สคบ.เต้น หลังมีประชาชนร้องใช้บัตรเครดิตเจอดอกเบี้ยแพง จ่อนัดแบงก์ชาติถกเพื่อหาทางออกร่วมกัน ด้าน แบงก์ชาติแจง เป็นหลักการคิดอัตราดอกเบี้ย ไม่ได้ลดต้น ลดดอกเบี้ย ซึ่งจะคิดอัตราดอกเบี้ยตามเงินต้นที่ใช้จ่าย เพื่อเป็นการรักษาวินัยทางการเงิน
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. นายไพโรจน์ คนึงทรัพย์ ผู้อำนวยการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า ในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ สคบ.ได้เชิญธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาร่วมหารือปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคว่า ถูกผู้ประกอบการบัตรเครดิตคิดอัตราดอกเบี้ยสูงมาก
ก่อนหน้านี้สภาผู้แทนราษฎรได้เชิญ ธปท. และ สคบ. เข้าไปชี้แจงกรณีได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคที่คิดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตสูง เช่น ผู้บริโภคใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 1 แสนบาท เดือนต่อมาชำระเงินคืน 9 หมื่นบาท เหลือยอดเงินค้างชำระ 1 หมื่นบาท แต่ธนาคารก็คิดอัตราดอกเบี้ยตามยอดเงินที่ใช้จ่ายครั้งแรกคือ 1 แสนบาท ซึ่งไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค นายไพโรจน์ กล่าว
ทั้งนี้ สภาได้มอบหมายให้ สคบ. หารือร่วมกับ ธปท. ที่จะหาแนวทางการช่วยเหลือผู้บริโภค โดย ธปท.ได้ชี้แจงว่าเป็นหลักการคิดอัตราดอกเบี้ย ไม่ได้ลดต้น ลดดอกเบี้ย ซึ่งจะคิดอัตราดอกเบี้ยตามเงินต้นที่ใช้จ่าย เพื่อเป็นการรักษาวินัยทางการเงิน และก่อนที่จะสมัครบัตรเครดิตก็มีการเขียนรายละเอียดในใบสัญญาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น สภาจึงเห็นว่าควรจะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภครับทราบ จะได้มีความตระหนักในการใช้จ่ายบัตรเครดิต และเชื่อว่าส่วนใหญ่คนจะไม่รู้ว่ามีการคิดอัตราดอกเบี้ยจากยอดใช้จ่าย หากชำระไม่ครบก็ไม่ลดต้น ลดดอกเบี้ยให้
สำหรับตัวเลขการให้บริการบัตรเครดิต ธปท. ระบุว่า ล่าสุด สิ้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามียอดบัตรเครดิตที่ให้บริการในระบบอยู่ทั้งสิ้น 16.07 ล้านบัตร เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 1.35 ล้านบัตร หรือเพิ่มขึ้น 9% ขณะที่สินเชื่อบัตรเครดิต ทั้งของธนาคารพาณิชย์และบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นันแบงก์) สิ้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 222,179.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน.