณาต่างๆ
2.โปรโมชั่น เป๊ปซี่ เชียร์สุดซ่า คว้าโชคทองให้ผู้บริโภคร่วมลุ้นรางวัลกับขวดเป๊ปซี่ทองคำ มูลค่า 1 ล้านบาท 8 รางวัล เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากที่มี 30% หรือเป็นอันดับ 2 ของตลาด โดยหวังใช้ช่วงฟุตบอลโลกมาดันให้เป๊ปซี่เป็นผู้นำตลาดกลุ่มบรรจุภัณฑ์ขวดเพ็ตและกระป๋อง
เพราะปัจจุบันขวดแบบไม่ต้องคืนมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 70% ของตลาด
ประกอบกับบริษัทเริ่มใช้กลยุทธ์ขนาดบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย โดยไฮไลต์ปีนี้ คือ "เป๊ปซี่ เท็น" ขวดเพ็ตราคา 10 บาท เข้ามาเสริมขวดแก้วที่ปัจจุบันไม่มีแล้ว เพื่อเจาะเข้าช่องทางร้านค้าปลีกดั้งเดิม
"ภาพรวมการแข่งขันของตลาดน้ำอัดลมช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้จะรุนแรงมากขึ้นเพื่อช่วงชิงยอดขาย เพราะตลาดน้ำอัดลมได้รับอานิสงส์จากการดื่มขณะชมการแข่งขัน หลังจากไตรมาสแรกที่ผ่านมาตลาดน้ำอัดลมติดลบ 7% เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวและภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย แต่ช่วงนี้ผู้บริโภคจะดื่มน้ำอัดลมเพิ่มขึ้น ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนมากขึ้นจึงน่าจะสนับสนุนให้ตลาดเติบโตได้เกือบ 9%"
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดเป๊ปซี่แสดงความคิดเห็น
ด้าน "นันทิวัต ธรรมหทัย" ผู้จัดการองค์กรสัมพันธ์และการสื่อสาร บริษัท โคคา-โคลา ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมโค้กกล่าวว่า โค้กทุ่มงบฯ 300 ล้านบาทตอกย้ำตัวจริงเรื่องฟุตบอล ในฐานะผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการฟุตบอลโลก ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ
เปิดตัวแคมเปญยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีคือ โคคา-โคลา ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2014 ซึ่งจะมีกิจกรรมการตลาดตลอดระยะเวลา 5 เดือน มีทั้งบรรจุภัณฑ์ลิมิเต็ดเอดิชั่น โปรโมชั่นชิงโชค เพื่อตอกย้ำว่าโค้กคือผู้นำตลาดน้ำอัดลมด้วยส่วนแบ่งเดือนธ.ค.ปีก่อนอยู่ที่ 58.8%
ผลพวงจากฟุตบอลโลกอาจจะผลักดันตลาดน้ำดำปีนี้เติบโตได้มากกว่าทุกปี นั่นหมายความว่า ทั้ง 3 ค่ายต้องออกแรงช่วงชิงยอดขายมากเป็นพิเศษเสมือนการเปิดศึกรอบใหม่ในสมรภูมิเดิม
โค้ก และเป๊ปซี่ ได้เปรียบเรื่องแบรนด์และความคุ้นเคยในรสชาติของคนไทย ซึ่งน่าจะสร้างความหนักใจให้กับเอส แม้ว่าจะมีจุดแข็งที่เครือข่ายช่องทางจำหน่าย และมีไทยเบฟเป็นกองหนุน
เห็นได้จากช่วงปีแรก เอสสามารถแซงชนะเป๊ปซี่ได้ แต่เมื่อฝ่ายหลังเริ่มตั้งตัวติดก็ชิงตำแหน่งที่ 2 กลับคืนมาในเวลาอันสั้น และเล็งเป้าขึ้นเป็นผู้นำตลาดน้ำดำในเมืองไทยให้ได้โดยเร็วที่สุด
ส่วนโค้กคงไม่ยอมง่ายๆ และเปิดศึกกันเหมือนในทุกประเทศทั่วโลก
ขณะที่เอสซึ่งตอนแรกเหมือนเป็นตัวสอดแทรกที่มาแรง ก่อนค่อยๆ แผ่วไป แต่กำลังเร่งสปีดเพื่อไม่ให้ถูกทิ้งห่างเกินไป
ศึกน้ำดำครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก และทุกค่ายใส่กันไม่ยั้ง เพราะตลาดนี้เดิมพันมหาศาลเกินไปนั่นเอง
Create Date : 29 มิถุนายน 2557 |
Last Update : 29 มิถุนายน 2557 8:06:49 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1799 Pageviews. |
|
|
|
|
|